จากคนที่อยู่ในเช้าอันน่าเศร้าเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน อยากทราบว่าไฟฟ้าขัดข้องที่แอร์พอร์ตลิงค์นั้น สาเหตุมาจากอะไร

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจอย่างเป็นที่สุดต่อน้องและลูก พี่เชื่อได้ว่าเราเคยเจอ เคยเดิน เคยสวน เคยเบียดกัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะเวลาที่เราไปทำงานและจุดที่ยืนรอคือจุดเดิมในทุกๆวัน วันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยมาก เพราะต้องเดินขึ้นบันไดมาราวๆ ตึกสามชั้นเห็นจะได้ อย่างที่ทุกคนทราบ ทางสถานีแจ้งว่าไฟฟ้าขัดข้อง ลิฟต์และบันไดเลื่อนเสีย

1. อยากขอข้อมูลที่แท้จริงว่า ไฟฟ้าขัดข้องนั้น เพราะอะไร (เนื่องจากเป็นบ่อยมาก จะบอกว่าบันไดเลื่อนเสียคงไม่ใช่ เพราะลิฟต์ก็ไม่ทำงาน และไฟฟ้าจุดอื่นก็ปกติ) วันนั้นตอนเดินขึ้นมาชานชะลา ยอมรับเลยว่าหอบ และยังคิดในใจว่า ถ้าคนพิการมา รปภ.จะอุ้มขึ้นมาหรือ? หรือวันนี้คนพิการจะขึ้นไม่ได้เลย?

2. วันนั้นเราเป็นท้ายแถวแรกนับจากท้ายขบวน ซึ่งใกล้ยามมาก ทันทีที่ได้ยินเสีงดังตุบ หันไปดูคือร่างน้องแน่นิ่งแล้ว ตกใจทุกคนร้องขอความช่วยเหลือ เอาจริงๆ เราอาจตกใจจนมองไม่เห็นว่า รปภ. ได้เป่านกหวีดช่วงที่น้องก้าวเดินมาตรงสีเหลืองหรือไม่? และอยากเห็นวีดีโอที่บอกว่า รปภ. ได้กดปุ่มหยุดรถแล้วในเวลา 2 วิหลังจากน้องหล่น เพราะตัวเลขที่เอามาให้ดูว่ามีคนกดสามทีนั้น ไม่ได้ชี้แจงว่าจุดไหนกด

ปล. ในกรณี รปภ. ของสถานีนี้ เราค่อนข้างจะมีความไม่เชื่อใจในการฝึกการดูแลระบบปฏิบัติมา เพราะเคยเจอกรณีที่เราและคนในขบวนถูกเด็กชายตัวสูงล่ำ พุ่งตัวกระแทกเข้ามาในขณะที่ไม่มีที่ยืนแล้ว ทาง รปภ. ก็ไม่ได้มีการกระทำใดๆ ที่จะจัดการและปล่อยให้เด็กคนนี้ทำแบบนี้อยู่ 4 -5 ครั้งจนเข้ามาได้และประตูปิด ซึ่งน่ากลัวมากเพราะเด็กคนนี้ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายเราตลอดทาง คำถามคือถ้ามีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้นภายหลังจะทำอย่างไร รปภ. ได้แต่ยืนดูและให้ผู้โดยสารรับชะตากรรมหรือ? อันนี้ฝากไว้ว่าทำไมเราถึงไม่ค่อยเชื่อใจ รปภ. ของสถานีนี้ ซึ่งเรื่องนี้แจ้งไปก็เปลี่ยนเป็นยามผู้ชายร่างสูงใหญ่มาได้ประมาณอาทิตย์นึง และแล้วคนเดิมก็กลับมา

3. ฝากถึงคนที่บอกว่าทำไม ทุกคนไม่ลงไปช่วย ทุกคนถอยหนี กว่า 70% ของผู้ที่อยู่ตรงนั้นเป็นผู้หญิงและคนแก่ อย่าว่าพวกเราเลยค่ะ ที่เราหันหลังกรูกันแบบนั้น เพราะรถไฟมาถึงแล้วเรารู้แล้วว่าทำอะไรไม่ได้ ไม่มีใครอยากเห็นภาพที่น่าสลด หดหู่แบบนั้น ยืนยันว่าทุกคน พยายามโบกรถแล้ว พยายามกรีดร้อง ทุกคนเศร้าและช๊อคมาก แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว เราแค่ต้องมาหาวิธีป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

4. ควรเทรนด์พนักงานทุกคนรับมือกับสถานการณ์ให้ดีกว่านี้ นับตั้งแต่ 6.54 นาที ในช่วงที่ทุกคนช็อคกันบนชานชะลา ทางฝั่งท้ายขบวนจุดเกิดเหตุนั้น รปภ. ไม่ได้มาบอกให้พวกเราที่เหลือทำยังไง ไม่มีการมาเคลียคนออก ทุกคนดูงงๆ และลงกันมาแบบงง พนักงานข้างล่างก็งง ท่ามกลางความวุ่นวาย สมควรมีคนไปยืนบอกด้านล่าง กับพวกฝรั่งที่อาจตกเครื่อง หรือคนที่กำลังทะยอยเข้ามา จากเวลา 6.54 จน เกือบๆ 8 โมงถึงมีรปภ. มายืนบอกว่ารถไฟขัดข้อง

สุดท้ายที่มาตั้งกระทู้ถามแบบนี้ เพราะในใจเชื่อเหมือนที่คนที่ร่วมชะตากรรมในวันนั้นเชื่อ ว่าน้องหมดสติและเป็นลมวูบไป และถ้าสาเหตุมาจากการที่รถไฟล่าช้า คนแน่นสถานี ก็ไม่ควรปล่อยให้ขึ้นมาเบียดกัน หรือเพราะอยากประหยัดไฟเลยปิดลิฟต์และบันไดเลื่อน อันนี้อยากทราบความจริงค่ะ เพราะมันจะมีผลต่อน้องมากๆ ทั้งทางใจของคนข้างหลังและทางรูปคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่