บ้านเช่า...เขย่าขวัญ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของเรา ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยน๊า
   ขอบอกเพื่อนๆก่อนเลยนะคะว่าเรื่องที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ ไม่มีแต่ง อาจจะยาว หรืออาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง เพราะว่าเหตุการณ์ก็ผ่านมานานพอสมควร และมีหลายเหตุการณ์มากในเวลานั้น เรื่องราวนี้เกิดขึ้น 4 ปีมาแล้ว
   ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้เราได้เจอกับเรื่องราวหลอนๆนี้ คือ ปลวกค่ะ มันขึ้นบ้านเราทั้งหลังเลย เราเลยจำเป็นต้องทุบบ้านแล้วสร้างใหม่ ขออธิบายนิดนึงก่อนว่า บ้านของเราเป็นบ้าน 2 ชั้น แบ่งเป็น 3 หลังติดกันเหมือนๆกับทาวน์เฮาส์ ตอนพวกเราเล็กๆ จะแบ่งให้เช่า 2 หลัง แต่พอเรามีครอบครัว  ก็เลิกให้เช่า แล้วก็มาอยู่กันเอง หลังที่1 มีป๋า+แม่+น้อง/หลังที่2 มีเรา+สามี+ลูก/หลังที่3 มีพี่ชาย+พี่สะใภ้ ด้วยความที่พวกเราชินกับการอยู่ด้วยกันแบบนี้  ตอนแรกก็เลยจะหาบ้านเช่าหลังใหญ่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แต่ว่าหายากมาก ไหนจะห้องนอน ที่ต้องมีอย่างน้อย 3 ห้อง และต้องมีที่วางเฟอร์นิเจอร์ด้วย(เยอะมากๆ) พี่ชายก็เลยบอกว่า งั้นขอแยกออกมาอยู่ห้องเช่าละกัน ส่วนเราต้องอยู่กับแม่ เพราะว่าแม่ช่วยเลี้ยงลูกเรา(เกือบ3ขวบละ) แล้วตอนนั้นเรากำลังตั้งท้องลูกคนที่2 (ตอนนั้นท้องได้ประมาณ7เดือน)  
   เราก็หาบ้านเช่ามาเรื่อยๆก็ยังไม่ได้บ้านซะที จนเหลือเวลาอีกไม่ถึงอาทิตย์ บริษัทก็จะเข้ามาทุบบ้านละ ก็เลยให้เอ(น้องที่ทำงาน)ช่วยหาแถวๆนี้ให้หน่อย คิดว่ายังงัยวันนี้ต้องหาบ้านเช่าให้ได้ (ที่ทำงานเราใกล้บ้านค่ะ เราเลยอยากได้บ้านเช่าแถวๆนี้) หาอยู่ครึ่งวันเอก็มาบอกว่าเจอแล้ว  อยู่ท้ายซอยนี่เอง  เราก็เลยไปดูค่ะ(ไม่ได้ย่างกรายไปท้ายซอยมานานมากๆ) เป็นบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน แปะป้ายไว้ว่าให้เช่าพร้อมเบอร์โทร เรามองหน้าเอแล้วถามว่า
   เรา : แกจะให้ชั้นเช่าบ้านหลังนี้จริงอ่ะ หลังนี้ชั้นว่าเค้าคงเอาไว้ให้คนนอกพื้นที่เช่ามั้ง (เพราะด้วยความที่บ้านหลังนี้อยู่ใกล้ออฟฟิต ทุกคนในออฟฟิตจะรู้ดีว่า ตรงทางหน้าบ้านซึ่งเป็นทางโค้ง เมื่อ 3 ปีที่แล้วเคยมีอุบัติเหตุ เป็นเด็กวัยรุ่นซ้อนมอเตอร์ไซด์กันมา 3 คน ขับมาเร็วมาก แล้วทางก็ไม่ค่อยสว่างนัก
เลยไม่เห็นว่าเป็นทางโค้ง ทำให้ขับรถชนกำแพงตายคาที่เลยทั้ง 3 คน  หลังจากนั้นตอนดึกๆก็จะมีคนเห็นทั้ง3 คนนั่งห้อยขาอยู่บนกำแพงบ้าง บางคนก็เห็นแต่ขาห้องต่องแต่งๆแต่ไม่เห็นตัว(เราได้ยินยังหลอนๆเลย ไม่เคยคิดจะผ่านไปเลยนะ)
   เอ : ก็มันไม่มีเวลาแล้ว แล้วถ้ามีผีมันก็มีตรงทางโค้งตรงนู้น ห่างกันตั้งหลายเมตร ไม่เกี่ยวกันหรอก แล้วนี่ก็นานละ ป่านนี้ไปไหนต่อไหนแล้วมั้ง
เราก็มองมันหางตา (มาอยู่เองป่ะล่ะ) แต่ก็เก็บเบอร์โทรไว้นะ ไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าหาบ้านไม่ได้จริงๆ แล้วกลับบ้านไปเล่าให้แฟนเราฟัง(แฟนเราไม่กลัวเรื่องพวกนี้ค่ะ) อีกวันนึงประมาณ6 โมงเย็น แฟนเราโทรมาหา  
   แฟน : น้อง..เลิกงานยัง มาดูบ้านเช่ากันนะ เดี๋ยวพี่ไปรับ
   เรา : ได้ๆๆ แถวไหนล่ะ
   แฟน : ก็หลังที่น้องเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้งัย พี่นัดเจ้าของบ้านมาเปิดบ้านให้ดู แล้วจะคุยเรื่องค่าเช่าด้วย  
   เรา : ไม่นะ!! ก็บอกแล้วงัยว่าไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย
   แฟน : ก็ดูไว้ก่อน เอาไว้ค่อยว่ากันอีกที
   เรา : (มองบน 1 ที)ได้..ไปก็ไป
   พอเข้าไปดูภายในบ้าน...มันได้เลยนะ ตรงตามที่อยากได้ ห้องนอนครบ มีพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์เยอะด้วย แล้วค่าเช่าไม่แพงมากด้วย(อันนี้เราแอบคิดว่าที่ไม่แพงเพราะ…รึเปล่า) แล้วแฟนเราก็มาบอกกับแม่ แม่เราเค้าก็โอเคนะ เราก็เลยเล่าให้แม่ฟังว่า หน้าบ้านมันอาจจะมีผีนะ แม่เราว่าเราตาขาวค่ะ แต่แม่ก็บอกว่ารู้กันแค่นี้นะ เรื่องหน้าบ้านน่ะ ไม่ต้องไปบอกป๋ากับน้องนะ  เราก็ได้..เอาก็เอา   เป็นอันว่าแฟนโทรไปหาป้าเจ้าของบ้าน  นัดทำสัญญากันวันพรุ่งนี้  หลังเลิกงาน
   พอถึงเวลามันก็เริ่มจะค่ำละเพราะป้ามาช้าค่ะ เรายืนรอกะแฟนอยู่หน้าบ้าน กลัวแสนกลัว แต่ก็แอบชำเลืองมองตรงมุมนั้นเป็นพักๆ แล้วก็แอบบ่นป้าไปด้วย พอป้ามาด้วยความที่เรากลัว เรารีบชวนป้าไปทำสัญญากันในบ้าน แต่ป้าไม่เข้าค่ะ ป้าบอกว่าเซ็นสัญญากันตรงนี้แหละป้ารีบ เราก็มัวแต่กลัวก็เลยบอกแฟนว่าให้รีบๆเซ็นซะ จะได้กลับบ้าน พอเซ็นสัญญาเสร็จ ป้าแกก็ให้กุญแจไว้ แล้วแกก็ขอตัวกลับเลยค่ะ(ลืมบอกไปค่ะ ว่าวันที่ป้าแกเปิดบ้านให้ดูแกก็ไม่เข้าบ้านนะคะ แกรออยู่หน้าบ้าน)  
   แล้วอีกวันก็ย้ายของเข้าบ้านกันเลย เราใช้เวลาขนของ ย้ายบ้านกันอยู่ 2 วันค่ะ ย้ายกันเอง เหนื่อยมากๆ เพราะเฟอร์นิเจอร์เยอะค่ะ วันนี้บ้านเช่ายังไม่เข้าที่ รกมากๆ เราเลยยังนอนที่บ้านกันอยู่ พอตอนเช้าเข้ามาจัด วันนี้เราเข้าอยู่แล้วค่ะ พอเลิกงานเราก็มาช่วยแม่จัดบ้าน จัดกันจนดึกเลยค่ะ แล้วก็เข้านอน  *น้องเรานอนห้องตรงหัวมุม(ใกล้ๆกับ3หนุ่มนั่นเลย) ห้องนี้จะวางเฟอร์ฯเยอะหน่อย*ป๋ากับแม่นอนห้องใกล้ๆน้อง*เรา+แฟน+ลูก นอนห้องกลางบ้าน* คืนแรกที่นอนกัน ไม่มีใครนอนหลับเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะแปลกที่ และรู้สึกว่าบ้านมันอึดอัด แล้วก็รำคาญเสียงพัดลมดูดอากาศบนหลังคาในห้องครัว มันจะดังแอดๆๆ ตอนกลางวันไม่ได้ยินนะคะ คงเพราะมีเสียงอื่นดังกว่า น้องเราเลยมานอนเล่นโทรศัพท์ที่ห้องรับแขกตรงหน้าห้องเรายันเช้าเลย  
   พอตอนเช้าเลยคิดกันว่า หรือว่าจะร้อน ติดแอร์ดีกว่าจะได้นอนกันได้ ก็เลยให้ช่างมาติดแอร์(มีอยู่แล้ว ถอดมาจากบ้านเก่า) แต่ก็ตกลงกันนะว่าแอร์จะเปิดกันแค่ตอนกลางคืน ถ้าเปิดทั้งวันทั้งคืนเดี๋ยวแอร์พัง + เปลืองไฟ อิอิ   
   ตอนกลางวันบ้านหลังนี้น่าอึดอัดมากๆค่ะ มันร้อน มันระอุ มันอึดอัด มันเหมือนจะอยู่ไม่ได้ ตอนแรกเรานึกว่าเราเป็นอยู่คนเดียวเพราะว่าเราท้อง แต่ไม่ใช่นะ เป็นกันหมดทุกคนค่ะ โชคดีที่บ้านนี้มีเฉลียงหน้าบ้านกว้างหน่อย ก็เลยมาอยู่กันหน้าบ้าน ครัวก็ยกกันมาทำตรงจอดรถืในบ้านเอาไว้นอนอย่างเดียวเลยจริงๆ(แปลกดีมั้ยล่ะ มีบ้านแต่อยู่ไม่ได้ ต้องมาอยู่กันนอกบ้าน)
   พอเวลานอนถึงจะเปิดแอร์ แต่ทุกคนในบ้านจะนอนกันไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่าย หรืออาจจะแปลกที่มั้ง ส่วนเราหนักเลยด้วยความที่เราท้อง เราจะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อย ตอนเราเดินไป–กลับเนี่ย เราจะรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม(ก็คิดแหละ ว่ามโนไปเองทั้งนั้น ของจริงมันอยู่หน้าบ้านนู่น) แล้วเสียงพัดลมดูดอากาศนี่ก็ชวนหลอนมากเลยนะ เราจะพยามไม่คิดไปทางเรื่องนั้นเลยนะ พยายามไม่กลัว เพราะเราคิดว่าเราต้องอยู่ที่นี่ ถ้าเราคิดมากหรือกลัว  เราจะอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ น้องเราก็เป็นนะ นางบอกว่ารู้สึกกระสับกระส่าย นอนไม่ได้ ก็เลยแก้ปัญหาด้วยการเข้างานกะดึกจ้า จะได้ไม่ต้องนอนตอนกลางคืน(ง่ายจริงชีวิตนาง) แม่ก็จะคอยบอกอยู่เรื่อยๆว่าอย่าคิดมาก แล้วเลิกมโนได้ละ
   พวกเราเริ่มจะทนทำใจกับบ้านแปลกๆ อึดอัดๆหลังนี้ได้ก็ราวๆ2 อาทิตย์ค่ะ มันเป็น2 อาทิตย์ที่ยาวนานมากๆ ทุกคนในบ้านเจอกับเรื่องแปลกๆ แต่ไม่มีใครเล่าให้กันฟังนะคะ เพราะคิดเหมือนกัน ว่ากลัวจะอยู่กันไม่ได้ พอเข้าอาทิตย์ที่3 ก็เกิดเรื่องขึ้นกับป๋าเราค่ะ (ขอเล่านิดนึงก่อนว่า ป๋าเราเกษียณแล้วค่ะ  อายุ70 ปี ไม่ได้ทำงาน ทุกวันพอกินข้าวเช้าเสร็จ ป๋าจะขับรถออกไปหาก๊วนเพื่อนๆ แล้วจะกลับเข้าบ้านประมาณบ่ายๆ แล้วก็จะเข้ามาช่วยแม่ดูแลบ้านบ้าง  ดูแลหลานบ้าง เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ *ป๋ากับแม่เราน่ารักนะคะ เค้าจะอยู่ด้วยกัน ดูแลกัน มุ้งมิ้งกันตลอดๆๆ* พอย้ายมาอยู่บ้านเช่า ป๋าก็จะออกไปหเพื่อนๆเหมือนเดิม)  
   วันนี้พอป๋ากลับมาจากก๊วนเพื่อน ก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้านตามปกติ แม่เรากับตัวเล็กอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้านค่ะ แต่ครั้งนี้ป๋าหายเข้าไปในบ้านนานมากๆ มากจนแม่นึกแปลกใจ ว่าทำไมวันนี้ป๋าเข้าไปนานจัง จะว่าเข้าไปนอนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่ามันนอนไม่ได้ แม่ก็เลยเข้าไปดูค่ะ ตอนแรกแม่หาป๋าไม่เจอ แล้วสุดท้ายแม่เปิดห้องนอนเรา(ห้องนอนเราอยู่กลางบ้าน ทึบหมดทั้ง 4 ด้านเลย) แม่เจอป๋าในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้าค่ะ พอป๋าเห็นแม่ ป๋าโผเข้ากอดเลยค่ะ แล้วก็บอกว่าขอบใจมากนะที่เปิดประตูให้ เพราะอีกเฮือกเดียวป๋าคงตายไปแล้ว
   หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ป๋าก็เล่าให้แม่ฟังว่า พอป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็จะออกมาหน้าบ้าน พอป๋าเดินผ่านห้องนอนเรา ไม่รู้ทำไมถึงเดินเข้าไป แล้วก็ปิดประตู พอปิดประตูห้องมันมืดมากๆ แล้วก็ร้อนมากๆด้วย ป๋าก็เลยหันหลังจะออกจากห้อง แต่ว่าหาทางออกจากห้องไม่ได้ มองก็ไม่เห็น  เดินคลำไปทั่วห้องก็ไม่เจอประตู เดินคลำจนหมดแรงเพราะว่าร้อนมากๆ จนทนไม่ไหว หายใจก็ไม่ออก ก็เลยถอดเสื้อผ้า แล้วก็หาทางออกจนหมดแรง คิดว่าตายแน่แล้ว เฮือกสุดท้ายนี่แหละที่แม่เปิดประตูเข้ามา ตอนเย็นพวกเรากลับมา แม่ก็เล่าให้พวกเราฟัง เรายังบอกเลยว่าจะเป็นไปได้ยังงัย ห้องนอนเราเล็กนิดเดียวเอง ขาดประมาณ 3.50x4.50 ม. เองนะ คลำรอบเดียวก็น่าจะเจอประตูละ!! พวกเราเริ่มรู้สึกแปลกๆละ แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา(แล้วจากวันนั้น จนวันนี้ป๋าเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย)
  เริ่มจากคืนนี้ อยู่ๆกลางดึก แม่ก็มาเคาะประตูเรียกเรากับแฟน ให้ออกมาดูป๋าหน่อย พอเราออกมา ภาพที่เราเห็นคือ ป๋าใส่เสื้อตัวเดียว ไม่ใส่กางเกง แบบโป๊มาเลย(เราตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นป๋าเป็นแบบนี้มาก่อน) ป๋ากำลังนั่งกินนมผงของลูกเราอยู่ค่ะ กินแบบมูมมามมากๆ เปื้อนไปหมดเลย เหมือนเด็กๆกินขนมค่ะ แม่กับเราทำอะไรไม่ถูกค่ะ แฟนเราเลยจัดการหากางเกงให้ป๋าใส่ เช็ดหน้าให้ แล้วเอาน้ำให้ป๋ากิน แล้วก็เลยถามว่า
  แฟน :  ป๋าหิวมากขนาดนั้นเลยเหรอ แย่งนมหลานกินเนี่ย(ส่งแก้วน้ำให้) เอ้ากินน้ำหน่อย ฝืดคอแย่เลย
  ป๋า : โน่นก็ไอ้คนนั้นนะซิมันชวนกิน เอาน้ำให้มันกินด้วยสิ  
พวกเราเหวอซิคะ ใครล่ะ?? ไหน?? เห็นมีใครเลย!! เราเริ่มกลัว..จากนั้นก็พากันเข้านอน เช้ามาไม่มีใครคุยกันเรื่องเมื่อคืนเลยค่ะ(พวกเราได้มาคุยกันทีหลัง  เหตุผลเดิมเลยค่ะ คือไม่มีใครอยากจุดประเด็น กลัวจะอยู่กันไม่ได้)  
  ***เดี๋ยวมาต่อค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่