[CR] ชีวิตต้องรอดในอิตาลี! หลังถูกขโมยเงิน 20,000 กว่าบาทบนรถไฟ

ช่วงแรกขอแชร์ประสบการณ์เรื่องเงินหายไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปยุโรป ค่อนข้างยาว ใครขี้เกียจอ่านสามารถข้ามไปอ่านส่วนของ How to ที่คอมเมนต์แรกได้เลยค่า หลายๆ เรื่องคนที่เดินทางบ่อยคงทราบดีอยู่แล้วหรืออาจจะชำนาญกว่าเราด้วยซ้ำ มีอะไรเพิ่มเติมก็มาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะคะ


ปกติเราเป็นสายเที่ยวจำกัดงบมาตลอดค่ะ เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไร กว่าจะเก็บหอมรอบริบหาเงินเที่ยวแต่ละทริปเลือดตาแทบกระเด็นอยู่เหมือนกัน แต่อยากออกไปเห็นนู่นนี่ที่มันแปลกใหม่ เลยยอมเที่ยวแบบแลกกับความลำบากเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการพักโฮสเทลห้องรวม หาวิธีเดินทางสุดประหยัด ดื่มน้ำก๊อก กินอาหารดีบ้างห่วยบ้างสลับกันไป จนทริปล่าสุดใกล้ถึงวันเกิดปีที่ 27 ของตัวเอง เราพอมีเงินเก็บประมาณหนึ่ง เลยตัดสินใจบินมายุโรปสามเดือน โดยได้ความช่วยเหลือเรื่องวีซ่าจากแม่ซึ่งแต่งงานอยู่ที่เยอรมนีมา 17 ปีค่ะ ทริปนี้ตั้งใจว่าจะไม่ประหยัดจนเกินเหตุ ขอตระเวนชิมอาหารต่างๆ ให้หนำใจ เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารยุโรปหลังจากไปร่ำเรียนคอร์สสั้นๆ ที่สถาบันสวนดุสิตมา เราจึงจัดงบประมาณเรื่องกินไว้เยอะกว่าการเดินทางครั้งอื่นที่ผ่านๆ มา


พอมาถึงก็เตรียมวางแผนเที่ยว คิดว่าคงมีบางประเทศที่ไปกับแม่ แต่ช่วงแรกขอออกไปเที่ยวคนเดียวก่อน โดยเริ่มจากมิวนิคเป็นเมืองแรก จากนั้นก็ข้ามประเทศไปอิตาลี ไล่จากเหนือลงใต้เริ่มที่ Venice - Bologna - Florence - Naples - Sorrento ปิดท้ายด้วยการย้อนกลับขึ้นไป Rome และนั่งเครื่องบินกลับเยอรมนี รวมเวลาแล้วจะอยู่มิวนิค 5 วันและอิตาลีสองอาทิตย์ พวกค่าเดินทางต่างๆ จ่ายเงินและออกตั๋วไว้หมดแล้ว มีค่าที่พักซึ่งจองผ่าน booking.com ทั้งหมด รอจ่ายวันที่เดินทางไปถึง (การไม่ตัดเงินก่อนล่วงหน้าถือเป็นจุดขายสำคัญของ booking.com ซึ่งเราชอบใจมาโดยตลอด ไม่คิดว่าครั้งนี้จะกลายเป็นความซวย)


เราแบ่งเงินยูโรที่แลกไว้ออกมา 950 ยูโร กะว่าเป็นค่าที่พักและค่ากินตลอดทริป โดยมีเงินสำรองอีกส่วนหนึ่งใส่ไว้ในบัญชีธนาคารเยอรมนีที่เป็นชื่อแม่และพกบัตร ATM ไปด้วย ปกติเวลาเดินทางต่างประเทศเราพกเงินสดตลอด เพราะกังวลว่าบัตรจะมีปัญหาและไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม

หลังจบทริปมิวนิคเรานั่งรถไฟเที่ยวกลางคืนไปเวนิส กะว่าหลับสบายประหยัดค่าที่พักไปได้หนึ่งคืน แถมยังไม่เสียวันเที่ยวด้วย ทุกอย่างลงตัวทีเดียว ก่อนเริ่มเดินทางเรากังวลกับเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว ช่วงนี้ยุโรปก็มีข่าวไม่ค่อยดีหลายอย่าง ทั้งเรื่องก่อการร้าย โจรขโมยชุกชุม แรกๆ ก็ระวังตัวแจเลยค่ะ แต่ตอนเที่ยวอยู่ในมิวนิคชีวิตดี๊ดี บ้านเมืองจัดว่ามีความปลอดภัยสูง รถไฟที่ขึ้นก็ใหม่เอี่ยม มีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราตลอดเวลา เลยเผลอวางใจลดมาตรฐานการระวังตัวของตัวเองลง หลับไปสี่ชั่วโมงเท่านั้นแหละเป็นเรื่องเลยจ้า


รอบรถไฟของเราออกจากมิวนิคเวลา 23.35 น. ถึงเวนิส 8.24 น. ขึ้นรถปุ๊บก็นั่งเขียนบันทึกแป๊บนึงก่อนจะหลับไปตอนเที่ยงคืน ปกติแล้วห้องโดยสารหนึ่งจะนั่งได้หกคน แต่คืนนี้ห้องเป็นของเราคนเดียวเลยค่ะไม่มีคนอื่น ยืดแข้งยืดขาวางของได้สบายใจมาก เราจับจองเบาะสามที่นั่งนอนแผ่ยาว เป้ใหญ่ใส่เสื้อผ้าวางไว้ชั้นเหนือหัว เป้เล็กใส่ของสำคัญวางไว้ที่พื้นข้างตัว



ตื่นมาอีกทีตีสี่ ถึงสถานีอะไรสักอย่างในประเทศออสเตรียกำลังจะข้ามพรมแดนเข้าอิตาลี ซึ่งจอดนานเป็นพิเศษ มีตำรวจมาเดินเอาไฟฉายส่องถามว่ามาจากประเทศอะไร เรางัวเงียตื่นขึ้นมาตอบว่าไทยแลนด์ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาเห็นว่ามีสัญญาณอินเทอร์เน็ต เลยเปิดไลน์จะคุยกับแฟนที่เมืองไทย สายตาเหลือบไปเห็นซองพลาสติกกันน้ำที่ใส่เงินสดกับกระดาษซับมันไว้ เอ๊ะ ทำไมเหลือแต่กระดาษซับมัน หรือเราเผลอเอาเงินไปใส่ไว้ช่องอื่น คุ้ยๆ กระเป๋าดูทุกซอกทุกมุมก็ไม่เจอ แต่กระเป๋าสตางค์ยังอยู่นะ หยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดดู เงินหายไปหมดแล้ว!


วินาทีนั้นคือตัวชาวาบไล่ตั้งแต่กลางกระหม่อมไปจนถึงปลายเท้า รีบติดต่อไปหาแม่ที่เยอรมนีแต่แม่ยังไม่ตื่น เลยใช้ไลน์ Call ไปบอกแฟน คุยกันได้แป๊บเดียวพอรถไฟเคลื่อนออกจากสถานีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ตัดไป


เราตั้งสติและไล่เช็กของในกระเป๋าว่านอกจากเงินแล้วมีอะไรหายไปอีกบ้าง โทรศัพท์สามเครื่อง กล้องที่เพิ่งซื้อมาใหม่ บัตร ATM ทั้งของไทยและเยอรมนี พาสปอร์ต ทุกอย่างยังอยู่ครบ ถือว่าโจรยังพอมีเมตตาอยู่บ้าง คำนวณดูแล้วเงินสดน่าจะหายไปประมาณ 600 ยูโร ตกราวๆ 23,000 บาท เพราะตอนอยู่มิวนิคใช้ไปแล้ว 300 กว่ายูโร

นั่งทบทวนดูแล้วความผิดพลาดครั้งนี้เกิดขึ้นจาก 5 สาเหตุหลักด้วยกันค่ะ

พลาด 1 ไม่ปิดประตู
คือรถไฟมันจะแบ่งเป็นห้องเล็กๆ ห้องละ 6 ที่นั่ง ซึ่งเรานั่งคนเดียวในห้องไม่มีใคร เลยนอนเหยียดสบาย ไม่ปิดประตูด้วยอยากให้อากาศถ่ายเท โจรถ่ายเทเงินออกหมดกระเป๋าเลยจ้า

พลาด 2 วางเป้ไว้ที่พื้นข้างตัว
เปิดช่องให้โจรมุ่งตรงมาหยิบได้สบายบรื๋อ จริงๆ วางไว้ที่ตะแกรงบนหัวยังจะปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ เพราะเวลาคนมาหยิบก็ยังพอมีเสียงกุกกักให้ได้ยินบ้าง

พลาด 3 แยกเงินแล้วแต่...
ศึกษามาพอสมควรเรื่องการดูแลเงินให้ปลอดภัย ก็อุตส่าห์แบ่งเงินเป็นสองส่วน เงินก้อนใหญ่หลักหมื่นใส่ถุงแยก คิดไว้ว่าตอนอยู่ในอิตาลีคงเอาถุงนี้ยัดไว้ตรงนม ส่วนในกระเป๋าตังค์ก็พกไว้แค่พอใช้แต่ละวัน ทั้งหมดนี้คิดไว้ว่าจะทำที่อิตาลี ดันมาโดนบนรถไฟเสียก่อน ด้วยความประมาทเพราะตอนอยู่เยอรมนีชีวิตค่อนข้างปลอดภัย 

พลาด 4 มีแม่กุญแจสำหรับล็อกเป้แต่...
ไม่ได้ล็อก! คิดในแง่ดี ถ้าโจรอยากขโมยมากจนโมโห ถ้าเปิดกระเป๋าไม่ได้ อาจจะยกไปทั้งใบเลยก็ได้

พลาด 4 ไม่เอะใจกับความผิดปกติรอบตัว
ช่วงที่ขึ้นรถไฟมาแรกๆ ทุกคนดูจะวุ่นวายกับการเดินหาที่นั่งตามเลขในตั๋วของตัวเอง ซึ่งรถไฟสายนี้มันผ่านหลายประเทศ เขาก็จะแบ่งผู้โดยสารแต่ละโบกี้ตามปลายทาง อย่างโบกี้เราคือไปเวนิส เราก็มองๆ อยู่รู้สึกว่าบางคนเดินหลายรอบจัง คิดในใจว่ายังหาที่นั่งไม่เจอกันอีกเหรอ โบกี้เล็กนิดเดียวเอง แต่ไม่ได้เอะใจว่าเขากำลังสำรวจหาเหยื่อ ไม่ได้ระวังตัวมากขึ้น 

พลาด 5 หลับสนิทมากจ้า
เห็นมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจอยู่เป็นระยะๆ เลยสบายใจ ง่วงก็หลับ ตื่นมาเงินหายเกลี้ยง จบ.


ความรู้สึกแรกเลยคือโกรธตัวเองที่เตรียมแผนป้องกันมาทุกอย่าง แต่ดันไม่ทำ โอ๊ย ทำไมไม่เอาเงินยัดใส่นมไว้ ทำไมเอากระเป๋าไปวางล่อโจรขนาดนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว แถมยังต้องอยู่คนเดียวไปอีกหลายวัน เลยพยายามเชียร์อัพตัวเองว่าถ้าโดนทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ คุกคาม สถานการณ์คงแย่กว่านี้ ...รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยจ้า เวลาที่เราพลาดพลั้งเพราะอ่อนต่อโลก เรายังมีข้ออ้างให้สงสารตัวเองได้ แต่เวลาพลาดเพราะประมาทคงทำอะไรมากไปกว่าพยายามไม่ให้มันเกิดซ้ำ

พอเกิดเรื่องแล้ว มีวูบหนึ่งที่ลังเลว่ากลับเยอรมนีเลยหรือไม่กลับดี เที่ยวต่อก็ไม่สนุกเท่าเดิมแล้ว แต่กลับคงยิ่งเจื่อน ดูเป็นพวกอ่อนแอก็แพ้ไป แถมจ่ายเงินซื้อตั๋วรถไว้หมดแล้วด้วย คงต้องไปต่อ โดยลดมาตรฐานเรื่องอาหารการกินที่ตั้งไว้ลงมาหน่อย เมืองไหนไม่ใหญ่มากก็เน้นเดินเท้าแทนการนั่งรถ เอาวะยังไงต้องรอดจนครบสองอาทิตย์ให้ได้!

ติดตามวิธีเที่ยวประหยัดต่างๆ ได้ตั้งแต่คอมเมนต์แรกเป็นต้นไปค่ะ อมยิ้ม02
ชื่อสินค้า:   อิตาลี Italy โรม ฟลอเรนซ์ เวนิส เนเปิลส์ ซอร์เรนโต้ โบโลญญา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่