สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมแค่มาแชร์ประสบการณ์ความรัก ให้ฟังนะครับ

ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมอายุประมาณ 30 ปี  มีอาชีพการทำงานบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม.ครับ  และที่สำคัญคือ  ผมเป็นคนพิการ
พิการแบบประเภทนั่งวีลแชร์ สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวคนเดียวครับ  สมัยก่อนนี้ผมยอมรับนะครับว่า มีความต้องการในความรักมาก แต่ได้แค่รู้สึกดีนะครับไม่กล้าจะแสดงออกมาให้ใครรู้
  ช่วงนั้นผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยครับ  จนวันหนึ่งผมได้พบรักกลับเทอคนหนึ่ง  เราทำความรู้จักกันสักพัก  จึงตกลงคบกันเป็นแฟนครับ  โดยทางบ้านเธอ  ก็ยอมรับในตัวเราได้  ที่เราสามารถทำงานหากินได้  ไม่ได้มาขอใครกิน  ความรักช่วงนั้นไปได้อย่างสวยงามครับ  จนระยะเวลาผ่านไป 3 ปี  ก็เกิดเรื่องที่ไม่น่าคิดว่ามันจะเกิด  ขึ้นทั้งที่เราโทรคุยกันทุกคืนก่อนนอน  เทอได้ย้ายไปทำงานในสถานที่ใหม่ ในเพียงไม่ถึงสองเดือน  เธอก็บอกกับผมว่า  เธอมีคนใหม่ เป็นรุ่นน้องที่ทำงาน  ตอนนี้ผมตกใจมาก ว่าความรักที่ผมมีให้ตลอด  3 ปี มันจะจางหายเพียงไม่กี่เดือนเลยเชียวหรอ  ผมเสียใจมาก ประมาณพี่ป้างเลยครับ  ผช.ร้องไห้ อิอิ ผมขอร้องอ้อนวอน ให้กับมาเป็นเหมือนเก่า ก็นานพอสมควรเลยครับ คนอ่อนแอก็แพ้ไป อิอิ จนแม่ผมทราบว่าผมอกหัก  แม่ก็พูดว่า  ทีหลังรักใครก็ควรเผื่อใจ ไว้บ้างนะ  เวลาเราเจ็บเค้าไม่ได้มาเจ็บกับเรา พอได้ยินแบบนี้  ผมก็เลยคิดได้ว่า  คนที่เราควรทุ่มเทความรักให้มากๆ  คือคนนี้ ที่เลี้ยงดูเรามา ผมจึงมาโฟกัสทางด้านการเรียน  กับทำงานเพื่อให้ลืมๆเธอคนนั้น  จนผมเรียนจบ เราปริญญาไปให้แม่จนได้ แล้วย้ายที่ทำงาน เพื่อจะได้เงินเดือนที่มากกว่า  มาผ่อนบ้านให้พ่อแม่อยู่ครับ  
ผมอยากจะบอกว่า  ความรักเป็นเรื่องที่สวยงามเสมอครับ  อยู่ที่การดูแลว่ามากน้อยเพียงใด  เมื่อวันหนึ่งความรักได้จืดจางแล้วแยกกันไป  ขอให้จงนึกถึงครอบครัวไว้ครับ  อย่าไปเอาเวลาไปเสียใจกับมันมากครับ  เพราะเห็นบางข่าวถึงกับ ฆ่าตัวตายกันเลยทีเดียว
ชีวิตเรามีคุณค่าเสมอ  อยู่ที่ว่าคุณจะทำอย่างไรให้มันมีค่ามากที่สุด  ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่