การศัลยกรรมความงามจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่บรรดาดาราเซเลบทั้งหลายเลือกที่จะทำกันซะส่วนมาก เรียกได้ว่าเกือบจะทั้งวงการกันเลยทีเดียว เพื่อที่จะได้ออกมามีรูปร่างหน้าตาสวยเป๊ะ ดาราสาวที่สวยจริงไม่ได้พึ่งมีดหมด โดยจัดอันดับจากการ สวยไม่เปลี่ยนแปลง หน้าเป๊ะเหมือนเดิมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เห็นหน้าแต่ละคนตอนสมัยเด็กๆ ละบอกได้เลยค่ะว่า สวยราวกับนางฟ้ากลับชาติมาเกิดกันเลยทีเดียว มีใครติดโผบ้างตามมาดูกันได้เลย
แอน ทองประสม เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 เป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย ถือเป็นนักแสดงหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากทุกสถาบันอย่างเป็นเอกฉันท์จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน คือนอกเหนือจากได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิงแล้ว ยังได้รับรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด และสตาร์ เอนเตอร์เทนเม้นต์ อวอร์ด จากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก ในปี พ.ศ. 2547

สุวนันท์ ปุณณกันต์ (นามสกุลเดิม: คงยิ่ง) เป็นนักแสดงหญิงและพิธีกรที่มีชื่อเสียงของไทย มีชื่อเล่นว่า "กบ" และได้รับฉายา "นางเอกตลอดกาล" และ "นางเอกขวัญใจมหาชนตลอดกาล" และ "ดาวค้างฟ้า" เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2521

ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เกิดวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2523 จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนไผทอุดมศึกษา มัธยมโรงเรียนราชินีบน ปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยร่วมทำกิจกรรม เล่นละครเวที ร่วมสตาฟฟ์กีฬามหาวิทยาลัย และเป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณี
เข้าวงการบันเทิงครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้น ม.4 โดยคนชักจูงเข้าวงการคือ ป้าชาลี เจ้าของนิตยสารพลอยแกมเพชร ผลงานชิ้นแรกคือถ่ายนิตยสารพลอยแกมเพชร และมีผลงานเป็นที่รู้จักในบท "รุ้ง" สาวสวยในโฆษณา "มิสทีน" และมีผลงาน ถ่ายโฆษณาระยะหนึ่งแล้วแสดงละครเรื่องแรกในปี 2544 เรื่อง "มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต" ผลิตโดย บริษัทเจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด รับบทเป็น กิ่งดาว ดารุณีภรรยาคนแรกของคุณมิตร ชัยบัญชา และมีผลงานภาพยนตร์ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รับบทเป็นมณีจันทร์

พัชราภา ไชยเชื้อ (เกิด 5 ธันวาคม พ.ศ. 2521) ชื่อเล่น อั้มเป็นนักแสดง นางแบบ และพิธีกรหญิงชาวไทย เกิดที่โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร มีชื่อแรกเกิดว่า "ไข่มุก" ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น "พัชราภา" ในภายหลัง มีบิดาชื่อ นายวรวุฒิ ไชยเชื้อ และมารดาชื่อ นางสุภาพร ไชยเชื้อ โดยเธอเป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัว อั้มมีชื่อเล่นชื่อแรกคือ "แนน" แต่ต่อมาคุณแม่ของอั้มเรียกติดปากว่าอั้ม เพราะชอบกินทุกอย่างที่แม่ป้อนให้
จบการศึกษาในระดับอนุบาล ที่โรงเรียนอนุบาลธนินทร ดอนเมือง กรุงเทพฯ ระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนสตรีวรนาถ บางเขน ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนดัดดรุณี จังหวัดฉะเชิงเทรา และระดับอุดมศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต

วรนุช ภิรมย์ภักดี (สกุลเดิม วงษ์สวรรค์) มีชื่อเล่นว่า นุ่นเป็นนักแสดงชาวไทย เป็นบุตรสาวของ ปรีชา วงษ์สวรรค์ กับระเบียบ วงษ์สวรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2523 มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน จบการศึกษาจาก วิทยาลัยนาฏศิลป และศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ นิเทศศาสตร์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการชักชวนของ แก้วพรีเมียร์และแสดงละครเรื่องแรกคือ ปอบผีฟ้า ทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2540 คู่กับ นุติ เขมะโยธิน

เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ชื่อเล่น เจนี่ (11 กันยายน พ.ศ. 2525) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย สังกัดสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
เกิดที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาเป็นบุตรของสมศักดิ์ กับชไมพร เทียนโพธิ์สุวรรณ์มีน้องสาวคนเดียวชื่อชาลิสา แจนนิส เทียนโพธิ์สุวรรณ์ เจนี่เกิดและโตในสหรัฐอเมริกาก่อนย้ายกลับมาไทยเมื่ออายุได้ 11 ปี ด้วยเหตุนี้เธอจึงอ่านและเขียนภาษาไทยไม่ได้ต้องซ้ำชั้นตอนประถมศึกษาปีที่ 4 เธอสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และระดับปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพรุ่น 39 ในปี 2548 ทั้งนี้เจนี่ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้เป็นลูกครึ่งแต่อย่างใด
เข้าสู่วงการบันเทิงจากการมีแมวมองมาติดต่อเมื่อครั้งเธอยังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา มีผลงานแรกในมิวสิกวิดีโอเพลง "Only You" ของเจอาร์-วอย, "หากเป็นฉัน" ของเอกซ์, "รักเธอหมดหัวใจ" ของเรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ และ "จะเอาจากไหน" ของธงไชย แมคอินไตย์ และมีผลงานโฆษณาสบู่ล้างหน้า ดร.มนตรี, เคเอลิปแคร์, ลอรีเอะ และเรนองที

เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ชื่อเล่น พลอย (15 กันยายน พ.ศ. 2525) เป็นนักแสดงหญิงชาวไทย เป็นน้องสาวของดารัณ บุญยศักดิ์ อดีตนักแสดง มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงจากละครเรื่อง ระบำดวงดาว ขุนศึก มาดามดัน สามีตีตรา และภาพยนตร์เรื่อง บุปผาราตรี รักแห่งสยาม ชั่วฟ้าดินสลาย สี่แพร่ง และคิดถึงวิทยา
เฌอมาลย์เกิดและเติบโตในจังหวัดระยอง เป็นบุตรสาวของพลเรือตรี สิริศักดิ์ บุญยศักดิ์ กับธัญดา นิลภิรมย์ (ชื่อเดิม: จิราภรณ์)[1] มีพี่สาวร่วมบิดามารดาคือดารัณ บุญยศักดิ์(ชื่อเดิม สินิทธา บุญยศักดิ์)
เฌอมาลย์จบการศึกษาระดับประถมศึกษาโรงเรียนเซนต์โยเซฟระยอง จังหวัดระยอง ต่อมาได้ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนโยนออฟอาร์ค กรุงเทพมหานคร และมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)ระดับปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น จังหวัดตากและคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ[ต้องการอ้างอิง]
ในวัยเยาว์เธอเคยเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกครั้นจำเริญวัยขึ้นจึงหันไปนับถือศาสนาพุทธ ซึ่งช่วงต้นปี พ.ศ. 2555 เธอกล่าวถึงทัศนคติที่มีต่อศาสนาว่า "พลอยเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ แต่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยครึ่งหนึ่ง ซึ่งพลอยจะขอเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเท่านั้น พลอยไม่เชื่อเรื่องดวง พลอยเป็นคนที่เชื่อในตัวเองมากกว่า..."แต่ภายในปี พ.ศ. 2555 นั้นเองเธอได้หันไปนับถือศาสนาคริสต์นิกาย

ศรีริต้า เจนเซ่น (อักษรโรมัน: Sririta Jensen; เกิด: 27 ตุลาคม พ.ศ. 2524) ชื่อเล่น ริต้า เป็นศิลปินนักแสดงชาวไทยสังกัดสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
เกิดที่ประเทศอินโดนีเซีย เธอเป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก บิดาเป็นชาวเดนมาร์กชื่อไอวิท เจนเซ่น กับศรีรัช ศิริบรรจง มารดาชาวไทยเชื้อสายจีน เธอมีพี่ชายร่วมบิดามารดาชื่อ เสกสรร เจนเซ่น
ภายหลังมารดาและบิดาของเธอได้เลิกรากัน บิดากลับไปพำนักอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ส่วนมารดาได้สมรสใหม่และอาศัยกับสามีคนปัจจุบันที่ย่านหนองแขมมีน้องสาวต่างบิดาคนหนึ่งชื่อ พิมลพรรณ ศิริบรรจง
ศรีริต้าจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนลาซาล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนบางกะปิและระดับอุดมศึกษาปริญญาตรี วิชาเอกประชาสัมพันธ์ โทโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อุษามณี ไวทยานนท์ ชื่อเล่น ลูกขวัญ มีชื่อจริงว่า อุษามณี พูลเกิด เดิมบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2531 บิดาของเธออาชีพเป็นข้าราชการตำรวจชื่อ ด.ต.เกษม พูลเกิด (เสียชีวิตแล้ว) เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ กับมารดาชื่อ ปราณี ไวทยานนท์ มีเชื้อสายไทย-มอญ-แขกขาว เธอมีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ เขมรัสนี ไวทยานนท์ ชื่อเล่น ลูกแก้ว ซึ่งเกิดห่างกับเธอ 6 ปี ชีวิตในวัยเด็กของเธออยู่กับพ่อแม่เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ นอกบ้านมากนัก
อุษามณีได้รับการทาบทามและแนะนำจากทีมงานนักแสดงตั้งแต่อายุ 3 ขวบ โดยเริ่มจากงานเดินแบบ และเล่นละคร ละครเรื่องแรกที่เล่นคือ "พ่อจ๋า แม่ขา ลูกรัก" จนได้รับงานแสดงทั้งของช่อง 3 และช่อง 7
ในปี 2547 อุษามณีได้ทำสัญญาเป็นนักแสดงของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยเรื่องแรกหลังการเซ็นสัญญานั้นคือ "สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2 ตอนแม่มดน้อยตัวป่วน" ซึ่งเธอรับบทร้ายเป็นเรื่องแรก เรื่องต่อมา "อกธรณี" เธอได้เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก
ต่อมาอุษามณีได้แสดงในเรื่อง "ขิงก็ราข่าก็แรง" ที่ทำให้เกิดวลีติดปากอย่าง 'แม่ไม่ปลื้ม... จบ' ส่งผลให้ละครเรื่องนี้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดของปี 2549 โดยตอนจบเรตติ้งสูงสุดถึง 24 และเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 17 จากนั้นในเรื่อง "ปมรักรอยอดีต" อุษามณีได้กลับมาพบกับธาวิน เยาวพลกุล และไปรยา สวนดอกไม้ อีกครั้ง
ต่อมาปี 2554 อุษามณีได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือบทร้ายอีกครั้งในบท อินตรา (ในร่างมนชญา สลับกับปุณยาพร พูลพิพัฒน์) จากละครเรื่อง "เพลิงพรหม" ที่สามารถทำเรตติ้งตอนจบสูงถึง 20 จนคว้ารางวัลร้ายได้ใจ จากสยามดารา อวอร์ด 2011 ต่อมาปี 2558 เธอได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือของบท ชิดชบา จนคว้ารางวัลนำหญิงเจ้าบทบาท จากสยามบันเทิง 2015 และรางวัลเมขลา 2559 และในปี 2560 นี้ เธอได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือบทร้ายเต็มตัวอีกครั้งในบท "พิตะวัน สัจจามาตย์" ในละครเรื่อง "มายา"

อุรัสยา เสปอร์บันด์ (เกิด 18 มีนาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่นญาญ่า เป็นนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในปี พ.ศ. 2550 โดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งที่สวนจตุจักร หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมโครงการค้นหานางแบบหน้าใหม่ในปี พ.ศ. 2551 โดยคำชักชวนของ สมบัษร ถิระสาโรช และมีผลงานเรื่อยมา งานถ่ายแบบและถ่ายมิวสิกวิดีโอของเธอเป็นที่สนใจของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนเธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด และร่วมแสดงละครเป็นครั้งแรกในละครซิตคอมเรื่อง เพื่อนซี้ล่องหน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาได้รับคำวิจารณ์ที่ดีและส่งผลให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในละครรักดราม่าเรื่อง กุหลาบไร้หนาม
อุรัสยา เสปอร์บันด์ เกิดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี บิดาของเธอชื่อ ซีกู๊ด เสปอร์บันด์ ชาวนอร์เวย์ เป็นที่ปรึกษาเรื่องการลงทุนและนายหน้าในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนมารดาของเธอชื่อ อุไร เป็นแม่บ้าน อุรัสยามีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แคทลียา อายุมากกว่าเธอสามปี และมีพี่ชายชาวนอร์เวย์ต่างมารดาอีกสองคน อุรัสยาใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สองปีต่อมา ครอบครัวย้ายกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เธอเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจนท์พัทยาจนถึงเกรด 11 (ม. 5)แล้วย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนบางกอกพัฒนาเป็นเวลาหนึ่งปี
10 อันดับผู้หญิงสวยจริงไม่ได้พึ่งมีดหมอของเมืองไทยสวยแต่เด็ก
แอน ทองประสม เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 เป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย ถือเป็นนักแสดงหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากทุกสถาบันอย่างเป็นเอกฉันท์จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน คือนอกเหนือจากได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิงแล้ว ยังได้รับรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด และสตาร์ เอนเตอร์เทนเม้นต์ อวอร์ด จากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก ในปี พ.ศ. 2547
สุวนันท์ ปุณณกันต์ (นามสกุลเดิม: คงยิ่ง) เป็นนักแสดงหญิงและพิธีกรที่มีชื่อเสียงของไทย มีชื่อเล่นว่า "กบ" และได้รับฉายา "นางเอกตลอดกาล" และ "นางเอกขวัญใจมหาชนตลอดกาล" และ "ดาวค้างฟ้า" เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2521
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เกิดวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2523 จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนไผทอุดมศึกษา มัธยมโรงเรียนราชินีบน ปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยร่วมทำกิจกรรม เล่นละครเวที ร่วมสตาฟฟ์กีฬามหาวิทยาลัย และเป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณี
เข้าวงการบันเทิงครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้น ม.4 โดยคนชักจูงเข้าวงการคือ ป้าชาลี เจ้าของนิตยสารพลอยแกมเพชร ผลงานชิ้นแรกคือถ่ายนิตยสารพลอยแกมเพชร และมีผลงานเป็นที่รู้จักในบท "รุ้ง" สาวสวยในโฆษณา "มิสทีน" และมีผลงาน ถ่ายโฆษณาระยะหนึ่งแล้วแสดงละครเรื่องแรกในปี 2544 เรื่อง "มิตร ชัยบัญชา มายาชีวิต" ผลิตโดย บริษัทเจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด รับบทเป็น กิ่งดาว ดารุณีภรรยาคนแรกของคุณมิตร ชัยบัญชา และมีผลงานภาพยนตร์ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รับบทเป็นมณีจันทร์
พัชราภา ไชยเชื้อ (เกิด 5 ธันวาคม พ.ศ. 2521) ชื่อเล่น อั้มเป็นนักแสดง นางแบบ และพิธีกรหญิงชาวไทย เกิดที่โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร มีชื่อแรกเกิดว่า "ไข่มุก" ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น "พัชราภา" ในภายหลัง มีบิดาชื่อ นายวรวุฒิ ไชยเชื้อ และมารดาชื่อ นางสุภาพร ไชยเชื้อ โดยเธอเป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัว อั้มมีชื่อเล่นชื่อแรกคือ "แนน" แต่ต่อมาคุณแม่ของอั้มเรียกติดปากว่าอั้ม เพราะชอบกินทุกอย่างที่แม่ป้อนให้
จบการศึกษาในระดับอนุบาล ที่โรงเรียนอนุบาลธนินทร ดอนเมือง กรุงเทพฯ ระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนสตรีวรนาถ บางเขน ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนดัดดรุณี จังหวัดฉะเชิงเทรา และระดับอุดมศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต
วรนุช ภิรมย์ภักดี (สกุลเดิม วงษ์สวรรค์) มีชื่อเล่นว่า นุ่นเป็นนักแสดงชาวไทย เป็นบุตรสาวของ ปรีชา วงษ์สวรรค์ กับระเบียบ วงษ์สวรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2523 มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน จบการศึกษาจาก วิทยาลัยนาฏศิลป และศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ นิเทศศาสตร์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง โดยการชักชวนของ แก้วพรีเมียร์และแสดงละครเรื่องแรกคือ ปอบผีฟ้า ทางช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2540 คู่กับ นุติ เขมะโยธิน
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ชื่อเล่น เจนี่ (11 กันยายน พ.ศ. 2525) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวไทย สังกัดสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
เกิดที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาเป็นบุตรของสมศักดิ์ กับชไมพร เทียนโพธิ์สุวรรณ์มีน้องสาวคนเดียวชื่อชาลิสา แจนนิส เทียนโพธิ์สุวรรณ์ เจนี่เกิดและโตในสหรัฐอเมริกาก่อนย้ายกลับมาไทยเมื่ออายุได้ 11 ปี ด้วยเหตุนี้เธอจึงอ่านและเขียนภาษาไทยไม่ได้ต้องซ้ำชั้นตอนประถมศึกษาปีที่ 4 เธอสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และระดับปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพรุ่น 39 ในปี 2548 ทั้งนี้เจนี่ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้เป็นลูกครึ่งแต่อย่างใด
เข้าสู่วงการบันเทิงจากการมีแมวมองมาติดต่อเมื่อครั้งเธอยังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา มีผลงานแรกในมิวสิกวิดีโอเพลง "Only You" ของเจอาร์-วอย, "หากเป็นฉัน" ของเอกซ์, "รักเธอหมดหัวใจ" ของเรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ และ "จะเอาจากไหน" ของธงไชย แมคอินไตย์ และมีผลงานโฆษณาสบู่ล้างหน้า ดร.มนตรี, เคเอลิปแคร์, ลอรีเอะ และเรนองที
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ชื่อเล่น พลอย (15 กันยายน พ.ศ. 2525) เป็นนักแสดงหญิงชาวไทย เป็นน้องสาวของดารัณ บุญยศักดิ์ อดีตนักแสดง มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงจากละครเรื่อง ระบำดวงดาว ขุนศึก มาดามดัน สามีตีตรา และภาพยนตร์เรื่อง บุปผาราตรี รักแห่งสยาม ชั่วฟ้าดินสลาย สี่แพร่ง และคิดถึงวิทยา
เฌอมาลย์เกิดและเติบโตในจังหวัดระยอง เป็นบุตรสาวของพลเรือตรี สิริศักดิ์ บุญยศักดิ์ กับธัญดา นิลภิรมย์ (ชื่อเดิม: จิราภรณ์)[1] มีพี่สาวร่วมบิดามารดาคือดารัณ บุญยศักดิ์(ชื่อเดิม สินิทธา บุญยศักดิ์)
เฌอมาลย์จบการศึกษาระดับประถมศึกษาโรงเรียนเซนต์โยเซฟระยอง จังหวัดระยอง ต่อมาได้ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนโยนออฟอาร์ค กรุงเทพมหานคร และมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)ระดับปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น จังหวัดตากและคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ[ต้องการอ้างอิง]
ในวัยเยาว์เธอเคยเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกครั้นจำเริญวัยขึ้นจึงหันไปนับถือศาสนาพุทธ ซึ่งช่วงต้นปี พ.ศ. 2555 เธอกล่าวถึงทัศนคติที่มีต่อศาสนาว่า "พลอยเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธ แต่นับถือศาสนาคริสต์ด้วยครึ่งหนึ่ง ซึ่งพลอยจะขอเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเท่านั้น พลอยไม่เชื่อเรื่องดวง พลอยเป็นคนที่เชื่อในตัวเองมากกว่า..."แต่ภายในปี พ.ศ. 2555 นั้นเองเธอได้หันไปนับถือศาสนาคริสต์นิกาย
ศรีริต้า เจนเซ่น (อักษรโรมัน: Sririta Jensen; เกิด: 27 ตุลาคม พ.ศ. 2524) ชื่อเล่น ริต้า เป็นศิลปินนักแสดงชาวไทยสังกัดสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
เกิดที่ประเทศอินโดนีเซีย เธอเป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก บิดาเป็นชาวเดนมาร์กชื่อไอวิท เจนเซ่น กับศรีรัช ศิริบรรจง มารดาชาวไทยเชื้อสายจีน เธอมีพี่ชายร่วมบิดามารดาชื่อ เสกสรร เจนเซ่น
ภายหลังมารดาและบิดาของเธอได้เลิกรากัน บิดากลับไปพำนักอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ส่วนมารดาได้สมรสใหม่และอาศัยกับสามีคนปัจจุบันที่ย่านหนองแขมมีน้องสาวต่างบิดาคนหนึ่งชื่อ พิมลพรรณ ศิริบรรจง
ศรีริต้าจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนลาซาล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนบางกะปิและระดับอุดมศึกษาปริญญาตรี วิชาเอกประชาสัมพันธ์ โทโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
อุษามณี ไวทยานนท์ ชื่อเล่น ลูกขวัญ มีชื่อจริงว่า อุษามณี พูลเกิด เดิมบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2531 บิดาของเธออาชีพเป็นข้าราชการตำรวจชื่อ ด.ต.เกษม พูลเกิด (เสียชีวิตแล้ว) เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ กับมารดาชื่อ ปราณี ไวทยานนท์ มีเชื้อสายไทย-มอญ-แขกขาว เธอมีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ เขมรัสนี ไวทยานนท์ ชื่อเล่น ลูกแก้ว ซึ่งเกิดห่างกับเธอ 6 ปี ชีวิตในวัยเด็กของเธออยู่กับพ่อแม่เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ นอกบ้านมากนัก
อุษามณีได้รับการทาบทามและแนะนำจากทีมงานนักแสดงตั้งแต่อายุ 3 ขวบ โดยเริ่มจากงานเดินแบบ และเล่นละคร ละครเรื่องแรกที่เล่นคือ "พ่อจ๋า แม่ขา ลูกรัก" จนได้รับงานแสดงทั้งของช่อง 3 และช่อง 7
ในปี 2547 อุษามณีได้ทำสัญญาเป็นนักแสดงของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยเรื่องแรกหลังการเซ็นสัญญานั้นคือ "สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2 ตอนแม่มดน้อยตัวป่วน" ซึ่งเธอรับบทร้ายเป็นเรื่องแรก เรื่องต่อมา "อกธรณี" เธอได้เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรก
ต่อมาอุษามณีได้แสดงในเรื่อง "ขิงก็ราข่าก็แรง" ที่ทำให้เกิดวลีติดปากอย่าง 'แม่ไม่ปลื้ม... จบ' ส่งผลให้ละครเรื่องนี้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดของปี 2549 โดยตอนจบเรตติ้งสูงสุดถึง 24 และเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 17 จากนั้นในเรื่อง "ปมรักรอยอดีต" อุษามณีได้กลับมาพบกับธาวิน เยาวพลกุล และไปรยา สวนดอกไม้ อีกครั้ง
ต่อมาปี 2554 อุษามณีได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือบทร้ายอีกครั้งในบท อินตรา (ในร่างมนชญา สลับกับปุณยาพร พูลพิพัฒน์) จากละครเรื่อง "เพลิงพรหม" ที่สามารถทำเรตติ้งตอนจบสูงถึง 20 จนคว้ารางวัลร้ายได้ใจ จากสยามดารา อวอร์ด 2011 ต่อมาปี 2558 เธอได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือของบท ชิดชบา จนคว้ารางวัลนำหญิงเจ้าบทบาท จากสยามบันเทิง 2015 และรางวัลเมขลา 2559 และในปี 2560 นี้ เธอได้กลับมาพลิกบทบาทฝีมือบทร้ายเต็มตัวอีกครั้งในบท "พิตะวัน สัจจามาตย์" ในละครเรื่อง "มายา"
อุรัสยา เสปอร์บันด์ (เกิด 18 มีนาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่นญาญ่า เป็นนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในปี พ.ศ. 2550 โดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่งที่สวนจตุจักร หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมโครงการค้นหานางแบบหน้าใหม่ในปี พ.ศ. 2551 โดยคำชักชวนของ สมบัษร ถิระสาโรช และมีผลงานเรื่อยมา งานถ่ายแบบและถ่ายมิวสิกวิดีโอของเธอเป็นที่สนใจของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนเธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด และร่วมแสดงละครเป็นครั้งแรกในละครซิตคอมเรื่อง เพื่อนซี้ล่องหน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาได้รับคำวิจารณ์ที่ดีและส่งผลให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในละครรักดราม่าเรื่อง กุหลาบไร้หนาม
อุรัสยา เสปอร์บันด์ เกิดที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี บิดาของเธอชื่อ ซีกู๊ด เสปอร์บันด์ ชาวนอร์เวย์ เป็นที่ปรึกษาเรื่องการลงทุนและนายหน้าในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนมารดาของเธอชื่อ อุไร เป็นแม่บ้าน อุรัสยามีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แคทลียา อายุมากกว่าเธอสามปี และมีพี่ชายชาวนอร์เวย์ต่างมารดาอีกสองคน อุรัสยาใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สองปีต่อมา ครอบครัวย้ายกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เธอเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจนท์พัทยาจนถึงเกรด 11 (ม. 5)แล้วย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนบางกอกพัฒนาเป็นเวลาหนึ่งปี