เรื่องของเรื่องคือว่า ลูกหนี้ได้จ่ายเช็คชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย แต่เมื่อถึงกำหนด ก็ผัดผ่อนเรื่อยมา แรก ๆ จ่ายชำระดอกเบี้ยตามกำหนด แต่ระยะหลังค้างชำระดอกเบี้ยประมาณตั้งแต่ต้น ๆ ปีที่แล้ว ตอนนี้ อนุโลมหยุดการคิดดอกเบี้ย ตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา เรื่องของเรื่องโดยละเอียดเป็นอย่างนี้ครับ
ผมให้เพื่อนบ้านกู้เงิน จำนวน 200,000 บาท ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากครอบครัวเราทั้งสองสนิทสนม รักใคร่กันดี แต่ผู้กู้ให้คุณพ่อเขาลงชื่อค้ำประกันในสัญญากู้เงิน กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยผ่อนชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ทุกเดือน ไม่เคยขาด แต่เมื่อใกล้ ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี ผู้กู้ได้ออกเช็คเงินสด จำนวน 200,000 บาท จ่ายชำระหนี้เงินกู้ แต่เมื่อถึงกำหนด ผู้กู้ ขอยืดระยะเวลา การกู้ออกไป อีก 2-3 เดือน พร้อมจ่ายชำระ ดอกเบี้ย ที่ผ่าน ๆ มาไม่เคยขาด
เมื่อผู้กู้ ขอยืดระยะเวลาการชำระต้นออกไปอีก ก็ได้เปลี่ยนเช็ค ลงวันที่ล่วงหน้า อีก 2-3 เดือน ข้างหน้า เปลี่ยนเอาเช็คฉบับเก่าคืนกลับไป โดยที่สัญญากู้ฉบับเก่า ไม่ได้แก้ไข ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อความการกู้เงินแต่อย่างใดทั้งสิ้น เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งมวล ก็ได้ดำเนินการมาแบบเดิม ๆ คือ เมื่อครบกำหนด ก็เปลี่ยนเช็ค โดยจะออกเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยน โดยผู้กู้ ก็ยังคงจ่ายชำระดอกเบี้ยต่อเนื่องกันมาโดยตลอด
จนกระทั่ง เวลาได้ล่วงเลยมาครบ 10 ปี ย่างเข้าปีที่ 11-12 ผู้กู้ได้ออกเช็ค เดือนต่อเดือนบ้าง 2-3 เดือนบ้าง จ่ายชำระดอกเบี้ย ก็ออกเช็คเปลี่ยนใหม่ ผู้กู้เริ่มค้างชำระดอกเบี้ย จ่ายไม่ตรงกำหนด ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ผู้กู้ก็ยังเปลี่ยนเช็คให้เป็นระยะ ๆ ๆ ต่อเนื่องกันมา ถึงกำหนดนัด ก็จ่ายชำรพดอกเบี้ยไม่ได้ ก็เปลี่ยนเช็คเลื่อนกำหนดออกไป 1-2-3 เดือนบ้าง
จนแม้กระทั่งในท้ายที่สุด ได้ยกประโยชน์ให้กับผู้กู้โดย ไม่คิดดอกเบี้ย แค่ขอให้ผ่อนชำระเงินต้น จำนวน 200,000 บาท กับดอกเบี้ยที่ค้างชำระแต่เดิมตั้งแต่ประมาณ กลาง ๆ ปีที่แล้ว อีก 40,000 บาท รวมเป็นยอดที่จะชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเก่าที่ค้างชำระ ทั้งสิ้น 240,000 บาท แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่า ผู้กู้จะจ่ายชำระคืนเงินต้นกับดอกเบี้ยที่ค้างชำระได้แต่อย่างใด ผู้กู้ได้ผัดผ่อนเรื่อยมา และนับตั้งแต่หยุดคิดดอกเบี้ย ถึงเวลานี้ก็เป็นเวลาประมาณ 9-10 เดือนแล้วล่ะครับ พยายามทวงถามหลายครั้งแล้ว ผู้กู้ได้แต่บ่ายเบี่ยง และเปลี่ยนเช็ค ครั้งละ 1-2 เดือน ครบกำหนด ก็ยังขึ้นเงินไม่ได้ ผู้กู้ให้นำเช็คไปเปลี่ยน ก็เปลี่ยนเช็คไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังผัดผ่อนเรื่อยมา
หลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ คือ เช็คเงินสด จำนวน 240,000 บาท ที่จ่ายชำระหนี้ กับสัญญาเงินกู้ 1 ฉบับ ซึ่งทำสัญญากู้ไว้เมื่อปี พ.ศ. 2548
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ผมสามารถนำเช็คดังกล่าว ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญา และคดีแพ่ง ได้หรือไม่ เนื่องจากสัญญากู้ เป็นสัญญาที่เซ็นไว้ตั้งแต่ปี 2548 นานเกินกว่า 10 ปีแล้ว แต่ผู้กู้จ่ายชำระดอกเบี้ยมาโดยตลอดระยะเวลา 10 ปี เพิ่งจะค้างชำระดอกเบี้ย ตั้งแต่ประมาณต้น ๆ ปีที่แล้ว แต่ผู้กู้ได้เปลี่ยนเช็คให้เป็นระยะ ๆ เช็คฉบับเก่า ที่เปลี่ยนคืนไปนั้น ผมไม่ได้ถ่ายสำเนาเก็บไว้ แต่ เพิ่งจะเริ่มถ่ายสำเนาเก็บไว้ใน 2-3 ฉบับหลัง กับฉบับสุดท้ายที่อยู่ในมือนี้
ลักษณะการจ่ายเช็คชำระหนี้เงินกู้อย่างที่กล่าวข้างต้น จะถือว่า เป็นการจ่ายเช็คค้ำประกันหนี้หรือเปล่าครับ ?
คือรูปการณ์เบื้องต้น ผู้กู้คาดว่า จะจ่ายชำระเงินต้นคืนได้ภายใน 1 ปี ให้คุณพ่อเซ็นชื่อลงนามค้ำประกันหนี้เงินกู้ไว้ แต่ก็ไม่สามารถจ่ายชำระได้ตามกำหนด จึงจ่ายเช็คล่วงหน้า ตามที่เล่าเหตุการณ์ไว้ข้างต้นน่ะครับ
ลักษณะรูปการณ์อย่างนี้ จะแจ้งความฟ้องร้อง ดำเนินคดีอาญา ได้หรือไม่ และสัญญาเงินกู้เกินกว่า 10 ปีแล้ว กับหลักฐานที่มีการจ่ายชำระดอกเบี้ยต่อเนื่องกันมามากกว่า 10 ปีอย่างนี้ จะยังสามารถใช้บังคับในการฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง และอาญาได้อยู่หรือไม่ครับ ?
ขอเรียนถามผู้รู้ทุก ๆ ท่านด้วยครับ
ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ
จ่ายเช็ค เพื่อการ ชำระหนี้ นั้น ดำเนินคดีอาญา ได้หรือไม่ ?
ผมให้เพื่อนบ้านกู้เงิน จำนวน 200,000 บาท ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากครอบครัวเราทั้งสองสนิทสนม รักใคร่กันดี แต่ผู้กู้ให้คุณพ่อเขาลงชื่อค้ำประกันในสัญญากู้เงิน กำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยผ่อนชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ทุกเดือน ไม่เคยขาด แต่เมื่อใกล้ ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี ผู้กู้ได้ออกเช็คเงินสด จำนวน 200,000 บาท จ่ายชำระหนี้เงินกู้ แต่เมื่อถึงกำหนด ผู้กู้ ขอยืดระยะเวลา การกู้ออกไป อีก 2-3 เดือน พร้อมจ่ายชำระ ดอกเบี้ย ที่ผ่าน ๆ มาไม่เคยขาด
เมื่อผู้กู้ ขอยืดระยะเวลาการชำระต้นออกไปอีก ก็ได้เปลี่ยนเช็ค ลงวันที่ล่วงหน้า อีก 2-3 เดือน ข้างหน้า เปลี่ยนเอาเช็คฉบับเก่าคืนกลับไป โดยที่สัญญากู้ฉบับเก่า ไม่ได้แก้ไข ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อความการกู้เงินแต่อย่างใดทั้งสิ้น เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งมวล ก็ได้ดำเนินการมาแบบเดิม ๆ คือ เมื่อครบกำหนด ก็เปลี่ยนเช็ค โดยจะออกเช็คฉบับใหม่ มาเปลี่ยน โดยผู้กู้ ก็ยังคงจ่ายชำระดอกเบี้ยต่อเนื่องกันมาโดยตลอด
จนกระทั่ง เวลาได้ล่วงเลยมาครบ 10 ปี ย่างเข้าปีที่ 11-12 ผู้กู้ได้ออกเช็ค เดือนต่อเดือนบ้าง 2-3 เดือนบ้าง จ่ายชำระดอกเบี้ย ก็ออกเช็คเปลี่ยนใหม่ ผู้กู้เริ่มค้างชำระดอกเบี้ย จ่ายไม่ตรงกำหนด ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ผู้กู้ก็ยังเปลี่ยนเช็คให้เป็นระยะ ๆ ๆ ต่อเนื่องกันมา ถึงกำหนดนัด ก็จ่ายชำรพดอกเบี้ยไม่ได้ ก็เปลี่ยนเช็คเลื่อนกำหนดออกไป 1-2-3 เดือนบ้าง
จนแม้กระทั่งในท้ายที่สุด ได้ยกประโยชน์ให้กับผู้กู้โดย ไม่คิดดอกเบี้ย แค่ขอให้ผ่อนชำระเงินต้น จำนวน 200,000 บาท กับดอกเบี้ยที่ค้างชำระแต่เดิมตั้งแต่ประมาณ กลาง ๆ ปีที่แล้ว อีก 40,000 บาท รวมเป็นยอดที่จะชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเก่าที่ค้างชำระ ทั้งสิ้น 240,000 บาท แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่า ผู้กู้จะจ่ายชำระคืนเงินต้นกับดอกเบี้ยที่ค้างชำระได้แต่อย่างใด ผู้กู้ได้ผัดผ่อนเรื่อยมา และนับตั้งแต่หยุดคิดดอกเบี้ย ถึงเวลานี้ก็เป็นเวลาประมาณ 9-10 เดือนแล้วล่ะครับ พยายามทวงถามหลายครั้งแล้ว ผู้กู้ได้แต่บ่ายเบี่ยง และเปลี่ยนเช็ค ครั้งละ 1-2 เดือน ครบกำหนด ก็ยังขึ้นเงินไม่ได้ ผู้กู้ให้นำเช็คไปเปลี่ยน ก็เปลี่ยนเช็คไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังผัดผ่อนเรื่อยมา
หลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ คือ เช็คเงินสด จำนวน 240,000 บาท ที่จ่ายชำระหนี้ กับสัญญาเงินกู้ 1 ฉบับ ซึ่งทำสัญญากู้ไว้เมื่อปี พ.ศ. 2548
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ผมสามารถนำเช็คดังกล่าว ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญา และคดีแพ่ง ได้หรือไม่ เนื่องจากสัญญากู้ เป็นสัญญาที่เซ็นไว้ตั้งแต่ปี 2548 นานเกินกว่า 10 ปีแล้ว แต่ผู้กู้จ่ายชำระดอกเบี้ยมาโดยตลอดระยะเวลา 10 ปี เพิ่งจะค้างชำระดอกเบี้ย ตั้งแต่ประมาณต้น ๆ ปีที่แล้ว แต่ผู้กู้ได้เปลี่ยนเช็คให้เป็นระยะ ๆ เช็คฉบับเก่า ที่เปลี่ยนคืนไปนั้น ผมไม่ได้ถ่ายสำเนาเก็บไว้ แต่ เพิ่งจะเริ่มถ่ายสำเนาเก็บไว้ใน 2-3 ฉบับหลัง กับฉบับสุดท้ายที่อยู่ในมือนี้
ลักษณะการจ่ายเช็คชำระหนี้เงินกู้อย่างที่กล่าวข้างต้น จะถือว่า เป็นการจ่ายเช็คค้ำประกันหนี้หรือเปล่าครับ ?
คือรูปการณ์เบื้องต้น ผู้กู้คาดว่า จะจ่ายชำระเงินต้นคืนได้ภายใน 1 ปี ให้คุณพ่อเซ็นชื่อลงนามค้ำประกันหนี้เงินกู้ไว้ แต่ก็ไม่สามารถจ่ายชำระได้ตามกำหนด จึงจ่ายเช็คล่วงหน้า ตามที่เล่าเหตุการณ์ไว้ข้างต้นน่ะครับ
ลักษณะรูปการณ์อย่างนี้ จะแจ้งความฟ้องร้อง ดำเนินคดีอาญา ได้หรือไม่ และสัญญาเงินกู้เกินกว่า 10 ปีแล้ว กับหลักฐานที่มีการจ่ายชำระดอกเบี้ยต่อเนื่องกันมามากกว่า 10 ปีอย่างนี้ จะยังสามารถใช้บังคับในการฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง และอาญาได้อยู่หรือไม่ครับ ?
ขอเรียนถามผู้รู้ทุก ๆ ท่านด้วยครับ
ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ