เรามีเรื่องจะเล่า...

*เพื่ออรรถรส อาจมีภาษาวัยรุ่นบ้างค่ะ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อฉันกำลังจะขึ้นปี1 แอดมิชชั่นติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ พ่อกับแม่จึงอยากให้อาศัยอยู่หอในด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยและกลัวว่าฉันจะหนีเที่ยวกลางคืน(ผับ ร้านเหล้า อะไรทำนองนี้)  ส่วนฉันนั้นก็รู้สึกเฉยๆจะอยู่หอในหรือหอนอกก็ไม่ได้ซีรียสอะไร แอบหนีเที่ยวได้อยู่ดี555 พอเราย้ายเข้ามาอยู่จริงก็พบว่ามันมีความลำบากมากกก กล่าวคือ ห้องนํ้ามีลักษณะเป็นห้องนํ้ารวม แล้วก็ไม่มีนํ้าอุ่นอีกต่างหาก หน้าหนาวมานี่ฉันจะต้องแข็งตายแน่ๆ พื้นเพเป็นคนกรุงเทพ เคยชินกับสภาพอากาศร้อน อบอ้าวและนํ้าท่วม(อุ๊ยตาย) การมาอยู่ภาคเหนือครั้งนี้ฉันคงต้องทำใจปรับตัวอีกนาน เมื่อย้ายเข้ามาไม่นานนักรูมเมทของฉัน(ที่มาจากการสุ่มของระบบ) ก็ย้ายออกไปอยู่หอนอกกับแฟน ฉันก็แสนดีใจที่ได้อยู่คนเดียว ฮี่ๆๆๆ ขณะเดียวกันก็ขี้เหงาฉันจึงชอบไปนอนเล่นกับเพื่อนที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง 3G มือถือฉันหมดยังไม่ได้จ่ายเงิน  ฉันเลยต้องพึ่งไวไฟหอใน อันเป็นที่รู้กันนะคะว่าช้ามาก แถมสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงห้องฉันอีกต่างหาก ฉันจึงต้องออกมาเล่นที่ระเบียงหอซึ่งสัญญานดีกว่า โดยระเบียงของหอนั้นอยู่ติดกับห้องของฉัน ตอนนั้นก็ราวๆเที่ยงคืน ฉันแชทกับผู้ชายที่มาจีบอยู่😆 พร้อมกับหาอ่านกระทู้ผีในพันทิปไปเรื่อย แล้วแคปหน้าจอเอาไว้อ่านก่อนนอน ฉันเป็นคนที่ไม่กลัวผีแต่ก็ไม่หลบหลู่ แปลกมากเวลาอ่านกระทู้ผีก่อนนอนแล้วหลับสบายมาก5555  แคปหน้าจอเสร็จก็กะว่าจะเดินกลับไปนอนเพราะตอนนั้นก็เกือบตีหนึ่งแล้ว บอกฝันดีผู้แล้ว ก็เลยเดินไปฉี่สักหน่อย หอเรามีนโยบายปิดไฟทางเดินตอนห้าทุ่ม บางทีช่วงสอบก็ปิดที่ยงคืน ไฟจะเปิดไว้บางจุด จะมีเปิดที่ห้องนํ้าทุกดวงกับตรงบันไดที่อยู่ติดกับห้องนํ้า ตอนเดินกลับนั้นฉันก็สังเกตเห็นนศ.หญิงคนหนึ่งนั่งตรงระเบียงจุดเดียวกับที่ฉันเคยนั่ง(หอเราหญิงล้วน) ด้วยความที่เป็นคนเฟรนด์ลี่ ก็เลยเดินไปทักเขาสักหน่อย
"มาหาสัญญาณไวไฟเหมือนกันเย๋อออ"
"หื้ม พูดกับเราเหรอ"
"ใช่จ้า แหมมีกันอยู่สองคน5555"
"อ้อ เปล่าหรอกจ้ะ เรารอคุยกับแฟน" ฉันเหลือบตาไปมองมือถือในมือของหล่อย โอ้โฮ  สมัยนี้มีคนใช้โนเกียร์ 3310 ด้วยเหรอเนี่ยยยยยยยย
"งั้นเราเข้าห้องไปนอนก่อนน้าาาาา" พูดจบฉันก็เข้าห้องล็อคประตูเลย แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนสไลด์รูปอ่านเรื่องผีไปเรื่อย แล้วก็ได้ยินเสียง นศ คนนั้นทะเลาะกับที่บ้าน ที่รู้เพราะเขาพูดว่าพ่อแม่ไม่เอา... อะไรสักอย่างนี่แหละ เราก็ไม่ได้สนใจจะเสียมารยาทแอบฟัง ประกอบกับเรากำลังอินอยู่กับเรื่องผีที่อ่าน จนตีสามครึ่งเรากำลังจะนอนแล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เราก็เลยถามว่าใคร เขาเลยบอกว่าแป๋วเอง ที่นั่งอยู่ระเบียงไง
" อ๋อ ว่าไงแป๋ว" ฉันตอบ
"เราเข้าไปคุยด้วยได้ไหม" ด้วยความสงสารเราเลยเปิดประตูให้แป๋มเข้ามา แป๋มก็เข้ามานั่งที่พื้นห้อง เราก็เลยยอกให้มานั่งบนเตียงด้วยกัน
"เราไม่สบายใจเลย..."
"เดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะแป๋ม" ตอนนั้นฉันไม่รู้เหรอกว่าแป๋มมีปัญหาอะไร แต่ปลอบใจไว้ก่อน
"พ่อแม่ จะให้เราลาออกแล้วกลับต่างจังหวัดไปแต่งงาน"
"บ้า เหรอ เธออายุเท่าไหร่ ทำไมไม่รอเรียนจบล่ะ" ฉันพูดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว มีอย่างที่ไหน พ่อแม่จะให้ลาออกจากเรียนไปแต่งงาน
"17ปีจ้ะ"
"หูยย เด็กว่าฉันอีก เธอสอบเทียบมาเหรอ สมัยนี้ยังสอบเรียนก่อนอายุถึงเกณฑ์อีกเรอะ นั่นแปลว่าเธอเรียนเก่งมากเลยนะ" แป๋วพยักหน้า เเล้วก็เล่าเรื่องราวให้ฉันฟัง คืนนั้นเราคุยกันถึงเช้า ก่อนจะผล็อยหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตื่นมาก็ไม่เจอแป๋วแล้ว ฉันก็งงๆ แล้วก็หลับต่อแป๋วคงออกไปเองกระมัง

ฉันตื่นมาอีกทีเกือบเที่ยง มานั่งทวนความจำว่า อ๋อ พ่อแม่แป๋มทำนาอยู่ภาคอีสาน แล้วบังเอิญเจ้าของโรงสีข้าวอายุ 45 ปีเป็นหนุ่มโสดมาสู่ขอ พ่อแม่เลยจะยกให้แต่แป๋มต่อรองว่าขอเรียนให้จบก่อน พ่อแม่ก็ไม่ยอมเพราะฝ่ายโน้นเขาเร่งรัดมาว่าอยากจะแต่งงานแล้วมีลูกเร็วๆเลย เขาแก่แล้วแล้วเขาก็รักแป๋ม ส่วนตัวแป๋มเรียนคณะวิทย์ กำลังสนุกกับการเรียนแล้วก็มีแฟนคนแรกชื่อเอ เห็นว่าเจอกันตอนรับน้องใหม่
ที่บ้านกดดันหนักถึงขนาดจะไม่ส่งเสียให้เรียนแล้วก็ตัดพ่อลูกเลยทีเดียว พ่อแม่ให้เหตุผลว่าทั้งคู่แก่แล้ว(56,55ปี) อยากเห็นลูกเป็นฝั่งฝา ว่าที่เจ้าบ่าวเขาก็เป็นคนดีรํ่ารวย แถมเป็นหนุ่มโสดอีกต่างหาก สินสอดที่ได้เขาบอกจะให้พ่อแม่แป๋ว เพื่อเอามาปลูกบ้านใหม่ให้อยู่สบาย แป๋วก็รับไม่ได้อ่ะนะ ที่จะต้องแต่งงานกับคนที่เแก่กว่ารอบนึง ก็ไม่ยอม พ่อแม่ก็โทรมากดดัน บอกเหนื่อยที่ต้องมีลูกเนรคุณแบบนี้ บลาๆๆๆๆ
แป๋วจึงตัดสินใจจะลาออกจาก ม.รัฐแล้วไปเรียนม.เปิดแทนแล้วจะเงินส่งตัวเองเรียน จากนี้ฉันก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ตกคํ่าฉันไปนั่งชิลล์ร้านเหล้ามาก็กลับมาที่ห้อง สติฉันยังครบถ้วนเพราะดื่มไม่เก่งเลยไม่ดื่มมาก หลังจากปิดประตูได้ไม่นานแป๋วก็มาเคาะห้อง
"ดื่มมาเหรอ?" แป๋วคงได้กลิ่น
"อื้อ นิดหน่อยน่ะ แป๋วมีรายยยย"
"เราจะหนีตามแฟนน่ะ"
"ฮะ!!!! เอาจริงเหรอเมื่อไหร่"
"วันนี้ตอนเที่ยงคืน เราจะไปรอแฟนที่หลังมอ" ซึ่งหลังมหาวิทยาลัยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยม
"โอเคงั้นเราจะขับรถไปส่งนะ"
"ขอบใจจ้ะ เธอไหวนะ"
"ไหวๆๆ เราไม่ได้เมา"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่