นักวิชาการวิเคราะห์สาเหตุทำไมข่าวบอกว่า GDP ไทยเริ่มดีขึ้น แต่ธุรกิจแถวบ้านกลับซบเซาเพื่อนๆลองมาเข้ามาอ่านดูครับ

อ้างอิง
https://www.facebook.com/pongprom.yamarat/posts/1588105887866210

############################################################

ทำไมข่าวบอกว่า GDP ไทยเริ่มดีขึ้น แต่ธุรกิจแถวบ้านกลับซบเซา"
ข้อแรก ทราบมั้ยครับว่าปีนี้คนไทยซื้อของผ่านออนไลน์ ทั้งช้อป ทั้งกิน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆประมาณ 370,000 ล้านบาท เน้นว่าสามแสนเจ็ดหมื่นล้านบาท!!! และในปีหน้า (ปี 61) ตัวเลขนี้จะทะลุ 4 แสนล้านบาท!!!
ข้อสอง การกวาดล้างธุรกิจสีเทาอย่างหนักหน่วงใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ถอดปริมาณ "เงินสด" (แบบเทาๆ) ออกไปอีกอย่างน้อย 1 แสนกว่าล้าน ซึ่งถ้ามอง multiplier effect สั้นๆซัก 3 เท่า นั่นคือ 3 แสนล้าน จากเงินผิดกฏหมายที่จะหายไปจากระบบ
2 ข้อนี้รวมกันก็ดึงเงินออกจาก "ระบบธุรกิจเดิมๆ" เกือบ 6 แสนกว่าล้านละครับ
6 แสนกว่าล้านนี้กระทบโดยตรงกับธุรกิจแบบเก่าครับ นั่นคือประเด็น
จากข้อแรก เงินไหลจากร้านค้าปกติที่เราเคยชิน เช่นตลาดละลายทรัพย์ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารตามห้าง ไปที่ร้านค้าออนไลน์ทันที ร้านไหนไม่เก่งจริง ไม่ดีจริง ไม่อร่อยจริง จากนี้จะอยู่ไม่ได้
จากข้อสอง ธุรกิจ "สีเทา" นั้น ที่ผ่านมา เมื่อมีรายได้ (จะจากฟอกเงิน ของเถื่อน รุกป่า ฟอกเงินวัด) จะใช้การจับจ่ายเป็น "เงินสด" ทั้งสิ้น (ด้วยต้องหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ) เงินเหล่านี้ก็จะไปตามดีลเลอร์รถเกรย์ คอกเทลเล้านจ์ ไปจนร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งก็คือเสาหลักในวงจรธุรกิจแบบ brick & mortar เดิมๆ
จากนี้ต้องทำยังไง?
ง่ายๆ (แต่ต้องพยายามครับ) คือผู้ประกอบการต้องปรับตัวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลให้ได้ ช่องทางการจำหน่าย และเข้าถึงผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก แต่ก็เปิดกว้างขึ้น คอขวดจากคนกลางก็ลดลงเช่นกัน นั่นคือโอกาส
ส่วนตัวสินค้า และบริการนั้น ก็ต้องปรับตัวให้เด่น มีความเฉพาะทางให้มาก หมดยุคสินค้าเด็กซื้อได้ ผู้ใหญ่ซื้อดี ไม่ง้อลูกค้า
สุดท้ายแถมเรื่อง Ageing Society ครับ
อีกไม่กี่ปีประเทศไทยจะเข้า Ageing Society อย่างสมบูรณ์ ประชากรรวมจะเริ่มลด สัดส่วนคนแก่จะเพิ่มขึ้น
สินค้า และบริการก็ต้องปรับตัวตามกระแสเช่นกัน
2-3 สิ่งนี้มาพร้อมๆกัน ใครเห็นเป็นโอกาสก็จะรุ่ง ใครเห็นเป็นวิกฤติก็จะเหนื่อย
โชคดีครับ


#################################

เพื่อนๆพันทิพ เห็นด้วยกับแนวคิดนักวิชาการท่านนี้ไหม ครับ ส่วนตัวผมก็สงสัยเหมือนกัน

ทำไมข่าวบอกว่า GDP ไทยเริ่มดีขึ้น แต่ธุรกิจแถวบ้านกลับซบเซา"

เลยอยากฟังแนวคิดของเพื่อนๆพันทิพครับ  โต้เถียงด้วยเหตุผล ด้วยคำสุภาพนะครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
การที่เรารู้สึกว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ดีทั้งที่ GDP ก็เติบโตอยู่ตลอดนั้นผมมองว่าสาเหตุหนึ่งคือเศรษฐกิจนอกระบบครับ         เนื่องจากคนไทยปัจจุบันปรับเปลี่ยนการบริโภค      คนมักจะเลือกซื้อสินค้าและบริการต่างๆในห้างรึร้านสะดวกซื้อเป็นหลักและซื้อของตามตลาดสด ตลาดนัด รวมไปถึงร้านค้าข้างทางน้อยลง    ซึ่งการที่คนไปซื้อสินค้าและบริการกับธุรกิจที่อยู่ในระบบภาษีก็ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในระบบเพิ่มขึ้นส่งผลให้ GDP ขยายตัว      และขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็พยายามลดธุรกิจนอกระบบต่างๆบังคับให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีมากขึ้นก็ส่งผลให้ขนาดเศรษฐกิจใหญ่โตเพิ่มขึ้นด้วย       แต่ในขณะที่ร้านค้าตามตลาดสด ตลาดนัด ร้านข้างทางนั้นไม่ได้อยู่ในระบบภาษีจึงเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ     เมื่อคนซื้อของจากตลาดสด ตลาดนัด ร้านข้างทางน้อยลงมันจึงไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเลข GDP นักแต่จะไปกระทบกับประชาชนโดยตรงเพราะรายได้ของประชาชนส่วนหนึ่งลดลงไป      แต่รายได้ส่วนนั้นไม่ได้อยู่ในระบบอยู่แล้วจึงไม่ส่งผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจเลยทำให้เรารู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดีทั้งๆที่ GDP โต     และเศรษฐกิจนอกระบบของบ้านเรามันเยอะมากเป็นอันดับต้นๆของโลกเสียด้วย
ความคิดเห็นที่ 32
เศรษฐกิจก็เหมือนคลื่นในทะเลหนะครับ
มีทั้งคนที่นั่งมองคลื่นแล้วผ่านไปเฉย ๆ
คนที่หยิบ surf มาเล่นแล้วสนุกไปกับคลื่น
และก็คนที่โดนคลื่นซัดทับ
อยู่ที่ว่าเราอยู่ตรงไหนของคลื่นครับ

เอาจริง ๆ ตอนนี้เรียกว่าเทรนด์สึนามิเลยก็ได้
ที่เทคโนโลยีและอินเตอเน็ตเข้ามาเปลี่ยนการค้าขายของโลกและกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
สมัยก่อน ค้าๆขายๆ พ่อค้าคนกลางรวย ผู้ผลิตขายได้เพราะผูกขาดตั้งราคาได้ คนซื้อก็ไม่เลือกมากแล้วแต่พ่อค้าจะเชียรอะไร
สมัยนี้ของชิ้นนึง คุณสามารถกดเทียบราคาจาก 100 ผู้ขาย เลือกแล้วเลือกอีก เพราะส่งฟรี สุดท้ายซื้อพ่อค้าคนเดียว อีก 99 คนอด
และคนซื้อก็พร้อมจะแปลงสภาพเป็นคนขายแค่พริบตา แค่โพสลงเฟซ
ทำไมคนต้องไปเดินกิมหยง แม่สาย โรงเกลือ ในเมื่อมีคนขายเป็นล้าน ๆ บนเฟซบุ๊คที่กดเล่นได้ในห้องน้ำ
ทำไมจะต้องถ่อไปเดินห้าง ในเมื่อสามารถกดซื้อได้ใน LAZADA และถ้าเก่งภาษาหน่อยคุณไปเลือกจาก EBAY หรือ AMAZON เลย
ได้ของดี ราคาถูกอีกต่างหาก ตรงนี้แหละครับ ที่พ่อค้าแม่ค้าตายหมด
แหม ขนาดข่าว E เปรี้ยวถูกจับ ยังมีคนเอากระเป๋า หมอน รองเท้าแตะขายแปะขายตามหน้าเฟซเีพียงชั่ววินาที
คนที่คิดช้า ก็กะจะไปเดินดูตลาดเสาร์อาทิตย์นี้ ตุนกระเป๋าสต๊อคอีเปรี้ยว อ้าวตลาดวายแล้ว
เศรษฐกิจยุคไหน ก็ต้องมีทั้งคนจน และคนรวย ขนาดยุคไอเอ็มเอฟที่ว่าล้มละลายกันเยอะๆ ก็ยังมีคนรวยเกิดขึ้น
เพียงแต่ยุคนี้โอกาสมันมาเพียงแค่พริบตาจริงๆครับ อยู่ที่จะคว้าทันไหม อย่างกระทู้แนะนำ คนทำ youtuber รายได้เดือนเป็นแสน
หลายคนยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มีคนทำได้ หรือพวกขายครีม ขายตรง ทำหน้าสารพัด มีอาชีพเกิดใหม่และก็มีอาชีพทีล้มหายตายจากไป
ขนาดโกดักอยู่เป็น 100 ปียังล้มละลายได้ถ้าคิดช้า และมีแอปเปิ้ลที่ขายภาพลักษณ์สินค้ากับมือถือปีละรุ่นแต่จะกลายเป็นบริษัทมูลค่าล้านๆแล้ว
เมื่อก่อนมีแค่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ถัดมามีปลาเร็วกินปลาช้าเหมือนพวก SME,start up
แต่เชื่อผม ตอนนี้และต่อๆไป พวกเรากำลังเจอปลาใหญ่ที่ว่ายเร็วและกินปลาเกือบทั้งน่านน้ำครับ

อย่างตอนนี้เมืองนอกเทรนด์เริ่มเอาหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิต
คนที่อยู่ได้ คือคนที่มีทักษะในการคุมเครื่องจักร คุมหุ่น พวกนี้ค่าแรงแพงมากกว่า 300 แน่ๆ
คนที่ถูกโละคือคนที่ผลิตตามใบสั่งพื้น ๆ บริษัทก็ไม่รู้จะจ้างไว้ทำอะไร
ส่วนบริษัทพอเอาหุ่นยนต์มาผลิต ต้นทุนลด ส่งออกดี ยอดขายก็เพิ่ม จ่ายภาษีได้มากขึ้น
เป็นแบบนี้ซักร้อยบริษัท ประเทศไปได้ อย่างนี้เรียกเศรษฐกิจดีไหมครับ
ส่วนคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ก็ยังงงว่าเศรษฐกิจดีได้อย่างไร
แล้วโกรธทำไมรัฐบาลไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ
แบบนี้แหละครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่