KPI (Key Patient Indicator ) ดัชนีวัดความเป็นคนป่วย
หลายๆองค์กร มักจะตั้ง KPI ( Key Performance Indicator) เพื่อเอามาเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของบุคคลากร และ ประสิทธิผลของงาน
วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่องใหม่ KPI ( Key Patient Indicator ) ดัชนีชี้วัดความเป็นคนป่วยเราคงไม่ปฏิเสธว่าโลกของเรายุคนี้มันมีพร้อมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราทุกอย่างโลกเรายุคนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไวมากขึ้น เหมือนดั่งกับว่าโลกเราหมุนเร็วขึ้น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้ปฏิสัมพันธ์ ของคนบนโลกน้อยลงไปในอัตราส่วนเดียวกัน
ดังนั้นทุกวันนี้ เราจะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ไอแพด โทรศัพท์มือถือ มากกว่าการได้ติดต่อสัมพันธ์กันแบบเก่าก่อน
โลกหมุนไวขึ้น ความสะดวกสะบายมากขึ้น ทำให้เราต้องก้าวไวขึ้น แต่ความสุขกลับลดน้อยลง ความอยากมีชีวิตลดน้อยลง ความเครียดจากการดำรงชีวิตมากขึ้น อัตราการฆ่าตัวตายก็มีมากขึ้น
โลกที่หมุนไวขึ้น กำลังทำให้ทุกคนบนโลกนี้ป่วย สังคมป่วยคนก็ป่วย เราทุกคนล้วนป่วย
วันนี้ผมจึงตั้ง KPI เพื่อมาชี้วัดว่า เรากำลังป่วยจริงหรือไม่ KPI ของผมคือ KPI ( Key Patient Indicator) ดัชนีชี้วัดความเป็นคนป่วย
เรามาดูกันว่า KPI ง่ายๆที่จะวัดว่าคุณกำลังป่วยหรือไม่
1. เกลียดวันจันทร์ ด้วยชีวิตที่ต้องดิ้นรนมากขึ้นเพื่อที่เราจะได้ก้าวทันโลก ทำให้บางคนต้องทำงานแทบทุกวันตลอดสัปดาห์ บางคนได้หยุดแค่วันอาทิตย์ การทำงานที่ทำให้คุณต้องตื่นแต่เช้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น ถึงเตียงก็ฟุบสลบ นอนแบบไม่อยากตื่น เกลียดแสงอาทิตย์ที่แทงทะลุผ่านผ้าม่าน โหยหาเตียงนอนที่แสนอบอุ่น ทำให้วันหยุดคือวันที่คุณรู้สึกมีความสุข คุณนอนตื่นสายได้ ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำได้ มีนาฬิกาชีวิตเป็นของตนเอง ได้อยู่กับครอบครัว คนรัก แต่นั่นมันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ พอถึงวันจันทร์ทุกอย่างก็จะวนกลับมาอยู่ในรูปแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคุณเบื่อหน่าย ดังนั้น หากคุณเกลียดวันจันทร์ คุณกำลังป่วย
2. ก้มหน้ามากกว่าเงยหน้า ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณเดินไปไหน คุณจะพบว่าคนส่วนใหญ่ล้วนก้มหน้าผมคงมิต้องอธิบายว่า คนที่ก้มหน้าเขากำลังทำอะไรกัน เพราะคงเป็นภาพที่คุณเห็นจนชินตา หรือแม้กระทั่งตอนนี้คุณเองก็กำลังก้มหน้า หากคุณก้มหน้ามาก คุณก็ป่วยมาก ไม่ว่าจะก้มหน้าเพื่อทำงาน เล่นเกมส์ เล่นเฟสบุ๊ค ไลน์ หรืออื่นๆ สิ่งทั้งหมดที่กระทำล้วนกำลังกลืนกินเวลาชีวิตของคุณไปอย่างไม่รู้ตัว ชีวิตยังมีอะไรอีกมากที่รอคุณไปสัมผัส แต่เวลาคุณกลับไม่มี
3. ความอยากได้ไคร่มี ตัวนี้มันมีอยู่ในทุกคน ตัวนี้มันถึงทำให้ทุกคนป่วย เพราะความอยากได้ไคร่มีจนเกินพอดี มันถึงทำให้ทุกคนต้องแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เอารัดเอาเปรียบ ทำให้เห็นแก่ตัวมากขึ้น โหดร้ายกันมากขึ้น ในขณะที่ความเป็นคนกลับน้อยลงไป หากตัวนี้คุณมีมากคุณก็ป่วยมาก
4. ในใจรู้สึกทุกข์มากกว่าสุข ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะมันจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ณ.เวลานี้ คุณกำลังป่วยมากหรือน้อย ความทุกข์ที่เกิดขึ้น มันมีมาจากหลายๆสาเหตุ ไม่ว่าจากการไม่สมหวัง จากหน้าที่การงาน หรือการได้รับความกดดันอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดความเครียดสะสม จนเกิดอาการซึมเศร้า ไม่อยากมีชีวิต หากคุณกำลังรู้สึกทุกข์มากกว่าสุขอยู่ล่ะก็ ขอให้คุณรู้ไว้ว่าคุณกำลังป่วย
ทั้งหมดเป็นตัวชี้วัดหยาบๆ ความจริงยังมีอีกหลายอย่างครับที่จะชี้วัดว่าคุณกำลังป่วยแต่มันจะะยืดยาวเวิ้นเว้อเกินไป แค่สี่ตัวนี้ก็พอ ทีนี้คุณลองมาดูว่าคุณมีมากเท่าไหร่ในสี่ตัวนี้ มีมากคุณก็ป่วยมากแค่นั้น ปัญหามันอยู่ที่ว่า คุณจะรู้ตัวรึเปล่า ว่าคุณกำลังป่วย
---ผลึกหิน---
@@@ KPI Key Patient Indicator ดัชนีวัดความเป็นคนป่วย @@@ ---ผลึกหิน---
หลายๆองค์กร มักจะตั้ง KPI ( Key Performance Indicator) เพื่อเอามาเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของบุคคลากร และ ประสิทธิผลของงาน
วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่องใหม่ KPI ( Key Patient Indicator ) ดัชนีชี้วัดความเป็นคนป่วยเราคงไม่ปฏิเสธว่าโลกของเรายุคนี้มันมีพร้อมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราทุกอย่างโลกเรายุคนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไวมากขึ้น เหมือนดั่งกับว่าโลกเราหมุนเร็วขึ้น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้ปฏิสัมพันธ์ ของคนบนโลกน้อยลงไปในอัตราส่วนเดียวกัน
ดังนั้นทุกวันนี้ เราจะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค ไอแพด โทรศัพท์มือถือ มากกว่าการได้ติดต่อสัมพันธ์กันแบบเก่าก่อน
โลกหมุนไวขึ้น ความสะดวกสะบายมากขึ้น ทำให้เราต้องก้าวไวขึ้น แต่ความสุขกลับลดน้อยลง ความอยากมีชีวิตลดน้อยลง ความเครียดจากการดำรงชีวิตมากขึ้น อัตราการฆ่าตัวตายก็มีมากขึ้น
โลกที่หมุนไวขึ้น กำลังทำให้ทุกคนบนโลกนี้ป่วย สังคมป่วยคนก็ป่วย เราทุกคนล้วนป่วย
วันนี้ผมจึงตั้ง KPI เพื่อมาชี้วัดว่า เรากำลังป่วยจริงหรือไม่ KPI ของผมคือ KPI ( Key Patient Indicator) ดัชนีชี้วัดความเป็นคนป่วย
เรามาดูกันว่า KPI ง่ายๆที่จะวัดว่าคุณกำลังป่วยหรือไม่
1. เกลียดวันจันทร์ ด้วยชีวิตที่ต้องดิ้นรนมากขึ้นเพื่อที่เราจะได้ก้าวทันโลก ทำให้บางคนต้องทำงานแทบทุกวันตลอดสัปดาห์ บางคนได้หยุดแค่วันอาทิตย์ การทำงานที่ทำให้คุณต้องตื่นแต่เช้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น ถึงเตียงก็ฟุบสลบ นอนแบบไม่อยากตื่น เกลียดแสงอาทิตย์ที่แทงทะลุผ่านผ้าม่าน โหยหาเตียงนอนที่แสนอบอุ่น ทำให้วันหยุดคือวันที่คุณรู้สึกมีความสุข คุณนอนตื่นสายได้ ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำได้ มีนาฬิกาชีวิตเป็นของตนเอง ได้อยู่กับครอบครัว คนรัก แต่นั่นมันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ พอถึงวันจันทร์ทุกอย่างก็จะวนกลับมาอยู่ในรูปแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคุณเบื่อหน่าย ดังนั้น หากคุณเกลียดวันจันทร์ คุณกำลังป่วย
2. ก้มหน้ามากกว่าเงยหน้า ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณเดินไปไหน คุณจะพบว่าคนส่วนใหญ่ล้วนก้มหน้าผมคงมิต้องอธิบายว่า คนที่ก้มหน้าเขากำลังทำอะไรกัน เพราะคงเป็นภาพที่คุณเห็นจนชินตา หรือแม้กระทั่งตอนนี้คุณเองก็กำลังก้มหน้า หากคุณก้มหน้ามาก คุณก็ป่วยมาก ไม่ว่าจะก้มหน้าเพื่อทำงาน เล่นเกมส์ เล่นเฟสบุ๊ค ไลน์ หรืออื่นๆ สิ่งทั้งหมดที่กระทำล้วนกำลังกลืนกินเวลาชีวิตของคุณไปอย่างไม่รู้ตัว ชีวิตยังมีอะไรอีกมากที่รอคุณไปสัมผัส แต่เวลาคุณกลับไม่มี
3. ความอยากได้ไคร่มี ตัวนี้มันมีอยู่ในทุกคน ตัวนี้มันถึงทำให้ทุกคนป่วย เพราะความอยากได้ไคร่มีจนเกินพอดี มันถึงทำให้ทุกคนต้องแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เอารัดเอาเปรียบ ทำให้เห็นแก่ตัวมากขึ้น โหดร้ายกันมากขึ้น ในขณะที่ความเป็นคนกลับน้อยลงไป หากตัวนี้คุณมีมากคุณก็ป่วยมาก
4. ในใจรู้สึกทุกข์มากกว่าสุข ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะมันจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ณ.เวลานี้ คุณกำลังป่วยมากหรือน้อย ความทุกข์ที่เกิดขึ้น มันมีมาจากหลายๆสาเหตุ ไม่ว่าจากการไม่สมหวัง จากหน้าที่การงาน หรือการได้รับความกดดันอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดความเครียดสะสม จนเกิดอาการซึมเศร้า ไม่อยากมีชีวิต หากคุณกำลังรู้สึกทุกข์มากกว่าสุขอยู่ล่ะก็ ขอให้คุณรู้ไว้ว่าคุณกำลังป่วย
ทั้งหมดเป็นตัวชี้วัดหยาบๆ ความจริงยังมีอีกหลายอย่างครับที่จะชี้วัดว่าคุณกำลังป่วยแต่มันจะะยืดยาวเวิ้นเว้อเกินไป แค่สี่ตัวนี้ก็พอ ทีนี้คุณลองมาดูว่าคุณมีมากเท่าไหร่ในสี่ตัวนี้ มีมากคุณก็ป่วยมากแค่นั้น ปัญหามันอยู่ที่ว่า คุณจะรู้ตัวรึเปล่า ว่าคุณกำลังป่วย
---ผลึกหิน---