สวัสดีคะ วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์ตั้งครรภ์ตั้งแต่ หลังแต่งงานถึงคลอดค่าา
ปล. มีสรุปค่าใช้จ่ายฝากครรภ์ ถึงคลอดของโรงพยาลบาลเอกชน และการเตรียมของใช้เด็กในตอนท้ายด้วยนะคะ
**คลอดกับคุณหมออดิศร ที่พญาไท 3**
ปีนี้คุณแม่ก็อายุ 28 ปีแล้ว หลังจากที่แต่งงานมา 10 เดือน
คุณแม่ก็พยายามและตั้งใจว่าจะมีเจ้าbabyคะ
มาดูกันเลยดีกว่าคะว่าคุณแม่เตรียมตัว อย่างไรบ้าง !!!
หมวดที่ 1 เตรียมความพร้อม
1 คุณแม่ใช้ app andriod นับวันตกไข่++ ชื่อ "flo" เพื่อลงวันมา-วันหมดประจำเดือนของแต่ละเดือน
2 บำรุงร่างกายคะ โดยการกิน flolic โดยสามารถซื้อตามร้านขายยา ตกเม็ดละ 1 บาท
3 กินธาตุเหล็ก ที่ได้มาจากตอนบริจาคเลือด เนื่องจากคุณแม่เป็นคนเลือดจางคะ
4 สำหรับคนที่รอบเดือนมาไม่สมำ่เสมออย่างคุณแม่ ก็ซื้อเทอโมมิเตอร์/ปรอท แบบดิจิตอลเพิ่มเติม เพื่อวัดอุณหภูมิ ตอนเช้าเพื่อกำหนดวันไข่ตก
5 มีแถบวัดวันตกไข่ แต่ไม่ได้ใช้คะ
6 ซื้อที่ตรวจครรภ์เตรียมไว้คะ โดยตรวจหาฮอโมน HCG
ซึ่งจะพบหลังจากผ่าน วันที่ ปจด. จะมาจะไม่มารอบเดือนถัดไป บวกอีก ประมาณ 2 อาทิตย์คะ
7 ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด ออกกำลังกาย& จัดทริปhoneymoon ++
8 ตรวจสุขภาพ : ก่อนแต่งงานคุณแม่มีได้ไปตรวจโรคติดต่อในแพจเกจสุขภาพสำหรับคู่รักอยู่แล้ว
แนะนำนะคะ เพราะจะได้ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการฉีดวัคซีน ภูมิคุ้มกันต่างๆ
*** กรณีไม่สะดวกไปตรวจพร้อมกัน --สามารถตรวจแยกได้ แต่ราคาจะแพงกว่า ตรวจพร้อมกันหน่อยนึง
special !!! สำหรับคุณพ่อ/คุณแม่ มือใหม่ที่พยายามแล้ว baby ยังไม่มา : มีแนะนำเพิ่มเติมดังนี้คะ
สิ่งที่เตรียมการไว้ว่าอาจจะทำ หากครบ 1 ปี แต่เจ้าตัวน้อยยังไม่มา
*** สิ่งที่ต้องตรวจเพิ่มเติมคะ
1 ตรวจความแข็งแรง จำนวน และความเร็วของอสุจิคะ (สอบถามราคาที่รพ.พญาไท 3 ประมาณ 3,000 บาท ปี 2560คะ )
2 ตรวจภายในของคุณแม่คะ (สอบถามราคาที่รพ.พญาไท 3 ประมาณ 5,000 บาท ปี 2560คะ )
3 กรณีที่จะทำ IUI หรือ IVF คุณพ่อคุณแม่ต้องแต่งงานเกิน 1 ปี และจดทะเบียนสมรสนะคะ
หมวดที่ 2 หนูมาอยู่ในท้องแล้วจ้า
นอกจากปจด. ไม่มาแล้ว ยังสังเกตการเปลียนแปลงของร่างกายได้ดังนี้ค่า
คุณแม่อ้วนขึ้น 2 kg คะ และรอบเอวเพิ่มขึ้น 2 นิ้ว
คุณแม่ตัดสินใจไปตรวจการตั้งครรภ์ที่ รพ. คะ เป็นโรงพยาบาลที่มีประกันสังคม
การตรวจเป็นการตรวจปัสสาวะ UPT โดยมีค่าใช่จ่ายเพิ่มอีก 120 บาท คะ
และในที่สุด ทางพยาบาลก็ว่าแจ้งคะ ว่าท้องแล้ว 5สัปดาห์ เย้ๆๆ
หมวดที่ 3 ฝากครรภ์+ ไตรมาส 1
วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่าง week 5- week 8 ของการตั้งครรภ์นะคะ
ก่อนอื่นเลย.....จะคลายข้อสงสัยก่อนเลยนะคะ เพื่อว่ามีเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์มาอ่าน
ก็อาจจะ สงสัยว่าทำไมเราถึงเริ่มที่ week 5 เลย แล้ว week 1-4 ไม่มีเรื่องจะมารีวิว มาเล่าเลยหรออ??
...... เหตุผลก็คือ ** คุณหมอจะนับอายุของลูกเรา เริ่มตั้งแต่วันที่เรามี ปจด.วันแรกของครั้งสุดท้ายที่ปจด.มาคะ
นั้นคือหากเรามีปจด รอบที่แล้ว 1พค. 2560- 7 พค.2560 แล้วรอบนี้เรามาพบว่าวันที่ 1 มิย. 2560
ปจด เราไม่มา !!! และรออีกสักหน่อยเรามาตรวจพบว่าท้อง ตอนวันที่ 7 มิย. 2560 ซึ่งก็แสดงว่า
ตอนนี้เราท้อง week ที่ 5 แล้วคะ !! ^_^ (โดยนับจากวันที่ 1 พค.-7 มิย) และก็จะคิดต่อคราวๆ ได้ว่า
เราจะคลอดใน week ที่ 39-40 ซึ่งก็คือประมาณวันที่ 1 กพ. 2561 นั้นเอง !!
week 5
1* ฝากครรภ์ครั้งแรกคะ
ขั้นตอนมาฝากครรภ์ มีดังนี้คะ
- ตรวจเลือด /ตรวจโรคติดต่อ คะ
- ทาง รพ. จะออกสมุดฝากครรภ์ให้คะ
การเลือก รพ. ที่จะฝากครรภ์คะ
1 รพ.ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมจะฝากครรภ์ฟรีคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายคะ แต่ต้องต้องแลกกับที่ต้องรอคุณหมอนานหน่อย เพราะคนไข้เยอะ คุณหมอน้อย ต้องเข้าใจเนอะะ
2 เลือกรพ. เอกชน / หรือเลือกคุณหมอ ที่มีคนแนะนำมา อันนี้ก็แล้วแต่เลยนะคะ
(ซึ่งส่วนตัว คุณแม่เลือก รพ. เอกชน คะ เพราะไม่อยากลางานบ่อยๆ รพ. รัฐบาล คนไข้เยอะมากๆ และหมอออกตรวจน้อยและมีเวลาจำกัดคะ และ อีกอย่างคือ คุณแม่อดทนรอหมอนานๆ เป็นครึ่งๆ วันไม่ไหวจริงๆ )
คชจ. ส่วนต่าง คุณแม่จะมีลงไว้ด้านท้ายนะคะ เป็นทางเลือกให้ระหว่างฝากครรภ์ฟรี กับเสียเงินคะ 55+
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ คะ
- ตอนนี้เบบี้ ยังมีขนาดเล็กมาก ประมาณเม็ดงาคะ
- week นี้คุณแม่ แทบไม่มีอาการแพ้ท้องอะไรเลย
- app สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คะ แนะนำ enfra a+ คะ
- หนังสือต่างๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่วนตัวเป็นสมาชิก ศุนย์หนังสือ TK park ที่ central world คะ
เลยยืมหนังสือมาอ่านเยอะเลยคะ (ค่าสมาชิกต่ออายุ 150 บาท/ปี ค่ามัดจำหนังสือ 300 บาทคะ)
week 6-7
-เริ่มเปลี่ยนชุดชั้นใน week นี้คุณแม่เริ่มแน่นหน้าอก เนื่องจากหน้าอกขยายคะ
มีคำแนะนำ 2 ทางนะคะ คือ 1เพิ่มขนาดรอบอก โดยการซื้อตะขอขยายขนาดคะ / 2 ซื้อใหม่เปลียนคัพใหญ่ไปเลยคะ
-ศึกษา เรื่องวิตามินเสริมคะ (link ด้านล่างนี้เป็น list ของวิตามินที่คุณหมอแนะนำ ให้คุณแม่ซื้อมาเตรียมทาหลังเดือนที่ 3 คะ)
https://pantip.com/topic/36630855
โดยหลักๆ จะมีแคลเซียม / วิตามินรวม และน้ำมันปลาคะ
-พยายามทานอาหารปกติ เน้นนม โปรตีน / ทานโฟลิต /ธาตุเหล็ก / ปลา
-งดยกของหนัก / ออกกำลังกายที่มีการกระโดดคะ
- อาการแพ้ท้อง - แพ้ท้องง่วงคะ ง่วงมาก ง่วงทั้งวันเลยคะ
week 8
- อาการแพ้ท้อง - คุณแม่มีอาการเวียนหัวคะ
- ศึกษาเรื่องตรวจดาวน์ โดยเจาะเลือดคะ เนื่องจากคุณหมอที่รพ. แนะนำคะ
- อัลตราซาวด์ ตอนweek 8 คะ มีได้ฟังเสียงหัวใจเด็ก / วัดขนาดตัวเด็ก และดูว่ามีกี่คนจ้า
หมวดที่ 4 เริ่มต้นไตรมาส 2
เดือน 4 หรือ week 16 ตอนนี้อาการแพ้ท้อง ก็หายแล้ว
ช่วงนี้ความหิวเริ่มมา หิวบ่อยและกินได้เยอะขึ้นมาก
ตอนนี้หน้าท้องก็จะเริ่มยื่นๆ ทำให้รุ้สึกอึดอัด
นอกจากนั้น มีอยู่อาทิตย์นึงที่คุณแม่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ด้วย !!! ซึ่งร้ายแรงมากๆ
จะขอเล่าให้ฟังคือ มีอาการเริ่มต้นคล้ายๆเป็นหวัดคือมีน้ำมูก ใสๆ อยู่หลายวัน
และหลังจากนั้นก็มีไข้ 37.5-39 อยู่ตลอดเวลา กินยาพาราเซตามอนก็ไม่ลด
ตอนแรกมีไปหาหมอสูติ ที่ฝากครรภ์ไว้ และต้องต่อไปหาที่แผนกอายุรแพทย์
ซึ่งก็มีการเอาเยื่อบุในโพรงจมูกไปตรวจหาเชื้อ พอพบเชื่อหมอก็ให้ยาต้านไวรัสมากิน
และให้ลาหยุดงาน 1 อาทิตย์ แต่จากไม่อยากให้ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น
ซึ่งในช่วงอาทิตย์นั้น ก็นอนทั้งกลางวัน กลางคืน นอนอย่างเดียว เพราะยาที่หมอให้ กินแล้วทำให้รู้สึกง่วงมากๆ
อาการหลักๆ คือ ไข้สูง ปวดหัว และมีน้ำมูก ซึ่งในช่วงนั้นก็ไม่หิวเลย หิวอะไรก็ไม่อร่อยสักอย่าง
จนผ่านมาวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 6 เริ่มหิว หิวมาก หิวโซสุดๆ ก็เริ่มรุ้ตัวละว่าคงจะหายแล้วแหละ
เรื่องราวในครั้งนี้ก็สอนให้รู้ว่า :หากรู้ว่าตั้งครรภ์แล้วก็ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เอาไว้ ราคา 1,XXX บาท
แต่ป้องกันอันตรายต่อลูกในท้องของเราเอง และหากเป็นขึ้นว่าค่ารักษา แพงกว่านั้นเยอะ !!!
20 weeks แล้วคะ
ช่วงนี้จะรู้สึกว่าลูกเริ่มดิ้นแล้ว ช่วงที่เยอะจะเป็นช่วง 6 โมงเย็น จนถึงก่อนนอน
ตอนนี้ หน้าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จนต้องเริ่มเปลียนเสื้อผ้าที่ใส่กัน lot ใหม่ ซื้อประกอบด้วยกางเกงคนท้อง และเสื้อตัวหลวมและยาวๆ
นอกจากนั้น คุณแม่ก็พยายามทาครีมกันท้องลายทุกวัน ทาทั้งบริเวณท้อง สะโพกและก้น
การเดินเหินเริ่มจะอุ้ยอายขึ้นเล็กน้อย กิจกรรมที่ทำก็มีเดินเล่น & ว่ายน้ำ & และ เเอโรบิคในน้ำ ในส่วนของชุดว่ายน้ำ คุณแม่เปลียนเป็นเเบบ bikini
เพราะแบบธรรมดาจะรัดหน้าท้องแน่นมาก
ตอนนี้ี้อาการ หิวบ่อยๆ เล็กน้อย โดยคุณแม่ก็จะพยายามทานนม + วิตามินเสริมได้แก่ เเคลเซียมเม็ด ธาตุเหล็กและโอเมก้า
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเริ่มวางแผน + ศึกษาคราวๆ ไว้ก่อนได้แก่
1 ของใช้เด็กแรกคลอดที่จำเป็น โดยคุณแม่วางแผนว่าจะไปดูที่ร้าน DEKTOY ที่ห้างไชน่าเวิล์ด พาหุรัด ซึ่งมีทั้งหน้าร้านและสั่ง online
2 จัดที่ทางและห้องให้ลูก สำหรับคุณแม่ที่ทำงานประจำ ช่วงลาคลอด 1.5-3 เดือน จะลูกที่ไหน จะเลี้ยงลูกที่ไหน / หลังจากกลับมาทำงาน
มีแผนอย่างไร
3 วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายช่วงตั้งครรภ์ /ช่วงคลอด และหลังคลอด รวมทั้งศึกษาสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ที่คุณแม่จะได้เงินค่าคลอดและค่าหยุด
งาน 35,000 บาท
ช่วงนี้ี้เป็นช่วงที่ลูกน้อยมีขนาดใหญ่ ขึ้นมาถึงบริเวณสะดือแล้วคะ คุณหมอก็จะมีการซาวดู เพศและดูความสมบูรณ์อวัยวะต่างๆของลูก
25 weeks
อาการอื่นๆเพิ่มเติม : ปวดข้อสะโพก /ปวดขา /ปวดเท้า โดยเฉพาะเวลาเดินมากๆ
น้ำหนักขึ้นมา 7 กก.(จาก 54-61 กก.) และรอบเอว โดยวัดรอบสะดือ 36นิ้ว
ซึ่งคุณแม่ได้ปรึกษาคุณหมอเรื่องปวดข้อสะโพก เป็นพิเศษ พบว่า ปวดจากด้านในข้อ
คุณหมอบอกว่า เป็นอาการปกติ ซึ่งมาจากกระดูกหย่อนจากฮอร์โมน
โดยมีข้อแนะนำให้ระวัง * เคลื่อนตัวช้าๆเดินช้าๆ *แนะนำให้ใส่เข็มขัดพยุงครรภ์ จะช่วยได้บ้าง
เริ่มรู้สึกว่าต้องปรับตัวมากขึ้นหลายๆอย่างเลยคะ
28 weeks
อาทิตย์นี้ คุณหมอมีให้เจาะเลือดตรวจเบาหวาน พร้อมทั้งฉีดวัคซีนบาทยักเข็มที่ 1 (และเว้นอีก 1 เดือน ฉีดเข็มที่ 2 )
มีการสอนให้นับลูกดิ้น คือหลังมื้ออาหาร 1 มื้อให้ดิ้นประมาณ 4 ครั้ง โดยรวมดิ้น 12 ครั้งต่อวัน ถือว่าเป็นปกติคะ
32 weeks
อีกเดือนกว่าๆ ก็ใกล้คลอดแล้วค่า ตอนนี้มีอาการตอนไม่หลับ จิงๆ คือนอนน้อยมาก เนื่องจากจะตื่นช่วงกลางคืนมาเข้าห้องน้ำ
หรือรู้สึกตัว เวลาลูกดิ้น เริ่มตื่นเต้นและเริ่มจัดกระเป๋าไปคลอดละจ้า
36 weeks
วีคนี้เป็นช่วงที่ทรมานมากที่สุด !!!! ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา มีอาการปวดเกร็งขา ปวดหลัง เวลาเดินหรือยืนนานๆ
เวลาลูกดิ้น ก็จะปวดก้น ปวดหัวหน่าว และบางครั้งก็อึดอัด หายใจไม่สะดวก
แถม !! มีเซอร์ไพร์จ้าาา ตรวจคราวนี้ หมอบอกว่า ตอนนี้มดลูกมีอาการบีดตัวถี่ สม่ำเสมอ ทำให้เสี่ยงคลอดก่อน 38 สัปดาห์ เลยให้ยามากิน Terbutaline กินทุกๆ 8 ชม/ หรือ 12 ชม
37 weeks
วีคนี้ก็มีเรื่องตื่นเต้นแถมอีกสักหน่อย นั้นคือ เป็นหวัด ไอและมีน้ำมูก !! ซึ่งต้องรีบพักผ่อน รักษาให้หายก่อนคลอดเลยนะคะ
ยาที่พอจะกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กคือ พารา ลดไข้ และ chlorpheniramine เม็ดสีเหลือง แก้หวัดจ้า
เพราะ 1 อาจจะแพร่เชื่อสู่น้องได้ และ 2 ในกรณีผ่าคลอด การไอหรือจาม จะสะเทือนถึงแผลแน่นอน !! ซึ่งมีคนบอกว่าจะเจ็บมากกก
ผ่านมาถึงตอนนี้ นน. ขึ้นมาอยู่ที่ 68 kg แล้ว จากช่วงก่อนท้อง ประมาณ 53-54 kg.
38 weeks
อาทิตย์สุดท้ายก่อนคลอด อาจจะมาอัพเดตช้าหน่อยนะคะ ไม่แน่ใจว่าช่วงคลอดและหลังหลอดจะว่างหรือเปล่าาา
สรุปการฝากครรภ์และ คชจ. ทั้งหมดตลอด 38 weeks !!! > ยังไม่สมบูรณ์นะคะ ไล่หาตัวเลขย้อนหลังอยู่< มีตัวเลขคราวๆไปก่อนนะคะ
กะๆกันไปก่อน ช่วงเดือนที่ 2-7 พบแพทย์เดือนละ 1 ครั้งละ / เดือนที่ 8 พบแพทย์ ทุก 2 สัปดาห์ และทุกท้าย เจอกันทุกสัปดาห์เลยจ้าาา
6 สค 2560 *คชจ. 4640 * มีอัลตราซาวด์
10 กย 2560 *คชจ. 1914 *
4 ตค 2560 *คชจ. 2815
5 พย 2560 *คชจ. 1756
10 ธค 2560 week 31 *คชจ. 3850 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)
26 ธค 2560 week 34 *คชจ. 1,685 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)
9 มค 2561 week 36 *คชจ. 4,407 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)/ตรวจเลือด ดูว่ามีเลือดจางไหม เพราะใกล้คลอดแล้ว / ตรวจการติดเชื่อของปากมดลูก
16 มค 2561 week 37 *คชจ. 1,480 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)
[CR] ว่าที่คุณแม่1 : ลูกจ้ามาได้แล้วค่า
ปล. มีสรุปค่าใช้จ่ายฝากครรภ์ ถึงคลอดของโรงพยาลบาลเอกชน และการเตรียมของใช้เด็กในตอนท้ายด้วยนะคะ
**คลอดกับคุณหมออดิศร ที่พญาไท 3**
ปีนี้คุณแม่ก็อายุ 28 ปีแล้ว หลังจากที่แต่งงานมา 10 เดือน
คุณแม่ก็พยายามและตั้งใจว่าจะมีเจ้าbabyคะ
มาดูกันเลยดีกว่าคะว่าคุณแม่เตรียมตัว อย่างไรบ้าง !!!
หมวดที่ 1 เตรียมความพร้อม
1 คุณแม่ใช้ app andriod นับวันตกไข่++ ชื่อ "flo" เพื่อลงวันมา-วันหมดประจำเดือนของแต่ละเดือน
2 บำรุงร่างกายคะ โดยการกิน flolic โดยสามารถซื้อตามร้านขายยา ตกเม็ดละ 1 บาท
3 กินธาตุเหล็ก ที่ได้มาจากตอนบริจาคเลือด เนื่องจากคุณแม่เป็นคนเลือดจางคะ
4 สำหรับคนที่รอบเดือนมาไม่สมำ่เสมออย่างคุณแม่ ก็ซื้อเทอโมมิเตอร์/ปรอท แบบดิจิตอลเพิ่มเติม เพื่อวัดอุณหภูมิ ตอนเช้าเพื่อกำหนดวันไข่ตก
5 มีแถบวัดวันตกไข่ แต่ไม่ได้ใช้คะ
6 ซื้อที่ตรวจครรภ์เตรียมไว้คะ โดยตรวจหาฮอโมน HCG
ซึ่งจะพบหลังจากผ่าน วันที่ ปจด. จะมาจะไม่มารอบเดือนถัดไป บวกอีก ประมาณ 2 อาทิตย์คะ
7 ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด ออกกำลังกาย& จัดทริปhoneymoon ++
8 ตรวจสุขภาพ : ก่อนแต่งงานคุณแม่มีได้ไปตรวจโรคติดต่อในแพจเกจสุขภาพสำหรับคู่รักอยู่แล้ว
แนะนำนะคะ เพราะจะได้ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการฉีดวัคซีน ภูมิคุ้มกันต่างๆ
*** กรณีไม่สะดวกไปตรวจพร้อมกัน --สามารถตรวจแยกได้ แต่ราคาจะแพงกว่า ตรวจพร้อมกันหน่อยนึง
special !!! สำหรับคุณพ่อ/คุณแม่ มือใหม่ที่พยายามแล้ว baby ยังไม่มา : มีแนะนำเพิ่มเติมดังนี้คะ
สิ่งที่เตรียมการไว้ว่าอาจจะทำ หากครบ 1 ปี แต่เจ้าตัวน้อยยังไม่มา
*** สิ่งที่ต้องตรวจเพิ่มเติมคะ
1 ตรวจความแข็งแรง จำนวน และความเร็วของอสุจิคะ (สอบถามราคาที่รพ.พญาไท 3 ประมาณ 3,000 บาท ปี 2560คะ )
2 ตรวจภายในของคุณแม่คะ (สอบถามราคาที่รพ.พญาไท 3 ประมาณ 5,000 บาท ปี 2560คะ )
3 กรณีที่จะทำ IUI หรือ IVF คุณพ่อคุณแม่ต้องแต่งงานเกิน 1 ปี และจดทะเบียนสมรสนะคะ
หมวดที่ 2 หนูมาอยู่ในท้องแล้วจ้า
นอกจากปจด. ไม่มาแล้ว ยังสังเกตการเปลียนแปลงของร่างกายได้ดังนี้ค่า
คุณแม่อ้วนขึ้น 2 kg คะ และรอบเอวเพิ่มขึ้น 2 นิ้ว
คุณแม่ตัดสินใจไปตรวจการตั้งครรภ์ที่ รพ. คะ เป็นโรงพยาบาลที่มีประกันสังคม
การตรวจเป็นการตรวจปัสสาวะ UPT โดยมีค่าใช่จ่ายเพิ่มอีก 120 บาท คะ
และในที่สุด ทางพยาบาลก็ว่าแจ้งคะ ว่าท้องแล้ว 5สัปดาห์ เย้ๆๆ
หมวดที่ 3 ฝากครรภ์+ ไตรมาส 1
วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่าง week 5- week 8 ของการตั้งครรภ์นะคะ
ก่อนอื่นเลย.....จะคลายข้อสงสัยก่อนเลยนะคะ เพื่อว่ามีเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์มาอ่าน
ก็อาจจะ สงสัยว่าทำไมเราถึงเริ่มที่ week 5 เลย แล้ว week 1-4 ไม่มีเรื่องจะมารีวิว มาเล่าเลยหรออ??
...... เหตุผลก็คือ ** คุณหมอจะนับอายุของลูกเรา เริ่มตั้งแต่วันที่เรามี ปจด.วันแรกของครั้งสุดท้ายที่ปจด.มาคะ
นั้นคือหากเรามีปจด รอบที่แล้ว 1พค. 2560- 7 พค.2560 แล้วรอบนี้เรามาพบว่าวันที่ 1 มิย. 2560
ปจด เราไม่มา !!! และรออีกสักหน่อยเรามาตรวจพบว่าท้อง ตอนวันที่ 7 มิย. 2560 ซึ่งก็แสดงว่า
ตอนนี้เราท้อง week ที่ 5 แล้วคะ !! ^_^ (โดยนับจากวันที่ 1 พค.-7 มิย) และก็จะคิดต่อคราวๆ ได้ว่า
เราจะคลอดใน week ที่ 39-40 ซึ่งก็คือประมาณวันที่ 1 กพ. 2561 นั้นเอง !!
week 5
1* ฝากครรภ์ครั้งแรกคะ
ขั้นตอนมาฝากครรภ์ มีดังนี้คะ
- ตรวจเลือด /ตรวจโรคติดต่อ คะ
- ทาง รพ. จะออกสมุดฝากครรภ์ให้คะ
การเลือก รพ. ที่จะฝากครรภ์คะ
1 รพ.ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมจะฝากครรภ์ฟรีคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายคะ แต่ต้องต้องแลกกับที่ต้องรอคุณหมอนานหน่อย เพราะคนไข้เยอะ คุณหมอน้อย ต้องเข้าใจเนอะะ
2 เลือกรพ. เอกชน / หรือเลือกคุณหมอ ที่มีคนแนะนำมา อันนี้ก็แล้วแต่เลยนะคะ
(ซึ่งส่วนตัว คุณแม่เลือก รพ. เอกชน คะ เพราะไม่อยากลางานบ่อยๆ รพ. รัฐบาล คนไข้เยอะมากๆ และหมอออกตรวจน้อยและมีเวลาจำกัดคะ และ อีกอย่างคือ คุณแม่อดทนรอหมอนานๆ เป็นครึ่งๆ วันไม่ไหวจริงๆ )
คชจ. ส่วนต่าง คุณแม่จะมีลงไว้ด้านท้ายนะคะ เป็นทางเลือกให้ระหว่างฝากครรภ์ฟรี กับเสียเงินคะ 55+
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ คะ
- ตอนนี้เบบี้ ยังมีขนาดเล็กมาก ประมาณเม็ดงาคะ
- week นี้คุณแม่ แทบไม่มีอาการแพ้ท้องอะไรเลย
- app สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คะ แนะนำ enfra a+ คะ
- หนังสือต่างๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่วนตัวเป็นสมาชิก ศุนย์หนังสือ TK park ที่ central world คะ
เลยยืมหนังสือมาอ่านเยอะเลยคะ (ค่าสมาชิกต่ออายุ 150 บาท/ปี ค่ามัดจำหนังสือ 300 บาทคะ)
week 6-7
-เริ่มเปลี่ยนชุดชั้นใน week นี้คุณแม่เริ่มแน่นหน้าอก เนื่องจากหน้าอกขยายคะ
มีคำแนะนำ 2 ทางนะคะ คือ 1เพิ่มขนาดรอบอก โดยการซื้อตะขอขยายขนาดคะ / 2 ซื้อใหม่เปลียนคัพใหญ่ไปเลยคะ
-ศึกษา เรื่องวิตามินเสริมคะ (link ด้านล่างนี้เป็น list ของวิตามินที่คุณหมอแนะนำ ให้คุณแม่ซื้อมาเตรียมทาหลังเดือนที่ 3 คะ)
https://pantip.com/topic/36630855
โดยหลักๆ จะมีแคลเซียม / วิตามินรวม และน้ำมันปลาคะ
-พยายามทานอาหารปกติ เน้นนม โปรตีน / ทานโฟลิต /ธาตุเหล็ก / ปลา
-งดยกของหนัก / ออกกำลังกายที่มีการกระโดดคะ
- อาการแพ้ท้อง - แพ้ท้องง่วงคะ ง่วงมาก ง่วงทั้งวันเลยคะ
week 8
- อาการแพ้ท้อง - คุณแม่มีอาการเวียนหัวคะ
- ศึกษาเรื่องตรวจดาวน์ โดยเจาะเลือดคะ เนื่องจากคุณหมอที่รพ. แนะนำคะ
- อัลตราซาวด์ ตอนweek 8 คะ มีได้ฟังเสียงหัวใจเด็ก / วัดขนาดตัวเด็ก และดูว่ามีกี่คนจ้า
หมวดที่ 4 เริ่มต้นไตรมาส 2
เดือน 4 หรือ week 16 ตอนนี้อาการแพ้ท้อง ก็หายแล้ว
ช่วงนี้ความหิวเริ่มมา หิวบ่อยและกินได้เยอะขึ้นมาก
ตอนนี้หน้าท้องก็จะเริ่มยื่นๆ ทำให้รุ้สึกอึดอัด
นอกจากนั้น มีอยู่อาทิตย์นึงที่คุณแม่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ด้วย !!! ซึ่งร้ายแรงมากๆ
จะขอเล่าให้ฟังคือ มีอาการเริ่มต้นคล้ายๆเป็นหวัดคือมีน้ำมูก ใสๆ อยู่หลายวัน
และหลังจากนั้นก็มีไข้ 37.5-39 อยู่ตลอดเวลา กินยาพาราเซตามอนก็ไม่ลด
ตอนแรกมีไปหาหมอสูติ ที่ฝากครรภ์ไว้ และต้องต่อไปหาที่แผนกอายุรแพทย์
ซึ่งก็มีการเอาเยื่อบุในโพรงจมูกไปตรวจหาเชื้อ พอพบเชื่อหมอก็ให้ยาต้านไวรัสมากิน
และให้ลาหยุดงาน 1 อาทิตย์ แต่จากไม่อยากให้ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น
ซึ่งในช่วงอาทิตย์นั้น ก็นอนทั้งกลางวัน กลางคืน นอนอย่างเดียว เพราะยาที่หมอให้ กินแล้วทำให้รู้สึกง่วงมากๆ
อาการหลักๆ คือ ไข้สูง ปวดหัว และมีน้ำมูก ซึ่งในช่วงนั้นก็ไม่หิวเลย หิวอะไรก็ไม่อร่อยสักอย่าง
จนผ่านมาวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 6 เริ่มหิว หิวมาก หิวโซสุดๆ ก็เริ่มรุ้ตัวละว่าคงจะหายแล้วแหละ
เรื่องราวในครั้งนี้ก็สอนให้รู้ว่า :หากรู้ว่าตั้งครรภ์แล้วก็ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เอาไว้ ราคา 1,XXX บาท
แต่ป้องกันอันตรายต่อลูกในท้องของเราเอง และหากเป็นขึ้นว่าค่ารักษา แพงกว่านั้นเยอะ !!!
20 weeks แล้วคะ
ช่วงนี้จะรู้สึกว่าลูกเริ่มดิ้นแล้ว ช่วงที่เยอะจะเป็นช่วง 6 โมงเย็น จนถึงก่อนนอน
ตอนนี้ หน้าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จนต้องเริ่มเปลียนเสื้อผ้าที่ใส่กัน lot ใหม่ ซื้อประกอบด้วยกางเกงคนท้อง และเสื้อตัวหลวมและยาวๆ
นอกจากนั้น คุณแม่ก็พยายามทาครีมกันท้องลายทุกวัน ทาทั้งบริเวณท้อง สะโพกและก้น
การเดินเหินเริ่มจะอุ้ยอายขึ้นเล็กน้อย กิจกรรมที่ทำก็มีเดินเล่น & ว่ายน้ำ & และ เเอโรบิคในน้ำ ในส่วนของชุดว่ายน้ำ คุณแม่เปลียนเป็นเเบบ bikini
เพราะแบบธรรมดาจะรัดหน้าท้องแน่นมาก
ตอนนี้ี้อาการ หิวบ่อยๆ เล็กน้อย โดยคุณแม่ก็จะพยายามทานนม + วิตามินเสริมได้แก่ เเคลเซียมเม็ด ธาตุเหล็กและโอเมก้า
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเริ่มวางแผน + ศึกษาคราวๆ ไว้ก่อนได้แก่
1 ของใช้เด็กแรกคลอดที่จำเป็น โดยคุณแม่วางแผนว่าจะไปดูที่ร้าน DEKTOY ที่ห้างไชน่าเวิล์ด พาหุรัด ซึ่งมีทั้งหน้าร้านและสั่ง online
2 จัดที่ทางและห้องให้ลูก สำหรับคุณแม่ที่ทำงานประจำ ช่วงลาคลอด 1.5-3 เดือน จะลูกที่ไหน จะเลี้ยงลูกที่ไหน / หลังจากกลับมาทำงาน
มีแผนอย่างไร
3 วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายช่วงตั้งครรภ์ /ช่วงคลอด และหลังคลอด รวมทั้งศึกษาสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ที่คุณแม่จะได้เงินค่าคลอดและค่าหยุด
งาน 35,000 บาท
ช่วงนี้ี้เป็นช่วงที่ลูกน้อยมีขนาดใหญ่ ขึ้นมาถึงบริเวณสะดือแล้วคะ คุณหมอก็จะมีการซาวดู เพศและดูความสมบูรณ์อวัยวะต่างๆของลูก
25 weeks
อาการอื่นๆเพิ่มเติม : ปวดข้อสะโพก /ปวดขา /ปวดเท้า โดยเฉพาะเวลาเดินมากๆ
น้ำหนักขึ้นมา 7 กก.(จาก 54-61 กก.) และรอบเอว โดยวัดรอบสะดือ 36นิ้ว
ซึ่งคุณแม่ได้ปรึกษาคุณหมอเรื่องปวดข้อสะโพก เป็นพิเศษ พบว่า ปวดจากด้านในข้อ
คุณหมอบอกว่า เป็นอาการปกติ ซึ่งมาจากกระดูกหย่อนจากฮอร์โมน
โดยมีข้อแนะนำให้ระวัง * เคลื่อนตัวช้าๆเดินช้าๆ *แนะนำให้ใส่เข็มขัดพยุงครรภ์ จะช่วยได้บ้าง
เริ่มรู้สึกว่าต้องปรับตัวมากขึ้นหลายๆอย่างเลยคะ
28 weeks
อาทิตย์นี้ คุณหมอมีให้เจาะเลือดตรวจเบาหวาน พร้อมทั้งฉีดวัคซีนบาทยักเข็มที่ 1 (และเว้นอีก 1 เดือน ฉีดเข็มที่ 2 )
มีการสอนให้นับลูกดิ้น คือหลังมื้ออาหาร 1 มื้อให้ดิ้นประมาณ 4 ครั้ง โดยรวมดิ้น 12 ครั้งต่อวัน ถือว่าเป็นปกติคะ
32 weeks
อีกเดือนกว่าๆ ก็ใกล้คลอดแล้วค่า ตอนนี้มีอาการตอนไม่หลับ จิงๆ คือนอนน้อยมาก เนื่องจากจะตื่นช่วงกลางคืนมาเข้าห้องน้ำ
หรือรู้สึกตัว เวลาลูกดิ้น เริ่มตื่นเต้นและเริ่มจัดกระเป๋าไปคลอดละจ้า
36 weeks
วีคนี้เป็นช่วงที่ทรมานมากที่สุด !!!! ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา มีอาการปวดเกร็งขา ปวดหลัง เวลาเดินหรือยืนนานๆ
เวลาลูกดิ้น ก็จะปวดก้น ปวดหัวหน่าว และบางครั้งก็อึดอัด หายใจไม่สะดวก
แถม !! มีเซอร์ไพร์จ้าาา ตรวจคราวนี้ หมอบอกว่า ตอนนี้มดลูกมีอาการบีดตัวถี่ สม่ำเสมอ ทำให้เสี่ยงคลอดก่อน 38 สัปดาห์ เลยให้ยามากิน Terbutaline กินทุกๆ 8 ชม/ หรือ 12 ชม
37 weeks
วีคนี้ก็มีเรื่องตื่นเต้นแถมอีกสักหน่อย นั้นคือ เป็นหวัด ไอและมีน้ำมูก !! ซึ่งต้องรีบพักผ่อน รักษาให้หายก่อนคลอดเลยนะคะ
ยาที่พอจะกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กคือ พารา ลดไข้ และ chlorpheniramine เม็ดสีเหลือง แก้หวัดจ้า
เพราะ 1 อาจจะแพร่เชื่อสู่น้องได้ และ 2 ในกรณีผ่าคลอด การไอหรือจาม จะสะเทือนถึงแผลแน่นอน !! ซึ่งมีคนบอกว่าจะเจ็บมากกก
ผ่านมาถึงตอนนี้ นน. ขึ้นมาอยู่ที่ 68 kg แล้ว จากช่วงก่อนท้อง ประมาณ 53-54 kg.
38 weeks
อาทิตย์สุดท้ายก่อนคลอด อาจจะมาอัพเดตช้าหน่อยนะคะ ไม่แน่ใจว่าช่วงคลอดและหลังหลอดจะว่างหรือเปล่าาา
สรุปการฝากครรภ์และ คชจ. ทั้งหมดตลอด 38 weeks !!! > ยังไม่สมบูรณ์นะคะ ไล่หาตัวเลขย้อนหลังอยู่< มีตัวเลขคราวๆไปก่อนนะคะ
กะๆกันไปก่อน ช่วงเดือนที่ 2-7 พบแพทย์เดือนละ 1 ครั้งละ / เดือนที่ 8 พบแพทย์ ทุก 2 สัปดาห์ และทุกท้าย เจอกันทุกสัปดาห์เลยจ้าาา
6 สค 2560 *คชจ. 4640 * มีอัลตราซาวด์
10 กย 2560 *คชจ. 1914 *
4 ตค 2560 *คชจ. 2815
5 พย 2560 *คชจ. 1756
10 ธค 2560 week 31 *คชจ. 3850 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)
26 ธค 2560 week 34 *คชจ. 1,685 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)
9 มค 2561 week 36 *คชจ. 4,407 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)/ตรวจเลือด ดูว่ามีเลือดจางไหม เพราะใกล้คลอดแล้ว / ตรวจการติดเชื่อของปากมดลูก
16 มค 2561 week 37 *คชจ. 1,480 * การตรวจ ติดเครื่องตรวจทารก (30 นาที วัดหัวใจ การเต้น การบีบตัวของมดลูก)