#คิดวิเคราะห์แยกแยะ ทำไม Tranformer The Last Knight จึงไม่สนุกเท่าที่ควร (มีพูดคุยถึงเนื้อเรื่อง)
1. ก่อนอื่นที่หลายคนบอกว่าดูรู้เรื่อง สนุก กว่าภาคก่อน มันก็ใช่นะ จริงๆหลายองค์ประกอบดีกว่าภาคก่อนเยอะมาก อย่างเส้นเรื่องที่มีแก่นชัดเจนกว่า (แต่กว่าจะเข้าใจได้ว่าใครทำอะไรเพื่ออะไร ก็สักระยะ อันนั้นช่างมันก่อน) ดังนั้นใครยังคิดอยากดู บอกเลยไม่ผิดหวังครับ สิ่งที่เคยมีในภาคก่อน ภาคนี้สดใหม่ให้เยอะกว่าอีกนิดด้วยซ้ำ
2. อย่างงานด้านภาพ ดีกว่าเดิมอีกนิ๊ส...นึง ฉากจำสวยๆจริงๆเยอะนะ แต่ด้วยว่าภาคนี้พยายามให้เยอะ แต่ละฉากบางทีมันก็มาติ๊ส...นึง อย่างน่าเสียดาย ชนิดที่ว่ายังไม่ทันจะประทับใจด้วยซ้ำ ก็ตัดผ่านไปซะแล้ว (แต่ฉากเรือดำน้ำกระโดดลงทะเล ดันไม่มีเฉยเลย)
3. มาร์ค วอลเบิร์ค ตอนแรกที่ประกาศว่าจะเล่นภาคนี้เป็นภาคสุดท้าย ผมก็ลุ้นแทบแย่ว่าจุดจบของตัวละครนี้จะเป็นอย่างไร จึงไม่โผล่ไปภาคต่อ จริงๆแล้วน่าเสียดายมากนะ เพราะบอกเลยว่า ภาคนี้มาร์ค เป็นพระเอกอย่างแท้จริง คือแม้บทไม่ส่ง แต่ภาพและการแสดง มันชัดเจนเรียกว่าทุกหุ่นที่พยายามขโมยซีน เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น (จริงๆมันก็เป็นแบบนี้มาทุกภาคแล้ว แต่ภาคนี้ผมว่าชัดกว่าภาคอื่นอีก) นี่ขนาดบทพูดไม่ค่อยดีนะเนี่ย (เดี๋ยวมาว่ากันเรื่องบทต่อ)
อีกอย่าง ภาคนี้ในเรือดำน้ำ มีฉากโชว์ของกล้ามมาร์คแบบเต็มๆตาดี แถมโชว์อย่างมีชั้นเชิงเสียด้วย ใส่เสื้อกล้ามแล้วค่อยๆถกเสื้อเพราะจำเป็นต่อเนื้อเรื่องได้ไงไม่รู้ 555 พึ่งเห็นนะเนี่ยว่า หุ่นหนาๆแบบนี้ แต่กล้ามชัด สวยมากจริงๆ (จริงๆฉากนี้แอบจะทะลึ่งนิดๆด้วยนะ แต่หนังก็ตัดทิ้ง จบฉากไม่เล่นต่ออย่างน่าเสียดาย)
ส่วนนักแสดงท่านอื่น ขนาดน้องเด็กสาว ที่เล่นใหญ่รัชดาลัย (แต่ตัวละคร ดันไปนึกถึงน้องในสตาร์วอร์เฉยเลย) หรือนางเอกที่มีกลิ่นของเมแกนฟอร์ก+wonder women หน่อยๆ ก็ช่วยส่งให้ภาคนี้ ดูดีขึ้นอีกนิด
4. ภาคนี้ มีกลิ่นอายของหนังหลายๆเรื่องผสมเยอะมาก ทั้ง Jame bond กับกลิ่นอายสายลับอังกฤษนิดๆ หรือ starwars ที่แทบจะเกินคำว่าแรงบันดาลใจ จนเกือบกลายเป็นก็อปแปะด้วยซ้ำ ทั้งหุ่นพ่อบ้าน หุ่นเวสป้า (รวมถึงน้องเด็กสาว) กลิ่นของหนังสงครามอวกาศพวกกองทัพก็มาเต็มๆ จริงๆก็เลือกมาแต่ที่ดีๆนะ แต่ผสมกันแล้ว บางอันก็เวิร์ค บางอันก็แป๊กเฉยเลย (อย่างหุ่นเวสป้า ถือว่าแป๊กอย่างแรง)
5. เนื้อหาจัดเต็มจริงๆ เหมือนดูหนังยำใหญ่ 3 เรื่องมาต่อๆกัน ถ้าเป็นสมัยก่อนจะแบ่งเป็น 2 ภาคก็ยังได้ด้วยซ้ำ หนังเลยให้เยอะมาเป็น 3 ชั่วโมง แต่ข้อดีคือไม่หลับนะครับ คือดูเพลินมีอะไรให้น่าติดตาม แต่น่าเสียดายที่ความยัดเยอะ เลยตัดต่อซะดูแทบไม่รู้เรื่อง กว่าจะจับใจความประเด็นหนัง เลยพาลให้ไม่อิน และที่น่าเสียดายมากๆคือพล็อตรอง บางประเด็นปูซะดี แต่ก็ทิ้งไปกลางทางเยอะมาก
6. ผมชอบการออกแบบฉาก มุมกล้อง การถ่ายทำมากๆเลยนะครับ มันสวยมากจริงๆ ฉากแอ็คชั่นบางอันก็ถือว่าลุ้นน่าตื่นเต้น ตูมตาม สวยงามดีจัง และมุมภาพสวยๆก็ใส่มาตลอดทั้งสามชั่วโมงเสียด้วย ไม่ใช่กระจุกเดียวเฉพาะตอนไคล์แม็กซ์ (หรือนี่เป็นอีกข้อเสียนะ ทำให้ไม่รู้ว่าหนังมันมีไคล์แม็กซ์ด้วยเหรอ เออว่าเข้านั่น 555)
7. ปัญหาใหญ่สุดคือการเล่าเรื่อง อย่างที่บอก หนังมีแก่นและเส้นเรื่องที่ดีนะ แต่เล่าเรื่องซะดูไม่รู้เรื่องในระยะแรกๆ มันมั่วไปหมด จริงๆถ้าเป็นหนังหรือการ์ตูนทั่วไป ก็คงเล่าด้วยคำบรรยายชัดเจนว่าใครมีเป้าหมายอะไร แต่อันนี้บางครั้งก็เล่นท่ายาก ประมาณว่าพยายามบรรยายด้วยภาพ แต่มันสื่อสารไม่เข้าใจกับภาพที่ชวนสับสน และเยอะแยะซีนเหลือเกิน
คือบางครั้งหนังน่าจะให้น้ำหนักกับตัวละครมนุษย์ ให้บทพูดเล่าเรื่องที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากกว่านี้ แทนที่จะไปเน้นกับบทคำคมเลี่ยนๆ ในหลายฉาก และไปยัดบทตลกเห่ยๆให้หุ่นพูดแบบไร้อารมณ์ร่วม ต้องบอกเลยว่าภาคนี้ที่ตลกสุดกลับเป็นบทผู้ช่วยพระเอก ที่พอจะขำได้บ้าง นอกนั้นมุขตลกที่ให้หุ่นพูด เรียกว่าแป๊กทุกมุขก็ว่าได้
แต่ในมุมมองของคอนเซปต์ตัวละคร ผมชอบนะ ทุกตัวละครมีจุดยืนที่ชัดเจนดี ช่วยผลักดันให้เรื่องไปถึงจุดหมุดหมายที่ควรจะเป็นได้อย่างสมบูรณ์ (แม้จะปราศจากบทพูดดีๆที่เหมาะสมก็เถอะ)
8. ตัวละคร ดูมั่วเหมือนๆกันไปหมดทุกตัว แยกแยะไม่ค่อยออก โดยเฉพาะเวลาต่อสู้กัน หุ่นมันเหมือนๆกันไปหมด ดูแล้วเป็นเศษเหล็กตีกันก๊องแก๊งเอาใจช่วยไม่ถูก ว่าจะเชียร์ฝ่ายไหนดีนะ 555 ส่วนฝ่ายมนุษย์ก็เปลี่ยนใจเปลี่ยนขั้วชิงอำนาจอยากดีอยากเด่นกันซะ...บางทีก็แอบงงกับหลายๆตัวละครเหลือเกิน ว่ามันกำลังจะทำอะไรกันนะ
อีกอย่าง เห็นข่าวว่าภาคนี้ไม่ค่อยทำเงินในจีน ไม่ค่อยแปลกใจหลังดูหนังจบครับ เพราะอย่างน้อยภาคนี้แทบไม่มีตัวละครคนจีนเลย (ภาคก่อนใส่ซะเฝือ)
9. ที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ ภาคนี้ไม่ตลกและสดชื่นเท่าที่ควร แม้ว่าอาจเพราะเรื่องราวในภาคนี้เล่าถึงโลกที่กำลังอยู่ในช่วงหลังสงครามใหญ่คราวก่อน เลยทำให้บรรยากาศหนังมันไม่ค่อยสดใส หรือมีอะไรดูแล้วจรรโลงใจเท่าไหร่ (แต่จริงๆแล้วในหนังสงครามหลายเรื่อง ก็ยังสามารถใส่สิ่งที่ทำให้ดูสดชื่นบางอย่างลงไปได้ แต่เรื่องนี้ก็พยายามใส่นะ แต่มันไม่ลงตัวอย่างน่าเสียดาย) (ฉากเหล่าคุณยายถือว่าสดชื่นได้อีกนิด แต่น้อยไปหน่อยนะ 555)
10. สรุป...ไม่อยากใช้คำเดิมเลยว่า ถ้าไม่คิดมากก็ดูเพลิน แต่ส่วนตัวผม ผมว่าเรื่องนี้ถ้าดูรอบ 2 อาจจะสนุกมากขึ้น เพราะเราจะเข้าใจในเนื้อเรื่อง และสามารถเก็บเรื่องราวภาพสวยๆ ฉากมันส์ๆ และรู้ว่าหุ่นตัวนี้เป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายร้าย แยกแยะได้ จะได้ลุ้นตามได้ถูกว่าจะเอาใจช่วยฝ่ายไหนดีนะ
ปล. เรื่องนี้ผมดูในโรง imax ถือว่าดีเลยครับ งานภาพ 3d ทำได้ดี พุ่งดีจัง มีหลายฉากออกแบบเพื่อ 3d โดยเฉพาะ สัดส่วนภาพก็ออกแบบเพื่อโรง imax ทั้งเรื่องด้วย เต็มตาดีจัง
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่ https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ http://goo.gl/67o301
[CR] #คิดวิเคราะห์แยกแยะ ทำไม Transformer The Last Knight จึงไม่สนุกเท่าที่ควร
1. ก่อนอื่นที่หลายคนบอกว่าดูรู้เรื่อง สนุก กว่าภาคก่อน มันก็ใช่นะ จริงๆหลายองค์ประกอบดีกว่าภาคก่อนเยอะมาก อย่างเส้นเรื่องที่มีแก่นชัดเจนกว่า (แต่กว่าจะเข้าใจได้ว่าใครทำอะไรเพื่ออะไร ก็สักระยะ อันนั้นช่างมันก่อน) ดังนั้นใครยังคิดอยากดู บอกเลยไม่ผิดหวังครับ สิ่งที่เคยมีในภาคก่อน ภาคนี้สดใหม่ให้เยอะกว่าอีกนิดด้วยซ้ำ
2. อย่างงานด้านภาพ ดีกว่าเดิมอีกนิ๊ส...นึง ฉากจำสวยๆจริงๆเยอะนะ แต่ด้วยว่าภาคนี้พยายามให้เยอะ แต่ละฉากบางทีมันก็มาติ๊ส...นึง อย่างน่าเสียดาย ชนิดที่ว่ายังไม่ทันจะประทับใจด้วยซ้ำ ก็ตัดผ่านไปซะแล้ว (แต่ฉากเรือดำน้ำกระโดดลงทะเล ดันไม่มีเฉยเลย)
3. มาร์ค วอลเบิร์ค ตอนแรกที่ประกาศว่าจะเล่นภาคนี้เป็นภาคสุดท้าย ผมก็ลุ้นแทบแย่ว่าจุดจบของตัวละครนี้จะเป็นอย่างไร จึงไม่โผล่ไปภาคต่อ จริงๆแล้วน่าเสียดายมากนะ เพราะบอกเลยว่า ภาคนี้มาร์ค เป็นพระเอกอย่างแท้จริง คือแม้บทไม่ส่ง แต่ภาพและการแสดง มันชัดเจนเรียกว่าทุกหุ่นที่พยายามขโมยซีน เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น (จริงๆมันก็เป็นแบบนี้มาทุกภาคแล้ว แต่ภาคนี้ผมว่าชัดกว่าภาคอื่นอีก) นี่ขนาดบทพูดไม่ค่อยดีนะเนี่ย (เดี๋ยวมาว่ากันเรื่องบทต่อ)
อีกอย่าง ภาคนี้ในเรือดำน้ำ มีฉากโชว์ของกล้ามมาร์คแบบเต็มๆตาดี แถมโชว์อย่างมีชั้นเชิงเสียด้วย ใส่เสื้อกล้ามแล้วค่อยๆถกเสื้อเพราะจำเป็นต่อเนื้อเรื่องได้ไงไม่รู้ 555 พึ่งเห็นนะเนี่ยว่า หุ่นหนาๆแบบนี้ แต่กล้ามชัด สวยมากจริงๆ (จริงๆฉากนี้แอบจะทะลึ่งนิดๆด้วยนะ แต่หนังก็ตัดทิ้ง จบฉากไม่เล่นต่ออย่างน่าเสียดาย)
ส่วนนักแสดงท่านอื่น ขนาดน้องเด็กสาว ที่เล่นใหญ่รัชดาลัย (แต่ตัวละคร ดันไปนึกถึงน้องในสตาร์วอร์เฉยเลย) หรือนางเอกที่มีกลิ่นของเมแกนฟอร์ก+wonder women หน่อยๆ ก็ช่วยส่งให้ภาคนี้ ดูดีขึ้นอีกนิด
4. ภาคนี้ มีกลิ่นอายของหนังหลายๆเรื่องผสมเยอะมาก ทั้ง Jame bond กับกลิ่นอายสายลับอังกฤษนิดๆ หรือ starwars ที่แทบจะเกินคำว่าแรงบันดาลใจ จนเกือบกลายเป็นก็อปแปะด้วยซ้ำ ทั้งหุ่นพ่อบ้าน หุ่นเวสป้า (รวมถึงน้องเด็กสาว) กลิ่นของหนังสงครามอวกาศพวกกองทัพก็มาเต็มๆ จริงๆก็เลือกมาแต่ที่ดีๆนะ แต่ผสมกันแล้ว บางอันก็เวิร์ค บางอันก็แป๊กเฉยเลย (อย่างหุ่นเวสป้า ถือว่าแป๊กอย่างแรง)
5. เนื้อหาจัดเต็มจริงๆ เหมือนดูหนังยำใหญ่ 3 เรื่องมาต่อๆกัน ถ้าเป็นสมัยก่อนจะแบ่งเป็น 2 ภาคก็ยังได้ด้วยซ้ำ หนังเลยให้เยอะมาเป็น 3 ชั่วโมง แต่ข้อดีคือไม่หลับนะครับ คือดูเพลินมีอะไรให้น่าติดตาม แต่น่าเสียดายที่ความยัดเยอะ เลยตัดต่อซะดูแทบไม่รู้เรื่อง กว่าจะจับใจความประเด็นหนัง เลยพาลให้ไม่อิน และที่น่าเสียดายมากๆคือพล็อตรอง บางประเด็นปูซะดี แต่ก็ทิ้งไปกลางทางเยอะมาก
6. ผมชอบการออกแบบฉาก มุมกล้อง การถ่ายทำมากๆเลยนะครับ มันสวยมากจริงๆ ฉากแอ็คชั่นบางอันก็ถือว่าลุ้นน่าตื่นเต้น ตูมตาม สวยงามดีจัง และมุมภาพสวยๆก็ใส่มาตลอดทั้งสามชั่วโมงเสียด้วย ไม่ใช่กระจุกเดียวเฉพาะตอนไคล์แม็กซ์ (หรือนี่เป็นอีกข้อเสียนะ ทำให้ไม่รู้ว่าหนังมันมีไคล์แม็กซ์ด้วยเหรอ เออว่าเข้านั่น 555)
7. ปัญหาใหญ่สุดคือการเล่าเรื่อง อย่างที่บอก หนังมีแก่นและเส้นเรื่องที่ดีนะ แต่เล่าเรื่องซะดูไม่รู้เรื่องในระยะแรกๆ มันมั่วไปหมด จริงๆถ้าเป็นหนังหรือการ์ตูนทั่วไป ก็คงเล่าด้วยคำบรรยายชัดเจนว่าใครมีเป้าหมายอะไร แต่อันนี้บางครั้งก็เล่นท่ายาก ประมาณว่าพยายามบรรยายด้วยภาพ แต่มันสื่อสารไม่เข้าใจกับภาพที่ชวนสับสน และเยอะแยะซีนเหลือเกิน
คือบางครั้งหนังน่าจะให้น้ำหนักกับตัวละครมนุษย์ ให้บทพูดเล่าเรื่องที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากกว่านี้ แทนที่จะไปเน้นกับบทคำคมเลี่ยนๆ ในหลายฉาก และไปยัดบทตลกเห่ยๆให้หุ่นพูดแบบไร้อารมณ์ร่วม ต้องบอกเลยว่าภาคนี้ที่ตลกสุดกลับเป็นบทผู้ช่วยพระเอก ที่พอจะขำได้บ้าง นอกนั้นมุขตลกที่ให้หุ่นพูด เรียกว่าแป๊กทุกมุขก็ว่าได้
แต่ในมุมมองของคอนเซปต์ตัวละคร ผมชอบนะ ทุกตัวละครมีจุดยืนที่ชัดเจนดี ช่วยผลักดันให้เรื่องไปถึงจุดหมุดหมายที่ควรจะเป็นได้อย่างสมบูรณ์ (แม้จะปราศจากบทพูดดีๆที่เหมาะสมก็เถอะ)
8. ตัวละคร ดูมั่วเหมือนๆกันไปหมดทุกตัว แยกแยะไม่ค่อยออก โดยเฉพาะเวลาต่อสู้กัน หุ่นมันเหมือนๆกันไปหมด ดูแล้วเป็นเศษเหล็กตีกันก๊องแก๊งเอาใจช่วยไม่ถูก ว่าจะเชียร์ฝ่ายไหนดีนะ 555 ส่วนฝ่ายมนุษย์ก็เปลี่ยนใจเปลี่ยนขั้วชิงอำนาจอยากดีอยากเด่นกันซะ...บางทีก็แอบงงกับหลายๆตัวละครเหลือเกิน ว่ามันกำลังจะทำอะไรกันนะ
อีกอย่าง เห็นข่าวว่าภาคนี้ไม่ค่อยทำเงินในจีน ไม่ค่อยแปลกใจหลังดูหนังจบครับ เพราะอย่างน้อยภาคนี้แทบไม่มีตัวละครคนจีนเลย (ภาคก่อนใส่ซะเฝือ)
9. ที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ ภาคนี้ไม่ตลกและสดชื่นเท่าที่ควร แม้ว่าอาจเพราะเรื่องราวในภาคนี้เล่าถึงโลกที่กำลังอยู่ในช่วงหลังสงครามใหญ่คราวก่อน เลยทำให้บรรยากาศหนังมันไม่ค่อยสดใส หรือมีอะไรดูแล้วจรรโลงใจเท่าไหร่ (แต่จริงๆแล้วในหนังสงครามหลายเรื่อง ก็ยังสามารถใส่สิ่งที่ทำให้ดูสดชื่นบางอย่างลงไปได้ แต่เรื่องนี้ก็พยายามใส่นะ แต่มันไม่ลงตัวอย่างน่าเสียดาย) (ฉากเหล่าคุณยายถือว่าสดชื่นได้อีกนิด แต่น้อยไปหน่อยนะ 555)
10. สรุป...ไม่อยากใช้คำเดิมเลยว่า ถ้าไม่คิดมากก็ดูเพลิน แต่ส่วนตัวผม ผมว่าเรื่องนี้ถ้าดูรอบ 2 อาจจะสนุกมากขึ้น เพราะเราจะเข้าใจในเนื้อเรื่อง และสามารถเก็บเรื่องราวภาพสวยๆ ฉากมันส์ๆ และรู้ว่าหุ่นตัวนี้เป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายร้าย แยกแยะได้ จะได้ลุ้นตามได้ถูกว่าจะเอาใจช่วยฝ่ายไหนดีนะ
ปล. เรื่องนี้ผมดูในโรง imax ถือว่าดีเลยครับ งานภาพ 3d ทำได้ดี พุ่งดีจัง มีหลายฉากออกแบบเพื่อ 3d โดยเฉพาะ สัดส่วนภาพก็ออกแบบเพื่อโรง imax ทั้งเรื่องด้วย เต็มตาดีจัง
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้