ศุลกากร ขาเข้าดอนเมือง หอบของเข้าได้เท่าไหร่กันแน่ และกฎหมายคืออะไร?

เรื่องมีอยู่ว่า เราเดินทางกลับถึงไทยเช้าวันที่สามสิบ พฤษภาคม ประมานตีห้า จากเมืองจีน กวางโจว

ตอนที่อยู่ที่นั่นเราได้ไปเจอของมาฝากน้องหมาเรา จำนวน 30 ชิ้น เราเลี้ยงหมา 3 ตัว คือมันถูกมากๆๆๆๆๆๆ เลยเหมามา เพราะที่ไทยราคาสูง ที่นั่นตก 10 หยวน หรือ 50 บาท

เราไปกะแฟน เอากระเป๋าไซส์ 20 นิ้ว ไปคนละใบ เสื้อผ้า สามสี่ชุด พอขากลับเราเลยรวมกระเป๋าและเอาของฝากน้องหมาไว้อีกกระเป๋า

พอเข้ามาก็โดนสแกนกระเป๋าทุกคน แต่เค้าขอเปิดกระเป๋าเรา เราก็โอเค

เค้าถามว่าที่เราเอาเข้ามามีไว้ทำอะไร เราก็บอกว่าเอาไปให้หมา เค้าบอกว่า ของๆเราเป็นสินค้าซ้ำๆ ต้องขอเก็บภาษี เราก็ถามว่ากี่เปอเซนต์ เค้าก็บอกว่า สิบเปอเซนต์ เราก็เลยคำนวนให้เค้าว่า ชิ้นละ ห้าสิบ สามสิบชิ้นก็เป็นเงิน พันห้า สิบเปอเซนต์ก็เท่ากับ ร้อยห้าสิบบาท จ่ายที่ไหนก็บอกมาพร้อมจะจ่าย

พนักงานก็เงียบและเดินกลับไปคุยกับอีกคนที่อยู่หลังเครื่องสแกน แล้วเดินกลับมาบอกว่าไม่เป็นไรคราวนี้ยกให้ แต่คราวหน้าต้องเข้าช่องแดง

แฟนเราก็บอกเค้าว่าขอบคุณครับ เค้ากลับตอบเหวี่ยงกลับมา แต่เราจำคำพูดไม่ได้เนื่องจากง่วงและเหนื่อย จนท ตอบกลับประมานว่า ไม่ต้องมาพูดขอบคุณอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ บลาบลา แต่ค่อนข้างแรงทำให้เราอึ้ง

เราเลยถามกลับไปว่า ไหนว่าให้เอาของเข้ามาได้ไม่เกินสองหมื่น ถ้าเกินต้องเอาไปสำแดง ซึ้งของเรายังไงก็ไม่เกิน

ถ้าแยกเป็นของที่ซื้อ มีแค่ของฝากหมา พันห้า บุหรี่จีนอีกคอตนึง ห้าร้อยบาท ไม้แขวนเสื้อห้าสิบอัน อันละสิบห้าบาท กะของฝากคนอีกนิดหน่อยไม่เกิน สองพัน รวมแล้วก็สี่พันเจ็ดร้อยห้าสิบบาทเท่านั้นที่หอบมา (ไม้แขวนเสื้อรอด ไม่โดนเรียก ถ้าโดนก็คงต้องเพิ่มอีก 75 บาท)

ของที่หอบไป เสื้อผ้า คนละสี่ชุดเก่าๆ ไม่บ้าแบรนด์หวือหวา รองเท้าแตะดาวเทียม คนละไม่เกิน สองพัน รวมสองคนก็สี่พัน

สรุป สองคนทั้งตัวรวมที่ถือแปดพันเจ็ดร้อยห้าสิบ ตีไปซะว่าไม่เกินหมื่น (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมทาหน้า แชมพู สบู่ โฟมล้างหน้า ลูกกลิ้ง)

จนท ตอบกลับมาอย่างกวนว่า ของที่นำเข้ามา ใช้เองรึเปล่า เราก็บอกว่าให้หมาใช้ เค้าก็สวนกลับมาว่า หมาใช้ ไม่ใช่คนใช้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ของใช้ส่วนตัว

คือเราคิดในใจ ก็หมาเราซื้อเองไม่ได้ป่าววะ คือเราใช้เองกะหมาเรา มันก็ไม่เรียกว่าของส่วนตัวรึไงวะ ไม่ได้เอามาขายซักหน่อย แต่ไม่อยากเถียง พนักงานก็พยายามแถว่า เป็นของที่ใช้แล้วทิ้งเลยมั้ย หรืออะไรแบบนี้แต่เราก็ขี้เกียจตอบเพราะเหนื่อยกันมาก แฟนก็เลยลากออกมา

ไม่ใช่ไม่อยากจ่าย ถ้าเค้าจะให้จ่ายเราก็พร้อมจะจ่าย แต่เราคิดว่าเค้าคงขี้เกียจมานั่งออกใบเสร็จให้กะเงินแค่ร้อยห้าสิบรึเปล่า หรืออย่างไรถึงปล่อยมา

เพียงแต่สงสัยเรื่องการซื้อของ และการตรวจของ ตม ตอนเข้าไทยแค่นั้น

1 คำว่าคนละสองหมื่นบาทคือ รวมทั้งของซื้อและของเอาไปรึเปล่า

2 ถ้ารวมไม่ถึงสองหมื่นแต่มีของซ้ำ ต้องซ้ำเกินกี่ชิ้นถึงต้องสำแดง ยกตัวอย่าง เหล้า บุหรี่เค้าจะมีกำหนดไว้ แต่ของอย่าอื่นละ เช่นเสื้อผ้า หรือขนม หรือไม้แขวนผ้า ต้องห้ามเกินกี่ชิ้น ถ้าคนไปกวางโจวจะรู้ว่า ต้องซื้อของมากชิ้นถึงจะราคาถูก บางทีซื้อชิ้นสองชิ้นเค้าไม่ค่อยอยากขายถ้าไปเดินตลาดขายส่ง อย่างไม้แขวนผ้าเราก็ต้องซื้อ ห้าสิบชิ้น

3 ซื้อมาใช้เอง กะของฝากที่ซื้อมาแจกจ่าย คืออย่างเดียวกันมั้ย ถ้าไม่ใช่ ต้องแยกมั้ยว่าอันไหนของซื้อมาฝากคนอื่นและนำไปเสียภาษี อันไหนซื้อมาใช้เอง และถ้าทั้งของซื้อของฝากและของใช้ที่เอาไปทั้งหมดทั้งมวนรวมกันไม่เกินสองหมื่นต้องนำมาสำแดงมั้ย

สรุปคือ ต้องแยกแยะมั้ยว่า

- ของที่ถือไปแต่แรกอยู่แล้วราคาเท่าไหร่
- ซื้อของเพิ่มส่วนตัวเท่าไหร่
- ซื้อของฝากเท่าไหร่
- ของหยิบฟรีทุกวัน (สบู่กะแชมพู รร) อันนี้ต้องตีเป็นเงินมั้ย ถ้าไปอยู่ซัก 10 วัน ได้มา 20 ชุด จะไม่กลายเป็นของซ้ำแล้วต้องเสียภาษีหรอ

แล้วไอ้สองหมื่นที่ว่านี่คืออะไรบ้าง ข้อไหนที่ได้สองหมื่น หรือทุกข้อรวมกันห้ามเกินสองหมื่น

ปล. ฝากถึงพนักงาน ตม ด้วยว่าถ้าคุณไม่ระบุอะไรให้ชัดเจนแล้วใครจะปฎิบัติถูก แล้วก็มานั่งรอจับเอาภาษีแต่กับคนไม่รู้เรื่องแบบนี้

คือเราก็ว่าเราพอรู้คร่าวๆแล้วนะ เรื่องสองหมื่น มาโดนเมื่อวานเลยงงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่