VLAN & TRUNK PORT

เอาเรื่อง VLan สั้นๆก่อนแล้วกัน

ปกติ Switch เรามองว่า Physical

เรามี Switch A และ Switch B
ว่าง่ายๆว่า อุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่บน A ก็ไม่มีวันจะมองเห็นอุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่บน B
เว้นแต่มี Uplink เสียบระหว่าง A และ B

VLan เรามองว่าเป็น Logical
Vlan 1 และ Vlan 2
ว่าง่ายๆว่า อุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่บน VLan1 ก็ไม่มีวันจะมองเห็นอุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่บน VLan2
เว้นแต่มี Uplink เสียบระหว่าง VLan1 และ VLan2

จขกท. ก็จะพอมองเห็นว่ามันคล้ายๆกันนะ
แต่ จุดที่ต่างคือ
1 Physical สามารถมีได้หลายๆ Logical ไง
เท่ากับว่า Switch 1 ตัว สามารถสร้างได้หลาย VLan
เช่น Switch A กำหนดให้ Port 1-12 เป็น Vlan1 และ Port 13-24 เป็น Vlan2
สรุปว่า อุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่ SwicthA ที่เสียบ Port 1-12 กำหนดเป็น VLan1 ก็ไม่มีวันจะมองเห็นอุปกรณ์คอมฯที่เสียบอยู่ Port 13-24 ที่กำหนดเป็น VLan2
เว้นแต่มี Uplink เสียบระหว่าง VLan1 และ VLan2

จากที่ว่ามาข้างบน เราใช้งานที่เรียกกันว่า Access Port


ทีนี้เรามาว่ากันด้วย Trunk Port

ปกติสายที่เสียบระบหว่าง Switch A และ B ให้เชื่อมเข้าหากัน เราเรียกกันว่า Uplink ซึ่งจะมีสถานะเป็น Access Port
ซึ่งเจ้า Access Port มันจะสามารถส่งผ่านได้เพียง VLan เดียวที่ถูกกำหนดไว้ที่ Port

ดังนั้นจึงต้องมี Trunk ที่สามารถส่งผ่าน หลายๆVlan ให้วิ่งข้าม Switch ข้ามไปมาหากันได้
เท่ากับว่า Switch A ต่อกับ B และ C ด้วย Trunk Port

ไม่ว่าเราจะกำหนดค่า Vlan อะไร ไว้ที่ Port ไหนของทั้ง A-B-C ก็จะถือว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
เช่น ถ้าเรากำหนด Vlan 5 ไว้ที่  A-Port ที่ 1 และ B-Port ที่5 และ C-Port ที่20 ก็หมายความว่า Port ทั้ง 3 นี้จะถือจัดกลุ่มเป็น Vlan 5
ถ้าเราเอาอุปกรณ์คอมฯมาเสียบใช้ 3 Port นี้ก็จะมองเห็นกัน แต่จะไม่เห็น Port อื่นๆ เพราะคนละ Vlan

---

ตอบคำถาม จขกท.
ถ้าเกิดเราทำพอร์ตนึงของ switch ให้เป็น vlan ใด vlan หนึ่ง
และเซ็ตให้เป็น trunk โดยที่พอร์ตนี้ต่อเข้ากับ router

ไม่ได้ครับ Vlan จะเป็นPortชนิด Access จึงไม่สามารถเซ็ทเป็น Access และ Trunk ได้ใน Port เดียวกัน
ส่วนการต่อกับ Router ต้องดูว่า Router รองรับ IEEE 802.1Q ไหม ถ้ารองรับก็ใช้งานได้
โดย Router จะช่วยเป็น Gateway ในการสื่อสารข้าม Vlan กันได้ครับ


พอร์ตนี้จะทำงานยังไงครับมันจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไหมครับ
แล้ว ถ้าเลือก vlan จะทำให้vlan อื่นๆ สามารถใช้ไม่ได้รึเปล่าครับ

ให้ทำความเข้าใจที่ผมเขียนไว้ข้างบนครับ



รบกวนอีกคำถามครับ เวลาเรา ping ไม่เจอแล้วขึ้น time out กับ destination unreachable
     ช่วยอธิบายแต่ละอันได้ไหมครับ ต่างกันยังไง

Ping แล้วขึ้น Request time out หมายถึง ส่งข้อมูลออกไป IP ปลายทางไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ปกติประมาณ 1 วินาที) แล้ว แต่ไม่ได้รับข้อมูลตอบกลับจาก IP ปลายทาง

Ping แล้วขึ้น destination unreachable หมายถึง ส่งข้อมูลออกไป IP ปลายทาง แต่ Router ไม่สามารถค้นหาเส้นทางไป IP ปลายทางเจอ (ถ้าเป็น Router ตัวสุดท้ายตอบ ก็อาจจะไม่เจอ IP จาก ARP Table)