วันนี้เราดูที่เที่ยวอีกที่นึงที่น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งสำหรับคนจอร์แดนเองและนักท่องเที่ยว เพราะเราจะนำทุกคนมาเที่ยว น้ำตก ในดินแดนแห่งทะเลทราย (งงเด้ๆๆ ว่ามันจะไปมีน้ำตกในทะเลทรายได้ยังไง)

ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาจอร์แดนช่วงอากาศหนาวเพราะจะเลี่ยงอากาศร้อน แต่เรามาช่วงนี้เนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด และยังเที่ยวน้ำตกได้ด้วย หากมาช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่าหมดสิทธิ์!!!

ที่อุทยานนี้อยู่ติดกับ dead sea และอยู่ห่างจากเมือง Madaba ประมาณ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น การเดินทางก็เหมารถเช่นเคย เรียกว่า ช่วงเช้ามาเที่ยวที่นี่ ช่วงบ่ายไป dead sea ต่อกันเลยทีเดียว
ทางเข้าอุทยาน
เอาล่ะมาเริ่มกันเลย แน่นอนว่ามีค่าเข้านะครับซึ่งตีเป็นเงินก็ประมาณคนล่ะ 22 JD หรือประมาณพันกว่าบาท อุปกรณ์ที่ควรจะต้องนำ มาเลยถือ ถุงกันน้ำและรองเท้าสำหรับลุยน้ำ จำเป็นมากนะครับ ไม่งั้นคุณจะเดินอย่างยากลำบาก สามารถหาซื้อได้ที่ decathron คู่ล่ะ 200-300 บาทเท่านั้นแหละแต่คุ้มมากมาย อีกอย่างควรมาในช่วงเช้าเลยนะครับ เพราะ หนึ่งมันไม่ร้อนมาก แดดไม่ลงจัด สามารถถ่ายรูปสวยๆได้ เพราะ แสงไม่แตกต่างกันมาก หากมาช่วงสายถึงบ่าย รับรองว่าคุณถ่ายภาพออกมาไม่ดีแน่ๆ เอาล่ะเริ่มจริงๆแล้ว แค่จุดปล่อยตัวลงก็ตื่นเต้นแล้ว เพราะตัวเปียกตั้งแต่ตอนนี้เลย

เรามาถึงที่อุทยานนี้ประมาณ 9โมงเช้า ตอนเก็บตังนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าใช้เวลา ไปกลับ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เราก็แอบคิดในใจว่ามันจะนานขนาดนั้นเลยรึ สุดท้ายเราจะใช้เวลาเท่าไหร่ ติดตามกันไปเรื่อยๆนะคร้าบบบบ รูปด้านบนนั้น เรากำลังเดินเข้าไปในช่องเขา (Siq) ที่มีน้ำไหลเป็นธารออกมา บอกเลยอารมณ์คล้ายๆ กำลังจะไปผจญภัยเล็กๆเราก็แอบตื่นเต้นเล็กน้อย เดินเข้าไปเรื่อยๆ น้ำก็ค่อนข้างเย็นนะครับ หนาวนิดๆเหมือนกัน

้

ระดับน้ำช่วงดานหน้าถือว่าแค่ข้อเท้านะครับไม่สูงมาก รองเท้าลุยน้ำที่ซื้อมาถือว่าช่วยได้มากกกกก เพราะมันไม่ลื่นเลย ที่สำคัญคือ ไม่เจ็บแม้จะเดินเหยียบหินก็ตาม เราเดินไปถ่ายรูปไป ใจนึงก็รู้สึกทึ่งในความยิ่งใหญ่ของช่องเขาสีชมพูอ่อน เรามาเช้าเรียกว่าได้เปรียบ เพราะคนยังไม่เยอะ
หินสีชมพู

และเราก็ถงจุดที่เป็น adventure อันแรกของที่เรา เริ่มแบบเบาๆ คือต้องไต่เชือกข้ามผ่านน้ำตก ระดับความยากอันนี้ยังถือว่า สบายๆครับ แต่ต้องระวังลื่นเท่านั้นเอง

เรียกได้ว่าผ่าน ฐานที่ 1 ได้แบบไร้ข้อกังขา (มันยังง่ายอยู่ๆๆ) เราก็เดินต่อมาเรื่อยๆ จนเห็นเริ่มมีคนเดินออกมา คือสงสัยว่าทำไมมันเร็วจัง
บางกลุ่มออกมาแระ
แล้วมาก็มาพบกับฝรั่งกลุ่มใหญ่น่าจะเป็นคน Jordanian นั่นแหละ พร้อมๆกับการผจญภัยอยู่ตรงหน้า

รอคิว
ช่องแสงตกลงพอดีเลย

จุดนี้เรียกว่าเป็นอีกจุดที่ต้องปีนป่ายเชือกขึ้นไปด้านบน แต่ความยากคือต้องยกตัวขึ้นไปด้วย ใช้พละกำลังพอดูเลย ใครไใ่แข็งแรงไม่น่าจะไหวแน่ๆ แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยดี เราให้พวกฝรั่งไปก่อนเพราะเราจะดูวิธีการปีนไง อิอิ และก็ผ่านมาอีกหลายด่านด้วยกันครับ แต่เราไม่ได้เก็บภาพไว้เพราะแทบจะว่ายน้ำกันอยู่แล้ว สุดท้ายเรามาถึงจุดต้นน้ำจนได้ครับ และเรามาทราบทีหลังว่า น้ำที่นี่นั้นส่งมาจากเขื่อนครับผม ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควรเลย
จุดต้นน้ำ

แน่นอนเราก็เก็บภาพที่จุดนี้พอสมควรเลย
โพสต์พองาม
ตากล้อง

มองดูช่องเขาระหว่างเดินกลับสวยงามมากกกก
ช่วงขากลับเราพบว่าระดับน้ำกลับสูงขึ้นกว่าตอนเช้า เอาการและน้ำก็เชี่ยวกว่าด้วย ทำให้การเดินกลับนั้นใช้เวลานานกว่าขาเข้า บางคนเค้าลอยตัวตอนขากลับออกไปเลยอาศัยน้ำที่ค่อนข้างแรง ลอยไปเรื่อยๆก็ถึงครับผม ผมเลยลองมั่งปรากฏว่าไปโดนหินเข้า เจ็บครับ!!! เลยหันมาเดินแบบเดิมแทนน่าจะเซฟกว่า
น้ำแรงครับ
เดินฝ่าน้ำ

ออกมาแล้วครับ

ใช้เวลาครั้งหมด 4 ชั่วโมงครึ่งกับการ Adventure ครั้งนี้ครับ เหนื่อยมากมายยย ใครจะไปฟิตร่างกายให้ดีนะครับ
ดูเต็มๆได้ตาม blog ด้านล่างเลยครับ
[url]http://twoandtogether.blogspot.com/2017/06/jordan-3-wadi-mujib.html
ที่เที่ยว Jordan ตอน 3 Wadi Mujib
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมาจอร์แดนช่วงอากาศหนาวเพราะจะเลี่ยงอากาศร้อน แต่เรามาช่วงนี้เนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด และยังเที่ยวน้ำตกได้ด้วย หากมาช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่าหมดสิทธิ์!!!
ที่อุทยานนี้อยู่ติดกับ dead sea และอยู่ห่างจากเมือง Madaba ประมาณ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น การเดินทางก็เหมารถเช่นเคย เรียกว่า ช่วงเช้ามาเที่ยวที่นี่ ช่วงบ่ายไป dead sea ต่อกันเลยทีเดียว
ทางเข้าอุทยาน
เอาล่ะมาเริ่มกันเลย แน่นอนว่ามีค่าเข้านะครับซึ่งตีเป็นเงินก็ประมาณคนล่ะ 22 JD หรือประมาณพันกว่าบาท อุปกรณ์ที่ควรจะต้องนำ มาเลยถือ ถุงกันน้ำและรองเท้าสำหรับลุยน้ำ จำเป็นมากนะครับ ไม่งั้นคุณจะเดินอย่างยากลำบาก สามารถหาซื้อได้ที่ decathron คู่ล่ะ 200-300 บาทเท่านั้นแหละแต่คุ้มมากมาย อีกอย่างควรมาในช่วงเช้าเลยนะครับ เพราะ หนึ่งมันไม่ร้อนมาก แดดไม่ลงจัด สามารถถ่ายรูปสวยๆได้ เพราะ แสงไม่แตกต่างกันมาก หากมาช่วงสายถึงบ่าย รับรองว่าคุณถ่ายภาพออกมาไม่ดีแน่ๆ เอาล่ะเริ่มจริงๆแล้ว แค่จุดปล่อยตัวลงก็ตื่นเต้นแล้ว เพราะตัวเปียกตั้งแต่ตอนนี้เลย
ระดับน้ำช่วงดานหน้าถือว่าแค่ข้อเท้านะครับไม่สูงมาก รองเท้าลุยน้ำที่ซื้อมาถือว่าช่วยได้มากกกกก เพราะมันไม่ลื่นเลย ที่สำคัญคือ ไม่เจ็บแม้จะเดินเหยียบหินก็ตาม เราเดินไปถ่ายรูปไป ใจนึงก็รู้สึกทึ่งในความยิ่งใหญ่ของช่องเขาสีชมพูอ่อน เรามาเช้าเรียกว่าได้เปรียบ เพราะคนยังไม่เยอะ
หินสีชมพู
และเราก็ถงจุดที่เป็น adventure อันแรกของที่เรา เริ่มแบบเบาๆ คือต้องไต่เชือกข้ามผ่านน้ำตก ระดับความยากอันนี้ยังถือว่า สบายๆครับ แต่ต้องระวังลื่นเท่านั้นเอง
เรียกได้ว่าผ่าน ฐานที่ 1 ได้แบบไร้ข้อกังขา (มันยังง่ายอยู่ๆๆ) เราก็เดินต่อมาเรื่อยๆ จนเห็นเริ่มมีคนเดินออกมา คือสงสัยว่าทำไมมันเร็วจัง
บางกลุ่มออกมาแระ
แล้วมาก็มาพบกับฝรั่งกลุ่มใหญ่น่าจะเป็นคน Jordanian นั่นแหละ พร้อมๆกับการผจญภัยอยู่ตรงหน้า
ช่องแสงตกลงพอดีเลย
จุดนี้เรียกว่าเป็นอีกจุดที่ต้องปีนป่ายเชือกขึ้นไปด้านบน แต่ความยากคือต้องยกตัวขึ้นไปด้วย ใช้พละกำลังพอดูเลย ใครไใ่แข็งแรงไม่น่าจะไหวแน่ๆ แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยดี เราให้พวกฝรั่งไปก่อนเพราะเราจะดูวิธีการปีนไง อิอิ และก็ผ่านมาอีกหลายด่านด้วยกันครับ แต่เราไม่ได้เก็บภาพไว้เพราะแทบจะว่ายน้ำกันอยู่แล้ว สุดท้ายเรามาถึงจุดต้นน้ำจนได้ครับ และเรามาทราบทีหลังว่า น้ำที่นี่นั้นส่งมาจากเขื่อนครับผม ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควรเลย
จุดต้นน้ำ
แน่นอนเราก็เก็บภาพที่จุดนี้พอสมควรเลย
โพสต์พองาม
ตากล้อง
มองดูช่องเขาระหว่างเดินกลับสวยงามมากกกก
ช่วงขากลับเราพบว่าระดับน้ำกลับสูงขึ้นกว่าตอนเช้า เอาการและน้ำก็เชี่ยวกว่าด้วย ทำให้การเดินกลับนั้นใช้เวลานานกว่าขาเข้า บางคนเค้าลอยตัวตอนขากลับออกไปเลยอาศัยน้ำที่ค่อนข้างแรง ลอยไปเรื่อยๆก็ถึงครับผม ผมเลยลองมั่งปรากฏว่าไปโดนหินเข้า เจ็บครับ!!! เลยหันมาเดินแบบเดิมแทนน่าจะเซฟกว่า
น้ำแรงครับ
เดินฝ่าน้ำ
ออกมาแล้วครับ
ใช้เวลาครั้งหมด 4 ชั่วโมงครึ่งกับการ Adventure ครั้งนี้ครับ เหนื่อยมากมายยย ใครจะไปฟิตร่างกายให้ดีนะครับ
ดูเต็มๆได้ตาม blog ด้านล่างเลยครับ
[url]http://twoandtogether.blogspot.com/2017/06/jordan-3-wadi-mujib.html