รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวลือที่ว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ถูกเทกโอเวอร์ โดย นายดนัย ยืนยันว่า ตระกูลมาลีนนท์ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่อง 3 ยังไม่ได้ถูกเทกโอเวอร์ แต่เนื่องจากมีบางปรากฏการณ์ที่ชวนให้บุคคลภายนอกคิดไปว่าถูกเทกโอเวอร์
รวมทั้งมีข่าวลือว่า คนในช่อง 3 เจ้าของมาลีนนท์บางคนขายหุ้น
ช่อง 3 มีบริษัทแม่ คือ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ที่มาของข่าว เนื่องจาก บีอีซี ประกาศปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจ ต่อไปนี้ไม่ได้เน้นมีเดียอย่างเดียว ล้อไปตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี เหมือนหลายองค์กรใหญ่ๆ ปรับตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ถ้ายังวางจุดยืนเพียงแค่บริษัทผลิตสื่อก็จะลำบาก ภาพที่สังคมภายนอกได้เห็น คือเกิดการปรับเปลี่ยนในระดับยุทธศาสตร์ธุรกิจจริงๆ และปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยแบ่งเป็น 8 สายงานหลัก
ที่มาของข่าวลือใต้ดินถึงขนาดว่า
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปเทกโอเวอร์ช่อง 3 เพราะหลังปรับโครงสร้างองค์กร ก็ได้นำมืออาชีพจากนอกองค์กรเข้ามาอยู่ในสายงานหลัก อาทิ นายสมประสงค์ บุญยะชัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด หรือ เอไอเอส และ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ อินทัช เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บีอีซี
นางอาภัทรา ศฤงคารินกุล อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เอไอเอส เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและสื่อใหม่ บีอีซี, นายภัทรศักดิ์ อุตตมะโยธิน อดีตผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารทรัพยากรบุคคล เอไอเอส เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์ บีอีซี และ นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ อดีตผู้บริหารเอไอเอส เป็นที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ด้านการตลาด บีอีซี โดยผู้บริหารด้านบนยังเป็น นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
“สังเกตว่า ช่อง 3 เลือกเอามืออาชีพจากเอไอเอส มาคุมงานบุคคลในบีอีซี แปลว่ากำลังจะพยายามเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กร จะเปลี่ยนวิญญาณของผู้คนในองค์กรดั้งเดิม จากวิญญาณของคนทำมีเดียธรรมดา คนทำสื่อธรรมดา เป็นอีกหนึ่งวิญญาณ จึงต้องใช้มือบุคคลที่มาจากเอไอเอส” นายดนัย กล่าว
นายดนัย กล่าวว่า ข่าวลือก็แค่ลือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังเป็นตระกูลมาลีนนท์ นายประชุม ก็ยังเป็นเบอร์หนึ่งของบีอีซี นายสมประสงค์ จะอยู่ใต้นายประชุม และใต้ นายสมประสงค์ ประกอบด้วย ทั้งคนเก่าจากบีอีซี และคนใหม่ที่มาจากเอไอเอส คงเป็นเรื่องของความพยายามเปลี่ยนยุทธศาสตร์ เปลี่ยนวิญญาณของคนในบีอีซี และเปลี่ยนปรัชญาของตัวองค์กร จากบริษัทสื่อธรรมดา หากคิดเยอะก็คิดไปถึงอดีตเจ้านายของบุคคลเหล่านี้ หากคิดในแง่ธุรกิจ ก็คือ การปรับตัวทางธุรกิจของค์กรใหญ่ๆ หนึ่งองค์กร
ลือหนักช่อง 3 ถูก “ทักษิณ” เทกโอเวอร์! ชี้แค่ดึงคน “เอไอเอส” เปลี่ยนยุทธศาสตร์องค์กร
ช่อง 3 มีบริษัทแม่ คือ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ที่มาของข่าว เนื่องจาก บีอีซี ประกาศปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจ ต่อไปนี้ไม่ได้เน้นมีเดียอย่างเดียว ล้อไปตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี เหมือนหลายองค์กรใหญ่ๆ ปรับตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ ถ้ายังวางจุดยืนเพียงแค่บริษัทผลิตสื่อก็จะลำบาก ภาพที่สังคมภายนอกได้เห็น คือเกิดการปรับเปลี่ยนในระดับยุทธศาสตร์ธุรกิจจริงๆ และปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยแบ่งเป็น 8 สายงานหลัก
ที่มาของข่าวลือใต้ดินถึงขนาดว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปเทกโอเวอร์ช่อง 3 เพราะหลังปรับโครงสร้างองค์กร ก็ได้นำมืออาชีพจากนอกองค์กรเข้ามาอยู่ในสายงานหลัก อาทิ นายสมประสงค์ บุญยะชัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด หรือ เอไอเอส และ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ อินทัช เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บีอีซี
นางอาภัทรา ศฤงคารินกุล อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เอไอเอส เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและสื่อใหม่ บีอีซี, นายภัทรศักดิ์ อุตตมะโยธิน อดีตผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารทรัพยากรบุคคล เอไอเอส เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์ บีอีซี และ นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ อดีตผู้บริหารเอไอเอส เป็นที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ด้านการตลาด บีอีซี โดยผู้บริหารด้านบนยังเป็น นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
“สังเกตว่า ช่อง 3 เลือกเอามืออาชีพจากเอไอเอส มาคุมงานบุคคลในบีอีซี แปลว่ากำลังจะพยายามเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กร จะเปลี่ยนวิญญาณของผู้คนในองค์กรดั้งเดิม จากวิญญาณของคนทำมีเดียธรรมดา คนทำสื่อธรรมดา เป็นอีกหนึ่งวิญญาณ จึงต้องใช้มือบุคคลที่มาจากเอไอเอส” นายดนัย กล่าว
นายดนัย กล่าวว่า ข่าวลือก็แค่ลือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังเป็นตระกูลมาลีนนท์ นายประชุม ก็ยังเป็นเบอร์หนึ่งของบีอีซี นายสมประสงค์ จะอยู่ใต้นายประชุม และใต้ นายสมประสงค์ ประกอบด้วย ทั้งคนเก่าจากบีอีซี และคนใหม่ที่มาจากเอไอเอส คงเป็นเรื่องของความพยายามเปลี่ยนยุทธศาสตร์ เปลี่ยนวิญญาณของคนในบีอีซี และเปลี่ยนปรัชญาของตัวองค์กร จากบริษัทสื่อธรรมดา หากคิดเยอะก็คิดไปถึงอดีตเจ้านายของบุคคลเหล่านี้ หากคิดในแง่ธุรกิจ ก็คือ การปรับตัวทางธุรกิจของค์กรใหญ่ๆ หนึ่งองค์กร