7 days in Thailand of Korean guy

อยากจะเขียนเรื่องนี้เพื่อขอบคุณ...
อยากจะเขียนเรื่องนี้ไว้เป็นความทรงจำ...
แล้วก็อยากจะเขียนไว้อ่านเอง55555

ก่อนอื่นอยากจะบอกจุดประสงค์ก่อนเราเขียนเรื่องนี้ เพราะเรารู้สึกประทับใจและผูกพันธ์กับครอบครัวหนึ่ง
กลัวหลายคนที่หลงเข้ามาอ่านแล้วจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่มีจุดหมายปลายทางและที่เขียนเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจจะอวดผัว
อวยตัวเอง อวดชีวิตดีว่าชั้นเจอคนเกาหลี(อันนี้เพื่อนมันบอกมา55555555)

ครั้งหนึ่งในความทรงจำที่สุดพิเศษท่ามกลางชีวิตที่น่าเบื่อ ก็เลยจะเขียนเล่าเป็นไดอารี่เอาไว้ เก็บไว้เป็นความทรงจำ

ปล.อันนี้ยืมพันทิปของเพื่อนมานะ เรายึดของมันเรียบร้อยละ5555บอกเจ้าตัวว่าห้ามเข้าเด็ดขาด เพราะกระทู้ที่มันตั้งดราม่าเยอะ มันยิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย

เอาล่ะเข้าเรื่องกันเต้อะะะะ
.
.
.

스타트(จุดเริ่มต้น)  //ภาษาเกาหลีก็มาว่ะ55+

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า... วันนั้นเป็นวันปิดเทอมหลังจากที่เราสอบไฟนอลเสร็จแล้ว คือตอนนี้เราอยู่มหาลัยเพิ่งจบปีหนึ่งนะ จะขึ้นปีสองแล้ว เราก็เล่นคอมฯ เเล้วก็เห็นมีคนส่งข้อความมาในเฟสบุค ตอนนั้นก็มีผู้ชายเกาหลีคนหนึ่งแอดแล้วก็ทักเข้ามา Sawadee Krab ปกติเราไม่ค่อยจะตอบกลับคนแปลกหน้าอยู่แล้ว แต่ก็ตอบกลับไปบ้างดีกว่าเดี๋ยวหาว่าเราหยิ่ง(คนดีไปอีก)ก็คิดว่าจะเซย์ไฮแล้วก็ชิ่งหนีไม่คุยอ่านะ555แต่เค้าถามคำถามทำให้เราสนใจอ่ะ แถมยังรู้จักมหาลัยที่เราเรียนอยู่ เราเลยแปลกใจและเริ่มจะสนใจเค้า



แต่ไม่ได้สนใจเชิงชู้สาวนะอย่าเพิ่งคิดไปไกล หนุ่มเกาหลีคนนี้รุ่นขุ่นพ่อเราเลย เค้าก็ออกตัวแต่แรกนะว่าแต่งงานแล้ว เราเลยคุยกับเค้าก็ได้รู้ว่าเค้าอยู่ที่ไทย อยู่ปริมณฑลนี่แหละ ประเด็นคือเค้ามีลูกชายอยู่คนหนึ่งอายุ23ปี ส่วนสูง183 (คือบอกส่วนสูงด้วยอ่ะ555)อร้ายยยย>< กำลังมองหาลูกสะไภ้อยู่มั้ยคะ555เค้าบอกว่าลูกชายเค้าอยู่เกาหลีนะ กำลังจะบินมาไทยในอีกสามสัปดาห์



เค้ายังบอกอีกว่าตัวเค้าเองเนี่ยชอบผู้หญิงไทยมากๆเลย แต่เราไม่ได้ถามเค้านะเพราะอะไร ขี้เกียจถาม คงเพราะวัฒนธรรมบ้านเราไรงี้มั้ง เราเคยคิดว่าถ้าเราเป็นผู้ชายก็อยากแต่งกับหญิงไทยนะ ง่อววววว ออกนอกเรื่องอีกกรู แล้วตอนนี้เค้าก็มีภรรยาเป็นคนไทยแต่ลูกชายเค้าคนนี้เป็นเกาหลีแท้ๆเลยไม่ได้เป็นลูกครึ่งไทย-เกา เค้าเลิกกับภรรยาเกาหลีนานแล้ว แล้วมาแต่งงานกับหญิงไทย จากนั้นชายหนุ่มเกาหลีผู้นี้ก็บอกว่าลูกชายผมไม่มีเพื่อนที่ไทยเลย เค้าก็เลยอยากหาคนไปเป็นเพื่อนเที่ยวกับลูกเค้า ไปกินข้าว เข้าวัด หรือไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอย่างเอเชียทีคไรงี้ แต่พ่อหนุ่มเกาก็ออกปากชวนเราไปเที่ยวกับครอบครัวเค้านะ



คงเกรงว่าเราสองคนจะไม่กล้าไปด้วยกันเดี๋ยวเค้าขับรถพาไปกันสี่คนเลยก็ได้ พาภรรยาคนไทยเค้าไปด้วย เราก็เอิ่มมม จะเอาเราไปทำไม ไอ้เรามันก็คนนอก ใครจะกล้าไป เราก็เลยแบบรู้ทัน บอกเค้าว่าถ้าคุณพาลูกคุณเที่ยวได้ ชั้นก็ไม่จำเป็นหนิ คุณก็เป็นไกด์ให้ลูกชายคุณสิ พ่อหนุ่มเกาก็บอก วันอื่นๆเค้าไม่ว่างต้องทำงาน เราก็อ๋อ เครๆ จากนั้นเค้าก็ถามว่าเราตกลงจะไปกับลูกชายเค้าได้มั้ย เราก็บอกเราขอให้คำตอบทีหลังได้มั้ย เค้าก็คงเกรงว่าเค้าจะทำให้เรากลัวก็เลยพยายามบอกว่าเนี่ยภรรยายเค้ามีเพื่อนสนิทเป็นอาจารย์มหาลัยที่เราเรียนอยู่เค้าก็บอกชื่อเล่นเรามาแต่จำชื่อจริงไม่ได้ เค้าก็เล่าว่ามาปักกลักอยู่ไทยทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอาง



เราก็ไม่ได้ไรหรอก ไม่ได้คิดว่าเค้าหลอกเลยนะ555 เค้าก็บอกหน้าที่การงานขนาดนี้แล้วก็คงจะฐานะดี(กว่าเราT^T)พอสมควร5555 นั่นก็ไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นหวังว่าจะจับลูกชายเค้า ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังเกาะคนมีตังค์อยู่แล้ว ไม่เคยคิดคบคนที่เงิน ไม่ได้จะไปอาศัยเงินเค้า ไม่ว่าจะรวยหรือจนเราไม่สนใจอยู่แล้วขอแค่ไม่มาหลอกกันก็พอ(คนดีไปอีกกกก) ส่วนตัวเราไม่มีอะไรให้หลอกหนิ5555เงินก็ไม่มี ทั้งตัวมีอยู่40บาท(เวอร์ละ- -) ถ้าจะหลอกฟันก็คงไม่ใช่เพราะจะหลอกเราไปให้ลูกตัวเองทำไมเนาะ(เอ๊ะหรือว่าหลอกไปขาย- -?) เราก็เล่าเรื่องนี้ให้น้าฟังน้าก็บอกคิดร้ายๆไว้ก่อนไม่มีอะไรสวยงาม  พ่อหนุ่มเกาก็ถามเราอีกไปกับลูกเค้าได้มั้ยถามรอบสอง ลูกชายผมไม่ได้หล่อ และไม่ได้รวยอะไร



สำหรับเรารวยไม่รวยไม่สำคัญหรอกเราไม่คิดจะให้เค้ามาเลี้ยงเราหลอกนะ กำลังคิดอยู่ว่าถ้าไปกินข้าวก็แชร์กันก็ได้หนิ ส่วนเรื่องหน้าตาเราไม่เลือกคบคนที่หน้าหรอก เราก็บอกเค้าไป แล้วเค้าก็ยังถามเราอีกว่าคุณมีแฟนแล้วหรือยัง? เค้าบอกว่าเราตลกดี น่ารัก ถ้าลูกชายเค้าเจอต้องตกหลุมรักแน่ๆเลย(เอิ่มมมรูปในเฟสบุคมันเฟคค่ะ55555ตัวจริงนี่สิวเยอะมาก เพราะไฟนอลเอฟเฟ็คเเท้เลย ดีออกกกก)



แต่เรากังวลอยู่อย่างนะว่าจะเผลอใจไปชอบผู้ชายคนนี้รึเปล่า ยิ่งเป็นคนชอบคนง่ายด้วย555 แต่ยังไม่อยากเปิดใจรับใคร เพราะยังไม่พร้อม แต่พอคิดไปคิดมา ก็รู้สึกตัวว่าคิดมากเกินไปรึเปล่า เป็นเเค่เพื่อนกันไปสิ พอคิดได้อย่างนั้นก็ทำให้เรารู้สึกกล้าที่จะไปเจอเค้า เราก็เอาวะไปก็ไปเที่ยวกันแค่ตอนกลางวันไม่ได้มีซัมติงกันสะหน่อย ปิดเทอมไม่ได้ทำไรอยู่ละ ได้เพื่อนเพิ่มก็ดี ไม่ได้อยากจะคิดไรมากกว่าเพื่อน ไม่อยากคาดหวัง ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จะหล่อมั้ย5555555 (ไหนบอกไม่ได้ชอบคนที่หน้า-..-) และหลังจากนั้นอีกสามอาทิตย์เราก็ต้องมาเจอเค้า...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่