มีเรื่องอยากจะแจ้งค่ะ เราทำประกันกับ Cigna เป็นประกันการเดินทาง รวมไปถึงการที่กระเป๋าเดินทางสูญหายไป
เป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2560
ทีนี้ กระเป๋าเดินทางเราหาย และสายการบินก็รับรองว่ากระเป๋าเดินทางได้สูญหาย
ไปในระหว่างการเดินทางจากประเทศจีน มาถึงประเทศไทย
แต่ทาง Cigna ปฏิเสธการเคลมประกันกระเป๋าเดินทางหาย
โดยอ้างว่า “ตอนที่ลูกค้าเดินทางมาถึงสุวรรณภูมินั้น สิ้นสุดความคุ้มครองแล้ว”
แต่เราเดินทางมาจากประเทศจีน และต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจว แต่มีการเช็คทรูกระเป๋ามาจากต้นทาง คือ
เมืองหังโจว ประเทศจีน โดยทางสายการบินแจ้งว่า เป็นการเช็คทรูกระเป๋า จากสนามบินเซียวซาน เมืองหังโจว ถึง สุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร
ไฟลท์ของเรา คือ วันที่ 16 พฤษภาคม 2560 จากสนามบิน เซียวซาน เมืองหังโจว-สนามบิน ไป๋หยุน เมืองกวางโจว เวลาบอร์ดดิ้ง เวลา 19.15 น. และ จากสนามบินไป๋หยุน เมืองกวางโจว-สุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร เวลาบอร์ดดิ้ง เวลา 23.15 น. ซึ่งในวันนั้น เครื่องออกจากสนามบิน ไป๋หยุน ก่อนเวลาด้วยซ้ำ
แต่ Cigna กลับบอกว่า เรามาถึง คือ เวลา 01.10 น. ซึ่งเลยกำหนดการคุ้มครองแล้ว และอ้างว่ากระเป๋าหาย
ที่สุวรรณภูมิ ทั้งที่จริงๆ แล้ว เราเช็คทรูกระเป๋ามา เรายังไม่ได้รับกระเป๋าแต่อย่างใด
Cigna ทำแบบนี้ ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบชัดๆ ใช่ไหมคะ?
อีกอย่างคือ ทาง Cigna แจ้งว่ามีหนังสือปฏิเสธการเคลมกระเป๋ามาถึงเราแล้วโดยส่งไปที่บ้าน
แต่เราไม่ได้รับจดหมายจาก Cigna แม้แต่ฉบับเดียว อีเมลก็ไม่มี แม้แต่โทรศัพท์ ก็ไม่มี
ซึ่งไม่เคยเจอประกันที่ไหนที่ทำแบบนี้กับลูกค้ามาก่อนนะคะ
เราเลยอยากฝากเตือนทุกคนคิดให้ดีนะคะ ถ้าจะทำประกันกับ Cigna เพราะสำหรับเรา คงครั้งเดียวพอค่ะ
เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
ทางสายการบินก็ยืนยันมาว่าที่จีน เพราะเค้าหากระเป๋าที่สุวรรณภูมิไม่เจอ
เพราะเราทำเรื่องกระเป๋าหายตั้งแต่วันมาถึง และรอจนตีสาม
และเครื่องเราดีเลย์ด้วย ประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากฝนตก
อัพเดตค่ะ
มีคนอยากเห็นหนังสือรับรองที่สายการบินออกให้ เราขอลงโดยตัดส่วนที่เกี่ยวกับสายการบินออกนะคะ
ฉบับแรก

ฉบับที่เพิ่งขอให้สายการบินออกให้ใหม่ และส่งให้ประกันแล้ว

================================================
อัพเดต 6 ก.ค. 60.
สรุปว่า Cigna Thailand โทรมาบอกว่าจะยอมจ่ายนะคะ เพราะฉะนั้น แสดงว่าทาง Cigna ถือว่าอยู่ในระยะเวลาความคุ้มครอง (ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะยืนกรานกระต่ายขาเดียว จะได้ไปถามคปภ.ว่า Cigna ทำตามกฎหมายไหม)
Cigna ยอมจ่ายในส่วนที่เรามีใบเสร็จทั้งหมด ส่วนที่ไม่มีใบเสร็จ ไม่จ่ายนะคะ (ก็ยังดี นึกว่าจะอ้างว่าเราได้เคลมกับสายการบินแล้วจะไม่สามารถเคลมกับประกันได้อีก จะได้ไปถามคปภ.ต่อว่า แล้วจะให้ทำประกันให้เบี้ยประกันแพงๆ ไปทำไม)
เป็น Case Study ให้ทุกคนที่จะทำประกันภัยการเดินทางนะคะ ว่าประกันมีข้ออ้างแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ (ถ้าเราไม่แน่ใจว่าหายที่ไหน เราคงไม่กล้าเล่นเหมือนกัน) เพราะฉะนั้น เวลาทำประกันก็ทำครอบคลุมจนตั้งแต่วันที่ออกจากบ้าน จนถึงเวลาที่กลับถึงบ้านจะดีที่สุดค่ะ เราพลาดเพราะนับเวลาผิดไปนิด (ซึ่งอันนี้เป็นความผิดของเราเอง)
สรุป
1. ประกันต้องรับผิดชอบถ้าเหตุเกิดในเวลาที่อยู่ในระยะประกัน ไม่ว่าเราจะมาถึงจุดหมายในเวลาที่การประกันสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
(แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ากระเป๋าหาย หรือดีเลย์ ให้รีบติดต่อสายการบินทันที และโทรไปตามเรื่อยๆ พร้อมทั้งถ้าเป็นไปได้ให้ส่งถามความคืบหน้าทางอีเมล หรือทางแชทโดยตลอด อย่าไปกลัวว่าเค้าจะไม่ตอบ หรือกลัวว่าค้าจะรำคาญ มันเป็นหน้าที่ที่เค้าต้องตอบเรา แบบนี้เราจะได้มีหลักฐานในมือ)
*หมายเหตุ
- สิ่งที่ทำให้เรากล้าที่จะเล่นกับประกัน เพราะเรามั่นใจว่ากระเป๋าหายที่จีน ถึงไม่มีใบเซอร์ออกมาให้ เราก็เอาแชทที่สายการบินส่งให้มาใช้ได้ (ถ้าสายการบินอ้าง เราจะได้เล่นสายการบินต่อ 555+)
2. แม้ว่าคุณจะเคลมกับสายการบินแล้ว
ถ้าความเสียหายมันเกินกว่าที่สายการบินจ่ายมาให้ อย่างน้อยประกันต้องจ่ายส่วนต่างที่เหลือให้
(ส่วนมากประกันจะยึดตามใบเสร็จที่มี)
ประกันไม่มีสิทธิอ้างว่า "คุณได้เคลมจากสายการบินแล้วคุณไม่มีสิทธิได้จากประกันอีก"
*อันที่จริงจุดนี้เราก็คิดว่าไม่แฟร์เหมือนกัน เพราะเราจ่ายเบี้ยประกันเพื่อให้ประกันคุ้มครองของเรา แต่เราเคลมประกันได้ไม่เท่าความเสียหายของเรา ก็ไม่รู้เราจะจ่ายเบี้ยแพงๆ ไปทำไมเนอะ
3. ถามกำหนดเวลาให้แน่ชัดว่าเค้าจะใช้เวลาพิจารณากี่วัน และเมื่อครบกำหนดให้รีบโทหาทันที (เคสเรา Cigna อ้างว่าส่งจดหมายหาเรานานแล้ว แต่เราไปเช็คกับไปรษณีย์ปรากกฏว่าไม่มี ก็ไม่รู้ว่า Cigna โกหกว่าส่งแล้ว หรือไปรษณีย์ยังเดินทางมาไม่ถึงบ้านเราก็ไม่รู้
ตอนนี้เรากำลังรออีเมล์อนุมัติเคลม พร้อมกับเมลขอโทษที่ทาง Cigna จะส่งมาอยู่ค่ะ
=====================================================
อัพเดต 7 ก.ค. 2560
วันนี้ Cigna ส่งหนังสือแสดงคำขอโทษที่เจ้าหน้า หาว่าเราโกหก แถมยังใช้คำพูดไม่เหมาะสม
มาให้ค่ะ แต่หนังสืออนุมัติเคลมยังไม่ได้นะ
ก็ยังดีที่ยังรู้จักขอโทษ

======================================
อัพเดต 11 ก.ค. 2560
หลังจากที่ Cigna คอนเฟิร์มกับเราว่าจะส่งใบอนุมัติเคลมประกันมาให้ตั้งแต่วันที่ 6
แต่ไม่ส่งมา ส่งมาเฉพาะหนังสือขอโทษ และเราก็ให้โอกาสเนื่องจากปิดยาวไป 3 วัน
ตอนเช้าวันนี้ เราเห็นว่าสมควรที่ทาง Cigna จะต้องส่งใบอนุมัติเคลมให้เราได้แล้ว
เราจึงส่ง Inbox ไปหา Cigna ว่า "ถ้าวันนี้ไม่ได้ใบเคลม ดิฉันว่าพรุ่งนี้บ่าย
เราไปเจอกันที่คปภ.เลยล่ะกันค่ะ ไม่อยากรอแล้ว รอมาเดือนกว่าแล้ว กะอิเรื่องเคลมประกันเนี่ย"
ตอนสายๆ แอดมินเพจ Cigna ส่งข้อความกลับมาว่าจะประสานงานให้ เราก็เลยย้ำไปอีกว่า
ถ้าไม่ได้ก็เจอกันที่คปภ.เลยนะคะ"
ประมาณสักบ่ายสอง-บ่ายสาม ทาง Cigna จึงส่งใบอนุมัติเคลมประกันมาให้
แต่ไม่ระบุวันโอนเงินนะคะ (จะดึงเชิงอะไรอีก?)

เราเห็นทาง Cigna ไม่ระบุวัน ก็มีความรู้สึกว่า Cigna จะเล่นอะไรอีก?
จึงได้ส่ง inbox ไปบอกให้ช่วยแจ้งกำหนดการโอนเงินด้วย
รอจน 4 โมงเย็นๆ ก็ยังไม่มีเมล์ เราจึงกะจะลางานไปคปภ.ล่ะพรุ่งนี้
แล้ว Cigna ก็ส่งเมล์แจ้งกำหนดวันมาให้เราค่ะ กำหนด คือ 7 วันทำการ

เรามารอดูค่ะว่า ครบ 7 วันแล้ว เราจะได้เงินจาก Cigna หรือไม่
============================================
อัพเดต 13 ก.ค. 2560
หลังจากรอมาเกือบ 2 เดือน ในที่สุด เราก็ได้อนุมัติเคลม และได้เงินค่าเคลมประกันจาก Cigna
(ซะที) วันนี้ Cigna ทำการโอนค่าเคลมประกันให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ด้วยจำนวนเงินที่เราพอจะรับได้
(ถึงจะขาดทุนอยู่ก็เหอะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้)
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ที่เรามาลงให้ทุกคนอ่านกัน ก็อย่กให้ทุกคน ระมัดระวังในการซื้อประกันภัย และรู้เท่าทัน
บ.ประกันภัย ว่าเค้าพยายามที่จะไม่ต้องจ่าย (เหตุผลไม่เข้าท่า มันยังเอามา)
และที่สำคัญ ทางเกิดเรื่องแล้ว ต้องสู้ค่ะ มันคือสิทธิของเราค่ะ
สรุปอีกครั้ง
1. ถ้าเกิดเหตุในระยะเวลาประกันคุ้มครอง ประกันต้องรับผิดชอบ ยกเว้น
เป็นข้อที่ประกันระบุแน่ชัดว่าไม่รับผิดชอบ
2. ความคุ้มครองดูที่ระยะเวลาที่เกิดเหตุ ไม่ใช่เวลาที่เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง
3. ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น กระเป๋าหาย ดีเลย์ ให้รีบติดต่อสายการบิน และพยายามคุย
และถามความคืบหน้าตลอด
4. ถามระยะเวลาการดำเนินการให้ชัดเจน ถ้าจะให้ดี ให้เค้าตอบมาเป็นลายลักษณอักษร ทาง Inbox หรือ Line แล้วแต่กรณี
5. ถ้าถึงเวลาที่บริษัทบอกแล้ว ให้ติดต่อถามความคืบหน้าทันที ถ้าเค้าอ้างว่ายังไม่เสร็จ ให้ถามหาสาเหตุที่แน่ชัด
แล้วก็ซักไปจนกว่าจะหลุด
สุดท้ายนี้ เราคงเก็บกระทู้นี้ ไว้เพื่อเป็น Case Study ให้ทุกคนนะคะ
ขอบคุณทุกคน ที่ติดตาม และเป็นกำลังใจให้ รวมทั้งที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันนะคะ
โชคดีในการเลือกประกันภัยการเดินทางกันทุกคนนะคะ
ว่าด้วยการทำประกันการเดินทางกับ Cigna ใครที่คิดจะทำคิดให้ดีนะคะ
เป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2560
ทีนี้ กระเป๋าเดินทางเราหาย และสายการบินก็รับรองว่ากระเป๋าเดินทางได้สูญหาย
ไปในระหว่างการเดินทางจากประเทศจีน มาถึงประเทศไทย
แต่ทาง Cigna ปฏิเสธการเคลมประกันกระเป๋าเดินทางหาย
โดยอ้างว่า “ตอนที่ลูกค้าเดินทางมาถึงสุวรรณภูมินั้น สิ้นสุดความคุ้มครองแล้ว”
แต่เราเดินทางมาจากประเทศจีน และต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจว แต่มีการเช็คทรูกระเป๋ามาจากต้นทาง คือ
เมืองหังโจว ประเทศจีน โดยทางสายการบินแจ้งว่า เป็นการเช็คทรูกระเป๋า จากสนามบินเซียวซาน เมืองหังโจว ถึง สุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร
ไฟลท์ของเรา คือ วันที่ 16 พฤษภาคม 2560 จากสนามบิน เซียวซาน เมืองหังโจว-สนามบิน ไป๋หยุน เมืองกวางโจว เวลาบอร์ดดิ้ง เวลา 19.15 น. และ จากสนามบินไป๋หยุน เมืองกวางโจว-สุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร เวลาบอร์ดดิ้ง เวลา 23.15 น. ซึ่งในวันนั้น เครื่องออกจากสนามบิน ไป๋หยุน ก่อนเวลาด้วยซ้ำ
แต่ Cigna กลับบอกว่า เรามาถึง คือ เวลา 01.10 น. ซึ่งเลยกำหนดการคุ้มครองแล้ว และอ้างว่ากระเป๋าหาย
ที่สุวรรณภูมิ ทั้งที่จริงๆ แล้ว เราเช็คทรูกระเป๋ามา เรายังไม่ได้รับกระเป๋าแต่อย่างใด
Cigna ทำแบบนี้ ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบชัดๆ ใช่ไหมคะ?
อีกอย่างคือ ทาง Cigna แจ้งว่ามีหนังสือปฏิเสธการเคลมกระเป๋ามาถึงเราแล้วโดยส่งไปที่บ้าน
แต่เราไม่ได้รับจดหมายจาก Cigna แม้แต่ฉบับเดียว อีเมลก็ไม่มี แม้แต่โทรศัพท์ ก็ไม่มี
ซึ่งไม่เคยเจอประกันที่ไหนที่ทำแบบนี้กับลูกค้ามาก่อนนะคะ
เราเลยอยากฝากเตือนทุกคนคิดให้ดีนะคะ ถ้าจะทำประกันกับ Cigna เพราะสำหรับเรา คงครั้งเดียวพอค่ะ
เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
ทางสายการบินก็ยืนยันมาว่าที่จีน เพราะเค้าหากระเป๋าที่สุวรรณภูมิไม่เจอ
เพราะเราทำเรื่องกระเป๋าหายตั้งแต่วันมาถึง และรอจนตีสาม
และเครื่องเราดีเลย์ด้วย ประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากฝนตก
อัพเดตค่ะ
มีคนอยากเห็นหนังสือรับรองที่สายการบินออกให้ เราขอลงโดยตัดส่วนที่เกี่ยวกับสายการบินออกนะคะ
ฉบับแรก
ฉบับที่เพิ่งขอให้สายการบินออกให้ใหม่ และส่งให้ประกันแล้ว
================================================
อัพเดต 6 ก.ค. 60.
สรุปว่า Cigna Thailand โทรมาบอกว่าจะยอมจ่ายนะคะ เพราะฉะนั้น แสดงว่าทาง Cigna ถือว่าอยู่ในระยะเวลาความคุ้มครอง (ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะยืนกรานกระต่ายขาเดียว จะได้ไปถามคปภ.ว่า Cigna ทำตามกฎหมายไหม)
Cigna ยอมจ่ายในส่วนที่เรามีใบเสร็จทั้งหมด ส่วนที่ไม่มีใบเสร็จ ไม่จ่ายนะคะ (ก็ยังดี นึกว่าจะอ้างว่าเราได้เคลมกับสายการบินแล้วจะไม่สามารถเคลมกับประกันได้อีก จะได้ไปถามคปภ.ต่อว่า แล้วจะให้ทำประกันให้เบี้ยประกันแพงๆ ไปทำไม)
เป็น Case Study ให้ทุกคนที่จะทำประกันภัยการเดินทางนะคะ ว่าประกันมีข้ออ้างแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ (ถ้าเราไม่แน่ใจว่าหายที่ไหน เราคงไม่กล้าเล่นเหมือนกัน) เพราะฉะนั้น เวลาทำประกันก็ทำครอบคลุมจนตั้งแต่วันที่ออกจากบ้าน จนถึงเวลาที่กลับถึงบ้านจะดีที่สุดค่ะ เราพลาดเพราะนับเวลาผิดไปนิด (ซึ่งอันนี้เป็นความผิดของเราเอง)
สรุป
1. ประกันต้องรับผิดชอบถ้าเหตุเกิดในเวลาที่อยู่ในระยะประกัน ไม่ว่าเราจะมาถึงจุดหมายในเวลาที่การประกันสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
(แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ากระเป๋าหาย หรือดีเลย์ ให้รีบติดต่อสายการบินทันที และโทรไปตามเรื่อยๆ พร้อมทั้งถ้าเป็นไปได้ให้ส่งถามความคืบหน้าทางอีเมล หรือทางแชทโดยตลอด อย่าไปกลัวว่าเค้าจะไม่ตอบ หรือกลัวว่าค้าจะรำคาญ มันเป็นหน้าที่ที่เค้าต้องตอบเรา แบบนี้เราจะได้มีหลักฐานในมือ)
*หมายเหตุ
- สิ่งที่ทำให้เรากล้าที่จะเล่นกับประกัน เพราะเรามั่นใจว่ากระเป๋าหายที่จีน ถึงไม่มีใบเซอร์ออกมาให้ เราก็เอาแชทที่สายการบินส่งให้มาใช้ได้ (ถ้าสายการบินอ้าง เราจะได้เล่นสายการบินต่อ 555+)
2. แม้ว่าคุณจะเคลมกับสายการบินแล้ว
ถ้าความเสียหายมันเกินกว่าที่สายการบินจ่ายมาให้ อย่างน้อยประกันต้องจ่ายส่วนต่างที่เหลือให้
(ส่วนมากประกันจะยึดตามใบเสร็จที่มี)
ประกันไม่มีสิทธิอ้างว่า "คุณได้เคลมจากสายการบินแล้วคุณไม่มีสิทธิได้จากประกันอีก"
*อันที่จริงจุดนี้เราก็คิดว่าไม่แฟร์เหมือนกัน เพราะเราจ่ายเบี้ยประกันเพื่อให้ประกันคุ้มครองของเรา แต่เราเคลมประกันได้ไม่เท่าความเสียหายของเรา ก็ไม่รู้เราจะจ่ายเบี้ยแพงๆ ไปทำไมเนอะ
3. ถามกำหนดเวลาให้แน่ชัดว่าเค้าจะใช้เวลาพิจารณากี่วัน และเมื่อครบกำหนดให้รีบโทหาทันที (เคสเรา Cigna อ้างว่าส่งจดหมายหาเรานานแล้ว แต่เราไปเช็คกับไปรษณีย์ปรากกฏว่าไม่มี ก็ไม่รู้ว่า Cigna โกหกว่าส่งแล้ว หรือไปรษณีย์ยังเดินทางมาไม่ถึงบ้านเราก็ไม่รู้
ตอนนี้เรากำลังรออีเมล์อนุมัติเคลม พร้อมกับเมลขอโทษที่ทาง Cigna จะส่งมาอยู่ค่ะ
=====================================================
อัพเดต 7 ก.ค. 2560
วันนี้ Cigna ส่งหนังสือแสดงคำขอโทษที่เจ้าหน้า หาว่าเราโกหก แถมยังใช้คำพูดไม่เหมาะสม
มาให้ค่ะ แต่หนังสืออนุมัติเคลมยังไม่ได้นะ
ก็ยังดีที่ยังรู้จักขอโทษ
======================================
อัพเดต 11 ก.ค. 2560
หลังจากที่ Cigna คอนเฟิร์มกับเราว่าจะส่งใบอนุมัติเคลมประกันมาให้ตั้งแต่วันที่ 6
แต่ไม่ส่งมา ส่งมาเฉพาะหนังสือขอโทษ และเราก็ให้โอกาสเนื่องจากปิดยาวไป 3 วัน
ตอนเช้าวันนี้ เราเห็นว่าสมควรที่ทาง Cigna จะต้องส่งใบอนุมัติเคลมให้เราได้แล้ว
เราจึงส่ง Inbox ไปหา Cigna ว่า "ถ้าวันนี้ไม่ได้ใบเคลม ดิฉันว่าพรุ่งนี้บ่าย
เราไปเจอกันที่คปภ.เลยล่ะกันค่ะ ไม่อยากรอแล้ว รอมาเดือนกว่าแล้ว กะอิเรื่องเคลมประกันเนี่ย"
ตอนสายๆ แอดมินเพจ Cigna ส่งข้อความกลับมาว่าจะประสานงานให้ เราก็เลยย้ำไปอีกว่า
ถ้าไม่ได้ก็เจอกันที่คปภ.เลยนะคะ"
ประมาณสักบ่ายสอง-บ่ายสาม ทาง Cigna จึงส่งใบอนุมัติเคลมประกันมาให้
แต่ไม่ระบุวันโอนเงินนะคะ (จะดึงเชิงอะไรอีก?)
เราเห็นทาง Cigna ไม่ระบุวัน ก็มีความรู้สึกว่า Cigna จะเล่นอะไรอีก?
จึงได้ส่ง inbox ไปบอกให้ช่วยแจ้งกำหนดการโอนเงินด้วย
รอจน 4 โมงเย็นๆ ก็ยังไม่มีเมล์ เราจึงกะจะลางานไปคปภ.ล่ะพรุ่งนี้
แล้ว Cigna ก็ส่งเมล์แจ้งกำหนดวันมาให้เราค่ะ กำหนด คือ 7 วันทำการ
เรามารอดูค่ะว่า ครบ 7 วันแล้ว เราจะได้เงินจาก Cigna หรือไม่
============================================
อัพเดต 13 ก.ค. 2560
หลังจากรอมาเกือบ 2 เดือน ในที่สุด เราก็ได้อนุมัติเคลม และได้เงินค่าเคลมประกันจาก Cigna
(ซะที) วันนี้ Cigna ทำการโอนค่าเคลมประกันให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ด้วยจำนวนเงินที่เราพอจะรับได้
(ถึงจะขาดทุนอยู่ก็เหอะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้)
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ที่เรามาลงให้ทุกคนอ่านกัน ก็อย่กให้ทุกคน ระมัดระวังในการซื้อประกันภัย และรู้เท่าทัน
บ.ประกันภัย ว่าเค้าพยายามที่จะไม่ต้องจ่าย (เหตุผลไม่เข้าท่า มันยังเอามา)
และที่สำคัญ ทางเกิดเรื่องแล้ว ต้องสู้ค่ะ มันคือสิทธิของเราค่ะ
สรุปอีกครั้ง
1. ถ้าเกิดเหตุในระยะเวลาประกันคุ้มครอง ประกันต้องรับผิดชอบ ยกเว้น
เป็นข้อที่ประกันระบุแน่ชัดว่าไม่รับผิดชอบ
2. ความคุ้มครองดูที่ระยะเวลาที่เกิดเหตุ ไม่ใช่เวลาที่เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง
3. ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น กระเป๋าหาย ดีเลย์ ให้รีบติดต่อสายการบิน และพยายามคุย
และถามความคืบหน้าตลอด
4. ถามระยะเวลาการดำเนินการให้ชัดเจน ถ้าจะให้ดี ให้เค้าตอบมาเป็นลายลักษณอักษร ทาง Inbox หรือ Line แล้วแต่กรณี
5. ถ้าถึงเวลาที่บริษัทบอกแล้ว ให้ติดต่อถามความคืบหน้าทันที ถ้าเค้าอ้างว่ายังไม่เสร็จ ให้ถามหาสาเหตุที่แน่ชัด
แล้วก็ซักไปจนกว่าจะหลุด
สุดท้ายนี้ เราคงเก็บกระทู้นี้ ไว้เพื่อเป็น Case Study ให้ทุกคนนะคะ
ขอบคุณทุกคน ที่ติดตาม และเป็นกำลังใจให้ รวมทั้งที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันนะคะ
โชคดีในการเลือกประกันภัยการเดินทางกันทุกคนนะคะ