ความสัมพันธ์ ของโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ อย่างย่อ

พอดีผมเป็นนักปฏิบัตธรรมก่อนที่จะศึกษาพระไตรปิฏก จึงขอยก เอาการเริ่มปฏิบัติธรรมขึ้นก่อน ดังนี้

--------------------------------------------
สติปัฏฐาน4 + อิทธิบาท 4 + สัมมัปปธาน 4 + พละ 5  -> อินทรีย์ 5  

เมื่อ อินทรีย์ 5 สมบรณ์ ย่อมทำให้ให้ สติปัฏฐาน 4 สมบรณ์  เมื่อยังปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อยู่เนืองๆ ก็ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 สมบูรณ์

เมื่อปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อยู่เนืองๆ เมื่อโพชฌงค์ 7 สมบูรณ์ ย่อมทำให้ มรรคมีองค์ 8 สมบูรณ์

เมื่อยังปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อยู่เนื่องๆ และมรรคมีองค์ 8 สมบรณ์ ย่อมบรรลุธรรมไปตามลำดับ. จนหมดสิ้นอวิชชา ไม่ปรากฏขึ้นอีก.
---------------------------------------------

      ข้างบนนั้น เป็นโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ อย่างย่อ ต่อไปมาดู ความเหมายของธรรมแต่ละประการนั้นสำพันธ์กันอย่างไรแบบคร่าวๆ.

******************************
     สติปัฏฐาน 4 คือ พิจารณา 1.กายในกาย 2.เวทนาในเวทนา 3.จิตในจิต 4.ธรรมในธรรม

      อิทธิบาท 4 คือ 1.ฉันทะ 2.วิริยะ 3.จิตตะ 4.วิมังสา    

      สัมมัปปธาน 4 คือ
             1.เพียร ประคองจิต ตั้งใจ เพื่อความไม่เกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นบาปอกุศลที่ยังไม่เกิด
             2.เพียร ประคองจิต ตั้งใจ เพื่อละธรรมที่เป็นบาปอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
             3.เพียร ประคองจิต ตั้งใจ เพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งธรรมที่เป็นกุศลที่ยังไม่เกิด
             4.เพียร ประคองจิต ตั้งใจ เพื่อความตั้งมั่นไม่เลือนลางจำเริญยิ่ง ไพบูลย์ เจริญ บริบูรณ์
แห่งธรรมที่เป็นกุศลที่บังเกิดขึ้นแล้ว

  >>>    ดังนั้นการปฏิบัติสติปัฏฐานทั้ง 4 ต้อง อาศัย อิทธิบาท 4 และ สัมมัปปธาน 4 ย่อมก่อให้เกิด พละ 5 เจริญขึ้น
      
         พละ 5 คือ 1.สติ 2.สมาธิ 3.ปัญญา 4.ศรัทธา 5.ความเพียร
  
   >>>    และการเจริญขึ้นของพละ 5 นั้น ก็ต้องให้สมบูรณ์และสมดุลย์กัน ในการปฏบัติสติปัฏฐาน 4 จนเป็น อินทรีย์ 5 เจริญสมบูรณ์.

         อินทรีย์ ๕ คือ 1.สัทธินทรีย์ 2.วิริยินทรีย์ 3.สตินทรีย์ 4.สมาธินทรีย์ 5.ปัญญินทรีย์

   >>>  หมายเหตุ อินทรีย์ 5 สมบูรณ์ ก็เมื่อ พละ 5 เจริญสมบูรณ์ และสมดุลย์แล้วนั้นเอง
   >>>  ดังนั้น พละ 5 เจริญสมบูรณ์ สมดุลย์ มากขึ้นเพิ่มขึ้นเท่าใด ก็เป็นการทำให้ อินทรีย์ 5 เพิ่มขึ้นนั้นเอง

            เมื่อปฏิบัติธรรมคือสติปัฏฐาน 4 ด้วย อิทธิบาท 4 สัมมัปปธาน 4 พละ 5 และมีอินทรีย์  5 เจริญขึ้นอย่างดีแล้ว ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 นั้นเจริญสมบูรณ์  ก็เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้  

           เมื่อสติปัฏฐาน 4 สมบูรณ์  ย่อมทำให้โพชฌงค 7 เจริญสมบูรณ์

   >>> โพชฌงค์ 7 คือ  1.สติสัมโพชฌงค์ 2.ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ 3.วิริยสัมโพชฌงค์ 4.ปีติสัมโพชฌงค์ 5.ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ 6.สมาธิสัมโพชฌงค์ 7.อุเบกขาสัมโพชฌงค์  

           เมื่อโพชฌงค์ 7 เจริญสมบูรณ์ย่อมทำให้ มรรคมีองค์ 8 เจริญสมบูรณ์

   >>> มรรคมีองค์ 8 คือ 1.สัมมาทิฏฐิ 2.สัมมาสังกัปปะ 3.สัมมาวาจา 4.สัมมากัมมันตะ 5.สัมมาอาชีวะ 6.สัมมาวายามะ 7.สัมมาสติ 8.สัมมาสมาธิ

           หมายเหตุ เคล็ดลับ คือ ต้องปฏิบัติธรรม ด้วยสติปัฏฐาน 4 อยู่เนืองๆ ไม่ทอดธุระ เป็นทางเอก จึงทำให้โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ นั้นสมบูรณ์สมดุลย์ รวมกันเป็น 1 ได้    


        ต่อไปยกธรรมบัญญัติ ที่ทำให้พอเข้าใจในความหมายขึ้น  ในสติปัฏฐาน 4 โพชฌงค์ 7 และ มรรคมีองค์ 8..

    ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ สติปัฏฐาน ๔ อย่าง
         ๑. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความ
เพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌา และโทมนัส ในโลกเสียได้ ฯ
         ๒. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ มี
ความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ฯ
         ๓. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร
มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ฯ
         ๔. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร
มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ฯ

    [๓๒๗] โพชฌงค์ ๗ อย่าง
        ๑. สติสัมโพชฌงค์     [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความระลึกได้]
        ๒. ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์    [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือการสอดส่องธรรม]
        ๓. วิริยสัมโพชฌงค์     [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความเพียร]
        ๔. ปีติสัมโพชฌงค์     [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความอิ่มใจ]
        ๕. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์     [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความสงบ]
        ๖. สมาธิสัมโพชฌงค์     [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือความตั้งใจมั่น]
        ๗. อุเปกขาสัมโพชฌงค์    [องค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้คือ ความวางเฉย]

        มรรคมีองค์ 8 ดังนี้
         [๓๓๙] ดูกรอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้ว สาวก
ทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมเจริญอริยมรรคมีองค์แปด. ดูกรอุทายี ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เจริญสัมมาทิฏฐิ เจริญสัมมาสังกัปปะ เจริญสัมมาวาจา เจริญสัมมากัมมันตะ เจริญสัมมาอาชีวะ
เจริญสัมมาวายามะ เจริญสัมมาสติ เจริญสัมมาสมาธิ. ก็เพราะสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตาม
ปฏิปทาที่เราบอก แล้วเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ นั้นแล สาวกของเราเป็นอันมากจึงได้บรรลุบารมี
อันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่.
        [๑๗๖] ในมรรคมีองค์ ๘ นั้น สัมมาทิฏฐิ เป็นไฉน
        ปัญญา กิริยาที่รู้ชัด ฯลฯ ความไม่หลง ความวิจัยธรรม ความเห็นชอบ ธัมมวิจยสัม
โพชฌงค์ อันเป็นองค์แห่งมรรค นับเนื่องในมรรค อันใดนี้เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ
        [๑๗๗] สัมมาสังกัปปะ เป็นไฉน
        ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ฯลฯ ความดำริชอบ อันเป็นองค์แห่ง
มรรค นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่า สัมมาสังกัปปะ
        [๑๗๘] สัมมาวาจา เป็นไฉน
        การงด การเว้น การเลิกละ เจตนาเครื่องเว้น จากวจีทุจริต ๔ กิริยาไม่ทำ การไม่ทำ
การไม่ล่วงละเมิด การไม่ล้ำเขต การกำจัด ต้นเหตุวจีทุจริต๔ วาจาชอบ อันเป็นองค์แห่งมรรค
นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่าสัมมาวาจา
        [๑๗๙] สัมมากัมมันตะ เป็นไฉน
        การงด การเว้น การเลิกละ เจตนาเครื่องเว้น จากกายทุจริต ๓  กิริยาไม่ทำ การไม่ทำ
การไม่ล่วงละเมิด การไม่ล้ำเขต การกำจัดต้นเหตุกายทุจริต๓ การงานชอบ อันเป็นองค์แห่งมรรค
นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่าสัมมากัมมันตะ
        [๑๘๐] สัมมาอาชีวะ เป็นไฉน
        การงด การเว้น การเลิกละ เจตนาเครื่องเว้น จากมิจฉาอาชีวะ กิริยาไม่ทำ การไม่ทำ
การไม่ล่วงละเมิด การไม่ล้ำเขต การกำจัด ต้นเหตุมิจฉาอาชีวะ การเลี้ยงชีพชอบ อันเป็นองค์
แห่งมรรค นับเนื่องในมรรค อันใดนี้เรียกว่า สัมมาอาชีวะ
        [๑๘๑] สัมมาวายามะ เป็นไฉน
        การปรารภความเพียรทางใจ ฯลฯ ความพยายามชอบ วิริยสัมโพชฌงค์อันเป็นองค์แห่ง
มรรค นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่า สัมมาวายามะ
        [๑๘๒] สัมมาสติ เป็นไฉน
        สติ ความตามระลึก ฯลฯ ความระลึกชอบ สติสัมโพชฌงค์ อันเป็นองค์แห่งมรรค
นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่า สัมมาสติ
        [๑๘๓] สัมมาสมาธิ เป็นไฉน
        ความตั้งอยู่แห่งจิต ฯลฯ ความตั้งใจชอบ สมาธิสัมโพฌงค์ อันเป็นองค์แห่งมรรค
นับเนื่องในมรรค อันใด นี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่