หนักใจมาก ที่บ้านมีปัญหาด้านการเงินเเม่เราเลยให้สามีเรากู้ซื้อบ้านเราเอง เพื่อเอาเงินที่กู้ได้มาใช้ค่าใช้จ่ายต่างๆ
เริ่มเลยเราขอเล่าในส่วนของที่บ้านก่อนนะคะ บ้านเราค้าขาย เเต่ก่อนค้าขายดีเเต่มีปัญหาเดือนชนเดือนเเทบตลอดก่อนจะมาเจอโควิดก็มีสถานการณ์ที่บ้านอย่างนี้ ที่บ้านชอบขยันหาเงินเเต่ใช้เงินเยอะถือสโลแกน ยิ่งเป็นหนี้ยิ้งมีทรัพย์สิน เเต่เราผู้เป็นลูกดูออกเลยว่าผ่อนไม่ไหวขนาดตอนที่เศรษฐกิจดีๆเราก้เห็นคือเริ่มเดือนชนเดือน เขามักโทษว่าเราเรียนสูง ป.ตรี เราเป็นเด็กไม่มีสังคม ไม่มีเพื่อนเยอะ ไม่ใช้เงินเยอะ เจียมตัวเองว่ารู้อยู่ที่บ้านเป็นยังไง บางเดือนตอนเรียนเราก้ได้ค่ากินอาทิตย์ละ 300-500 เเต่เราโชคดีที่มีเเฟนช่วยเรื่องค่าหอค่ากินในช่วงหลังประมาณปี2-4เราพยายามทำให้ที่บ้านสบายใจว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเราขอตังเเฟนเอง เรารู้สึกผิดที่เราเรียนทำให้ถ่วงพ่อเเม่ ตอนนี้เราเรียนจบมา1ปี ยังหางานทำไม่ได้ เเต่งงานเเล้วกะเเฟนๆอยู่บ้านตัวเอง เราอยู่บ้านเรา เเฟนทำงานประจำ ตอนนี้เราทำค้าขายอยู่กับที่บ้าน เเต่เราลงทุนทุกอย่างเองโดยใช้ตังเเฟนเเค่อาศัยอยู่ด้วยกันเหมือนลูกที่อยู่บ้านพ่อเเม่ พ่อเเม่เราบอกก็ทำอยู่ด้วยกันไปก่อนกับพ่อเเม่ จะได้ช่วยขยายค้าขายไปเรื่อยๆเพราะในบ้านมีคนขับรถเป็นคนเดียว เราต้องช่วยในส่วนงานของพ่อเเม่ด้วย เเละทำของเราด้วย เเต่ที่เราเริ่มรู้สึกไม่ไหวคือเงินในส่วนของเราทั้งหมดต้องไปรองรับค่าใช้จ่ายที่บ้าน ค่าบ้าน ค่ารถ 2 คัน รถคันเเรกของพ่อ รถคัน 2 เขาบอกออกให้เราเพราะเราเรียนจบเราไปทำงานบริษัทก่อนตอนเเรกเเต่เราก็ทวงเขานะก่อนจะออกรถ ว่าออกมาทำไม เงินเดือน 15,000 พ่อเเม่คิดว่าจะพอค่าใช้จ่ายหนูด้วย หรอ เขาตอบว่าเดี๋ยวช่วย เราก้เเล้วเเต่ เเต่เขาไม่ได้ออกให้ชื่อเรานะรถยังเป็นของเขาอยู่ เเต่เเค่ให้เราผ่อนกะเเฟนช่วยกัน เเล้วตอนนั้นเราก้รู้ว่าการเงินที่บ้านไม่ดีด้วย เราก้เคยเถียงเขาว่าคนอื่นไม่มีรถเขาก้หาวิธีไปได้ไม่จำเป็นต้องออกรถให้หนู เราก็ช่าง
เราก้ทำงานส่งค่ารถส่ง ถือว่าช่วยเขา จนตอนนี้เราว่าเรากะเเฟนไม่ไหวเเล้ว เพราะต้องช่วยส่งทุกอย่าง เเฟนทำงานมีเงินเขารู้ว่าเรามีเงินเขาก้หยิบยืมเเละก้ไม่คืนเราก้ไม่ว่า ตอนนี้เราขายของเซ็งที่ของตัวเองเขาเอารายได้ทั้งหมดของเรากะเเฟน เงินเก็บเรา รวมถือเป็นของบ้านเรา เราก้พยายามเป็นลูกที่เข้าใจ ว่าเออไม่เป็นไรก็ถือว่าต่อทุนให้เขาๆได้มีเงิน เพราะก็น่าจะผิดที่เราที่อยู่บ้านเดียวกะเขา อีกอย่างคือเราทำงานไม่มีวันหยุดนะคะเพราะเราอยู่บ้านเขาเเฟนเราวันว่างก้มาช่วยเขาขายของ จะได้หยุดต่อเมื่อเขาอยากหยุด ถ้าหยุดเองจะไปไหนกันจะโกรธเพราะว่าเขาไม่มีคนช่วย พ่อเเม่เรามีพี่สาวก้จิงอยู่บ้านเดียวกัน เเต่ก้ช่วยไม่ได้มากทำได้เเค่งานบ้านอายุ28 ไม่เคยทำงานสักงาน เเล้วที่เราว่าเราไม่ไหวจิงๆคือ เขาบอกให้สามีเรากู้เพื่อซื้อบ้านเราทั้งที่ยังไม่คิดจะเเพลนซื้อไรเลย เราเป็นลูกเราอยากช่วย เเต่เขาให้เหตุผลว่าเพราะอาศัยอยู่บ้านกู ถ้าจะไม่ต้องทำเรื่องนี้คือกะผัวต้องออกไปอยู่ถึงจะได้ไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เพราะผัวก้คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหรอกเพราะเมียมันยังอยู่บ้านนี้ เราเลยเเบบสตั้นเลย ก่อนที่เขาจะพูดเเบบนี้คือเราเเละสามีเราได้ดำเนินเรื่องช่วยอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราอาศัยหรือไม่อาศัยเเต่อยากช่วยเพราะเป็นลูกคนนึงเพราะสามีเราก้ไม่สบายใจก็อยากช่วยเราเพราะเราอยากช่วยเเม่ เราเลยใจเด็ดเดี่ยวคือเราบอกเขาว่าจะเเยกอยู่นะ จะออกไปหางานทำข้างนอกที่ๆหนูเซ็งมาอะไรก้ตาม ขับรถก้ฝึกหัดขับ ให้พี่สาวช่วยทำงานที่ทำไม่เป็นไม่เคยช่วยทำกันเอานะ หนูต้องเเยกไปเเล้วเพราะวันใดวันนึงหนูก้คงต้องเเยกอยู่ดี ส่วนเรื่องกู้บ้านตัวเองเดี๋ยวทำให้ เพราะเป็นสิ่งที่เราจะทำให้ครั้งสุดท้ายเเล้ว เราจะกู้ซื้อบ้านเราได้3ล้าน เราเอาเงินให้พ่อเเม่หมดเลยไปตั้งตัว เเล้วเราจะเเยกออกมา เพราะว่าเขามักพูดว่าที่กู้เพราะเมียมาอยู่บ้านกู ต้องมีส่วนช่วยรับผิดชอบทั้งที่เรามองว่าเราอยากช่วยเพราะเราเป็นลูก เราเสียใจมาก เราทั้งเครียดทั้งอะไรหลายๆอย่าง เราไม่รู้ว่าเขาให้ทำเรื่องเขาจะผ่อนตามที่เขาพูดรึป่าว ไม่รู้ด้วยว่าเงินที่ให้ไปไม่เอาเลย3ล้านจากการกู้ของสามีจะเอาไปทำอะไรบ้าง ที่เขาพูดว่าจะเอาไปลงทุนอะไรบ้างตามที่เขาบอกรึป่าว เพราะกู้ว่าเขาก้ให้สามีเราทำพินัยกรรมว่าบ้านเป็นชื่อพี่เรา เเละเราตอนนี้ก้กลายเป็นคนผิดที่เราจะเเยกเพราะเขาเตรียมอะไรไม่ทันเพราะที่ผ่านมาเราช่วยเเทบทุกอย่าง เราเลยไม่รู้ว่าที่ทำงี้ไปผิดรึถูก หรือเราเเย่ เเต่เราไม่ไหวในส่วนที่เขาพูดเเบบนั้นด้วยเหมือนทั้งหมดเราเดือดร้อนเขาเเต่เราก้คิดนะน่าจะใช่ เเฟนเราก้เริ่มไม่ไหวด้วยที่บ้านเราพูดเเละทำเเบบนี่เพราะเขาชอบพูดให้ไม่มีทางเลือกเลยเช่น ถ้าไม่ช่วยมันเนรคุณ ไม่ช่วยก้ควรหาผัวใหม่ ถ้าเราไม่ช่วยก้ออกจากบ้านไป เเละก้ชอบทำเมินถ้าเราถามจะโกรธทันที่ว่าถามงี้ทำไมไม่อยากช่วยหรอ. ซึ่งเราถามว่าเเล้วหนูจะสามารถซื้อบ้านหนูได้เองมั้ย เเม่บอกได้เเต่ผัวต้องเงินเดือนเยอะๆมาก หรือเราต้องทำงานได้เงินเยอะถึงจะซื้อบ้านได้ เพราะกู้อันนี้ไปเเล้ว เเล้วเขาก้ชอบมาบอกวาดฝันว่าเนี่ยเดี๋ยวผ่านเรื่องนี้นะก้เเยกออกไปได้เงินเก็บมากขึ้นก้อยู่ด้วยกัน บ้านก้จะโป๊ะให้หมดเร็วๆ เเต่เราไม่อยากเชื่ออีกเเล้ว ถ้าเเม่เราคิดจะโป๊ะบ้านโป๊ะนานเเล้วเพราะได้เงินเดือน2-3เเสนมันสามารถ เเต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม เหมือนเขาพูดเพื่อให้เราอยู่ เเต่เรายอมถ้าออกไปทำงานข้างนอกเราไม่ได้อยู่กับที่บ้านเราสบายจิต ใจ มากเพราะช่วงหลังเราเป็นซึมเศร้ามันเหมือนเรื่องทั้งหมด เกิดจากเรา (เอ่อพี่สาวเราเรียน8ปี) เราจบภายใน4ปีนะ เเต่เรารู้สึกว่าตอนนี้เราช่วยได้ดีที่สุดของเด็กเท่านี้ บอกเราที่เราเเยกออกไปอยู่ดีเเล้วใช่มั้ย เราเป็นลูกที่ไม่ดีหรอ? เราสับสน เราทำอะไรก็ดูต้องตามที่บ้าน ทั้งตัวเราเเละสามี ขอบคุณนะคะสำหรับคำเเนะนำล่วงหน้า เราไม่รู้เลยว่าเดินไปทางไหนดีทางที่ตัวเองคิดว่าถูกหรือทางที่พ่อเเม่พูดไว้
หนักใจมาก ที่บ้านมีปัญหาด้านการเงินเเม่เราเลยให้สามีเรากู้ซื้อบ้านเราเอง เพื่อเอาเงินที่กู้ได้มาใช้ค่าใช้จ่ายต่างๆ