สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
หลายคนบอกว่า ก็ย้ายสัตว์ป่าที่อยู่ตรงนั้นไปที่อื่นสิ
พูดน่ะมันง่ายครับ เราเคยทำแบบนั้นมาแล้วที่เขื่อนเชี่ยวหลาน
ใข่ครับ คราวที่หัวหน้าสืบไปเป็นหัวหน้าชุดดำเนินการอพยพสัตว์ป่านั่นแหละ
สัตว์ป่าจำนวนมากหนีน้ำไม่ทันครับ สัตว์ป่าหลายชนิดไม่ใช่จะหนีไปไหนกันง่ายๆนะครับ เขาไม่ได้เข้าใจว่าน้ำที่มามันจะท่วมถาวร เขาเป็นประเภทอยู่ติดถิ่น เขาก็อยู่แต่ตรงนั้นไม่ไปไหน ผลที่เจอก็คือไปค้างอยู่บนต้นไม้ครับ เมื่อน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาจะกินอะไรเมื่อไปติดอยู่บนยอดไม้ ถ้าน้ำถึงยอดไม้แล้วเขาว่ายน้ำไม่เป็นเขาจะหนีจากตรงนั้นอย่างไร ถ้าไปช่วยไม่ทันก็ตายครับ คราวนั้นก็มีจำนวนไม่น้อยที่เกิดกรณีที่กล่าวมาและไปช่วยไม่ทัน เขาก็จมน้ำตาย
อีกจำนวนหนึ่งช่วยมาได้แล้วก็เสียขวัญ เอามาขังกรงก็สุขภาพทรุด อ่อนแอ ป่วยตายไปในที่สุดครับ เขาเกิดและโตในป่า เขาไม่ใช่เกิดและโตในกรง เขาปรับตัวไม่ได้ เขาก็อยู่ไม่ได้
อีกจำนวนหนึ่งช่วยมาได้แล้ว ฟื้นฟูได้แล้ว เอาไปปล่อยป่ารอบๆเขื่อนเชียวหลาน ผลที่เกิด บางตัวพยายามว่ายน้ำกลับไปที่ถิ่นอาศัยเดิม ว่ายไม่ไหวหมดแรงจมน้ำตายอยู่ในเขื่อน
ทั้งหมดสรุปได้ว่าการดำเนินการขนย้ายสัตว์ป่าในพื้นที่น้ำท่วมเขื่อนนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ความสูญเสียมีมากกว่าจะรับได้ครับ
พูดน่ะมันง่ายครับ เราเคยทำแบบนั้นมาแล้วที่เขื่อนเชี่ยวหลาน
ใข่ครับ คราวที่หัวหน้าสืบไปเป็นหัวหน้าชุดดำเนินการอพยพสัตว์ป่านั่นแหละ
สัตว์ป่าจำนวนมากหนีน้ำไม่ทันครับ สัตว์ป่าหลายชนิดไม่ใช่จะหนีไปไหนกันง่ายๆนะครับ เขาไม่ได้เข้าใจว่าน้ำที่มามันจะท่วมถาวร เขาเป็นประเภทอยู่ติดถิ่น เขาก็อยู่แต่ตรงนั้นไม่ไปไหน ผลที่เจอก็คือไปค้างอยู่บนต้นไม้ครับ เมื่อน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาจะกินอะไรเมื่อไปติดอยู่บนยอดไม้ ถ้าน้ำถึงยอดไม้แล้วเขาว่ายน้ำไม่เป็นเขาจะหนีจากตรงนั้นอย่างไร ถ้าไปช่วยไม่ทันก็ตายครับ คราวนั้นก็มีจำนวนไม่น้อยที่เกิดกรณีที่กล่าวมาและไปช่วยไม่ทัน เขาก็จมน้ำตาย
อีกจำนวนหนึ่งช่วยมาได้แล้วก็เสียขวัญ เอามาขังกรงก็สุขภาพทรุด อ่อนแอ ป่วยตายไปในที่สุดครับ เขาเกิดและโตในป่า เขาไม่ใช่เกิดและโตในกรง เขาปรับตัวไม่ได้ เขาก็อยู่ไม่ได้
อีกจำนวนหนึ่งช่วยมาได้แล้ว ฟื้นฟูได้แล้ว เอาไปปล่อยป่ารอบๆเขื่อนเชียวหลาน ผลที่เกิด บางตัวพยายามว่ายน้ำกลับไปที่ถิ่นอาศัยเดิม ว่ายไม่ไหวหมดแรงจมน้ำตายอยู่ในเขื่อน
ทั้งหมดสรุปได้ว่าการดำเนินการขนย้ายสัตว์ป่าในพื้นที่น้ำท่วมเขื่อนนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ความสูญเสียมีมากกว่าจะรับได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
เราควรจะสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือไม่(มีคลิปประกอบคำถาม กรุณาดูให้จบแล้วแล้วค่อยพิจารณา)
ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่คนกลุ่มหนึ่งในสังคมเห็นว่าไม่ควรสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์
อยากให้เพื่อนๆเปิดใจฟังนักอนุรักษ์กันบ้าง อย่าเอาแต่คิดว่าNGOเป็นพวกถ่วงความเจริญเลย ถ้าไม่มีNGOหลายๆกลุ่ม อุทยานแห่งชาติที่คุณได้ไปเที่ยวในวันหยุดหลายๆแห่ง มันจะไม่อยู่ในสภาพเช่นทุกวันนี้หรอก
หลายคนบอกว่า NGO ไม่เห็นทำอะไร แต่เขาเหล่านั้นเข้าใจธรรมชาติการทำงานของNGOกันแค่ไหน ยกตัวอย่างมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการค้านเขื่อนแม่วงก์ในเวลานี้ นอกจากเวลาที่ไม่เป็นข่าว เขาก็ลงทำงานกันทั้งงานภาคสนามในพื้นที่ ทั้งงานวิจัย งานวิชาการ งานที่ทำหลายงานอยู่ในป่า ไม่ใช่สถานที่ๆจะมีสาธารณชนที่ไหนไปพบเห็น และเท่าที่ผมได้สัมผัส ทุกคนมีความรู้ความสามารถที่จะหางานที่มีรายได้ดีกว่านี้ สวัสดิการดีกว่านี้ แต่เขายืนหยัดทำเพื่อสิ่งใด หากคุณได้มาสัมผัสกับพวกเขา คุณจะเข้าใจ ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีการตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมกรรมของหัวหน้าสืบในวันนั้น และไม่มีมูลนิธิสืบฯ มาสานต่องานของหัวหน้าสืบมาจนถึงทุกวันนี้ ผืนป่าตะวันตกเราจะถูกทำลายไปเยอะกว่านี้มากมาย
ถ้าเราไม่ช่วยกันรักษาไว้ ต่อไปในอนาคตเมื่อความหลากหลายทางชีวภาพถูกทำลายลง ผมไม่เชื่อว่าลำพังเผ่าพันธุ์มนุษย์จะรอดอยู่บนโลกนี้ได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาอาศัยกัน มันมีวงจรของมันเอง แต่เรากำลังจะทำลายวงจรนั้นด้วยมือเรา ด้วยข้ออ้างว่า"เพื่อการพัฒนา" เปรียบดังนกบางชนิดดื่มกินน้ำหวานจากดอกไม้ ในขณะเดียวกันดอกไม้ก็ได้ประโยชน์เพราะปากของนกที่ดูดน้ำหวานนั้นก็เปื้อนเกสรดอกไม้ เมื่อนกไปดูดน้ำหวานที่ดอกอื่น ก็จะเกิดการผสมเกสรกัน ในธรรมชาติสรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพันกันในทำนองนี้ทั้งสิ้น เรารู้ทั้งรู้ว่าผืนป่าเป็นที่ดูดซับความชุ่มชื้นและปล่อยออกมาเป็นสายน้ำตลอดทั้งปี แต่เราก็ยังคิดจะเอาพื้นที่ป่าที่เหลืออยู่น้อยนิดมากักเก็บน้ำ ถ้าเรายังไม่ปรับพฤติกรรมการบริโภคทรัพยากรน้ำ มันก็จะเกิดวงจรรุกป่ามาทำเขื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง ป่าที่เหลือ ไม่มีความชุ่มชื้นพอจะดูดซับน้ำฝนที่ตกลงมาไว้ได้แล้ว แล้วจะเอาน้ำจากไหนมาให้เก็บในเขื่อน???
เราพัฒนาได้ แต่ควรอยู่บนขอบเขตที่ให้ความเคารพต่อชีวิตอื่นๆที่อาศัยร่วมโลกกับเราด้วย