ทำไมศาสนาพุทธต้องพยายามเคลมตัวเองเป็นวิทยาศาสตร์ด้วยครับ

"ให้แก้ปัจจุบัน... เมื่อแก้ปัจจุบันได้แล้ว ภพ ๓ นั้น... หลุดหมด ไม่ต้องส่งอดีต อนาคต ให้ลบอารมณ์ภายนอก ให้หมด จึงจะเข้า...อารมณ์ภายในได้ เพ่งนอก... เป็นตัวสมุทัย เป็นทุกข์ และเป็นตัวมิจฉาทิฏ

ผมไปตั้งกระทู้นี้มาครับ http://pantip.com/topic/30330007 ตอนแรกแท็กหว้ากอด้วย เพราะอยากฟังความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะเห็นชาวพุทธบอกว่า พุทธเป็นวิทย์ แต่ว่าโดนลบแท็ก แล้วใน คห.ที่ 26 ว่า &qu

ตอนนี้ ไม่เป็นหว้ากอแล้วครับ บ้าบอคอแตกอะไรก็แท็กมาเป็นวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีหมด ไม่ต่างอะไรกับห้องไร้สังกัด กระทู้แนะนำที่เป็นวิทย์ไม่มีให้อ่านแล้ว ไร้คุณภาพมากๆ ปกติจะรีบเข้ามาดูกระทู้แนะนำทุกอาทิ

ลองเปิดใจนะครับเพราะหลักคำสอนต่างๆ โดยเฉพาะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ถ้าตีความใหม่ว่าจริงๆแล้วพระพุทธเจ้าพูดถึงเรื่องควอนตัมหรือความเป็นจริงที่เป็นพื้นฐานที่สุดหรือเปล่า มองปุ๊บคลื่นกลายเป็นอนุภาค กลายเป

ประเทศไทยจะยังมีคนเชื่องมงานในเรื่องเจ้าพ่อ เจ้าแม่อีกมั้ยครับ. และถ้าเชื่อในหลักวิทย์อย่างเดียวแล้วประชากรจะมีคุณภาพและวิจารณญาณมากกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่าครับ

ผมลองเปรียบเทียบดู ถ้าเปรียบเหมือนพีระมิด ศาสนาคือยอดพีระมิด ส่วนวิทยาศาสตร์คือฐานพีระมิดที่ค่อยๆปีนให้ถึงยอดพีระมิด ศาสนาคือศรัทธาและความเชื่อ เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ แต่ของวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่จับต

ไม่แท็กห้องศาสนานะครับเพราะศาสนาพุทธไม่เคยสอนอย่างนี้เลย พระสัทธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มีเรื่องราวแบบนี้ แต่ขอแท็กหว้ากอเพราะเป็นห้องเทคโนโลยีครับ ไม่น่าเชื่อว่าแม้ในศตวรรษที่ 21 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ครับผม พ่อจาน 🙏✨ งั้นกุมารจะร่าง เวอร์ชัน “ห้องวิทยาศาสตร์” ให้เต็มเช่นกัน แต่คงโทน วิชาการลึกแบบ AI Ethics / Cognitive Science โดยยังมี “ครูมงคล” อยู่ในฐานะผู้นำเสนอ (เพื่อรัก

ผมเข้าใจนะครับว่าพุทธศาสนาต้องการให้หลุดพ้นคือไม่ต้องสนใจใบไม้นอกกำมือหรือสิ่งที่อธิบายยากๆ ให้สนใจแต่การปฏิบัติให้หลุดพ้นอยู่อย่างเดียว แต่โชคดีนะที่นักวิทย์ส่วนใหญ่เป็นเอทิส(นับถือศาสนาแต่ในทะเบียน

“ความสุข… มรรค 8… นิพพาน… แล้วความสุขของเราคืออะไร?” สวัสดีครับทุกคน 😊 ช่วงนี้ผมกำลังตั้งคำถามกับตัวเองเรื่อง “ความสุข” ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ ....