ถ้าคุณได้รับเลือกให้เลื่อนต่ำแหน่ง+เงินเดือนที่สูงขึ้น เอกสารทุกอย่างเซนต์อนุมัติหมดแล้ว แต่อยู่ๆมีการยกเลิก!!!

ดิฉันได้รับพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นมา 1 ขั้น+เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก มีการเรียกคุย อธิบายถึงกำหนดเวลาที่จะได้รับเงินเดือนและตำแหน่งใหม่เริ่มเดือนไหนยังไง และให้เซ็นต์เอกสารรับทราบเรียบร้อย รวมทั้งแจ้งว่าเอกสารผ่านการอนุมัติจากผู้บริหารเรีบยร้อยแล้ว ซึ่งต้องรออีกประมาณ 5 เดือน ต่ำแหน่งและเงินเดือนใหม่ถึงจะปรับ ดิฉันรับทราบและเซ็นต์เอกสารเรียบร้อย

หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ดิฉันท้อง มีอาการแพ้ท้องหนัก อารมณ์แปรปรวนแบบคนท้องทั่วไป ดิฉันก็บอกแบบติดตลกกะหัวหน้าตลอดว่าอย่าถือสาหาดิฉันหน้าตาอาจบูดบึ้ง หรือไม่ค่อยพูดเพราะ อาการแพ้ท้องมันแย่มากกกก....ต้องบอกว่างานที่ทำแต่ละวันยุ่งมาก ทำแทบไม่ทันบวกกับอาการแพ้ท้องหนักขึ้นเรื่อยๆ ประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลง อันนี้ดิฉันยอมรับ เพราะร่างกายมันไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่สามารถขอลางานได้ เนื่องจากหัวหน้าไม่อนุมัติ(ซึ่งดิฉันมีวันหยุดสะสมเหลืออยู่ 23 วัน) หนักเข้ามีต้องเข้าโรงบาลให้น้ำเกลือเนื่องจากร่างกายขาดน้ำ เพราะทานอะไรไม่ได้เลยจากอาการแพ้ท้อง ออกจากโรงบาลปุ๊บก็ต้องมาทำงาน ทั้งๆที่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดต่อ 3 วัน แต่อันนี้ปล่อยผ่านไปเพราะก็เข้าใจว่างานล้นมือ คนที่อยู่ทำไม่ทันจริงๆ

แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกของคนที่ท้องอยู่เสียใจอย่างรุนแรงคือ ก่อนหน้าที่จะได้ปรับเงินเดือนและต่ำแหน่งใหม่แค่ 15 วัน....หัวหน้าเรียกคุยและแจ้งว่า เรื่องการปรับต่ำแหน่งและขึ้นเงินเดือนตามที่คุยไว้ก่อนหน้านี้ต้องชะลอไว้ก่อน เพราะช่วงนี้ประสิทธิภาพการทำงานของเราลดลง จึงขอยืดเวลาเพื่อดูผลงานต่อไปอีก 3 เดือน ถ้าผ่านก็จะให้ปรับใหม่แต่ถ้าไม่ผ่านก็คงต้องคงไว้ในต่ำแหน่งและเงินเดือนเดิม

ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณจะคิดอย่างไร ซึ่งในขณะที่เราท้องอยู่ ถึงเราไม่พอใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่คนท้องอย่างฉันก็ไม่มีตัวเลือกที่จะย้ายงานในตอนนี้ได้ เพราะค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละเดือนที่ตายตัวอยู่ ซึ่งเหตุผลที่เราจะเปลี่ยนงานช่วงท้องเป็นไปไม่ได้เลย อันนี้เจ้านายเรารู้ดี

ปล. เงินเดือนเพิ่มขึ้น 4000 บาท/เดือน สำหรับมนุษย์เงินอย่างเราถือว่าเพิ่มขึ้นเยอะน่ะ...ร้องไห้ร้องไห้เศร้า

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ที่ทำงานเรา คนที่มีลูก เวลามีงานต้องทำดึกๆ
มักจะมาขอให้เราช่วยทำทุกครั้ง เพราะเค้าอ้างว่า
ลูกรอเจอหน้าพ่อแม่ อยากอยู่กับลูก ลูกยังเล็กเข้าใจใช่ใหม เห็นใจพี่หน่อย
แล้วเราก็ต้องอยู่ทำงานแทนคนเดียวถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง
ส่วนเขาก็กลับบ้านไปเล่นคิขุอาโนเนะกับลูก

เราก็คิดนะว่าก็อยากมีลูกกันเอง ไม่ได้มีใครมาบังคับ
ส่วนเราเลือกที่จะไม่มี แล้วทำมัยเค้าต้องมาโยนภาระให้เราด้วย
อีกหน่อยลูกเค้าโต ลูกก็ไม่ได้มาดูแลเราสักหน่อย

สรุปคือคนมีลูก บริษัทมองเป็นภาระคนอื่นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่