ต้องขอปูพื้นว่าเพราะเหตุใดดิฉันถึงอยากทำแบบนั้น .... ดิฉันมีบ้านที่ต่างจังหวัด 1 หลัง โดยที่ดิฉันเป็นเจ้าบ้าน และเป็นเจ้าของโฉนด(ดิฉันเป็นคนดาวน์และคุณแม่ผ่อนส่งจนหมด ปัจจุบันดิฉันแต่งงานมาอยู่ต่างประเทศ) ที่บ้านมีคุณแม่ น้องน้องสาว หลานสาว และน้องชายอาศัยอยู่ (คุณพ่อเสียชีวิตแล้ว และแยกทางกันตั้งแต่พวกเรายังเด็ก คุณแม่เลี้ยงลูก 3 คนมาโดยลำพัง) ทุกคนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
น้องชายอายุเกือบ 40 แล้วค่ะ เป็นคนมือเติบ หน้าใหญ่ ตอนมีงานทำเปลี่ยนรถทุกปี โทรศัพท์รุ่นไหนออกก็เปลี่ยน เงินเดือนครึ่งแสนแต่ก็ใช้ไม่เคยพอ ยังขอเงินแม่ทุกเดือน จนกระทั่งตกงานก็เริ่มขายทรัพย์สิน ตั้งแต่ที่ดินเปล่าที่แม่ยกให้ตอนแต่งงาน บ้าน รถ(ยังผ่อนไม่หมดซักอย่าง) และได้ย้ายเข้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านดิฉันพร้อมภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ น้องชายก็แบมือขอเงินแม่ไปวันๆ โดยไม่คิดที่จะหางาน ทางน้องสาวก็เลยไปฝากงานให้ น้องชายก็ไปทำอยู่แค่เดือนสองเดือน แล้วทะเลาะกับหัวหน้างานก็ไม่ยอมกลับไปทำงานอีก โชคดีอยู่บ้างที่น้องสะไภ้มีงานทำ จึงไม่ได้เป็นปัญหามากนักในช่วงแรก
แต่พอน้องสะไภ้คลอดมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น น้องชายก็ยังไม่ยอมไปทำงาน แต่สร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นทุกวัน และมีอาการเหมือนคนติดยา ก้าวร้าว จองหอง แต่ยังขอเงินแม่และภรรยาตลอด หลอกว่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศบ้าง (น้องชายเคยทำงานที่ต่างประเทศค่ะ) ขอเงินแม่ทีละเป็นหมื่นๆ หายไปเดือนนึงแล้วก็กลับมาบ้านบอกว่าทะเลาะกับที่ทำงาน ลาออกแล้ว แต่พวกเราทุกคนเชื่อว่าน้องชายโกหกไม่ได้ไปทำงานจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ ซากๆ แบบนี้จนกระทั่งน้องสะไภ้ทนไม่ไหวหอบลูกกลับกรุงเทพ และทางบ้านน้องสะไภับังคับให้จดทะเบียนหย่าจนสำเร็จ เพราะเค้าไม่เต็มใจให้แต่งงานกันตั้งแต่แรกแล้ว แต่น้องสะไภ้รักน้องชายมาก เวลาน้องชายโทรไปโกหกว่าเดือนร้อน ไม่สบายหนัก น้องสะไภ้ก็แอบโอนเงินให้ตลอด
หลังจากน้องสะไภ้กลับไปอยู่กรุงเทพ น้องชายดูเหมือนจะยิ่งติดยาหนัก(แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ แจ้งตำรวจให้ดักตรวจแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย) สร้างหนี้สินล้นพ้นตัว แม่ต้องคอยวิ่งตามใช้หนี้จนแม่เครียด พวกเราทั้งเตือนและห้าม แม่ก็ไม่ฟัง ด้วยความที่รักลูกชายมาก (แม่ตามใจน้องชายมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นลูกชายคนเดียว) จนเดือนที่แล้วถึงจุดแตกหัก เพราะน้องชายขู่ขอเงินจากแม่ทุกวัน วันละ 1,000 -2,000 บาท แถมเอาพระในบ้านไปขาย แม่หมดความอดทนเลยเทศนาไปยกใหญ่(ทุกครั้งที่น้องชายขอเงิน แม่ก็ไม่ได้ให้ง่ายๆ นะคะ เทศน์กัณฑ์โตไปด้วยทุกครั้ง และสุดท้ายก็ให้ .... เฮ้อ) แต่ครั้งนี้แม่ไม่ยอมให้เงิน ไอ้เด็กเนรคุณก็เลยคลั่งจะทำร้ายแม่ วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน น้องสาวไปทำงาน หลานไปเรียนหนังสือ ซึ่งมันจะชอบขู่เอาเงินจากแม่ตอนไม่มีใครอยู่บ้าน แม่เลยต้องให้เงินไป วันนั้นถ้าดิฉันอยู่ ไอ้เด็กคนนี้มันตายแน่ ดิฉันไม่ปล่อยมันไว้หรอก ในบ้านมีคนที่มันกลัวอยู่สองคนคือดิฉันกับน้องสาว เวลาดิฉันกลับไทยมันจะหลบหน้าตลอด และทำตัวดีไม่สร้างความเดือดร้อนเวลาดิฉันกลับไป(ดิฉันกลับไทยปีละครั้ง)
ตอนนี้แม่ดิฉันหนีไปอยู่ที่อื่น แต่เด็กบ้านี่ยังอยู่ที่บ้านและพยายามตามหาแม่ให้กลับมาใช้หนี้ใช้สินให้มัน เพราะพอแม่ไม่อยู่น้องชายลำบากมาก น้องสาวดิฉันตัดการช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ให้เงินใช้ ไม่ซื้อข้าวปลาอาหารให้ เพราะจะดัดนิสัยให้ออกไปหางานทำ แต่น้องชายกลับเอาสมบัติในบ้านออกไปขายตอนน้องสาวไปทำงาน และแต่ละวันมีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ไม่รู้กี่ราย ทั้งทางจดหมาย(หนี้ธนาคาร) โทรศัพท์ และส่งคนมาตามถึงบ้านซึ่งตรงนี้เรากลัวมาก เพราะตอนนี้ในบ้านมีน้องสาว และหลานสาวเท่านั้น น้องชายพอมันเอาของในบ้านไปขายมันก็หายไปวันสองวันถึงจะกลับ.... ดิฉันกับน้องสาวไม่ไหวกับน้องคนนี้แล้วค่ะ เราไม่สามารถตามใช้หนี้ที่เค้าสร้างขึ้นมาทุกๆ วันได้แล้ว และอยากให้คุณแม่กลับมาอยู่บ้านค่ะ คุณแม่อายุ 70 กว่าแล้วสงสารท่านมาก ตอนนี้ท่านไปอยู่ที่อื่นก็ลำบาก ไม่เหมือนอยู่บ้านตัวเอง.... ดิฉันขอถามเป็นข้อๆ ตามด้านล่างเลยนะคะ
1. ดิฉันทราบว่าสิทธิ์ของเจ้าบ้าน รวมถึงเป็นเจ้าของโฉนดสามารถไล่น้องชายออกไปได้ แต่จะทำยังไงไม่ให้น้องชายสามารถกลับมาอยู่บ้านได้อีก ต้องขออำนาจศาลใช่หรือไม่คะ
2. ถ้าข้อ 1 ไม่สามารถทำได้ ดิฉันจะให้เงินน้องชายซักก้อนให้เซ็นต์สัญญาว่าจะตัดขาดกับครอบครัวถาวร ห้ามยุ่งเกี่ยว ติดต่อ สร้างหนี้สินก็ไม่เกี่ยวกับทางครอบครัว ให้ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ สามารถทำได้หรือไม่คะ
3. จากข้อ 2 ดิฉันมีความผิดตามกฏหมายรึเปล่า เพราะน้องชายมีหนี้สินมากมาย เหมือนดิฉันให้เงินน้องชายหนีหนี้รึเปล่า เจตนาดิฉันแค่ไม่อยากให้ครอบครัวเราเกี่ยวข้องกับน้องชายอีกแล้ว ส่วนเจ้าหนี้จะไปไล่บี้น้องชายยังไงก็สุดแล้วแต่ค่ะ อายุปาไปจะค่อนคนแล้วแต่ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเลย
4.เราสามารถขอความคุ้มครองจากตำรวจได้หรือไม่คะ กรณีที่น้องสาวอยู่กับหลานสาวเพียงสองคน แล้วมีคนทวงหนี้นอกระบบมาที่บ้าน
5. เมืองไทยมีค่ายหรือสถานบำบัดไหน ที่ส่งไปอยู่แบบระยะเวลานานๆ ได้บ้างคะ และถ้ามีเราสามารถขอความร่วมมือจากตำรวจให้นำตัวไปได้หรือไม่คะ
กราบขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ ใครมีหนทางอื่นที่ดีกว่ากรุณาช่วยแนะนำจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ
หมดความอดทนกับน้องชาย อยากบังคับให้ออกจากบ้าน และให้เซ็นต์ยอมตัดขาดจากครอบครัว ห้ามติดต่อกับที่บ้านทุกกรณี ทำได้หรือไม่
น้องชายอายุเกือบ 40 แล้วค่ะ เป็นคนมือเติบ หน้าใหญ่ ตอนมีงานทำเปลี่ยนรถทุกปี โทรศัพท์รุ่นไหนออกก็เปลี่ยน เงินเดือนครึ่งแสนแต่ก็ใช้ไม่เคยพอ ยังขอเงินแม่ทุกเดือน จนกระทั่งตกงานก็เริ่มขายทรัพย์สิน ตั้งแต่ที่ดินเปล่าที่แม่ยกให้ตอนแต่งงาน บ้าน รถ(ยังผ่อนไม่หมดซักอย่าง) และได้ย้ายเข้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านดิฉันพร้อมภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ น้องชายก็แบมือขอเงินแม่ไปวันๆ โดยไม่คิดที่จะหางาน ทางน้องสาวก็เลยไปฝากงานให้ น้องชายก็ไปทำอยู่แค่เดือนสองเดือน แล้วทะเลาะกับหัวหน้างานก็ไม่ยอมกลับไปทำงานอีก โชคดีอยู่บ้างที่น้องสะไภ้มีงานทำ จึงไม่ได้เป็นปัญหามากนักในช่วงแรก
แต่พอน้องสะไภ้คลอดมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น น้องชายก็ยังไม่ยอมไปทำงาน แต่สร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นทุกวัน และมีอาการเหมือนคนติดยา ก้าวร้าว จองหอง แต่ยังขอเงินแม่และภรรยาตลอด หลอกว่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศบ้าง (น้องชายเคยทำงานที่ต่างประเทศค่ะ) ขอเงินแม่ทีละเป็นหมื่นๆ หายไปเดือนนึงแล้วก็กลับมาบ้านบอกว่าทะเลาะกับที่ทำงาน ลาออกแล้ว แต่พวกเราทุกคนเชื่อว่าน้องชายโกหกไม่ได้ไปทำงานจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ ซากๆ แบบนี้จนกระทั่งน้องสะไภ้ทนไม่ไหวหอบลูกกลับกรุงเทพ และทางบ้านน้องสะไภับังคับให้จดทะเบียนหย่าจนสำเร็จ เพราะเค้าไม่เต็มใจให้แต่งงานกันตั้งแต่แรกแล้ว แต่น้องสะไภ้รักน้องชายมาก เวลาน้องชายโทรไปโกหกว่าเดือนร้อน ไม่สบายหนัก น้องสะไภ้ก็แอบโอนเงินให้ตลอด
หลังจากน้องสะไภ้กลับไปอยู่กรุงเทพ น้องชายดูเหมือนจะยิ่งติดยาหนัก(แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ แจ้งตำรวจให้ดักตรวจแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย) สร้างหนี้สินล้นพ้นตัว แม่ต้องคอยวิ่งตามใช้หนี้จนแม่เครียด พวกเราทั้งเตือนและห้าม แม่ก็ไม่ฟัง ด้วยความที่รักลูกชายมาก (แม่ตามใจน้องชายมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นลูกชายคนเดียว) จนเดือนที่แล้วถึงจุดแตกหัก เพราะน้องชายขู่ขอเงินจากแม่ทุกวัน วันละ 1,000 -2,000 บาท แถมเอาพระในบ้านไปขาย แม่หมดความอดทนเลยเทศนาไปยกใหญ่(ทุกครั้งที่น้องชายขอเงิน แม่ก็ไม่ได้ให้ง่ายๆ นะคะ เทศน์กัณฑ์โตไปด้วยทุกครั้ง และสุดท้ายก็ให้ .... เฮ้อ) แต่ครั้งนี้แม่ไม่ยอมให้เงิน ไอ้เด็กเนรคุณก็เลยคลั่งจะทำร้ายแม่ วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน น้องสาวไปทำงาน หลานไปเรียนหนังสือ ซึ่งมันจะชอบขู่เอาเงินจากแม่ตอนไม่มีใครอยู่บ้าน แม่เลยต้องให้เงินไป วันนั้นถ้าดิฉันอยู่ ไอ้เด็กคนนี้มันตายแน่ ดิฉันไม่ปล่อยมันไว้หรอก ในบ้านมีคนที่มันกลัวอยู่สองคนคือดิฉันกับน้องสาว เวลาดิฉันกลับไทยมันจะหลบหน้าตลอด และทำตัวดีไม่สร้างความเดือดร้อนเวลาดิฉันกลับไป(ดิฉันกลับไทยปีละครั้ง)
ตอนนี้แม่ดิฉันหนีไปอยู่ที่อื่น แต่เด็กบ้านี่ยังอยู่ที่บ้านและพยายามตามหาแม่ให้กลับมาใช้หนี้ใช้สินให้มัน เพราะพอแม่ไม่อยู่น้องชายลำบากมาก น้องสาวดิฉันตัดการช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ให้เงินใช้ ไม่ซื้อข้าวปลาอาหารให้ เพราะจะดัดนิสัยให้ออกไปหางานทำ แต่น้องชายกลับเอาสมบัติในบ้านออกไปขายตอนน้องสาวไปทำงาน และแต่ละวันมีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ไม่รู้กี่ราย ทั้งทางจดหมาย(หนี้ธนาคาร) โทรศัพท์ และส่งคนมาตามถึงบ้านซึ่งตรงนี้เรากลัวมาก เพราะตอนนี้ในบ้านมีน้องสาว และหลานสาวเท่านั้น น้องชายพอมันเอาของในบ้านไปขายมันก็หายไปวันสองวันถึงจะกลับ.... ดิฉันกับน้องสาวไม่ไหวกับน้องคนนี้แล้วค่ะ เราไม่สามารถตามใช้หนี้ที่เค้าสร้างขึ้นมาทุกๆ วันได้แล้ว และอยากให้คุณแม่กลับมาอยู่บ้านค่ะ คุณแม่อายุ 70 กว่าแล้วสงสารท่านมาก ตอนนี้ท่านไปอยู่ที่อื่นก็ลำบาก ไม่เหมือนอยู่บ้านตัวเอง.... ดิฉันขอถามเป็นข้อๆ ตามด้านล่างเลยนะคะ
1. ดิฉันทราบว่าสิทธิ์ของเจ้าบ้าน รวมถึงเป็นเจ้าของโฉนดสามารถไล่น้องชายออกไปได้ แต่จะทำยังไงไม่ให้น้องชายสามารถกลับมาอยู่บ้านได้อีก ต้องขออำนาจศาลใช่หรือไม่คะ
2. ถ้าข้อ 1 ไม่สามารถทำได้ ดิฉันจะให้เงินน้องชายซักก้อนให้เซ็นต์สัญญาว่าจะตัดขาดกับครอบครัวถาวร ห้ามยุ่งเกี่ยว ติดต่อ สร้างหนี้สินก็ไม่เกี่ยวกับทางครอบครัว ให้ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ สามารถทำได้หรือไม่คะ
3. จากข้อ 2 ดิฉันมีความผิดตามกฏหมายรึเปล่า เพราะน้องชายมีหนี้สินมากมาย เหมือนดิฉันให้เงินน้องชายหนีหนี้รึเปล่า เจตนาดิฉันแค่ไม่อยากให้ครอบครัวเราเกี่ยวข้องกับน้องชายอีกแล้ว ส่วนเจ้าหนี้จะไปไล่บี้น้องชายยังไงก็สุดแล้วแต่ค่ะ อายุปาไปจะค่อนคนแล้วแต่ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเลย
4.เราสามารถขอความคุ้มครองจากตำรวจได้หรือไม่คะ กรณีที่น้องสาวอยู่กับหลานสาวเพียงสองคน แล้วมีคนทวงหนี้นอกระบบมาที่บ้าน
5. เมืองไทยมีค่ายหรือสถานบำบัดไหน ที่ส่งไปอยู่แบบระยะเวลานานๆ ได้บ้างคะ และถ้ามีเราสามารถขอความร่วมมือจากตำรวจให้นำตัวไปได้หรือไม่คะ
กราบขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ คำตอบนะคะ ใครมีหนทางอื่นที่ดีกว่ากรุณาช่วยแนะนำจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ