มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "โกหกเพียง 10 ครั้ง ก็สามารถทำให้เรื่องโกหกนั้นเป็นจริงได้"
NGO ทุกวันนี้กำลัง "พัฒนา" หรือ "ถ่วง" ประเทศไทยกันแน่ หาก NGO เหล่านี้มีความโปร่งใสจริง ก็ควรที่จะเปิดเผยรายรับ และแหล่งที่มาของรายได้ว่ามาจากที่ใด แต่ความจริงที่ว่า NGO เหล่านี้จะไม่มีระบบการเงินที่ชัดเจน เงินไหลเข้า แล้วไหลออกไปเข้ากระเป๋าใคร ก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ หากเรายิ่งช่วย NGO เหล่านี้ กลับเป็นการสร้างบาปให้ตัวเอง และประเทศชาติโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเราสังเกตให้ดี จะพบว่า พวกหัวหน้า NGO ต่าง ๆ เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง พอตัวเองมีชื่อเสียงก็จะขยับไปเล่นการเมือง จากการเมืองท้องถิ่น จนถึงการเมืองในระดับชาติ
NGO มักชอบขายความกลัว นำความไม่รู้ ความสงสาร และอันตรายต่าง ๆ มาขู่ให้คนเกิดความวิตกกังวล เพื่อให้คนเห็นด้วย และชักจูงให้ออกมาร่วมรณรงค์ จนลุกลามไปถึงการก่อประท้วงโครงการต่างๆ ในที่สุด
อย่างเช่น กรณีเขื่อนแม่วงก์ ที่คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ต้องการให้มีการสร้างเขื่อน แต่คนกรุงเทพโลกสวยไม่ต้องการให้สร้าง เพราะสงสารสัตว์ สงสารธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องผืนป่าที่เหลือ เก็บไว้ให้ลูกหลาน คำพูดสวยหรู ที่ถูกกลุ่ม NGO กรอกหู ด้วยสโลแกน "ป่าให้น้ำ น้ำให้ชีวิต" หรือ "เขื่อนที่เก็บน้ำชั่วคราว ป่าเก็บน้ำถาวร" ขวางการสร้างเขื่อนแม่วงก์ไปในที่สุด แต่ไม่มองย้อนกลับไปถึงคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ที่ต้องอยู่กับความจริงถึงภัยแล้ง และน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ชาวบ้านต้องอดทนให้คนส่วนน้อยที่อยู่นอกพื้นที่ได้สุขสบาย มีไฟฟ้า มีน้ำใช้อย่างสะดวกสบาย
แล้วคนกลุ่มนี้ ก็ยังเป็นกลุ่มคนที่จะต้องรอต่อไป เมื่อไหร่พวกเขา และครอบครัวถึงจะได้ลืมตาอ้าปาก มีความสุขสบายเหมือนคนในเมืองกรุงบ้างซะที
ประเทศไทยต้องเดินหน้า ... หยุด !!! การคัดค้านที่ไม่มีเหตุผล
... โกหกเพียง 10 ครั้ง สามารถทำให้เป็นเรื่องจริงได้ ...
NGO ทุกวันนี้กำลัง "พัฒนา" หรือ "ถ่วง" ประเทศไทยกันแน่ หาก NGO เหล่านี้มีความโปร่งใสจริง ก็ควรที่จะเปิดเผยรายรับ และแหล่งที่มาของรายได้ว่ามาจากที่ใด แต่ความจริงที่ว่า NGO เหล่านี้จะไม่มีระบบการเงินที่ชัดเจน เงินไหลเข้า แล้วไหลออกไปเข้ากระเป๋าใคร ก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ หากเรายิ่งช่วย NGO เหล่านี้ กลับเป็นการสร้างบาปให้ตัวเอง และประเทศชาติโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเราสังเกตให้ดี จะพบว่า พวกหัวหน้า NGO ต่าง ๆ เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง พอตัวเองมีชื่อเสียงก็จะขยับไปเล่นการเมือง จากการเมืองท้องถิ่น จนถึงการเมืองในระดับชาติ
NGO มักชอบขายความกลัว นำความไม่รู้ ความสงสาร และอันตรายต่าง ๆ มาขู่ให้คนเกิดความวิตกกังวล เพื่อให้คนเห็นด้วย และชักจูงให้ออกมาร่วมรณรงค์ จนลุกลามไปถึงการก่อประท้วงโครงการต่างๆ ในที่สุด
อย่างเช่น กรณีเขื่อนแม่วงก์ ที่คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ต้องการให้มีการสร้างเขื่อน แต่คนกรุงเทพโลกสวยไม่ต้องการให้สร้าง เพราะสงสารสัตว์ สงสารธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องผืนป่าที่เหลือ เก็บไว้ให้ลูกหลาน คำพูดสวยหรู ที่ถูกกลุ่ม NGO กรอกหู ด้วยสโลแกน "ป่าให้น้ำ น้ำให้ชีวิต" หรือ "เขื่อนที่เก็บน้ำชั่วคราว ป่าเก็บน้ำถาวร" ขวางการสร้างเขื่อนแม่วงก์ไปในที่สุด แต่ไม่มองย้อนกลับไปถึงคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ที่ต้องอยู่กับความจริงถึงภัยแล้ง และน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ชาวบ้านต้องอดทนให้คนส่วนน้อยที่อยู่นอกพื้นที่ได้สุขสบาย มีไฟฟ้า มีน้ำใช้อย่างสะดวกสบาย
แล้วคนกลุ่มนี้ ก็ยังเป็นกลุ่มคนที่จะต้องรอต่อไป เมื่อไหร่พวกเขา และครอบครัวถึงจะได้ลืมตาอ้าปาก มีความสุขสบายเหมือนคนในเมืองกรุงบ้างซะที