สวัสดีเพื่อนๆพันทิปทุกคนจ้า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกคนไปเที่ยวที่ปังๆและฮอตฮิตที่สุดในฝั่งธนบุรีตอนนี้กันเลย
และสถานที่นั้นก็คือ "ช่างชุ่ย Changchui" ในความจริงเราว่า มันคือที่แสดงผลงานความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าอาร์ตติสต่างๆ ที่จะมาโชว์ให้คนทั่วไปได้เห็น ได้จับต้องกัน ขนาดเลเอ้าท์ต่างๆในพื้นที่ มันบ่งบอกถึงแนวความคิดที่มา คอนเซปรายละเอียด ที่ต้องการจะนำเสนอ เราว่ามันเจ๋งเลยทีเดียวเชียวแหละ และเราขอนิยามมันว่า "ช่างชุ่ย Changchui อาณาจักรศิลปะและวิถีอาร์ตติส" ก่อนจะยาวไปมากกว่านี้ ไปชมกันเลยดีกว่าว่ามันจะอาร์ตขนาดไหน
Location ช่างชุ่ยจ้า
แลนด์มาร์กสำคัญ
สิ่งแรกที่จะเห็นช่างชุ่ย คือซุ้มทางเข้าซึ่งจะมีทั้งหน้าถนนฝั่งสิริธรและถนนเรียบทางรถไฟด้านหลัง ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ทุกคนจะมาถ่ายรูปกันในจุดนี้ ซึ่งเราว่าที่นี่สามารถมาได้ตลอด แต่ถ้าอยากให้ถ่ายรูปสวยแนะนำว่าเป็นตอนกลางคืนน่าจะสวยกว่านะจ้ะ ครั้งนี้เรามาจากทางถนนเรียบทางรถไฟซึ่งด้านหลังจะมีที่จอดรถไว้รองรับค่ะ และ ตรงซุ้มจะมีแผนที่โซนต่างๆ ในช่างชุ้ยให้ได้เดินเลือกชมกัน
เอาละจ้า เราก็มาเริ่มกันเลย อันนี้หยกเข้ามาจากทางข้างหลังประตู 2 เราขอเริ่มจากฝั่งขวาก่อนดีกว่า ผ่านซุ้มประตู 2 มาแล้วเราจะเลี้ยวขวาจะเจอกับร้าน Fly Now อยู่ซ้ายมือ และระแวงนั้นก็จะมีโซนขายของ เดินถัดไปอีกหน่อยก็จะเป็นร้าน Old Man ซึ่งทุกคนน่าจะรู้จักกันดี 55555 และ ไฮไลท์ที่สำคัญของฝั่งนี้น่าจะเป็น "ลานอาเหนกป้าสง" ที่มีหัวกระโหลกสีทองอยุ่บนพื้นหญ้าสีเขียว ส่วนรอบๆก็เป็นร้านค้าขายของเล่นเก่าและของสะสม
"ชุ่ยสโมสร"
ด้านในเป็นของสะสมโบราณ เราคิดว่ามันน่าจะมีอายุพอสมควร
ถัดมาก็เป็น "ชุ่ยเจริญ" ซึ่งจะเป็นร้านขายของชำ อารมณ์ย้อนกลับไปแบบมีตู้น้ำเก๊กฮวยอะไรแบบนี้ และก็มีของเล่น ลูกอมสมัยก่อน ย้อนวัยแฟนฉันมาขายกันเลยจ้า
น้ำในตู้นี้ ขายตั้งแต่ 17.00 เป็นต้นไปจ้า
และเมื่อเราเดินออกมาจากโซนนั้น ตรงมาเรื่อยๆบริเวณท้ายเครื่องบิน ก็จะถึงโซนกลางซึ่งเป็นจุดขายที่สำคัญกันแล้ว นั้นก็คือเครื่องบินลำใหญ่ มีที่น่ั่งสำหรับการดื่มกินอาหารและสุรา ช่วงค่ำๆน่าจะเหมาะมากกว่าเพราะจะมีดนตรีแสงสีครบ ฝั่งขวาก็จะเป็นโซนร้านของกิน ของฝาก ร้านค้ามากมายยย
ไฮไลท์สำหรับเราต้องร้านนี้เลย เก๋กู๊ดด เราว่าการทำอะไรแบบนี้มันต้องติสมาก เราชอบการตกแต่งร้านมันเป็นสิ่งของใกล้ตัว ซึงเจ้าของร้านนำมาดัดแปลงและสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงาม
เอาละค่ะ เราก็เดินตรงมาทางด้านหัวเครื่องบิน ไฮไลท์อีกหนึ่งจุดคือ มีโรงหนังอะแก ชื่อว่า"ดูจิตแล้ว อะไรก็ช่าง" หนังน่าจะเป็นหนังอาร์ต อะไรแบบนี้ ลองดูกันจ้ะ
และต่อเข้าไปด้านในจะมีร้าน Happening ซึ่งจะมีหนังสือ เทปเพลงเก่าๆ ของที่ระลึกมาจำหน่ายกันจ้า ใครที่เป็นแฟนคลับก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้เลย
ส่วนร้านตรงข้ามจะเป็นร้านนั่งจิบชา มีอาหารและของหวาน ชื่อว่า "The tea House"
และถัดมาเมื่อเดินเข้าไปด้านในซ้ายมือก็จะมีศูนย์อาหาร(ราคาไม่ย่อมเยาว์เท่าไร 555) ให้ได้เข้ามากินอาหารกัน โดยต้องแลกบัตรในการซื้ออาหาร บัตรอาหารที่นี่คือน่ารักมากกซองและพวงกุญแจน่ารักไปอีก (จริงๆเราว่าคนคิดคอนเซปต่างๆเขาต้องอาร์ตมาก ถึงได้ใส่รายละเอียดไปมากขนาดนี้) และจานอาหารที่นี่จะเป็นจานสังกะสีเหมือนสมัยก่อนทั้งหมด มีพร็อบแน่นแทบจะทุกร้านค่ะ
และเดินออกมาจากศูนย์อาหาร ถัดมาด้านในซ้ายมือสุด ก็จะมีลานวงกลมเล็กเหมือนลานกิจกรรม แต่ยังสร้างไม่เสร็จ เดาเอาเองว่าน่าจะใช้ลานกิจกรรมเล่นดนตรีเล็กๆ และถัดมาก็จะเป็นร้าน"บ้านบ๋วย" ร้านอาหารของคุณบ๋วย ที่จะมีไก่ทอดและอย่างอื่นอีกมากมาย ถัดมาก็น่าจะมีร้านค้าแต่ยังไม่เปิดบริการ และสุดท้ายก็วนมาขากลับ ที่สุดท้ายคือ "หย่อนญาณBook Cafe" ด้านในเป็นร้านหนังสือของแซลมอย อะเดย์ หนังสือต่างชาติ สมุดโน๊ตเก๋ๆ และมีร้านกาแฟอยู่ในนั้น สามารถนั่งทำงาน จิบกาแฟ หาแรงบรรดาลใจได้ในนี้ค่ะ
การรีวิวครั้งนี้อาจจะไม่ได้ละเอียดมากเท่าไร แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากไปดูงานศิลป์ เข้าวิถีอาร์ตติส เราแนะนำที่นี่เลย "ช่างชุ่ย" ถ้าอยากมาถ่ายภาพแนะนำตอนกลางคืน น่าจะสวยกว่าค่ะ สุดท้ายขอขอบคุณทุกๆคนที่เปิดเข้ามาดูในการรีวิวครั้งนี้
[CR] review "ช่างชุ่ย อาณาจักรศิลปะและวิถีอาร์ตติส"