อายุ34 ชีวิตพังจนป่วยเป็นโรคทางจิตและเก็บตัวในบ้านมา2ปี ตอนนี้คิดว่าดีขึ้น อยากกลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง เพราะมีหนี้สิน เกิดจากค่าใช้จ่ายช่วงป่วย จนวงเงินเต็มไปบัตรนึงแล้ว มีหนี้กยศ.
เรียนจบตรีสาขาธรรมดา ไม่ได้จบสาขาที่มีความสามารถเฉพาะทาง เคยทำงานออฟฟิสตำแหน่งทั่วๆไป และงานที่เน้นการบริการ เพราะเป็นคนหน้ายิ้มและบุคลิกดูเป็นมิตร มักถูกวางให้เป็นคนคอยดูแลลูกค้าเสมอ ความสามารถภาษาอังกฤษพอสื่อสารเบื้องต้นได้ ไม่ถนัดงานขาย (เคยลองทำแล้วพังมาก เกรงใจจนไม่กล้าขาย ไม่กล้าวิ่งหาลูกค้า และเกรงใจจนเครียด แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ขายตัวเองอยู่แล้ว มีลูกค้าเป็นฝ่ายเดินเข้ามา จะทำได้ดีในแง่บริการและให้ข้อมูล)
หรืออีกทาง ควรทำงานอยู่บ้านคะ
ก่อนป่วย จขกท.จ้างช่างมาซ่อมบ้านและทำร้านที่บ้าน แต่ช่างทำงานไม่ถึง50%ถูกโกงและเงินที่เตรียมไว้ทำธุรกิจก็หมดแล้ว
-ตอนนี้มีพื้นที่หน้าบ้านส่วนที่คิดว่าจะทำร้าน24ตรว. กั้นทำร้านไว้แล้ว นับเป็นทำเลดีในหมู่บ้านค่ะ
(จะทำไปรษณีย์เอกชนและขายตั๋วเครื่องบิน และขายเครื่องดื่มพวกชา น้ำปั่น ซื้อวัตถุดิบไว้แล้ว แต่พวกเครื่องปั่น ยังไม่ได้ซื้อค่ะ)
-มีเค้าท์เตอร์2ชุดที่ขึ้นโครงกับทางสีรองพื้นไปแล้ว(มีปัญหา หาช่างมาทำต่อไม่ได้เลยค่ะ หามาตลอด2ปี)
-ปูกระเบื้องร้าน ติดประตูร้านแล้ว(เป็นกระจก ยังไม่มีตัวล็อกประตู) มีเท่านี้ค่ะ แอร์ เก้าอี้ ตบแต่ง ยังไม่มีเลยค่ะ สีก็ยังไม่ทา
-เรื่องจดทะเบียน ใบอนุญาติ หรือการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋ว ยังไม่ได้เริ่มซักอย่าง และไม่แน่ใจว่าต้องใช้เงินเยอะไหมในขั้นตอน3อย่างนี้
ปัญหาคือเงินลงทุน สามีเสนอจะกู้ให้ แต่คิดว่าน่าจะได้ไม่มากค่ะ เพราะรถยนต์ยังผ่อนอยู่ เอาบ้านค้ำไม่ได้ค่ะ แม่จขกท.เอาโฉนดไปกู้นอกระบบเสียแล้ว (ท่านใดพอจะทราบคร่าวๆรึเปล่าคะ ว่าจะะกู้ได้ราวๆเท่าใด สามีฐานเงิน2หมื่น ผ่อนรถ7500/เดือน ควรกู้ประเภทใดคะ)
ใจ อยากทำงานที่บ้านค่ะ แต่ติดปัญหาเงินอีก จะไปทำงานก็กลัวเขาไม่รับ กลัวการเดินเข้าไปสมัครงานมาก กลัวการถูกปฏิเสธจะทำให้ตัวเองรู้สึกเครียดและด้อยค่าจนกลับไปป่วยมากๆอีก ไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว เลยมาปรึกษาที่นี่ก่อนค่ะ
ขอถามว่า..
1. จากอายุและอาการป่วย(ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่หาย รักษาต่อเนื่อง) จะทำให้ถูกปฏิเสธ ไม่รับเข้าทำงานไหมคะ
2. หากถูกถามว่าไม่ได้ทำงาน2ปีทำอะไร ควรตอบอย่างไรคะ
3. ถ้าแนะให้ จขกท.ค้าขายที่บ้าน จขกท.ควรเริ่มจากอะไรก่อนคะ
..คำถามมันอาจดูโง่มาก บางท่านอาจจะคิดว่า เท่านี้คิดไม่ได้เหรอ คิดไม่ออกเหรอ...เราคิดไม่ออกจริงๆค่ะ เราไม่รู้เป็นอะไรไป ตั้งแต่ป่วยแบบนี้ มันก็เหมือนเราโง่ลงและคิดอะไรไม่ออกเลย ความสับสนก็มากขึ้น อยากได้คนชี้แนะจริงๆ รบกวนทุกท่านนะคะ
อายุ34 รักษาโรคทางจิตอยู่ ไม่ได้ทำงานมา2ปี ยังหางานได้ไหม หรือควรค้าขายอยู่บ้าน รบกวนทุกท่าน..อยากขอความคิดเห็น
เรียนจบตรีสาขาธรรมดา ไม่ได้จบสาขาที่มีความสามารถเฉพาะทาง เคยทำงานออฟฟิสตำแหน่งทั่วๆไป และงานที่เน้นการบริการ เพราะเป็นคนหน้ายิ้มและบุคลิกดูเป็นมิตร มักถูกวางให้เป็นคนคอยดูแลลูกค้าเสมอ ความสามารถภาษาอังกฤษพอสื่อสารเบื้องต้นได้ ไม่ถนัดงานขาย (เคยลองทำแล้วพังมาก เกรงใจจนไม่กล้าขาย ไม่กล้าวิ่งหาลูกค้า และเกรงใจจนเครียด แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ขายตัวเองอยู่แล้ว มีลูกค้าเป็นฝ่ายเดินเข้ามา จะทำได้ดีในแง่บริการและให้ข้อมูล)
หรืออีกทาง ควรทำงานอยู่บ้านคะ
ก่อนป่วย จขกท.จ้างช่างมาซ่อมบ้านและทำร้านที่บ้าน แต่ช่างทำงานไม่ถึง50%ถูกโกงและเงินที่เตรียมไว้ทำธุรกิจก็หมดแล้ว
-ตอนนี้มีพื้นที่หน้าบ้านส่วนที่คิดว่าจะทำร้าน24ตรว. กั้นทำร้านไว้แล้ว นับเป็นทำเลดีในหมู่บ้านค่ะ
(จะทำไปรษณีย์เอกชนและขายตั๋วเครื่องบิน และขายเครื่องดื่มพวกชา น้ำปั่น ซื้อวัตถุดิบไว้แล้ว แต่พวกเครื่องปั่น ยังไม่ได้ซื้อค่ะ)
-มีเค้าท์เตอร์2ชุดที่ขึ้นโครงกับทางสีรองพื้นไปแล้ว(มีปัญหา หาช่างมาทำต่อไม่ได้เลยค่ะ หามาตลอด2ปี)
-ปูกระเบื้องร้าน ติดประตูร้านแล้ว(เป็นกระจก ยังไม่มีตัวล็อกประตู) มีเท่านี้ค่ะ แอร์ เก้าอี้ ตบแต่ง ยังไม่มีเลยค่ะ สีก็ยังไม่ทา
-เรื่องจดทะเบียน ใบอนุญาติ หรือการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋ว ยังไม่ได้เริ่มซักอย่าง และไม่แน่ใจว่าต้องใช้เงินเยอะไหมในขั้นตอน3อย่างนี้
ปัญหาคือเงินลงทุน สามีเสนอจะกู้ให้ แต่คิดว่าน่าจะได้ไม่มากค่ะ เพราะรถยนต์ยังผ่อนอยู่ เอาบ้านค้ำไม่ได้ค่ะ แม่จขกท.เอาโฉนดไปกู้นอกระบบเสียแล้ว (ท่านใดพอจะทราบคร่าวๆรึเปล่าคะ ว่าจะะกู้ได้ราวๆเท่าใด สามีฐานเงิน2หมื่น ผ่อนรถ7500/เดือน ควรกู้ประเภทใดคะ)
ใจ อยากทำงานที่บ้านค่ะ แต่ติดปัญหาเงินอีก จะไปทำงานก็กลัวเขาไม่รับ กลัวการเดินเข้าไปสมัครงานมาก กลัวการถูกปฏิเสธจะทำให้ตัวเองรู้สึกเครียดและด้อยค่าจนกลับไปป่วยมากๆอีก ไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว เลยมาปรึกษาที่นี่ก่อนค่ะ
ขอถามว่า..
1. จากอายุและอาการป่วย(ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่หาย รักษาต่อเนื่อง) จะทำให้ถูกปฏิเสธ ไม่รับเข้าทำงานไหมคะ
2. หากถูกถามว่าไม่ได้ทำงาน2ปีทำอะไร ควรตอบอย่างไรคะ
3. ถ้าแนะให้ จขกท.ค้าขายที่บ้าน จขกท.ควรเริ่มจากอะไรก่อนคะ
..คำถามมันอาจดูโง่มาก บางท่านอาจจะคิดว่า เท่านี้คิดไม่ได้เหรอ คิดไม่ออกเหรอ...เราคิดไม่ออกจริงๆค่ะ เราไม่รู้เป็นอะไรไป ตั้งแต่ป่วยแบบนี้ มันก็เหมือนเราโง่ลงและคิดอะไรไม่ออกเลย ความสับสนก็มากขึ้น อยากได้คนชี้แนะจริงๆ รบกวนทุกท่านนะคะ