สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
คืออย่างนี้ครับ คุณต้น
นักเรียนเตรียมทหาร และ นักเรียนเหล่าทุกเหล่า ทางโรงเรียนจะออกแบบ program ออกกำลังกาย
และ program ฝึกให้เน้นไปแค่ระดับ สุขภาพดีเยี่ยม เท่านั้น คือมีการออกกำลังกายด้วยการวิ่งทุกวัน
โดยวิ่งให้นานพอที่จะเริ่มมีการ burn และให้หัวใจทำงานได้มากเพียงพอถึง Zone 3 เท่านั้นครับ
การที่กำหนด program ให้นักเรียนออกกำลังกายถึง Zone 3 จาก 5 Zone เป็นเพราะว่าต้องการฝึก
ให้นักเรียนมีสุขภาพดีเยี่ยมเท่านั้น โดยไม่ต้องการทักษะพิเศษใด ๆ เหมือนนักกีฬาครับ อย่างการวิ่งถือปืนไปด้วย
ก็จะวิ่งแค่ 30 - 40 นาที และต่อด้วยการ PT ต่ออีก 3 Set (พวกกระโดดตบ แอ่นหน้าแอ่นหลัง นั่นเอง)
จากนั้น ก็ต่อด้วยการฝึกบทฝึกทหารตามปกติ เช่น การใช้อาวุธ ท่ายิง อาวุธศึกษา .... ฯลฯ
ดังนั้น .... หากเอานักเรียนทหารไปวิ่งมาราธอน ก็บอกเลยว่าจะหลุดกลุ่มออกมาใน 5 กิโลเมตรแรก
เพราะคนที่ฝึกวิ่งมาราธอน นั้น จะวิ่งให้ร่างกายทำงานถึง Zone 4 อยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการ
สร้างหลอดเลือดแดงใน Slow muscle และการที่นักวิ่งมาราธอนฝึกตัวเองให้แตะ Zone 4 เป็นระยะ ๆ นี่เอง
ทำให้กล้ามเนื้อจะ Loss ลงไปบ้าง (เล็กลง แต่แกร่ง) และมีสาขาของหลอดเลือดแดงกระจยตัวเพิ่มขึ้นมาก
เพื่อรองรับการวิ่งนาน ๆ สามารถส่ง oxygen ไปเลี้ยง slow muscle เหล่านั้นได้มากพอครับ
ด้วยเหตุนี้ นักวิ่งมาราธอนจึงทนทานมาก เพราะประสิทธิภาพการส่งสารอาหาร และ oxygen ไปสู่ slow muscle
ทำได้ดีเยี่ยม เหนื่อยยากมาก แต่นักเรียนทหารยังไปไม่ถึงขั้นนั้นครับ จึงสู้นักวิ่งมาราธอนไม่ได้เลย
ปัจจุบันนี้ ผมทราบมาว่ากำลังทดลองศึกษา program การออกกำลังกายของนักเรียนทหาร
ให้คล้ายกับนักมวยมากที่สุด เพื่อเพิ่มความ คล่องตัว ให้ได้มากสุด คู่กับความทนทานของร่างกายครับ
แต่ยังงัยก็ยังห่างจากนักวิ่งมาราธอนอยู่ดี เพราะ program ออกกำลังกายต่างกันมาก
นักเรียนเตรียมทหาร และ นักเรียนเหล่าทุกเหล่า ทางโรงเรียนจะออกแบบ program ออกกำลังกาย
และ program ฝึกให้เน้นไปแค่ระดับ สุขภาพดีเยี่ยม เท่านั้น คือมีการออกกำลังกายด้วยการวิ่งทุกวัน
โดยวิ่งให้นานพอที่จะเริ่มมีการ burn และให้หัวใจทำงานได้มากเพียงพอถึง Zone 3 เท่านั้นครับ
การที่กำหนด program ให้นักเรียนออกกำลังกายถึง Zone 3 จาก 5 Zone เป็นเพราะว่าต้องการฝึก
ให้นักเรียนมีสุขภาพดีเยี่ยมเท่านั้น โดยไม่ต้องการทักษะพิเศษใด ๆ เหมือนนักกีฬาครับ อย่างการวิ่งถือปืนไปด้วย
ก็จะวิ่งแค่ 30 - 40 นาที และต่อด้วยการ PT ต่ออีก 3 Set (พวกกระโดดตบ แอ่นหน้าแอ่นหลัง นั่นเอง)
จากนั้น ก็ต่อด้วยการฝึกบทฝึกทหารตามปกติ เช่น การใช้อาวุธ ท่ายิง อาวุธศึกษา .... ฯลฯ
ดังนั้น .... หากเอานักเรียนทหารไปวิ่งมาราธอน ก็บอกเลยว่าจะหลุดกลุ่มออกมาใน 5 กิโลเมตรแรก
เพราะคนที่ฝึกวิ่งมาราธอน นั้น จะวิ่งให้ร่างกายทำงานถึง Zone 4 อยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการ
สร้างหลอดเลือดแดงใน Slow muscle และการที่นักวิ่งมาราธอนฝึกตัวเองให้แตะ Zone 4 เป็นระยะ ๆ นี่เอง
ทำให้กล้ามเนื้อจะ Loss ลงไปบ้าง (เล็กลง แต่แกร่ง) และมีสาขาของหลอดเลือดแดงกระจยตัวเพิ่มขึ้นมาก
เพื่อรองรับการวิ่งนาน ๆ สามารถส่ง oxygen ไปเลี้ยง slow muscle เหล่านั้นได้มากพอครับ
ด้วยเหตุนี้ นักวิ่งมาราธอนจึงทนทานมาก เพราะประสิทธิภาพการส่งสารอาหาร และ oxygen ไปสู่ slow muscle
ทำได้ดีเยี่ยม เหนื่อยยากมาก แต่นักเรียนทหารยังไปไม่ถึงขั้นนั้นครับ จึงสู้นักวิ่งมาราธอนไม่ได้เลย
ปัจจุบันนี้ ผมทราบมาว่ากำลังทดลองศึกษา program การออกกำลังกายของนักเรียนทหาร
ให้คล้ายกับนักมวยมากที่สุด เพื่อเพิ่มความ คล่องตัว ให้ได้มากสุด คู่กับความทนทานของร่างกายครับ
แต่ยังงัยก็ยังห่างจากนักวิ่งมาราธอนอยู่ดี เพราะ program ออกกำลังกายต่างกันมาก
มิตรภาพกับความกล้าหาญ ถูกใจ, Nakarovski ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1917159 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2735545 ถูกใจ, ถูกใจ ความคิดเห็น แชร์ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3610712 ถูกใจ, 5 Minute to Midnight ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1395114 ถูกใจ, ทิวาจรดราตรี ถูกใจ, jod_PP ถูกใจรวมถึงอีก 11 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
นักเรียนนายร้อยที่เวลาฝึกวิ่งแบกอาวุธไปด้วย สามารถลงวิ่งมาราธอน 42 กม. จบในเวลามาตรฐานของนักวิ่งทั่วไปได้รึเปล่า