ย้อนเวลาขึ้นเป็นเจ้าพระยา ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 2 : โลกใหม่
แสงแดดอ่อนๆ ในยามเย็นก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ย้อมท้องฟ้าจนเป็นสีแดง เสียงนกที่กำลังกลับรังดังแว่ว  มองไปไกลๆ เห็นต้นมะพร้าวสูงชะลูดไหวเอนไปตามลม เด็กน้อยผูกแกละถือไม้ยาว ฟาดหวดลมดัง “ฟิ้วๆ” ต้อนควายของตัวเองกลับคอก มีเด็กน้อยแก้ผ้า วิ่งจูงหมาสีน้ำตาลตามหลัง ชายหญิงแบกจอบเสียมกลับเรือนของตัวเอง

“ค่าแรงจ๊ะพี่ไกร” ไกรยิ้มแห้งๆ เอื้อมมือรับอัฐจำนวนน้อยนิดจนน่าใจหาย จากมือของเฟยอิน ดรุณีน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มงดงาม วัย 16 ปี ขนตาโค้งละมุนเรียงเส้นเป็นแพสีน้ำตาลเข้ม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนอวบอิ่มหยักโค้งดูคล้ายริมฝีปากของเด็ก ผิวขาวราวกับไข่ปอกแบบลูกคนจีน เธอในชุดผ้าฝ้ายสีตุ่น มัดแกละสองข้างแบบชุนลีในเกมที่ ไกร เคยเล่นสมัยเด็กๆ เธอเป็นลูกสาวของคนงานแถวนี้เรียกว่าเป็นสาวงามของย่านคนจีน มาช่วยงานพวกเถ้าแก่ สำเภาจีนจ่ายเงินพวกจับกังเธอพอรู้หนังสือและทำบัญชีได้บ้างเลยได้รับหน้าที่จ่ายค่าแรงเล็กๆ น้อยๆ

“ขอบน้ำใจ” เธอทำหน้างอ ในน้ำเสียงแห้งๆ ของไกร ไกรรับอัฐกับ ข้าวห่อใบตองแล้วเดินไปหาที่นั่งใต้ต้นไทรใหญ่ริมคลอง ที่พวกจับกังด้วยกันมานั่งพักบางคนเตรียมตั้งวงกินเหล้า บางคนควักยาสูบขึ้นมาสูบ บางคนเตรียมกลับเรือน ไกรตอนนี้ปล่อยผมยาวมัดแบบลวกๆ ด้วยเศษผ้าไว้ด้านหลัง ปล่อยหนวดเครารุงรัง ใส่กางเกงเล สีเทาเก่าๆ เขาไม่ถนัดนุ่งโจงกระเบนแบบคนที่นี้ เลยไปซื้อกางเกงเลของพวกคนจีนมาใส่แทน พาดผ้าขาวม้าสีหม่นไว้บนบ่าเปลือยท่อนบนโชว์แผงอก ลงมือแกะห่อข้าวแล้วใช้มือเปิบข้าวเปล่าๆ ที่ร่วมอยู่ในค่าแรงของตัวเอง

2 ปี แล้วสินะตั้งแต่วันที่ถูกแรงระเบิดวันนั้น ผลักร่างของตัวเองข้ามมายังโลกประหลาดใบนี้ เขาจำได้เพียงว่าวันนั้นหลังจากเสร็จภารกิจจับเป็นพ่อค้ายา พวกเขากำลังจะไปเที่ยวฉลองกัน อยู่ๆ ก็มีเด็กหญิงตัวน้อยเดินมาขวางหน้าพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ ให้เขายังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าควรจะรับดีไหม แรงระเบิดก็ฉีกร่างเด็กน้อยน่ารักเป็นชิ้นๆ ส่วนเขาก็กระเด็นออกไป ตามแรงระเบิด พอรู้สึกตัวก็มาโผล่ที่โลกประหลาดใบนี้ โลกที่เหมือนกรุงศรีอยุธยา เหมือนในละครพีเรียด คนยังนั่งรถเทียมวัว ทหารขี่ม้า ผู้ชายเปลือยอกกินหมาก ผู้หญิงนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ หุงข้าวด้วยหม้อดิน ไร้ไฟฟ้า ไร้น้ำประปา สิ่งที่ยืนยันได้ว่าเขาหลุดมามิติต่างโลก ไม่ใช่การตายแล้วเกิดใหม่เพราะวันที่เขาฟื้นตัวเขายังใส่ชุดวันนั้นอยู่ รองเท้าคอมแบทที่พังเละ กางเกงขาดรุ่งริ่งจากแรงระเบิด พร้อมกับปืนจิ๋วเดอริงเจอร์ขนาด .22 พร้อมกระสุน 2 นัดที่เขาพกติดตัวตลอดเวลา มาที่โลกนี้ด้วยทุกอย่างอาจจะดูคล้ายโลกที่เขารู้จักแต่บางอย่างกลับแตกต่างบางอย่างยังคงเหมือนเดิม เมืองหลวงยังคงเป็นกรุงศรีอยุธยา แต่โลกนี้ไม่มีสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แบบที่เขารู้จักหรือเรียนมาไม่มีราชวงศ์อู่ทอง ถ้าให้เดาพระนเรศก็คงไม่มี  ที่โลกใบนี้ตอนนี้เป็น ราชวงศ์องค์อิน พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จเจ้าองค์อินที่ 3 เรียกได้ว่าเป็นยุคทอง บ้านเมืองสงบร่มเย็น ประชากรส่วนใหญ่ทำนา ทำจักรสาน ทอผ้า ตีดาบ ปั้นหม้อ

ส่วนเขานะเหรอ อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก ทำไม่เป็นสักอย่างเขาเป็นทหารมาทั้งชีวิต ภาษาต่างประเทศมาอยู่ที่นี้แทบไร้ประโยชน์ พูดได้ 4 ภาษาแล้วไง ไม่มีคนให้คุยด้วย พวกพ่อค้าจีนก็ไม่ไว้ใจล่ามที่ตัวเองไม่รู้จัก ตัวหนังสือไทยโบราณที่หน้าตาเหมือนภาษาขอมเขาก็อ่านไม่ออกสักตัวหน้าตามันเหมือนกันไปหมด ยิงปืนแม่นแล้วไง ที่นี้ไม่มีปืน ทักษะอะไรของเขาก็เอามาใช้ที่นี้ไม่ได้ เหมือนปลาอยู่บนบก ว่ายน้ำเป็นแล้วไงก็มันไม่มีน้ำ ได้แต่ชกมวยไทยตามงานวัดหาเลี้ยงตัวเองไปบางครั้งแต่งานวัดก็ไม่ได้มีตลอด ทำงาน จักรสานเขาทำไม่เป็นให้หัดตอนนี้ก็คงไม่ไหวนิ้วมือเขาทั้งใหญ่ทั้งหนา ทำนา งั้นเหรอ ฮ่า ฮ่า เงินสักอัฐเดียวเขาก็ไม่มีจะเอาที่ไหนไปเช่านาอีกอย่างทำนาไม่ใช้การเอาเมล็ดหว่านลงนาแล้วมันจะงอกซะที่ไหนเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการทำนาเลยให้ตายเถอะ เงินของโลกโน้นสำหรับโลกนี้ก็แค่เศษเชื้อไฟตอนก่อเตาหุงข้าว ไปเป็นทหารสิ อาชีพถนัดไม่ใช่เหรอ บ้านเมืองร่มเย็น ทางการไม่รับทหารเพิ่มให้เปลืองข้าวหลวงหรอก ถึงรับคนไม่มีหัวนอนปลายตีนแบบเขา ก็เป็นได้แค่ตะพุ่นหญ้าช้าง สุดท้ายก็มาจบที่ท่าน้ำ รับจ้างแบกของลงเรือขึ้นเรือ เข็นของกลับเรือน เข็นผัก รับค่าแรง ไปวันๆ มากบ้างน้อยบ้าง ด้วยรูปร่างใหญ่โตคนแถวนี้พวกร่างยักษ์อย่างเก่งก็สูง 170 เซนติเมตรแต่ ไกรสูง 188 เซนติเมตรเป็นยักษ์ยิ่งกว่า ใบหน้าคมคายแฝงกลิ่นอายแบบทหารเป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวน้อยสาวใหญ่ยิ่งนัก

เฟยอิน หมวยน้อยก็เป็นอีกคนที่สนใจในตัวไกร เธอเป็นผู้หญิงคนแรกในโลกนี้เมื่อ 2 ปีก่อนที่คุยกับเขา วันนั้นเขานั่งขดตัวสภาพไม่ต่างจากขอทานหลังจากทนหิวอยู่ 3 วันเขาก็ลากร่างที่สะบักสะบอมไร้ทิศทางมาถึงหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดหมู่บ้านนี้ เพราะเป็นคนต่างถิ่น ไม่รู้จะทำยังไง เลยได้แต่นั่งทนหิว เธอเมื่อตอนนั้น เดินผ่านมายื่นหมั่นโถแห้งๆ ให้มันแห้งจนเขาแทบสำลัก สาวน้อยยังยื่นกระบอกไม้ไผ่ที่ด้านในมีน้ำจากลำธารเย็นๆ ส่งให้แล้วเดินจากไป เขาลืมที่จะถามชื่อเธอด้วยซ้ำ หลังจากวันนั้นเขาก็ช่วยเธอตอบแทนจากการถูกพวกอันธพาลลวนลามพวกมันมากัน 2 คน ก็พอจะแก้เบื่อให้ไกรได้ แต่สำหรับสาวน้อยเทพบุตรขี่ม้าขาวยังไงก็เท่ เธอเริ่มจากแอบมองหมีใหญ่สีน้ำตาลอยู่ห่างๆ เวลาไกรยืนร่วมกับชาวบ้านเขาจะสูงเกินหน้าใคร เขาแอบเห็นเธอชำเลืองมองหลายครั้ง วันหนึ่งเธอรวบรวมความกล้าเห็นเขานั่งอยู่ริมน้ำเธอเดินเขามาแล้วยื่นหมั่นโถอุ่นร้อนให้เขาสองลูกแล้วพูดว่า “ขอบคุณ” พูดจบก็วิ่งหนีไป ไกรได้แต่อมยิ้มมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ที่ค่อยๆกลายเป็นจุดดำ ไกลๆ “ยัยหมวยน้อยทำให้เขาคิดถึงน้องสาวทุกทีสิน่า”

หลักจากวันนั้นเธอมักจะแอบเก็บข้าวห่อใหญ่ที่สุดไว้ให้เขาเสมอบ้างครั้งยังแอบแถมไข่ต้มให้บ่อยๆ เธอทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ไกร

“คิดถึงแม่หญิงบ้านใด” บทสนทนาง่ายๆ ออกมาจากปากของเฟยอิน ไกรยกมุมปากขึ้นน้อยๆ ส่ายหน้าไม่ตอบอะไร ทำเอาเฟยอินหน้างอ เขาไม่ใช่ชายหนุ่มไม่ประสีประสาความรักเขามองออกว่าสาวน้อยคิดเยี่ยงไร เพียงแต่เขายังอยากกลับบ้าน ตลอด 2 ปีก็พยายามหาข่าวเลยมาทำงานที่ท่าเรือที่มีคนมากหน้าหลายตาแน่นอนว่าเขายังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มที่ตรงไหนดีมันมืด 8 ด้านไปหมดตอนนี้เลยยังไม่คืบหน้าอะไร เพราะอย่างนั้นพยายามทำตัวห่างๆ ไว้ดีกว่าเกิดวันไหนเขาได้กลับบ้านสาวน้อยจะได้ไม่เสียใจ เธอยื่นไข่ต้มให้เขาสองฟอง ไกรรับน้ำใจแล้วยิ้ม สาวน้อยส่งตาแวบวาวกลับมา เฟยอินนั่งข้างๆ ดูเข้ากินอย่างเงียบๆ ใช้นิ้วม้วนชายเสื้อของตัวเองเล่นอย่างสะเทิ้นอายๆ รอเขากินเสร็จ เฟยอินชอบให้ไกรเล่าเรื่องประหลาดให้ฟัง เรื่องของโลกมหัศจรรย์ที่มีของที่เรียกว่า รถยนต์ เรือเหาะบนฟ้าได้ กล่องเหล็กที่ฉายภาพคนได้ที่เรียกว่า ทีวี โลกที่ผู้หญิง มีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย

ไกรปล่อยให้สายลมเย็นอ่อนๆ ลูบไล้ผิว จนแสงอาทิตย์แทบจะลับขอบฟ้าใกล้พลบค่ำ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ไล่ความเมื่อยขบ เงาร่างทอดทับดรุณีน้อยราวกับผู้เขาลูกใหญ่เธอรี่ตา จนเป็นเส้นเล็ก เธอยิ้มอย่างเขินอาย

“เฮียไปส่ง” เธอพยักหน้าน้อยๆ ปัดเศษหญ้าออกจากกางเกงแล้วลุกขึ้นเดินตามเขา ไปตามทางน้อยสองข้างทางเต็มไปด้วยหญ้าสูงเกินเข่า เรือนของเฟยอินอยู่ในตรอกโรงเจ อย่างที่เขาว่ากัน คนจีนไปที่ไหนก็สามารถสร้างชุมชนของตัวเองได้ ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ เกือบครึ่ง เป็นชุมชนของคนจีน ฮกเกี้ยน พวกเขาสามารถทำการค้าได้อย่างคล่องแคล่ว หลายคนเป็นคหบดีร่ำรวย มีกลุ่มอังยี่คอยดูแลกันเองเป็นกลุ่มแก๊ง ทั้งใหญ่เล็ก แก็งใหญ่สุด 2 แก็ง อยู่ในหัวเมืองชั้นนอกหลังกำแพงเมือง ชื่อว่าแก็งมังกรแดง ดูแลตัวเมืองด้านในเก็บค่าคุ้มครอง โรงฝิ่น บ่อน หอโคมเขียว ด้านนอกกำแพงดูแลด้วยแก็ง เสือขาว คุมหมู่บ้านนอกกำแพง เก็บค่าคุ้มครอง เปิดบ่อน เพราะที่นี้ไกลปืนเที่ยงมากๆ ทหารทางการมีน้อยนิดบ้างยังรับใต้โต๊ะจนทำให้พวกมันเหิมเกริม
เขาเดินมาส่งเธอจนจะถึงหน้าเรือน ของเฟยอิน “โครม” ร่างของเตี่ยเฟยอินกระเด็นออกมาพร้อมกับประตูบานเฟี้ยม หน้าแดงก่ำ สำลักเลือดออกมา ร่างของม๊า เธอรีบวิ่งตามออกมาออกมาประคองสามีของตัวเองเฟยอินพอเห็นดังนั้นเธอพุ่งร่างเขาไปหาเตี่ยกับม๊า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่