รีวิวก่อนหน้านี้เป็นประเทศเวียดนาม ประสบการณ์เวียดนามทำให้เราอยากไปต่างประเทศอีกครั้ง พอเจอโปรเครื่องบินต่างประเทศระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น ราคาเท่ากัน ใครหลายๆคนก็คงเลือก ญี่ปุ่น แหงล่ะ ราคาเท่ากัน แถมญี่ปุ่นสถานที่สวยซะด้วย แต่เรากะพี่ตัดสินใจไปประเทศจีน ด้วยเหตุเพราะ
ข้อแรก ภาษาจีน ที่พี่ผมสามารถสื่อสารได้
ข้อสอง เท่าที่อ่านรีวิว ค่าใช้จ่ายทริปถูกกว่า 2-3 เท่าของการไปเที่ยวญี่ปุ่น ในระยะเวลาเท่ากัน
ข้อสาม อยากไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ อารยธรรม วัฒนธรรม ผู้คน และที่สำคัญความเจริญของประเทศจีนยุคใหม่
วันนี้จะมารีวิว ประเทศ “ จีน ” ( 中国 )
ประเทศจีน ทำไมต้องจีนล่ะ คนไทยมักมองข้ามประเทศนี้ เพราะอะไรหรอ ???
พูดมากบ้าง เสียงดังบ้าง ทำตัวหยิ่งยโส ห้องน้ำเน่า คนจีนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แถมเราภาษาจีนก็ไม่เก่ง จะไปเที่ยวได้อย่างไร คนจีนนิสัยเสีย ไม่มีมารยาท มันชั่งลำบากเสียกระไรนี่ ??
มารยาทขอไม่เถียง แต่เรื่องอื่นพวกเรามองผิดไปม้างงงงง มันไม่ใช่กับที่เซี่ยงไฮ้แน่นอน !!!
แล้วจีนมีดีอะไรกันน้า ถึงได้ไปหาถึงแดนมังกรรรรร พวกเราจะพาไปชมกานนนนนนนนนนน
การเตรียมตัวนะครัชชชชช ต้องรอบคอบและต้องดีกว่าเนื่องจากมีการรีวิวน้อย ขนส่งสาธารณะเยอะมาก และสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ มันคือความท้าทาย มากกว่าการไปเวียดนามซะอีก.......
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
1. ตั๋วเครื่องบิน ก่อนอื่นเราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าในราคาที่แสนถูก กับสายการบิน Airasia X ในราคาไป-กลับ 6,XXX ต่อคน แต่มีอีกหลายสายการบินครับที่ลงมหานครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียง อาทิ เช่น Nokscoot ลงหนานจิง , spring airline ลงเซี่ยงไฮ้
2. พาสปอร์ต มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนครับ เอกสารและสถานที่ตามเว็บลิงค์เลยครับ ก่อนไปควรถ่ายเอกสารไว้นะครับ เผื่อสูญหาย
https://travel.kapook.com/view25439.html
3. วีซ่าจีน เอกสารที่เตรียมและสถานที่ทำวีซ่าตามเว็บลิงค์เลยครับ
https://travel.kapook.com/view163421.html
4. โรงแรมที่จอง การจองควรเตรียมตัวจองล่วงหน้าหลังจากเราวางแพลนที่จะเที่ยวแล้วนะครับ
การจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ เช่น อโกด้า , booking , expedia , airasiago เป็นต้นครับ เมื่อจองแล้วอย่าลืมเอาตัวเอกสารของบริษัทที่เราจอง ปริ้นหรือแคปหน้าจอ
*** หมายเหตุ บางโรงแรมในประเทศจีนจะให้ถิ่นพำนักคนในประเทศเข้าพักโรงแรมเท่านั้น เมื่อจองแล้วควรตรวจเช็คจากรีวิวในเว็บบริษัทที่จองว่ามีรีวิวเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ หรือโทรเช็คกับทางโรงแรม
5. การศึกษาหาสถานที่ท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง พร้อมทั้งวางแผนการเดินทาง การหาชื่อสถานที่และโรงแรมเป็นภาษาจีน แล้วปริ้นเพื่อใช้ในการดูสถานที่และสอบถามจากคนจีน การดูสถานีรถไฟใต้ดินรวมถึงรถไฟความเร็วสูง
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
https://www.travelchinaguide.com/
6. ภาษาจีน อ้าว?? แล้วไหนบอกไม่จำเป็นต้องใช้ จริงๆแล้วถ้าเราไม่มีพื้นฐานเลย การเดินทางก็จะลำบากหน่อย ถ้ามหานครเซี่ยงไฮ้คุณอาจจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้เพราะคนเซี่ยงไฮ้สามารถพูดอังกฤษได้ในระดับนึง แต่ถ้าคุณไปเมืองอื่นคุณจะสื่อสารไม่รู้เรื่องทันที เพราะคนจีนเมืองอื่นยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างปิด ในที่นี้หมายถึงคนจีนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไปเที่ยวน้อยนั่นเอง เราจะไม่ลำบากมากในการเดินทางไปเมืองอื่นคือควรทราบภาษาจีนพื้นฐาน
โหลดแอพแปลภาษาจีนก็ได้ครับ สมัยนี้ไปง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ
7. ของใช้ทั่วไปที่ควรพาไป เช่น ยารักษาโรค ยาอม เสื้อผ้า ทิชชูสำคัญมากเอาไปเยอะๆนะ เพราะห้องน้ำไม่มีให้ครับ
8. จะไปซื้อซิมประเทศจีนผมไม่แนะนำเลย เพราะหายากมาก ลงทะเบียนยุ่งยากมาก ใครที่ติดเน็ตแนะนำ pocket wifi ดีกว่าไปหาที่จีนหรือ โรมมิ่ง ส่วนใครที่ใช้ wifi โรงแรม โหลด vpn เพื่อใช้ในการเล่นแอพ Facebook หรือ line ตั้งแต่อยู่ประเทศไทยนะครับ
9. เงินหยวนที่พกไปแล้วแต่ระยะเวลาที่อยู่ในประเทศจีนและความสบายในการท่องเที่ยว (ค่าใช้จ่ายของพวกเราสรุปไว้ล่างสุด ) เราไปสัปดาห์หนึ่งเอาไปประมาณ 15,000 บาทต่อคน
10. บัตรนิสิต นักศึกษา ใครที่ยังเป็นนิสิตนักศึกษา อายุไม่เกิน 23 ปี บางสถานที่ระบุไว้ที่จำหน่ายตั๋วเราสามารถเอาบัตรนักศึกษายื่นให้เจ้าหน้าที่ไปลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้
ข้อมูลทั่วไปสำหรับการเดินทาง
1. ปลั๊กไฟประเทศจีนมี 2 แบบ 3 ตา และ 2 ตาเหมือนบ้านเรา

2. เงินตราใช้เป็น เงินหยวน 1 หยวนประมาณ 5 บาท มีตั้งแต่ 1,5,10,20,50,100 หยวน

3. ภาษาที่ใช้เป็นภาษาจีนกลางครับ
4. เวลาในสาธารณรัฐประชาชนจีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
5. อาหารจีนค่อนข้างมันครับ ควรเตรียมยาอม ละลายเสมหะ ไม่ควรกินน้ำเย็น
6. ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน ประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม อุณหภูมิมากกว่า22 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน-กลางมีนาคม อุณหภูมิต่ำกว่า10 องศาเซลเซียส
7. รถไฟความเร็วสูง

ประเภทรถไฟ
รถไฟระดับดีงาม หัวกระสุน วิ่งเร็ว
G – รถไฟหัวกระสุน ไฮโซสุด วิ่งเร็วมาก ประมาณ 220-300 กม./ชม.
D – รถไฟหัวกระสุน รุ่นแรกๆของจีน วิ่งเร็วพอสมควร ประมาณ 200-250 กม./ชม.
รถไฟปกติ ธรรมดา
Z – เร็วสุดรองจากแก๊งหัวกระสุน
T – รถไฟด่วน คือ จอดบางสถานี เร็วเหมือนกัน
K – รถขบวนเร็ว คือ ช้าแหละ จะมีเยอะมาก แวะสถานีพอสมควร
7.1 ถ้ามีเพื่อนเป็นคนจีน เราสามารถขอให้เขาจองได้กับทางการรถไฟจีนได้เลย จะได้ราคาตามเน็ตเลย
7.2 แต่ถ้าเราไม่มีเพื่อนคนจีน
7.2.1 เราสามารถจองรถไฟเองในวันที่เราเดินทางถึงประเทศจีนได้แต่ไม่แนะนำ เสี่ยงมากกก !!! เพราะต้องไปแย่งกับคนจีนซึ่งคนเยอะมาก ตั๋ววันนั้นอาจจะเต็มหรือเป็นตั๋วยืน
7.2.2 อีกวิธีคือจองล่วงหน้าโดยผ่านตัวแทน ซึ่งแพงสุด เพราะมีค่าเซอร์วิสชาร์จ เว็บลิงค์ตัวแทน
https://www.travelchinaguide.com/china-trains/
https://www.ctrip.co.th/trains/
8. รถไฟใต้ดิน
8.1 หนานจิง ราคา 2 หยวนตลอดระบบรถไฟใต้ดิน

8.2 อู๋ซี ราคาตามระยะทาง 2- 6 หยวน

8.3 เซี่ยงไฮ้ ราคาตามระยะทาง 3-8 หยวน

ลิงค์เว็บรถไฟใต้ดินตั๋ว ตารางเวลา สถานีต่างๆ
http://service.shmetro.com/en/
ตั๋วรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ มี 3 แบบ
8.3.1 มีแบบ 1 เที่ยว ราคาตามระยะทาง
8.3.2 มีแบบ 1 วัน ราคา 18 หยวน , 3 วัน ราคา 45 หยวน
8.3.3 มีแบบเติมเงิน
เว็บรถไฟใต้ดินที่แนะนำ
https://exploreshanghai.com/metro/ และแอพ Explore Shanghai metro
9. แท็กซี่ราคาเริ่มต้นที่เซี่ยงไฮ้ประมาณ 13-15 หยวน ที่หนานจิงประมาณ 8-10 หยวน
10. การต่อราคาซื้อสินค้าต่อไปเลย ใครเป็นนักต่อราคาต่อให้ตายไปข้างนึง สัก 30 % ของราคาที่แม่ค้าตั้งครั้งแรกพอโอเคนะ เช่นตั้งครั้งแรก 50 หยวน ลองต่อให้เหลือสัก 20-25 หยวน
พวกเราจะพาไปรีวิว 3 เมือง
เมืองแรก......
เมืองหนานจิง ( Nanjing ) สมญานามว่า “เมืองหลวงสิบแผ่นดิน ” อดีตเมืองหลวงของประเทศจีน เคยเป็นเมืองหลวงช่วงของสาธารณรัฐจีน( ยุคประชาธิปไตย )
เมืองที่สอง....
เมืองอู๋ซี ( wuxi ) ขนานนามว่า "เซี่ยงไฮ้น้อย" เมืองเล็ก แต่ความสวยไม่เล็กนะบอกเลยยยยยยย!!!
เมืองที่สาม....
มหานครเซี่ยงไฮ้ ( Shanghai ) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ขนานนามว่าเป็น "นครปารีสแห่งตะวันออก" และเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในจีน
[CR] 2 พี่น้องแบกเป้ไปแดนมังกร "หนานจิง-อู๋ซี-เซี่ยงไฮ้": Nanjing-Wuxi-Shanghai
ขออนุญาติฝากรีวิวเที่ยวก่อนหน้านี้นะครับ https://pantip.com/topic/36000857/comment3 ซินจ่าว ฮานอยย
รีวิวก่อนหน้านี้เป็นประเทศเวียดนาม ประสบการณ์เวียดนามทำให้เราอยากไปต่างประเทศอีกครั้ง พอเจอโปรเครื่องบินต่างประเทศระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น ราคาเท่ากัน ใครหลายๆคนก็คงเลือก ญี่ปุ่น แหงล่ะ ราคาเท่ากัน แถมญี่ปุ่นสถานที่สวยซะด้วย แต่เรากะพี่ตัดสินใจไปประเทศจีน ด้วยเหตุเพราะ
ข้อแรก ภาษาจีน ที่พี่ผมสามารถสื่อสารได้
ข้อสอง เท่าที่อ่านรีวิว ค่าใช้จ่ายทริปถูกกว่า 2-3 เท่าของการไปเที่ยวญี่ปุ่น ในระยะเวลาเท่ากัน
ข้อสาม อยากไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ อารยธรรม วัฒนธรรม ผู้คน และที่สำคัญความเจริญของประเทศจีนยุคใหม่
ประเทศจีน ทำไมต้องจีนล่ะ คนไทยมักมองข้ามประเทศนี้ เพราะอะไรหรอ ???
พูดมากบ้าง เสียงดังบ้าง ทำตัวหยิ่งยโส ห้องน้ำเน่า คนจีนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แถมเราภาษาจีนก็ไม่เก่ง จะไปเที่ยวได้อย่างไร คนจีนนิสัยเสีย ไม่มีมารยาท มันชั่งลำบากเสียกระไรนี่ ??
มารยาทขอไม่เถียง แต่เรื่องอื่นพวกเรามองผิดไปม้างงงงง มันไม่ใช่กับที่เซี่ยงไฮ้แน่นอน !!!
แล้วจีนมีดีอะไรกันน้า ถึงได้ไปหาถึงแดนมังกรรรรร พวกเราจะพาไปชมกานนนนนนนนนนน
การเตรียมตัวนะครัชชชชช ต้องรอบคอบและต้องดีกว่าเนื่องจากมีการรีวิวน้อย ขนส่งสาธารณะเยอะมาก และสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ มันคือความท้าทาย มากกว่าการไปเวียดนามซะอีก.......
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
1. ตั๋วเครื่องบิน ก่อนอื่นเราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าในราคาที่แสนถูก กับสายการบิน Airasia X ในราคาไป-กลับ 6,XXX ต่อคน แต่มีอีกหลายสายการบินครับที่ลงมหานครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียง อาทิ เช่น Nokscoot ลงหนานจิง , spring airline ลงเซี่ยงไฮ้
2. พาสปอร์ต มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนครับ เอกสารและสถานที่ตามเว็บลิงค์เลยครับ ก่อนไปควรถ่ายเอกสารไว้นะครับ เผื่อสูญหาย
https://travel.kapook.com/view25439.html
3. วีซ่าจีน เอกสารที่เตรียมและสถานที่ทำวีซ่าตามเว็บลิงค์เลยครับ https://travel.kapook.com/view163421.html
4. โรงแรมที่จอง การจองควรเตรียมตัวจองล่วงหน้าหลังจากเราวางแพลนที่จะเที่ยวแล้วนะครับ
การจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ เช่น อโกด้า , booking , expedia , airasiago เป็นต้นครับ เมื่อจองแล้วอย่าลืมเอาตัวเอกสารของบริษัทที่เราจอง ปริ้นหรือแคปหน้าจอ
*** หมายเหตุ บางโรงแรมในประเทศจีนจะให้ถิ่นพำนักคนในประเทศเข้าพักโรงแรมเท่านั้น เมื่อจองแล้วควรตรวจเช็คจากรีวิวในเว็บบริษัทที่จองว่ามีรีวิวเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ หรือโทรเช็คกับทางโรงแรม
5. การศึกษาหาสถานที่ท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง พร้อมทั้งวางแผนการเดินทาง การหาชื่อสถานที่และโรงแรมเป็นภาษาจีน แล้วปริ้นเพื่อใช้ในการดูสถานที่และสอบถามจากคนจีน การดูสถานีรถไฟใต้ดินรวมถึงรถไฟความเร็วสูง
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว https://www.travelchinaguide.com/
6. ภาษาจีน อ้าว?? แล้วไหนบอกไม่จำเป็นต้องใช้ จริงๆแล้วถ้าเราไม่มีพื้นฐานเลย การเดินทางก็จะลำบากหน่อย ถ้ามหานครเซี่ยงไฮ้คุณอาจจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้เพราะคนเซี่ยงไฮ้สามารถพูดอังกฤษได้ในระดับนึง แต่ถ้าคุณไปเมืองอื่นคุณจะสื่อสารไม่รู้เรื่องทันที เพราะคนจีนเมืองอื่นยังเป็นเมืองที่ค่อนข้างปิด ในที่นี้หมายถึงคนจีนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไปเที่ยวน้อยนั่นเอง เราจะไม่ลำบากมากในการเดินทางไปเมืองอื่นคือควรทราบภาษาจีนพื้นฐาน
โหลดแอพแปลภาษาจีนก็ได้ครับ สมัยนี้ไปง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ
7. ของใช้ทั่วไปที่ควรพาไป เช่น ยารักษาโรค ยาอม เสื้อผ้า ทิชชูสำคัญมากเอาไปเยอะๆนะ เพราะห้องน้ำไม่มีให้ครับ
8. จะไปซื้อซิมประเทศจีนผมไม่แนะนำเลย เพราะหายากมาก ลงทะเบียนยุ่งยากมาก ใครที่ติดเน็ตแนะนำ pocket wifi ดีกว่าไปหาที่จีนหรือ โรมมิ่ง ส่วนใครที่ใช้ wifi โรงแรม โหลด vpn เพื่อใช้ในการเล่นแอพ Facebook หรือ line ตั้งแต่อยู่ประเทศไทยนะครับ
9. เงินหยวนที่พกไปแล้วแต่ระยะเวลาที่อยู่ในประเทศจีนและความสบายในการท่องเที่ยว (ค่าใช้จ่ายของพวกเราสรุปไว้ล่างสุด ) เราไปสัปดาห์หนึ่งเอาไปประมาณ 15,000 บาทต่อคน
10. บัตรนิสิต นักศึกษา ใครที่ยังเป็นนิสิตนักศึกษา อายุไม่เกิน 23 ปี บางสถานที่ระบุไว้ที่จำหน่ายตั๋วเราสามารถเอาบัตรนักศึกษายื่นให้เจ้าหน้าที่ไปลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้
ข้อมูลทั่วไปสำหรับการเดินทาง
1. ปลั๊กไฟประเทศจีนมี 2 แบบ 3 ตา และ 2 ตาเหมือนบ้านเรา
2. เงินตราใช้เป็น เงินหยวน 1 หยวนประมาณ 5 บาท มีตั้งแต่ 1,5,10,20,50,100 หยวน
3. ภาษาที่ใช้เป็นภาษาจีนกลางครับ
4. เวลาในสาธารณรัฐประชาชนจีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
5. อาหารจีนค่อนข้างมันครับ ควรเตรียมยาอม ละลายเสมหะ ไม่ควรกินน้ำเย็น
6. ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน ประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม อุณหภูมิมากกว่า22 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม อุณหภูมิ 10-22 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน-กลางมีนาคม อุณหภูมิต่ำกว่า10 องศาเซลเซียส
7. รถไฟความเร็วสูง
ประเภทรถไฟ
รถไฟระดับดีงาม หัวกระสุน วิ่งเร็ว
G – รถไฟหัวกระสุน ไฮโซสุด วิ่งเร็วมาก ประมาณ 220-300 กม./ชม.
D – รถไฟหัวกระสุน รุ่นแรกๆของจีน วิ่งเร็วพอสมควร ประมาณ 200-250 กม./ชม.
รถไฟปกติ ธรรมดา
Z – เร็วสุดรองจากแก๊งหัวกระสุน
T – รถไฟด่วน คือ จอดบางสถานี เร็วเหมือนกัน
K – รถขบวนเร็ว คือ ช้าแหละ จะมีเยอะมาก แวะสถานีพอสมควร
7.1 ถ้ามีเพื่อนเป็นคนจีน เราสามารถขอให้เขาจองได้กับทางการรถไฟจีนได้เลย จะได้ราคาตามเน็ตเลย
7.2 แต่ถ้าเราไม่มีเพื่อนคนจีน
7.2.1 เราสามารถจองรถไฟเองในวันที่เราเดินทางถึงประเทศจีนได้แต่ไม่แนะนำ เสี่ยงมากกก !!! เพราะต้องไปแย่งกับคนจีนซึ่งคนเยอะมาก ตั๋ววันนั้นอาจจะเต็มหรือเป็นตั๋วยืน
7.2.2 อีกวิธีคือจองล่วงหน้าโดยผ่านตัวแทน ซึ่งแพงสุด เพราะมีค่าเซอร์วิสชาร์จ เว็บลิงค์ตัวแทน
https://www.travelchinaguide.com/china-trains/
https://www.ctrip.co.th/trains/
8. รถไฟใต้ดิน
8.1 หนานจิง ราคา 2 หยวนตลอดระบบรถไฟใต้ดิน
8.2 อู๋ซี ราคาตามระยะทาง 2- 6 หยวน
8.3 เซี่ยงไฮ้ ราคาตามระยะทาง 3-8 หยวน
ลิงค์เว็บรถไฟใต้ดินตั๋ว ตารางเวลา สถานีต่างๆ http://service.shmetro.com/en/
ตั๋วรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ มี 3 แบบ
8.3.1 มีแบบ 1 เที่ยว ราคาตามระยะทาง
8.3.2 มีแบบ 1 วัน ราคา 18 หยวน , 3 วัน ราคา 45 หยวน
8.3.3 มีแบบเติมเงิน
เว็บรถไฟใต้ดินที่แนะนำ https://exploreshanghai.com/metro/ และแอพ Explore Shanghai metro
9. แท็กซี่ราคาเริ่มต้นที่เซี่ยงไฮ้ประมาณ 13-15 หยวน ที่หนานจิงประมาณ 8-10 หยวน
10. การต่อราคาซื้อสินค้าต่อไปเลย ใครเป็นนักต่อราคาต่อให้ตายไปข้างนึง สัก 30 % ของราคาที่แม่ค้าตั้งครั้งแรกพอโอเคนะ เช่นตั้งครั้งแรก 50 หยวน ลองต่อให้เหลือสัก 20-25 หยวน
พวกเราจะพาไปรีวิว 3 เมือง
เมืองแรก...... เมืองหนานจิง ( Nanjing ) สมญานามว่า “เมืองหลวงสิบแผ่นดิน ” อดีตเมืองหลวงของประเทศจีน เคยเป็นเมืองหลวงช่วงของสาธารณรัฐจีน( ยุคประชาธิปไตย )
เมืองที่สอง.... เมืองอู๋ซี ( wuxi ) ขนานนามว่า "เซี่ยงไฮ้น้อย" เมืองเล็ก แต่ความสวยไม่เล็กนะบอกเลยยยยยยย!!!
เมืองที่สาม.... มหานครเซี่ยงไฮ้ ( Shanghai ) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ขนานนามว่าเป็น "นครปารีสแห่งตะวันออก" และเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในจีน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น