จากเหตุการณ์ นกตีกันจนเกิดเหตุไฟไหม้ที่เป็นข่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในศุกร์วันที่ 16 มิ.ย. 60 นั้นผมจะเล่าในมุมมองเจ้าของบ้านนะครับ
1.พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ทางเจ้าของบ้านได้เข้าไปติดต่อ กรมธนารักษ์ เจ้าหน้าที่แนะนำว่า พื้นที่เป็นที่ราชพัสดุ แต่ตัวอาคารเป็นของเจ้าของเอง หากเกิดไฟไหม้จากไฟฟ้า ที่ราชพัสดุคุ้มครอง แต่หากเกิดจากทางสายเคเบิลสายโทรศัพท์ จะไม่คุ้มครอง ซึ่งสายไฟเดินผ่านใต้ระเบียงอาคาร แต่บริเวณที่เกิดเหตุ เป็นของผู้ให้บิรการโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และเคเบิลทีวี ซึ่งขึ้นมาต่อยืดติดกับตัวอาคารโดยไม่แจ้งเจ้าของบ้านหรือขออนุญาติแต่อย่างใด
2.เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเคเบิลทีวี เข้ามาซ่อมแซม โดยทางเจ้าของบ้านแจ้งให้ย้ายออกจากตัวอาคารด้วย แต่ทางเคเบิลทีวีไม่ฟังยังคงทำต่อ จนแม่เจ้าของบ้านไม่พอใจตะโกนด่าจนเจ้าหน้าที่ต้องเอาออกไป และเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเข้ามาดำเนินการซ่อมแซม ทางเจ้าของบ้านก็แจ้งไปเช่นกัน แต่คำตอบที่ได้รับคือ "ไม่เอาออก หากอยากให้เอาออก ก็ไปฟ้องเอา"
3.เจ้าของบ้านโทรไปร้องเรียนที่ทางcall centerแต่ก็ไม่มีการแก้ไขใดๆ
4.ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. 60 ขณะเจ้าของบ้านหลับอยู่ เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตดังกล่าว ได้ปีนมาทำการต่อสายซ่อมแซมอีกครั้ง โดยไม่ได้ขออนุญาติเจ้าของบ้านแต่อย่างใด พร้อมทั้งทิ้งสายไฟจากการต่อไว้บริเวณหน้าบ้าน

ทางเจ้าของบ้านได้โทรไปร้องเรียนอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีการแก้ไขเก็บกวด หรือรื้อถอนออกแต่อย่างใด
และในเช้าวันนี้(23มิ.ย.60) ทางเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์รายเดิม ขึ้นมาปีนหน้าบ้านอีกครั้งโดยไม่ขออนุญาติแต่ประการใด เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูก็รีบเก็บของกลับไปไม่บอกไม่กล่าวพร้อมทิ้งเศษต่างๆไว้บริเวณระเบียง ตามภาพนะครับ




ปล. เจ้าของบ้านไม่ได้อยากได้อะไรแค่อยากได้ความปลอดภัย สายไฟดังกล่าวยึดกับตัวอาคารและเป็นบริเวณห้องนอน และในการกระทำที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดกับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตชั้นนำของประเทศแบบนี้นะครับ