ขอคารวะหน้ากากขั้นเทพ "ไคจู"คนที่4
-----หน้ากากหอยนางรม-----
กระทู้นี้ ชวนคุยเพื่อความเพลิดเพลินนะครับ .. หลังจากโดนมนต์สะกดของหน้ากากหอยนางรมไป2บทเพลง (หมดห่วง,ตราบธุลีดิน)
เห็นทีจะอยู่เฉยไม่ได้ ประกอบกับเห็นกระทู้ก่อนหน้า มีการตั้งคำถามเชิงข้องใจในความสามารถและคาใจในกระแสความแรงของหน้ากากหอยนางรม
ผมเลยจำต้องloginเข้าpantip ตั้งกระทู้เม้าท์มอยซะหน่อย หลังจากห่างหายไปพักใหญ่
ส่วนตัวผม ในฐานะ"นักดนตรี" และ "DJเปิดแผ่น" ก็พอจะมีความรู้และประสบการณ์การฟังเพลงอยู่บ้าง อาจไม่เข้าขั้น "เซียนเพลง" แต่อาศัยว่าฟังเพลง,
แกะเพลงและเล่นเพลงมาไม่น้อย มาวันนี้ก็อยากจะมาอวยหน้ากากคนโปรดประจำss2ซักเล็กน้อย ... อย่างที่บอกนะครับ ว่าอยากชวนคุยไปเรื่อย ใครอ่านแล้ว
จะคอมเม้นท์เพิ่มเติมรึจะแย้งจะเถียงอะไรก็เชิญเลย
เรื่องเพลงมันคือ"งานศิลปะ" ไม่มีถูกผิด เป็นเรื่องรสนิยม ชอบรึไม่ ก็แล้วแต่หูใคร ใจใคร เพราะฉะนั้นคิดต่างได้ก๊าบบ
------------------------------------
พูดถึงเวลาดูรายการTHE MASK SINGER เรื่องความถูกใจหน้ากากคนไหน ผมจะวัดจากตัวเองที่ปกติเป็นคนติดเล่นโทรศัพท์ตลอดเว
คือใครออกมาร้องแล้วทำผมเงยหน้า วางโทรศัพท์ได้นี่ ต้องไม่ธรรมดา ที่ผ่านมาก็มีแค่ "ทุเรียน"กับ"หอยนางรม" นี่ล่ะครับ ฟังแล้วเหมือนตกอยู่ในภวังค์
ที่จั่วหัวว่า เปรียบหอยนางรมคือ"ไคจู" ตัวที่4 ในสายตาผม (ไคจูคือ"สัตว์ประหลาดยักษ์"ในหนังญี่ปุ่นที่ออกมาถล่มเมือง แต่นอกจอนี่คือเป็น"ฮีโร่" มีสาวกเต็มบ้านเต็มเมือง 55 ดังเช่นGodzilla-ไคจูระดับสูงสุด)
สำหรับ3สัตว์ประหลาดที่อยู่ในใจผมจากSS1 ก็มี อีกาดำ, จิงโจ้และทุเรียน ... พลังทำลายสูงมาก ออกมาร้องแต่ละที สะกดคนทั้งบ้านทั้งเมือง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ แต่ละคนฮอตฮิตติดลมบนถ้าดูจากจำนวนงานโชว์และแฟนคลับ
ผมมานั่งคิดถึงความสามารถของพี่หอยoyster เอาจริงๆเรื่องเทคนิคการร้อง, พลัง, ไดนามิคความทะลุทะลวง ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าฟังแล้วร้องโอ้โหไรงี้ แก้วเสียงก็ธรรมดาไม่ได้ใสกังวาลกิ๊งๆ
แล้วสาเหตุอะไรล่ะ? ที่ดลใจหลายคนให้เริ่มหลง"เสน่ห์" หน้ากากหอยเปิดปิดฝาได้คนนี้ ผมมองแบบพิจารณาแยกย่อยคือ
จุดขายหลักน่าจะมาจาก"การเลือกเพลง" คือพี่แกเหมือนไม่ได้สนใจเรื่องชัยชนะหรือการแก่งแย่งตำแหน่งแชมป์ .. เลือกเพลงได้กวนมากๆ เหมือนให้ "แต้มต่อ" คู่แข่งก็ไม่ปาน
(ถ้านี่คือการประกวดแบบจริงจัง มีเงิน5ล้าน10ล้านเป็นเดิมพัน .. ไม่รู้แกจะเปลี่ยนลิสท์เพลงไหม 55) เพลงแรก "หมดห่วง" ถือเป็นการเอาเพลงเก่าขั้น20 ปี มาปัดฝุ่นใหม่ สมัยนั้นถือเป็น
เพลงดังที่ร้องยากมาก พี่ตั๊กร้องสดเองยังหายใจแทบไม่ทัน .. พี่หอยเรากลับมาชุบชีวิตเพลงนี้ด้วยน้ำเสียงและลีลาประกอบเพลงที่มีความจิกกัดได้สมกับเนื้อหาเสียเหลือเกิน
เพลงที่ 2 ที่เลือกมาโชว์ในรายการ "ตราบธุลีดิน" ผมฟังเพลงนี้เมื่อ2ปีก่อนตอนปล่อยMVใหม่ๆ รวมทั้งอีกหลายเพลงของ"ปู่จ๋าน" เคยคิดแบบนักร้องนักดนตรีว่าใครจะกล้าเอาเพลงเค้ามาร้องcoverฟะ
คือปู่จ๋านแกแนวมาก ทั้งการออกแบบเสียงร้องแต่ละท่อน การเอื้อน การแต่งเพลงอย่างมีชั้นเชิงโดยใช้ภาษาเก่าและภาษาท้องถิ่นมาผสมกับเนื้อเพลงยุคใหม่ สอดแทรกการแร็พแบบดิบๆห่ามๆ โดยที่คนฟังไม่รู้สึกขัดเขินแต่อย่างใด
ส่วนตัวผมมอง"ปู่จ๋าน"เป็นคีตกวี ศิลปินตัวจริงอีกคนของวงการ พอไปค้นประวัติ ช็อคสิครับ! แกเป็นช่างแอร์/ช่างติดตั้งจานดาวเทียมอยู่จ.เชียงราย ...ร้องเพลงนี่คืองานอดิเรก... ป๊าดดดด!
พลางคิดในใจเชียงรายนี่คงเต็มไปด้วยศิลปินชั้นยอดแบบ'จารย์เฉลิมชัย เดินกันขวักไขว่ ขนาดร้องเพลงแต่งเพลงขั้นเทพแบบปู่จ๋านยังต้องทำมาหากินอาชีพอื่น
โชคดีที่ยุคนี้มีyoutube แกเลยทำเพลงให้คนฟังแบบdirect ไม่ต้องง้อค่ายเพลงหรือดีเจคลื่นวิทยุให้ช่วยโปรโมท .. ตอนนี้ปู่จ๋านก็มีกลุ่มคนฟังประมาณนึง มีงานโชว์อยู่เรื่อยๆ .. คิดอยากจะไปฟังแกร้องสดซักครา ได้ยินว่าแร็พสดได้สะเด่ามาก (ชื่อปู่จ๋าน เป็นภาษาเหนือมีความหมายว่า"มัคทายก/มัคนายก" แกจึงน่าจะเป็นคนพูดเก่งใช้ภาษาได้คล่องถึงได้ฉายานี้)
-----------------------------------------------
ขอนอกเรื่องไปคุยถึงเพลงไทยดังๆ ในยุคนี้หน่อย ปัจจุบันผมว่า"ตลาดคนฟัง"กำลังโหยหางานเพลงที่มีเอกลักษณ์ ไม่ใช่สูตรสำเร็จ popจ๋ายึดติดศิลปินหล่อสวยเหมือนแต่ก่อน หากนั่งดูชาร์ทเพลงไทยที่มียอดวิว
เกินร้อยล้านในช่วงปีหลังๆ ส่วนใหญ่จะมีแต่เพลงที่ใช้ภาษาถิ่น เช่น
"ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน/ คู่คอง" (ยอดวิว300ล้าน / ก้อง ห้วยไร่) ครองใจคนทั่วประเทศจากการใช้ภาษาและสำเนียงอีสาน,
"มหาลัยวัวชน" (200ล้านวิว / วงพัทลุง) แหล่งใต้กันฉับฉาน,
"แลรักนิรันดร์กาล" (130 ล้านวิว / ปู่จ๋าน) อู้กำเมืองกันเป๊าะขนาด
"ผู้สาวขาเลาะ" (230ล้านวิว / ลำไย ไหทองคำ) สาวน้อยคนนี้ ประมาทไม่ได้นะครับอาจคว้ารางวัลจากyoutube ว่าถึงพันล้านวิวคนแรกของไทย เพราะกระแสนางแรงจริงๆ
และอีกหลายศิลปินเช่น"ลาบานูน"วงดนตรีเชื้อสายอิสลาม มีเพลงหลักร้อยล้านวิวอยู่ไม่น้อยเลย ..
"รัสมี-อีสานโซล" ก็ถือว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่น ไว้ว่างๆมาเจาะประเด็นเรื่องตลาดเพลงไทยกัน
ครับ..การเลือกฟังเพลงก็สะท้อนรสนิยมคนได้ trendตอนนี้ผู้คนโหยหาความแปลกใหม่ เร้าใจ ไม่ซ้ำเดิม ออกแนวadventureค้นหาความเป็นlocal หน่อยๆ
ก็ฝากถึงบรรดาyoutuber นักทำเพลง ขอให้เน้นความสด, ใหม่และดี มีจุดยืนขายความเป็นท้องถิ่นประยุกต์ภาษาเก่าใหม่ให้ลงตัว
ไม่ต้องเขินอายเวลาใช้สำเนียงบ้านเกิดเพราะนั่นคือเสน่ห์ ประกอบกับเล่นดนตรีให้เข้าถึงอารมณ์ ยอดวิวทะลุเป้าแน่นนอนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ปกติgoogleซึ่งดูแลyoutube จะคำนวนเงินมาให้ผู้ผลิตVDOฮิตๆ อยู่ที่ราคาราว 2,000-8,000บาท ต่อ1ล้านวิว แปรผันด้วยหลายปัจจัย เช่น ความยาวคลิป, จำนวนคนดูที่แท้จริง(ที่ไม่คลิกซ้ำไปมา), คนเลือกรับชมโฆษณาหรือไม่?, มีติดลิขสิทธ์ในcontentรึเปล่า? และข้อแม้อีก108 1009)
---------------------------------------
ตัดกลับเข้าสู่รายการ The Mask Singer 555 ... พูดถึงประวัติเพลง "ตราบธุลีดิน" เพลงโชว์ลำดับที่2 ของหน้ากากหอยนางรม ผมอ่านแล้วน้ำตาจิไหล
ปู่จ๋านแกร้อยเรียงถ้อยคำ จากประวัติของตายายคู่นึง ณ.เมืองเชียงคาน ที่แม้ความเจ็บป่วย ความจนหรือความตายก็มิอาจมาสู้ความรักแท้ รักมั่นได้ คือยายแกเป็นอัมพฤกษ์ ตาแกก็ประดิษฐ์จักรยานเอง

พายายออกไปเที่ยวรำลึกย้อนความหลัง50ปี หวังให้ยายจำความและหายป่วยกลับมา .. จนวาระสุดท้าย ถึงยายจะจากไป แต่ความรักของตาไม่เคยคลาย..ขอฝังร่างไปพร้อมกับยายในวันนึง
ฮืออมมมมม เศร้า...
อ่านที่มาของเพลงเสร็จ พอไปฟังเพลงกลับไม่เศร้าอย่างที่คิดแฮะ! ก็ท่อนแร็พพี่แกแต่งซะดิบเถื่อนขนาดนั้น ดึงโหมดดราม่าไปหมดเลย...
"ไม่ใช่รักกันไว้แค่เด้า บางคู่รักกันไว้แค่เอา .. ผู้หญิงบางคนรักผัวรวย แต่กะเทยรักผู้ชายเพราะหัว_วย"
ต้องชมพี่โอม เอ้ย! หน้ากากออยสเตอร์นะครับ ที่ดูดคำติดเรทเหล่านี้ออกหมด ไม่ให้ระแคะระคาย
ถึงจะทำให้การแร๊พฟังสะดุดไปบ้างแต่ให้อภัยครับ รายการนี้เด็กและมนุษย์ป้าดูกันเยอะ เดี๋ยวหัวใจจะวายก่อนเพลงจบ haha
------------------------------------
เข้าเรื่องแล้วนะครับ มาวิเคราะห์กันจริงจังเรื่อง"เสน่ห์การร้อง"ของพี่หอยนางรม
1/ การเว้นช่องหายใจ .. แกทำได้ดีมากตั้งแต่ท่อนฮุคเพลงหมดห่วง .. "ด้ายโปรดดดด...พูดความจริง ให้!££"!£$$%" กว่าจะจบท่อน นักร้องได้หายใจเพียง3ทีครึ่ง
เพลงถัดมาธุลีดิน .. ท่อนแร็พว่ายากแล้ว พี่แกพูดบิวท์ก่อนเข้าท่อนแร็พด้วยนะครับ ยิ่งทำตัวเองให้ยากเข้าไปใหญ่ เรื่องควบคุมจังหวะหายใจ
"เออเฮ่อ .. เอ้อเฮ่อ.. let's go! let's go! the mask singer let's go together we'll go เริ่มจากเราสองเรา มันเริ่มจากคนสองคน !££"!£$$%...
ไม่เซียนจริงทำไม่เนียนนะครับ กับการร้องที่ต้องอยู่ภายใต้หน้ากากที่ชวนอึดอัดและอบอ้าวแบบนั้น
2/ การใส่ความเป็นตัวเองลงไปในบทเพลง ถึงแม้ทั้งสองเพลง แกจะอิงoriginalมาเยอะแต่ก็ยังแอบดิ้นจากต้นตำรับ ผสมการออกแบบคำร้องและเสียงเอื้อนเฉพาะตัว ... ถ้าฟังแบบเก็บดีเทล จะสังเกตได้ทันที
และการimprovise ก็ไม่ได้มีแต่ โว้โววว.. โนโนววว เย้เย... เหมือนนักร้องสายประกวดทั่วไป
3/ ตีโจทย์เพลงแตกละเอียด ตั้งแต่เพลงแรก"หมดห่วง" ดูแกใส่ท่วงท่าและลีลาสิครับ อินเน่อร์มาเต็ม นึกว่าดูโชว์สาวประเภทสองกลายๆ .. การเงื้อมมือ จังหวะพ๊อยท์เท้า ..
"เธอมีอะไรกับเค้าาา รึยางงงง?" ร้องด้วยท่ายืนแบบท้าตบผัว 555
จนถึงเพลงธุลีดิน ก็ไล่ระดับอารมณ์เพลงสวยงาม ดราม่าเข้มข้นในช่วงต้นและปนความสนุกในช่วงปลาย (กรรมการเต้นแรงกว่านักร้องอีก .. พี่หอยเกือบโดนน้องไอซ์ขโมยซีน คริๆ)
เข้าใจใช้"พวงมาลัย"และการรำมาสื่อสารกับผู้ชม ซึ่งเข้ากับบทเพลงเป็นอย่างดี
โดยรวมพี่หอยนางรมเค้าดูสนุกสนานกับโชว์ของตัวเองมาก ไม่เกร็ง ไม่เคอะเขิน แม้เพลงจะยากหรือดูไม่เหมาะกับ"ตัวตน"ซักเท่าไหร่ แต่ยังสามารถส่งพลังออกมา .. เยอะจนคนดูสัมผัสได้และพร้อมอินไปตามเพลง
ถึงยังไงก็ต้องยกเครดิตส่วนนึงให้พี่หนึ่งเชิญยิ้ม เอ้ย! หนึ่งuniverse ที่arrangeดนตรีใหม่ให้พี่หอยนางรมร้อง จนคนอยากฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ทั้ง2เพลงจะใช้4คอร์ด วน และpatternของchordsไม่หนีกัน แต่'จารย์หนึ่งและวงเล่นออกมาดีงามมาก..
ถ้าให้เทียบก็เหมือนให้คนฟังได้เสพ หอยนางรมสดๆ แบบมีกระถิน+หอมเจียว .. กล่มกล่อม ทั้งรำทั้งแซ่บ
เสน่ห์อีกอย่างนั่นคือ
"การอยู่เหนือความคาดเดา" ด้วยความที่ดูเป็นคนขี้เล่น กวนๆ บางทีดูไปเราก็คิด มันจะเอาอะไรกับเราฟระ นั่งพับจรวดเพื่อ!? 555
รอบลึกๆก็ยังอ่านใจเค้าไม่ออกว่าจะงัดเพลงประหลาดมาอีกรึป่าว
หรือจะเอาจริง โชว์เพลงสากลขั้นเทพหรือจะเลือกเพลงไทยชั้นครูขึ้นหิ้ง มาแสดงกันแน่
โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ ยิ่งเจอ"หน้ากากเต่า" ด้วยนี่ .. สายโหดของสัตว์น้ำมากๆ
หากวัดที่พลังเสียงเพียวๆ ก็ถือเป็นรอง มารอดูกันว่าพี่หอยนางรมจะงัดไม้ตายหรือพลิกแพลงสู้ แบบไหน?อย่างไร?
ปล. เห็นดราม่าเรื่องนักร้องในรายการ ทำลิปซิงค์ .. ผมขอพูดจากประสบการณ์นักดนตรีนะครับ ทั้งหมดทั้งมวลยังไงก็ร้องสดเล่นสดครับ แต่เค้าเอามาทำ audio post production ภายหลัง
ยุคดิจิตอลยิ่งง่าย เก็บทุกเสียงที่ปรากฎจริงขณะอัดรายการ แยกเป็นแทร็คๆ แล้วค่อยนำไปปรุงให้กลมกล่อม ก่อนนำมาon air ..
ส่วนคนออกแบบหน้ากากน่าจะพยายามเน้นส่วนปากให้เกิดอุปสรรคน้อยที่สุดขณะร้องด้วย จะว่าไปการใส่หน้ากากก็อาจมีข้อดีนะครับ ช่วยลดเสียงหายใจเข้าออกแรงๆได้ ไม่ดังผ่านมากระแทกไมค์
เรื่องการmixed downก็ปรับได้ตั้งแต่เสียงร้อง,เสียงดนตรีแต่ละชิ้น, เสียงวิจารณ์ของกรรมการแต่ละนาง, เสียงคนดูที่เป็นextraที่ถูกจ้างมาช่วยบิวท์บรรยากาศ แม้กระทั่งเสียงแอร์ในสตูดิโอ
ทั้งหมดถูกนำมาปรับมิกซ์ขึ้นๆลงๆในแต่ละจังหวะที่อยากนำเสนอ ซึ่งแน่นอนว่าคนดูสดๆในสตู ฟังเสียงไม่ได้คุณภาพเท่าเราทางบ้านที่นั่งชมฉบับmasterอยู่หรอกครับ
ขอคารวะหน้ากากนักร้องขั้นเทพ"ไคจู" คนที่4
-----หน้ากากหอยนางรม-----
กระทู้นี้ ชวนคุยเพื่อความเพลิดเพลินนะครับ .. หลังจากโดนมนต์สะกดของหน้ากากหอยนางรมไป2บทเพลง (หมดห่วง,ตราบธุลีดิน)
เห็นทีจะอยู่เฉยไม่ได้ ประกอบกับเห็นกระทู้ก่อนหน้า มีการตั้งคำถามเชิงข้องใจในความสามารถและคาใจในกระแสความแรงของหน้ากากหอยนางรม
ผมเลยจำต้องloginเข้าpantip ตั้งกระทู้เม้าท์มอยซะหน่อย หลังจากห่างหายไปพักใหญ่
ส่วนตัวผม ในฐานะ"นักดนตรี" และ "DJเปิดแผ่น" ก็พอจะมีความรู้และประสบการณ์การฟังเพลงอยู่บ้าง อาจไม่เข้าขั้น "เซียนเพลง" แต่อาศัยว่าฟังเพลง,
แกะเพลงและเล่นเพลงมาไม่น้อย มาวันนี้ก็อยากจะมาอวยหน้ากากคนโปรดประจำss2ซักเล็กน้อย ... อย่างที่บอกนะครับ ว่าอยากชวนคุยไปเรื่อย ใครอ่านแล้ว
จะคอมเม้นท์เพิ่มเติมรึจะแย้งจะเถียงอะไรก็เชิญเลย
เรื่องเพลงมันคือ"งานศิลปะ" ไม่มีถูกผิด เป็นเรื่องรสนิยม ชอบรึไม่ ก็แล้วแต่หูใคร ใจใคร เพราะฉะนั้นคิดต่างได้ก๊าบบ
------------------------------------
พูดถึงเวลาดูรายการTHE MASK SINGER เรื่องความถูกใจหน้ากากคนไหน ผมจะวัดจากตัวเองที่ปกติเป็นคนติดเล่นโทรศัพท์ตลอดเว
คือใครออกมาร้องแล้วทำผมเงยหน้า วางโทรศัพท์ได้นี่ ต้องไม่ธรรมดา ที่ผ่านมาก็มีแค่ "ทุเรียน"กับ"หอยนางรม" นี่ล่ะครับ ฟังแล้วเหมือนตกอยู่ในภวังค์
ที่จั่วหัวว่า เปรียบหอยนางรมคือ"ไคจู" ตัวที่4 ในสายตาผม (ไคจูคือ"สัตว์ประหลาดยักษ์"ในหนังญี่ปุ่นที่ออกมาถล่มเมือง แต่นอกจอนี่คือเป็น"ฮีโร่" มีสาวกเต็มบ้านเต็มเมือง 55 ดังเช่นGodzilla-ไคจูระดับสูงสุด)
สำหรับ3สัตว์ประหลาดที่อยู่ในใจผมจากSS1 ก็มี อีกาดำ, จิงโจ้และทุเรียน ... พลังทำลายสูงมาก ออกมาร้องแต่ละที สะกดคนทั้งบ้านทั้งเมือง คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ แต่ละคนฮอตฮิตติดลมบนถ้าดูจากจำนวนงานโชว์และแฟนคลับ
ผมมานั่งคิดถึงความสามารถของพี่หอยoyster เอาจริงๆเรื่องเทคนิคการร้อง, พลัง, ไดนามิคความทะลุทะลวง ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าฟังแล้วร้องโอ้โหไรงี้ แก้วเสียงก็ธรรมดาไม่ได้ใสกังวาลกิ๊งๆ
แล้วสาเหตุอะไรล่ะ? ที่ดลใจหลายคนให้เริ่มหลง"เสน่ห์" หน้ากากหอยเปิดปิดฝาได้คนนี้ ผมมองแบบพิจารณาแยกย่อยคือ
จุดขายหลักน่าจะมาจาก"การเลือกเพลง" คือพี่แกเหมือนไม่ได้สนใจเรื่องชัยชนะหรือการแก่งแย่งตำแหน่งแชมป์ .. เลือกเพลงได้กวนมากๆ เหมือนให้ "แต้มต่อ" คู่แข่งก็ไม่ปาน
(ถ้านี่คือการประกวดแบบจริงจัง มีเงิน5ล้าน10ล้านเป็นเดิมพัน .. ไม่รู้แกจะเปลี่ยนลิสท์เพลงไหม 55) เพลงแรก "หมดห่วง" ถือเป็นการเอาเพลงเก่าขั้น20 ปี มาปัดฝุ่นใหม่ สมัยนั้นถือเป็น
เพลงดังที่ร้องยากมาก พี่ตั๊กร้องสดเองยังหายใจแทบไม่ทัน .. พี่หอยเรากลับมาชุบชีวิตเพลงนี้ด้วยน้ำเสียงและลีลาประกอบเพลงที่มีความจิกกัดได้สมกับเนื้อหาเสียเหลือเกิน
เพลงที่ 2 ที่เลือกมาโชว์ในรายการ "ตราบธุลีดิน" ผมฟังเพลงนี้เมื่อ2ปีก่อนตอนปล่อยMVใหม่ๆ รวมทั้งอีกหลายเพลงของ"ปู่จ๋าน" เคยคิดแบบนักร้องนักดนตรีว่าใครจะกล้าเอาเพลงเค้ามาร้องcoverฟะ
คือปู่จ๋านแกแนวมาก ทั้งการออกแบบเสียงร้องแต่ละท่อน การเอื้อน การแต่งเพลงอย่างมีชั้นเชิงโดยใช้ภาษาเก่าและภาษาท้องถิ่นมาผสมกับเนื้อเพลงยุคใหม่ สอดแทรกการแร็พแบบดิบๆห่ามๆ โดยที่คนฟังไม่รู้สึกขัดเขินแต่อย่างใด
ส่วนตัวผมมอง"ปู่จ๋าน"เป็นคีตกวี ศิลปินตัวจริงอีกคนของวงการ พอไปค้นประวัติ ช็อคสิครับ! แกเป็นช่างแอร์/ช่างติดตั้งจานดาวเทียมอยู่จ.เชียงราย ...ร้องเพลงนี่คืองานอดิเรก... ป๊าดดดด!
พลางคิดในใจเชียงรายนี่คงเต็มไปด้วยศิลปินชั้นยอดแบบ'จารย์เฉลิมชัย เดินกันขวักไขว่ ขนาดร้องเพลงแต่งเพลงขั้นเทพแบบปู่จ๋านยังต้องทำมาหากินอาชีพอื่น
โชคดีที่ยุคนี้มีyoutube แกเลยทำเพลงให้คนฟังแบบdirect ไม่ต้องง้อค่ายเพลงหรือดีเจคลื่นวิทยุให้ช่วยโปรโมท .. ตอนนี้ปู่จ๋านก็มีกลุ่มคนฟังประมาณนึง มีงานโชว์อยู่เรื่อยๆ .. คิดอยากจะไปฟังแกร้องสดซักครา ได้ยินว่าแร็พสดได้สะเด่ามาก (ชื่อปู่จ๋าน เป็นภาษาเหนือมีความหมายว่า"มัคทายก/มัคนายก" แกจึงน่าจะเป็นคนพูดเก่งใช้ภาษาได้คล่องถึงได้ฉายานี้)
-----------------------------------------------
ขอนอกเรื่องไปคุยถึงเพลงไทยดังๆ ในยุคนี้หน่อย ปัจจุบันผมว่า"ตลาดคนฟัง"กำลังโหยหางานเพลงที่มีเอกลักษณ์ ไม่ใช่สูตรสำเร็จ popจ๋ายึดติดศิลปินหล่อสวยเหมือนแต่ก่อน หากนั่งดูชาร์ทเพลงไทยที่มียอดวิว
เกินร้อยล้านในช่วงปีหลังๆ ส่วนใหญ่จะมีแต่เพลงที่ใช้ภาษาถิ่น เช่น
"ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน/ คู่คอง" (ยอดวิว300ล้าน / ก้อง ห้วยไร่) ครองใจคนทั่วประเทศจากการใช้ภาษาและสำเนียงอีสาน,
"มหาลัยวัวชน" (200ล้านวิว / วงพัทลุง) แหล่งใต้กันฉับฉาน,
"แลรักนิรันดร์กาล" (130 ล้านวิว / ปู่จ๋าน) อู้กำเมืองกันเป๊าะขนาด
"ผู้สาวขาเลาะ" (230ล้านวิว / ลำไย ไหทองคำ) สาวน้อยคนนี้ ประมาทไม่ได้นะครับอาจคว้ารางวัลจากyoutube ว่าถึงพันล้านวิวคนแรกของไทย เพราะกระแสนางแรงจริงๆ
และอีกหลายศิลปินเช่น"ลาบานูน"วงดนตรีเชื้อสายอิสลาม มีเพลงหลักร้อยล้านวิวอยู่ไม่น้อยเลย ..
"รัสมี-อีสานโซล" ก็ถือว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่น ไว้ว่างๆมาเจาะประเด็นเรื่องตลาดเพลงไทยกัน
ครับ..การเลือกฟังเพลงก็สะท้อนรสนิยมคนได้ trendตอนนี้ผู้คนโหยหาความแปลกใหม่ เร้าใจ ไม่ซ้ำเดิม ออกแนวadventureค้นหาความเป็นlocal หน่อยๆ
ก็ฝากถึงบรรดาyoutuber นักทำเพลง ขอให้เน้นความสด, ใหม่และดี มีจุดยืนขายความเป็นท้องถิ่นประยุกต์ภาษาเก่าใหม่ให้ลงตัว
ไม่ต้องเขินอายเวลาใช้สำเนียงบ้านเกิดเพราะนั่นคือเสน่ห์ ประกอบกับเล่นดนตรีให้เข้าถึงอารมณ์ ยอดวิวทะลุเป้าแน่นนอนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
---------------------------------------
ตัดกลับเข้าสู่รายการ The Mask Singer 555 ... พูดถึงประวัติเพลง "ตราบธุลีดิน" เพลงโชว์ลำดับที่2 ของหน้ากากหอยนางรม ผมอ่านแล้วน้ำตาจิไหล
ปู่จ๋านแกร้อยเรียงถ้อยคำ จากประวัติของตายายคู่นึง ณ.เมืองเชียงคาน ที่แม้ความเจ็บป่วย ความจนหรือความตายก็มิอาจมาสู้ความรักแท้ รักมั่นได้ คือยายแกเป็นอัมพฤกษ์ ตาแกก็ประดิษฐ์จักรยานเอง
ฮืออมมมมม เศร้า...
อ่านที่มาของเพลงเสร็จ พอไปฟังเพลงกลับไม่เศร้าอย่างที่คิดแฮะ! ก็ท่อนแร็พพี่แกแต่งซะดิบเถื่อนขนาดนั้น ดึงโหมดดราม่าไปหมดเลย...
"ไม่ใช่รักกันไว้แค่เด้า บางคู่รักกันไว้แค่เอา .. ผู้หญิงบางคนรักผัวรวย แต่กะเทยรักผู้ชายเพราะหัว_วย"
ต้องชมพี่โอม เอ้ย! หน้ากากออยสเตอร์นะครับ ที่ดูดคำติดเรทเหล่านี้ออกหมด ไม่ให้ระแคะระคาย
ถึงจะทำให้การแร๊พฟังสะดุดไปบ้างแต่ให้อภัยครับ รายการนี้เด็กและมนุษย์ป้าดูกันเยอะ เดี๋ยวหัวใจจะวายก่อนเพลงจบ haha
------------------------------------
เข้าเรื่องแล้วนะครับ มาวิเคราะห์กันจริงจังเรื่อง"เสน่ห์การร้อง"ของพี่หอยนางรม
1/ การเว้นช่องหายใจ .. แกทำได้ดีมากตั้งแต่ท่อนฮุคเพลงหมดห่วง .. "ด้ายโปรดดดด...พูดความจริง ให้!££"!£$$%" กว่าจะจบท่อน นักร้องได้หายใจเพียง3ทีครึ่ง
เพลงถัดมาธุลีดิน .. ท่อนแร็พว่ายากแล้ว พี่แกพูดบิวท์ก่อนเข้าท่อนแร็พด้วยนะครับ ยิ่งทำตัวเองให้ยากเข้าไปใหญ่ เรื่องควบคุมจังหวะหายใจ
"เออเฮ่อ .. เอ้อเฮ่อ.. let's go! let's go! the mask singer let's go together we'll go เริ่มจากเราสองเรา มันเริ่มจากคนสองคน !££"!£$$%...
ไม่เซียนจริงทำไม่เนียนนะครับ กับการร้องที่ต้องอยู่ภายใต้หน้ากากที่ชวนอึดอัดและอบอ้าวแบบนั้น
2/ การใส่ความเป็นตัวเองลงไปในบทเพลง ถึงแม้ทั้งสองเพลง แกจะอิงoriginalมาเยอะแต่ก็ยังแอบดิ้นจากต้นตำรับ ผสมการออกแบบคำร้องและเสียงเอื้อนเฉพาะตัว ... ถ้าฟังแบบเก็บดีเทล จะสังเกตได้ทันที
และการimprovise ก็ไม่ได้มีแต่ โว้โววว.. โนโนววว เย้เย... เหมือนนักร้องสายประกวดทั่วไป
3/ ตีโจทย์เพลงแตกละเอียด ตั้งแต่เพลงแรก"หมดห่วง" ดูแกใส่ท่วงท่าและลีลาสิครับ อินเน่อร์มาเต็ม นึกว่าดูโชว์สาวประเภทสองกลายๆ .. การเงื้อมมือ จังหวะพ๊อยท์เท้า ..
"เธอมีอะไรกับเค้าาา รึยางงงง?" ร้องด้วยท่ายืนแบบท้าตบผัว 555
จนถึงเพลงธุลีดิน ก็ไล่ระดับอารมณ์เพลงสวยงาม ดราม่าเข้มข้นในช่วงต้นและปนความสนุกในช่วงปลาย (กรรมการเต้นแรงกว่านักร้องอีก .. พี่หอยเกือบโดนน้องไอซ์ขโมยซีน คริๆ)
เข้าใจใช้"พวงมาลัย"และการรำมาสื่อสารกับผู้ชม ซึ่งเข้ากับบทเพลงเป็นอย่างดี
โดยรวมพี่หอยนางรมเค้าดูสนุกสนานกับโชว์ของตัวเองมาก ไม่เกร็ง ไม่เคอะเขิน แม้เพลงจะยากหรือดูไม่เหมาะกับ"ตัวตน"ซักเท่าไหร่ แต่ยังสามารถส่งพลังออกมา .. เยอะจนคนดูสัมผัสได้และพร้อมอินไปตามเพลง
ถึงยังไงก็ต้องยกเครดิตส่วนนึงให้พี่หนึ่งเชิญยิ้ม เอ้ย! หนึ่งuniverse ที่arrangeดนตรีใหม่ให้พี่หอยนางรมร้อง จนคนอยากฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ทั้ง2เพลงจะใช้4คอร์ด วน และpatternของchordsไม่หนีกัน แต่'จารย์หนึ่งและวงเล่นออกมาดีงามมาก..
ถ้าให้เทียบก็เหมือนให้คนฟังได้เสพ หอยนางรมสดๆ แบบมีกระถิน+หอมเจียว .. กล่มกล่อม ทั้งรำทั้งแซ่บ
เสน่ห์อีกอย่างนั่นคือ "การอยู่เหนือความคาดเดา" ด้วยความที่ดูเป็นคนขี้เล่น กวนๆ บางทีดูไปเราก็คิด มันจะเอาอะไรกับเราฟระ นั่งพับจรวดเพื่อ!? 555
รอบลึกๆก็ยังอ่านใจเค้าไม่ออกว่าจะงัดเพลงประหลาดมาอีกรึป่าว หรือจะเอาจริง โชว์เพลงสากลขั้นเทพหรือจะเลือกเพลงไทยชั้นครูขึ้นหิ้ง มาแสดงกันแน่
โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ ยิ่งเจอ"หน้ากากเต่า" ด้วยนี่ .. สายโหดของสัตว์น้ำมากๆ
หากวัดที่พลังเสียงเพียวๆ ก็ถือเป็นรอง มารอดูกันว่าพี่หอยนางรมจะงัดไม้ตายหรือพลิกแพลงสู้ แบบไหน?อย่างไร?
ปล. เห็นดราม่าเรื่องนักร้องในรายการ ทำลิปซิงค์ .. ผมขอพูดจากประสบการณ์นักดนตรีนะครับ ทั้งหมดทั้งมวลยังไงก็ร้องสดเล่นสดครับ แต่เค้าเอามาทำ audio post production ภายหลัง
ยุคดิจิตอลยิ่งง่าย เก็บทุกเสียงที่ปรากฎจริงขณะอัดรายการ แยกเป็นแทร็คๆ แล้วค่อยนำไปปรุงให้กลมกล่อม ก่อนนำมาon air ..
ส่วนคนออกแบบหน้ากากน่าจะพยายามเน้นส่วนปากให้เกิดอุปสรรคน้อยที่สุดขณะร้องด้วย จะว่าไปการใส่หน้ากากก็อาจมีข้อดีนะครับ ช่วยลดเสียงหายใจเข้าออกแรงๆได้ ไม่ดังผ่านมากระแทกไมค์
เรื่องการmixed downก็ปรับได้ตั้งแต่เสียงร้อง,เสียงดนตรีแต่ละชิ้น, เสียงวิจารณ์ของกรรมการแต่ละนาง, เสียงคนดูที่เป็นextraที่ถูกจ้างมาช่วยบิวท์บรรยากาศ แม้กระทั่งเสียงแอร์ในสตูดิโอ
ทั้งหมดถูกนำมาปรับมิกซ์ขึ้นๆลงๆในแต่ละจังหวะที่อยากนำเสนอ ซึ่งแน่นอนว่าคนดูสดๆในสตู ฟังเสียงไม่ได้คุณภาพเท่าเราทางบ้านที่นั่งชมฉบับmasterอยู่หรอกครับ