การได้ไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศแล้วได้ตกหลุมรักเข้ากับใครสักคนที่ต่างประเทศนี้มันช่างแสนโรแมนติกราวกับนิยายเลยนะคะ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วการได้ไปอยู่ในต่างประเทศต่างวัฒนธรรมทำให้ได้พบเจอกับประสบการณ์หลากหลายที่แตกต่างจากในชีวิตประจำวันของตัวเองอย่างมาก ถ้าเราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แม้ได้พบเจอเรื่องเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เราตื่นเต้นได้แล้ว จึงทำให้เราสามารถเกิดอาการหวั่นไหวและตกหลุมรักใครบางคนได้ง่ายดายขึ้นด้วย สิ่งนี้เป็นหนึ่งในทฤษฎีทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “ทฤษฎีสะพานแขวน”
แล้วในความเป็นจริง ทฤษฎีนี้จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดกันแน่ DeNA Travel บริษัทในญี่ปุ่นที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวได้ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับสถานการณ์ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้ผลสรุปที่น่าสนใจดังนี้
คนญี่ปุ่น 1 ใน 4 ปิ๊งรักขณะท่องเที่ยวในต่างประเทศ
จากคำถามในแบบสำรวจที่ว่า “ท่านรู้สึกถึงความเป็นอิสรภาพหรือความรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยในขณะที่ท่านเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือไม่ ?” คำตอบจากคนญี่ปุ่นที่ทำแบบสำรวจจำนวน 85.8% ตอบว่า “ใช่” การที่คนญี่ปุ่นเหล่านี้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศจะทำให้เขาได้รับการตุ้นจากสิ่งรอบตัวต่าง ๆ ทำให้มองเห็นอะไรก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ไปเสียหมด ดังนั้นจากที่ปกติเขาอาจจะใช้ความละเอียดรอบคอบต่อสิ่งรอบตัวมากกว่านี้ก็กลายเป็นว่าถูกกระตุ้นจากการท่องเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองจนความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติไป จึงสามารถทำอะไรที่ปกติจะไม่กล้าทำ
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญก็คือคำถามที่ว่า “ท่านเคยตกหลุมรักใครขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือไม่” คนญี่ปุ่นที่ทำแบบสำรวจจำนวน 26% ตอบว่า “เคย” นั่นหมายถึงมีคนญี่ปุ่นจำนวนถึง 1 ใน 4 คนเคยปิ๊งรักในต่างแดนนั่นเอง จึงสามารถกล่าวได้ว่าคนญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะตกหลุมรักขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศได้ค่อนข้างสูงระดับหนึ่งเลย
ประเทศไหนที่ไปเที่ยวแล้วถึงจะปิ๊งรัก ?
จั่วหัวมาเสียขนาดนี้แล้วก็คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากประเทศไทยของเรานี่เองค่ะ จากคำถามในแบบสำรวจที่ว่า “ท่านเคยตกหลุมรักขณะกำลังท่องเที่ยวในประเทศใด” คำตอบอันดับ 1 คือ ประเทศไทย (12.4%), อันดับ 2 อเมริกาและจีน (ประเทศละ 10%), อันดับ 3 เกาหลี (6.7%) และอันดับ 4 ฟิลิปปินส์ (5.7%)
นอกจากนี้แล้วคนที่พวกเขาไปตกหลุมรักเข้าเป็นคนประเทศไหนบ้างนะ อยากรู้กันไหมเอ่ย ? อันดับ 1 คือ คนญี่ปุ่น (17.1%), อันดับ 2 คนจีน (10.6), อันดับ 3 คนไทย (9.6%), อันดับ 4 คนเกาหลี (8.9%) และอันดับที่ 5 คนอเมริกัน (7.9%)
ถ้าหากดูรวม ๆ แล้วประเทศส่วนใหญ่ที่คนญี่ปุ่นเดินทางไปตกหลุมรักและคู่กรณีส่วนใหญ่เองก็จะเป็นประเทศและคนทางฝั่งเอเชียแทบทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย แน่นอนว่าผู้ที่ตอบแบบสำรวจบางท่านก็ได้สานสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแค่เพียงชั่วคราวสุดท้ายก็ต้องจากกันไป แต่บางท่านก็ได้สานสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนานจนกลายมาเป็นสามี-ภรรยากันในปัจจุบันเลยค่ะ การที่จะได้ปิ๊งรักแบบคาดไม่ถึงขณะเดินทางจึงเป็นเสน่ห์หนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวเลยล่ะ ไม่แน่เดินทางคราวนี้คุณอาจได้พบเจอกับคนรักของคุณก็ได้นะคะ
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067385
คนญี่ปุ่นบอกว่า…มาเที่ยวไทยมีโอกาสได้ปิ๊งรักสูง !?
การได้ไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศแล้วได้ตกหลุมรักเข้ากับใครสักคนที่ต่างประเทศนี้มันช่างแสนโรแมนติกราวกับนิยายเลยนะคะ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วการได้ไปอยู่ในต่างประเทศต่างวัฒนธรรมทำให้ได้พบเจอกับประสบการณ์หลากหลายที่แตกต่างจากในชีวิตประจำวันของตัวเองอย่างมาก ถ้าเราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แม้ได้พบเจอเรื่องเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เราตื่นเต้นได้แล้ว จึงทำให้เราสามารถเกิดอาการหวั่นไหวและตกหลุมรักใครบางคนได้ง่ายดายขึ้นด้วย สิ่งนี้เป็นหนึ่งในทฤษฎีทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “ทฤษฎีสะพานแขวน”
แล้วในความเป็นจริง ทฤษฎีนี้จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดกันแน่ DeNA Travel บริษัทในญี่ปุ่นที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวได้ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับสถานการณ์ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้ผลสรุปที่น่าสนใจดังนี้
คนญี่ปุ่น 1 ใน 4 ปิ๊งรักขณะท่องเที่ยวในต่างประเทศ
จากคำถามในแบบสำรวจที่ว่า “ท่านรู้สึกถึงความเป็นอิสรภาพหรือความรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยในขณะที่ท่านเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือไม่ ?” คำตอบจากคนญี่ปุ่นที่ทำแบบสำรวจจำนวน 85.8% ตอบว่า “ใช่” การที่คนญี่ปุ่นเหล่านี้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศจะทำให้เขาได้รับการตุ้นจากสิ่งรอบตัวต่าง ๆ ทำให้มองเห็นอะไรก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ไปเสียหมด ดังนั้นจากที่ปกติเขาอาจจะใช้ความละเอียดรอบคอบต่อสิ่งรอบตัวมากกว่านี้ก็กลายเป็นว่าถูกกระตุ้นจากการท่องเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองจนความรู้สึกมันเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติไป จึงสามารถทำอะไรที่ปกติจะไม่กล้าทำ
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญก็คือคำถามที่ว่า “ท่านเคยตกหลุมรักใครขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือไม่” คนญี่ปุ่นที่ทำแบบสำรวจจำนวน 26% ตอบว่า “เคย” นั่นหมายถึงมีคนญี่ปุ่นจำนวนถึง 1 ใน 4 คนเคยปิ๊งรักในต่างแดนนั่นเอง จึงสามารถกล่าวได้ว่าคนญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะตกหลุมรักขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศได้ค่อนข้างสูงระดับหนึ่งเลย
ประเทศไหนที่ไปเที่ยวแล้วถึงจะปิ๊งรัก ?
จั่วหัวมาเสียขนาดนี้แล้วก็คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากประเทศไทยของเรานี่เองค่ะ จากคำถามในแบบสำรวจที่ว่า “ท่านเคยตกหลุมรักขณะกำลังท่องเที่ยวในประเทศใด” คำตอบอันดับ 1 คือ ประเทศไทย (12.4%), อันดับ 2 อเมริกาและจีน (ประเทศละ 10%), อันดับ 3 เกาหลี (6.7%) และอันดับ 4 ฟิลิปปินส์ (5.7%)
นอกจากนี้แล้วคนที่พวกเขาไปตกหลุมรักเข้าเป็นคนประเทศไหนบ้างนะ อยากรู้กันไหมเอ่ย ? อันดับ 1 คือ คนญี่ปุ่น (17.1%), อันดับ 2 คนจีน (10.6), อันดับ 3 คนไทย (9.6%), อันดับ 4 คนเกาหลี (8.9%) และอันดับที่ 5 คนอเมริกัน (7.9%)
ถ้าหากดูรวม ๆ แล้วประเทศส่วนใหญ่ที่คนญี่ปุ่นเดินทางไปตกหลุมรักและคู่กรณีส่วนใหญ่เองก็จะเป็นประเทศและคนทางฝั่งเอเชียแทบทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย แน่นอนว่าผู้ที่ตอบแบบสำรวจบางท่านก็ได้สานสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแค่เพียงชั่วคราวสุดท้ายก็ต้องจากกันไป แต่บางท่านก็ได้สานสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนานจนกลายมาเป็นสามี-ภรรยากันในปัจจุบันเลยค่ะ การที่จะได้ปิ๊งรักแบบคาดไม่ถึงขณะเดินทางจึงเป็นเสน่ห์หนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวเลยล่ะ ไม่แน่เดินทางคราวนี้คุณอาจได้พบเจอกับคนรักของคุณก็ได้นะคะ
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067385