อยากจะเล่าเกี่ยวกับปัญหา ที่เรากำลังเผชิญคนเดียว มาถามหลายๆคน ในที่นี่ ว่า เคยประสบกับปัญหาแบบนี้ไหม และมีวิธีแก้อย่างไรบ้างคะ?
เข้าเรื่องเลยน่ะ เราและสามี คบกันมา 2 เกือบ 3ปี สามีอายุมากกว่าเรา 12 ปี วัยกำลัง 30+ กลางๆ ต้นปี 2560 เราเคยทะเลาะ ระหองระแหงกันจนเกือบจะเลิกรา สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกัน หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันเรื่อง ลูก เมื่อเขาเอ่ยปากอยากมีลูก เพราะเขาบอกว่าตัวเองอายุก็มากพอที่จะมีและสร้างครอบครัวแล้ว ด้วยความที่เราเชื่อใจและรักเขามาก เราก็เออออที่จะมีลูกกับเขา เพราะเราก็คิดไว้ว่า เขาจะสามารถทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้กับลูก เมีย ได้ มีนาคมที่ผ่านมา เราก็ท้องอย่างที่เขาตั้งใจ หลังจากที่รู้ก็ไปฝากครรภ์ทันที ผ่านไปได้หลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่มกลับบ้านดึกขึ้น เที่ยงคืนบ้าง ตีหนึ่งบ้าง เขาให้เหตุผลว่าเขาต้องทำงานเพื่อลูกที่กำลังจะเกิด เราขอเขาว่า อย่างน้อยให้กลับเร็วๆมาซักวันนึงได้ไหมเราไม่ชอบให้เขาหักโหมมากเกินไปแบบนี้ แต่เขาก็ชอบให้เหตุผลว่าให้เรากินข้าวแล้วนอนไปก่อน ตอนนี้เรายังดูแลตัวเองได้ เพราะเราจะชอบทำกับข้าวกินกับเขาตลอด กลายเป็นว่า ตั้งแต่ท้องเรากินข้าวคนเดียวมาตลอด คำขอหลายๆครั้ง เราไม่เคยเป็นผล เราถูกมองว่า เป็นคนที่ไม่รู้จักโต ทั้งๆ ที่จะเป็นแม่คนแล้ว เป็นแบบนี้หลายสัปดาห์ จนเราทนไม่ได้ เราเอาเสื้อผ้าเขาไปไว้ห้องข้างๆ ให้เขานอนห้องนั้นไป เขาก็ดูจะโกรธเราที่เราไม่ให้นอนด้วย หลังจากนั้นกลายเราเป็นคนที่นอนไม่หลับ ผวาตื่นมากลางดึกเพื่อให้แน่ใจว่าเขากลับมานอนห้องข้างๆเราแล้ว หรือบางทีก็นั่งรอเขากลับบ้าน จนตีหนึ่งตีสอง ร้องไห้หนักจนบางวันไม่มีสติทำงาน เราทะเลาะกันมากขึ้น เพราะเหตุกลับบ้านดึก เราขอให้เขารีบกลับมาพักอย่างน้อยวันนึง แม้วันหยุดเขาก็ออกไปทำงาน จนกลายเป็นว่าทุกกวันนี้เราอยู่กับตัวเองคนเดียว ไปไหนมาไหนเอง เราร้องไห้หนักขึ้นทุกวัน ระบายให้แม่ฟัง เพื่อนสนิทฟัง แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเราก็ต้องเจอกับความเงียบ จนทำให้เราต้องร้องไห้อีกครั้ง ซ้ำๆกันทุกวัน แม่และเพื่อนสนิทต่างก็ปลอบว่า อีกไม่นานเขาก็กลับมา อดทนหน่อย ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเจอหน้าลูกเขาก็จะกลับมาเองแหละ เราก็พยายามน่ะ พยายามดูวิธีแก้ไขว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่มันทำให้สามีเราเปลี่ยนไปขนาดนี้ คำถามเดิมๆซ้ำๆ ที่เราจะดักถามเขาตอนที่เขากลับมาตอนกลางคืน คือ เราจะถามตลอดว่า พี่ไปไหนมา เขาก็จะตอบคำเดียวว่า มีสิทธิอะไรมาถาม มันเป็นการต่อประโยคทะเลาะต่อได้เลย จากที่รับโทรศัพท์บ้างไม่รับบ้าง กลายเป็นไม่รับสายเลย เขาให้เหตุผลว่าขี้เกียจรับ จนเราเลือกที่จะไม่โทร ทุกวันนี้กลายเป็นเหมือนคนรู้จักกันมากกว่า แทบไม่เคยเจอหน้ากันเลย เพราะเราจะออกไปทำงานก่อน และเข้ามาก็เข้าห้องเลย หลายๆครั้งเราพยายามให้เขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม เขาก็เลือกที่เฉย กับคำพูดของเรา และล่าสุดวันนี้เราไลน์คุยกัน เขาบอกว่า เขาอยากมีลูก ตือ เขาอยากมีแค่ลูก เราบอกเขาไปว่า เราไม่สามารถให้ลูกกับใครได้เพราะเขาคือลูกของเรา มันดูกลายจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อย เราไม่สามารถบอกแม่เราได้ทุกอย่างเพราะเราก็กลัวแม่เครียดตามเราเหมือนกัน เพราะกลัวท่านห่วงว่าลูกตัวเองกำลังมีปัญหาชีวิต ตอนนี้เราก็ได้แต่โทษตัวเองกับอารมณ์ร้อนของตัวเองที่ให้เขาไปนอนอีกห้อง เราไม่รู้ว่าจะมีวิธีไหนที่เราจะสามารถคุยกันให้กลับมาดีๆเหมือนเดิมได้แล้ว เขาเปลี่ยนไปมากเกินไปจนบางวันไม่กลับมาเลยก็มี มันทำเราบ้าไม่เป็นผู้เป็นคนจนเพื่อนต้องพากันปลอบยกใหญ่ จนบอกตัวเองว่าปล่อยวางได้แล้ว แล้วมาคิดถึงลูกให้มากๆ บังคับตัวเองให้นอนให้หลับแล้วไม่ต้องผวาขึ้นมากลางดึกอีก กินอาหารที่บำรุงเจ้าตัวเล็กมากๆ ดูแลตัวเอง เพื่อที่รอเขากลับมาดูแลและใส่ใจเราสองคนอีกครั้ง
เราอยากจะถามแม่หลายๆท่านว่าเคยประสบปัญหาแบบนี้ หรือคล้ายๆแบบไหมคะ? และมีวิธีแก้ไขยังไง? หรือมีวิธีพูดคุยแบบไหนบ้าง? เราแค่อยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์กลับคืนมาเท่านั้นเอง
เนื้อหา อาจดูวกไปวนมา จนบางคนไม่เข้าใจ หรือบางคนอาจคิดว่ามันไม่ใช่เรื่อง แต่มันคือปัญหา ที่ ผู้หญิงคนนึงกำลังเจอ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกบ้างขออภัย ณ ที่นี้
แม่ๆที่กำลังตั้งครรภ์เคยเจอพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสามีไหมคะ?
เข้าเรื่องเลยน่ะ เราและสามี คบกันมา 2 เกือบ 3ปี สามีอายุมากกว่าเรา 12 ปี วัยกำลัง 30+ กลางๆ ต้นปี 2560 เราเคยทะเลาะ ระหองระแหงกันจนเกือบจะเลิกรา สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกัน หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันเรื่อง ลูก เมื่อเขาเอ่ยปากอยากมีลูก เพราะเขาบอกว่าตัวเองอายุก็มากพอที่จะมีและสร้างครอบครัวแล้ว ด้วยความที่เราเชื่อใจและรักเขามาก เราก็เออออที่จะมีลูกกับเขา เพราะเราก็คิดไว้ว่า เขาจะสามารถทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้กับลูก เมีย ได้ มีนาคมที่ผ่านมา เราก็ท้องอย่างที่เขาตั้งใจ หลังจากที่รู้ก็ไปฝากครรภ์ทันที ผ่านไปได้หลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่มกลับบ้านดึกขึ้น เที่ยงคืนบ้าง ตีหนึ่งบ้าง เขาให้เหตุผลว่าเขาต้องทำงานเพื่อลูกที่กำลังจะเกิด เราขอเขาว่า อย่างน้อยให้กลับเร็วๆมาซักวันนึงได้ไหมเราไม่ชอบให้เขาหักโหมมากเกินไปแบบนี้ แต่เขาก็ชอบให้เหตุผลว่าให้เรากินข้าวแล้วนอนไปก่อน ตอนนี้เรายังดูแลตัวเองได้ เพราะเราจะชอบทำกับข้าวกินกับเขาตลอด กลายเป็นว่า ตั้งแต่ท้องเรากินข้าวคนเดียวมาตลอด คำขอหลายๆครั้ง เราไม่เคยเป็นผล เราถูกมองว่า เป็นคนที่ไม่รู้จักโต ทั้งๆ ที่จะเป็นแม่คนแล้ว เป็นแบบนี้หลายสัปดาห์ จนเราทนไม่ได้ เราเอาเสื้อผ้าเขาไปไว้ห้องข้างๆ ให้เขานอนห้องนั้นไป เขาก็ดูจะโกรธเราที่เราไม่ให้นอนด้วย หลังจากนั้นกลายเราเป็นคนที่นอนไม่หลับ ผวาตื่นมากลางดึกเพื่อให้แน่ใจว่าเขากลับมานอนห้องข้างๆเราแล้ว หรือบางทีก็นั่งรอเขากลับบ้าน จนตีหนึ่งตีสอง ร้องไห้หนักจนบางวันไม่มีสติทำงาน เราทะเลาะกันมากขึ้น เพราะเหตุกลับบ้านดึก เราขอให้เขารีบกลับมาพักอย่างน้อยวันนึง แม้วันหยุดเขาก็ออกไปทำงาน จนกลายเป็นว่าทุกกวันนี้เราอยู่กับตัวเองคนเดียว ไปไหนมาไหนเอง เราร้องไห้หนักขึ้นทุกวัน ระบายให้แม่ฟัง เพื่อนสนิทฟัง แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเราก็ต้องเจอกับความเงียบ จนทำให้เราต้องร้องไห้อีกครั้ง ซ้ำๆกันทุกวัน แม่และเพื่อนสนิทต่างก็ปลอบว่า อีกไม่นานเขาก็กลับมา อดทนหน่อย ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเจอหน้าลูกเขาก็จะกลับมาเองแหละ เราก็พยายามน่ะ พยายามดูวิธีแก้ไขว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่มันทำให้สามีเราเปลี่ยนไปขนาดนี้ คำถามเดิมๆซ้ำๆ ที่เราจะดักถามเขาตอนที่เขากลับมาตอนกลางคืน คือ เราจะถามตลอดว่า พี่ไปไหนมา เขาก็จะตอบคำเดียวว่า มีสิทธิอะไรมาถาม มันเป็นการต่อประโยคทะเลาะต่อได้เลย จากที่รับโทรศัพท์บ้างไม่รับบ้าง กลายเป็นไม่รับสายเลย เขาให้เหตุผลว่าขี้เกียจรับ จนเราเลือกที่จะไม่โทร ทุกวันนี้กลายเป็นเหมือนคนรู้จักกันมากกว่า แทบไม่เคยเจอหน้ากันเลย เพราะเราจะออกไปทำงานก่อน และเข้ามาก็เข้าห้องเลย หลายๆครั้งเราพยายามให้เขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม เขาก็เลือกที่เฉย กับคำพูดของเรา และล่าสุดวันนี้เราไลน์คุยกัน เขาบอกว่า เขาอยากมีลูก ตือ เขาอยากมีแค่ลูก เราบอกเขาไปว่า เราไม่สามารถให้ลูกกับใครได้เพราะเขาคือลูกของเรา มันดูกลายจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อย เราไม่สามารถบอกแม่เราได้ทุกอย่างเพราะเราก็กลัวแม่เครียดตามเราเหมือนกัน เพราะกลัวท่านห่วงว่าลูกตัวเองกำลังมีปัญหาชีวิต ตอนนี้เราก็ได้แต่โทษตัวเองกับอารมณ์ร้อนของตัวเองที่ให้เขาไปนอนอีกห้อง เราไม่รู้ว่าจะมีวิธีไหนที่เราจะสามารถคุยกันให้กลับมาดีๆเหมือนเดิมได้แล้ว เขาเปลี่ยนไปมากเกินไปจนบางวันไม่กลับมาเลยก็มี มันทำเราบ้าไม่เป็นผู้เป็นคนจนเพื่อนต้องพากันปลอบยกใหญ่ จนบอกตัวเองว่าปล่อยวางได้แล้ว แล้วมาคิดถึงลูกให้มากๆ บังคับตัวเองให้นอนให้หลับแล้วไม่ต้องผวาขึ้นมากลางดึกอีก กินอาหารที่บำรุงเจ้าตัวเล็กมากๆ ดูแลตัวเอง เพื่อที่รอเขากลับมาดูแลและใส่ใจเราสองคนอีกครั้ง
เราอยากจะถามแม่หลายๆท่านว่าเคยประสบปัญหาแบบนี้ หรือคล้ายๆแบบไหมคะ? และมีวิธีแก้ไขยังไง? หรือมีวิธีพูดคุยแบบไหนบ้าง? เราแค่อยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์กลับคืนมาเท่านั้นเอง
เนื้อหา อาจดูวกไปวนมา จนบางคนไม่เข้าใจ หรือบางคนอาจคิดว่ามันไม่ใช่เรื่อง แต่มันคือปัญหา ที่ ผู้หญิงคนนึงกำลังเจอ พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกบ้างขออภัย ณ ที่นี้