#ยาวหน่อยนะคะ
เอ้ะหรือไม่ยาว... 555555
สวัสดีค่ะ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ จขกท มีเจตนาที่อยากจะเล่าให้ฟังเฉยๆนะคะ ไม่ได้อยากทำลายธุรกิจใคร (สักวันเขาคงทำลายตัวเขาเองด้วยตัวเขาเองอยู่แล้ว) เรื่องมันก็เกิดมาซักพักแล้วและโดยส่วนตัวคิดว่ามันตลกและน่าสับสนดีค่ะ (เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องเล็กๆที่จะเล่าต่อไปนี้มันกลายเป็นปัญหาได้ยังไง) จขกท อยากให้คนที่ชอบเที่ยวเหมือนกันเข้ามาอ่านแล้วก็รู้ว่าแบบ ‘เออเรื่องแบบนี้ก็มีด้วย’ และทุกอย่างเกิดขึ้นได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีปาปริก้าค่ะ 555555555555
เรื่องก็มีอยู่ว่า จขกท จองโรงแรมไปกับเว็บไซต์ตัวอักษรย่อตัว B ค่ะ จองไปทั้งหมด 3 คืน ห้องพัดลม ที่เกาะหลีเป๊ะ กะว่าจะไปพักผ่อนชิวๆ ตามประสาคนชอบเที่ยวทั่วไปค่ะ ชาวต่างชาติรีวิวดีมากค่ะ เลยจองทีนี่ถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ติดทะเล ผู้ร่วมทริปไม่มีค่ะ ไปคนเดียว ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าก่อนตัดสินใจทำอะไรความปลอดภัยต้องมาก่อนค่ะ คนไปเที่ยวคนเดียวทุกคนไม่อยากไปมีปัญหาอะไรกับใครหรอกค่ะ มันไม่คุ้มกัน
เข้าประเด็นเลยนะคะ คือพอดีไปเช็คอินกับโรงแรมนามสมมุติ ABC ตามที่ได้จองไว้ ตอนเช็คอินทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ปกติทุกอย่างค่ะ คืนแรกผ่านไปแบบคันๆค่ะเพราะยุงกัด ที่นั่นยุงจะเยอะและตัวใหญ่มากกก เพราะรอบๆจะเป็นต้นไม้ใหญ่แบบ ป่าๆหน่อยค่ะ
วันที่สองตอนบ่ายหลังจากซื้อทัวร์ไปดำน้ำก็เดินกลับไปพักที่ รร ค่ะ เสร็จก็วางแผนว่าจะไปกินข้าวที่ รร.แถวริมทะเลแห่งหนึ่งเพราะได้ยินว่าส้มตำกรอบของเค้าอร่อยมาก จขกท ก็ไปถามเจ้าของ รร. ค่ะว่าไปทางไหน เดินไปได้ไหม สรุปว่าเดินไปได้ค่ะ ทีนี้ฝนตก จขกท ก็ขอยืมร่มกับทาง รร. ค่ะ เค้าก็ใจดีให้ยืมพร้อมบอกว่ามันเก่ามีสนิมและขามันจะหักๆหน่อยไม่เป็นไรใช่ไหม ซึ่งไม่ใช่ปัญหาค่ะ กันฝนได้เป็นพอ
เดินๆไปก็หลงทางค่ะ (คนเที่ยวบ่อยทุกคนจะเข้าใจดีว่า ถ้าไม่หลงแสดงว่ายังไปไม่ถึงที่นั้นค่ะ ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกันไหมนะ 5555) พอดีมีชาวบ้านแถวนั้นผ่านมาเขาก็อาสาพาไปส่งค่ะ ตอนขากลับถาม พนง. รร. เค้าแนะนำให้เดินกลับทางหาดพัทยา เพราะมันจะไปโผล่ตรง walking street ได้ ซึ่งเส้นทางนี้ จขกท คุ้นกว่า แต่ถามว่าแม่นไหมนั้น 5555 .... ก็มีผิดซอยบ้าง ถามๆคนแถวนั้นไปค่ะ และแล้วความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ (ที่ไม่น่าจะใหญ่) ก็เกิดขึ้น
!!!จขกท ลืมร่มไว้ที่ร้านของชำตอนไปซื้อน้ำเปล่า ข้าง รร ที่ไปกินส้มตำกรอบค่ะ!!!
นึกขึ้นได้ตอนที่เดินกลับไปถึง รร ABC แล้ว (ดูเวลาก็สามทุ่มแล้วค่ะ) ด้วยความที่ รร ABC อยู่ไกลจาก walking street ประมาน 15 – 20 นาที และมืดมาก! บอกตรงๆว่าไม่กล้าเดินกลับไปเอาค่ะ ร้านก็น่าจะปิดแล้ว ตั้งใจไว้ว่าตอนเช้าจะเดินไปเอาให้ก่อนไปทัวร์ รีบนอนค่ะ ตาขวากระตุกทั้งคืน แล้วคืนที่สองก็ผ่านไปแบบคันๆเหมือนเดิมค่ะ 555555
วันที่สามตื่นมาตอนเช้า ทัวร์นัดไว้ 9 โมง จขกท รีบอาบน้ำ จัดของ แล้วออกจาก รร ABC ไปตอนประมาน 7.50 น. ว่าจะเดินไปเอาร่มทางหาดพัทยา กินข้าวแถวนั้น แล้วไปทัวร์ต่อตอน 9 โมง เอาร่มฝากไว้ที่ร้านที่จองทัวร์เค้าคงไม่ว่าอะไร แต่ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด เพราะหลงทางอีกแล้วค่ะ ตั้งใจเดินไปหาดพัทยา รู้ตัวอีกทีไปโผล่เซเว่นหาดซันไรส์ค่ะ ซึ่งมันก็เดินจากกันประมานเมื่อยนึง คือไปเอาร่มไม่ทันแน่ๆ ระหว่างเดิน เจ้าของโรงแรม ABC โทรเข้ามาค่ะ (สนทนาคร่าวๆนะคะ เพราะจำแบบแน่นอนทุกประโยคไม่ได้ค่ะ จำได้แค่เด็ดๆที่โดนด่าค่ะ)
เรา : สวัสดีค่ะ
รร ABC : พอดีเห็นน้องเดินออกไป ฝนเหมือนจะตก ได้เอาร่มไปไหมครับ
เรา : อ่อพอดีหนูไปลืมร่มไว้ที่ร้านของชำเมื่อวานค่ะ ตอนนี้กำลังเดินไปทัวร์ เดี๋ยวตอนเย็นๆจะเดินไปเอามาคืนให้นะคะ
คือทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นี้ happy ending ตอนเย็นเราเอาร่มไปคืน และ vacation นี่ก็จะจบอย่างสมบูรณ์แบบแต่มันไม่ได้จบแค่นั้นค่ะ
รร ABC : เรื่องแบบนี้พี่คิดว่ามันควรจะบอกกันก่อนนะ (เสียงไม่พอใจ)
เรา : ตอนแรกหนูจะเดินไปเอาให้เช้านี้ค่ะแต่เดินมาผิดทาง ตอนเย็นพอกลับมาจากทัวร์จะเดินไปเอาให้นะคะ
รร ABC : แล้วทำไมไม่บอก! เช้านี้ พี่ก็เสริฟอาหารฝรั่ง 2 คน (รร.มีร้านอาหารอยู่ขวามือของทางเดินออกนอก รร ค่ะ ซึ่งเราต้องเลี้ยวซ้าย ก็ต้องมองไปทางซ้ายถูกไหม) น้องเดินผ่านไปเลยไม่มองพี่ แบบนี้มันไม่ใช่ น้องพูดไม่ตรง ไหนตอนแรกบอกจะไปทัวร์ (น้ำเสียงก็ยังคงไม่พอใจ)
เรางงมากค่ะ คือเขาเป็นเจ้าบ้านเห็นแขกก็ต้องทักแขกก่อนหรือเปล่า ?? และเขาเห็นเราเดินออกมาไม่มีร่ม ยังต้องโทรมาถามเอาอะไร มีเจตนาหาเรื่องหรือเปล่า คือไม่เข้าใจจริงๆค่ะ จุดๆนี้ XDDDD
เรา : พอดีหนูไม่เห็นพี่ค่ะ เดินออกมาปกติไม่ได้สนใจมองใคร นี้พี่โมโหอะไรหรือเปล่าค่ะ (พยายามพูดดีด้วยค่ะ เพราะอย่างที่บอก ทะเลาะกันไปก็ไม่คุ้มกัน เรามาเที่ยวค่ะ ไม่ได้มามีปัญหากับใคร)
รร ABC : มันไม่ใช่ไง นี่น้องพูดไม่ตรง ไม่จริงใจ น้องจะไม่เห็นได้ยังไง พี่เห็นน้องเดินออกไปอยู่เนี่ย!
เรา : พี่จะโมโหทำไมคะ ร่มคันเดียวเองพี่ ตอนเย็นหนูเดินไปเอาให้ ถ้าหายหนูก็ตั้งใจจะซื้อใหม่ให้ค่ะ เรื่องมันเล็กน้อยมากค่ะพี่ (เราพยายามรวบรวมสติมากกกกกก ไอบ้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ต้องมาทะเลาะกันเพราะร่มคันเดียว 5555555)
รร ABC : มันไม่ใช่ไง พี่ต้องการความรับผิดชอบ! นี่น้องไม่รับผิดชอบ! โตๆกันแล้วทำไมไม่รับผิดชอบ!
ณ จุดๆนี้ เราถึงกับเอามือทาบอกคะ คุณพระ! ร่มคันเดียว เสนอตัวไปเอาให้ก็แล้ว บอกว่าจะซื้อให้ใหม่ก็แล้ว เค้าจะเอาอะไรอีกคะคุณผู้โช้มมมมมมม เหมือนเราพูดภาษาแมว แต่เค้าพูดภาษาหมา สื่อสารยังไงก็ไม่เข้าใจกันซักที
เรา : พี่คะหนูจะเดินไปเอามาคืนให้ หนูรับผิดชอบค่ะ ร่มคันเดียว ถ้าหายจะซื้อให้ใหม่ค่ะ ไม่ต้องห่วงจริงๆ
รร ABC : เอาอย่างงี้นะ น้องไม่ต้องพูดแล้ว ตอนเย็นก็เอามาคืนนะ จบนะ
แล้วสายก็ตัดไปค่ะ ... เราก็คิดนะ omg วันนี้ก้าวขาผิดข้างออกจากห้องรึเปล่า อะไรจะขนาดนั้น ร่มคันเดียว คุณพระ!!
คือก่อนหน้าที่สายจะตัดไปเราก็แบบพยายามอธิบายแล้วว่าหลงทางจริงๆ กำลังไปเอาให้จริงๆ ถ้าหายจะซื้อให้ใหม่จริงๆ ร่มคันเดียว ไม่ต้องโมโหขนาดนี้ก็ได้ พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบสุภาพมากๆ พยายามมากแล้วจริงๆ แต่เหมือนมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น สายตัดไป เรานับ 1 – 20 พยายามรวบรวมสติ ดูเวลา ยังมีเวลาอีก 15 นาทีก่อน 9 โมง โอเคข้าวไม่ได้กินละ เดินมาถึงร้านที่จองทัวร์แล้ว (จุดนัดพบ) น้ำเสียงเจ้าขอ รร ฟังดูโมโหมากคืนนี้คงไม่นอนที่นั่นแล้วแหละ คงไม่ปลอดภัย เราตัดสินใจโทรหา call center ของ website B ค่ะ บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น และต้องการเช็คเอาท์ก่อนเวลา แต่ไม่กล้ากลับไปเอาของคนเดียว พอวางสายเสร็จก็เดินไปหาพี่ที่ร้านขายทัวร์ค่ะ ถามเขาว่าสถานีตำรวจไปทางไหน จะไปแจ้งความเผื่อตำรวจจะช่วยพาไปเก็บของ
พี่ที่ร้านขายทัวร์บอกไม่ต้องแจ้งความค่ะ เค้าเสนอตัวพาเราไปเอาร่มและพาไปเก็บของออกจากห้องพักค่ะ ตอนแรกเหมือนเค้าหวังดีแต่พอไปถึง รร ABC พี่ที่ไปส่งกับเจ้าของ รร ก็ยืนคุยกันค่ะ (มารู้ทีหลังว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน) หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ ถึงว่าห้ามไม่ให้แจ้งความ
เราเอาร่มคืนแล้วรีบเดินขึ้นไปเก็บของค่ะ กวาดทุกอย่างที่อยู่บนเตียงลงกระเป๋า รีบมากค่ะเพราะอยากออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุด อารมณ์นั้นคือค่อนข้างไม่พอใจ ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว ไม่ได้มาพักฟรี และเราก็พูดกับเค้าดี ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้กับเรา ตอนเดินออกมา ระหว่างรอสตาร์ทรถ เจ้าของ รร ABC ยังพูดไม่หยุดค่ะ เค้าบอกว่า จบนะ เรียนรู้นะ
เราบอกเค้าว่าพอแล้ว พอ พอได้แล้ว เอานิ้วอุดหูก็แล้ว เค้ายังไม่มีทีท่าจะหยุด จนเราบอกเค้าไปว่า พี่พอได้แล้วค่ะ พอ หยุดอยู่เงียบๆ ไม่ต้อง เ สื อ ก มาสอนคนอื่น เค้าก็ยังเหมือนจะพูดต่อ แฟนเค้าก็แทนที่จะห้ามกัน เปล่าเลยค่ะ เค้าบอกว่า พอแล้วเค้าฟังไม่ได้ น้องเค้าป่วย เค้าฟังไม่ได้ ปล่อยเค้าไป เค้าป่วย จนรถขับออกไปค่ะ
เรานี่แบบ เฮ้ย... นี่จ่ายเงินมาเข้าค่ายเหรอ ต้องมานั่งฟังเค้าสั่งสอน จำเป็นต้องฟังด้วยเหรอ งงมาก แล้วเค้าเป็นหมอเหรอถึงมาวินัจฉัยว่าเราป่วย ตรวจมาล่าสุดหมอก็บอกว่าแข็งแรงดีนะ รวมๆคือคนที่ทำงานบริการพูดจาแบบนี้กับแขกได้ด้วยเหรอ เราทำงานเป็น receptionist มา 4 ปี ยังไม่เคยด่าใครเพราะร่มคันเดียวเลยค่ะ ถ้าแขกทำหายก็แจ้ง charge แบบสุภาพชนค่ะ เพราะทำงานบริการค่ะ เราไม่ได้มาด่าว่าหรือมาวินิจฉัยโรคของใครค่ะ
เย็นวันนั้นกลับมาจากไปเที่ยว (ซึ่งไม่ได้เที่ยวอะไรมากค่ะ เพราะโทรคุยกับ call center) เราไปเช็คอิน รร .ใหม่ค่ะ ริมชายหาดพัทยา ราคาถูกกว่า บริการดีกว่า ปลอดภัยกว่า พนักงานก็มีน้ำใจกว่าเยอะค่ะ นอนหลับสบาย แอร์เย็น ยุงไม่กัด คือชีวิตดีค่ะ!!
แต่ก็ดีได้ไม่นาน เพราะตอนเช้ารื้อข้าวของออกมาจัดใหม่ เราดันไปเจอผ้าเช็ดตัวของโรงแรมอยู่ในกระเป๋าค่ะ omg เวรกรรมอะไรของกรู ในหัวคือแบบ ship หายละ เมื่อวานไม่น่ารีบเลย ยังไม่พอค่ะ เช้านั้นฝนตกไปอี้กกกก แต่ด้วยความที่ไม่อยากมีอะไรที่เป็นของเขาติดตัวไป บอกตรงๆว่าขยาดค่ะ นับ 1 2 3 สติมา เราเดินตากฝนหัวเปียกไปสถานีตำรวจค่ะ ให้ตำรวจเอาไปคืนให้ ตำรวจบอกให้เราไปกับเขาค่ะ แต่เราปฏิเสธ คือเราไม่อยากเข้าใกล้เค้า ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้น แต่เราก็นั่งรอจนคุณตร.กลับมาที่สถานีค่ะ คุณตร.บอกว่าเจ้าของ รร อยากแจ้งความจับเราข้อหาขโมยผ้าเช็ดตัวค่ะ คุณพระคุณเจ้า!! ให้ตร. เอาไปคืนก็ผิดอีกค่ะ เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของกรู!!! เค้าบอกตำรวจว่าถ้าเราจริงใจเราต้องเอาไปคืนด้วยตัวเอง ต้องไม่ให้ตร.เอาไปคืน เรานี่แบบเห้ยยย คือปลอดภัยไหมถ้าไปคืนเองคนเดียว จะไม่โดนฆ่าใช่ไหม แต่ก็ค่ะ ทุกอย่างจบแบบ งงๆ ค่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาโมโหอะไรนักหนา ร่มคันนั้นเป็นมรดกตกทอดเหรอ หรือถ้าแบบหวงทีหลังก็ไม่ต้องให้ยืมก็ได้
คำถามคือ
1 ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เราในฐานะผู้บริโภค ทำอะไรได้บ้างคะ นอกจากโทรหาเว็บไซต์ที่จองและเขียนรีวิว
2 เขาโมโหอะไรคะ มีใครเข้าใจเขาบ้างคะ ถ้ามีช่วยอธิบายหน่อยคะ
3 นี่เราไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองใช่ไหมคะว่า เจ้าของ รร ทำเกินไปในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ หรือนี่ก็ปกติ ตอนนี้ รร ที่ไหนก็พูดกับแขกแบบนี้แล้ว ตามโลกไม่ทันจริงๆค่ะ
4 เราควรจะเครียดกว่านี้ไม๊อ่ะ หรือปล่อยเบลอๆไปแบบนี้ดีแล้ว 5555555555555
5 ถ้าเราไม่ได้ไปคนเดียวเขาจะกล้าทำขนาดนี้ไหม
6 อย่างที่บอกว่าต่างชาติรีวิวเจ้าของดีค่ะ ที่เขาทำแบบนี้เพราะเราไม่ใช่ต่างชาติรึเปล่าคะ มันมีความคิดนี้แว้บเข้ามานิดๆ
ปล.ยืม account เพื่อนมานะคะ เพื่อนสมัครเพื่อให้มาโพสเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ เพื่อนย้ำว่าต้องแชร์จริงๆเพราะตั่งแต่เกิดมันก็เพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ งงไม่แพ้เราค่ะ XDDDD
ปล2 ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี่ เพราะร่มคันเดียวจริงๆค่ะ (อีร่มบ้า! )
ปล3 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ริจะเที่ยว ซื้อ backpack แพงๆ ซื้อกล้อง gopro ได้ก็ต้องรู้จักเจียดเงินไปซื้อร่มเป็นของตัวเองบ้าง จะได้ไม่ต้องไปยืมคนอื่น แล้วเรื่องทุกอย่างนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น 55555555 (ชีวิตมีค่าค่ะ ค่านู่นค่านี่เยอะแยะไปหมด XDD)
รร.นรก ชะนีหวิดนอนคุก เพราะร่มคันเดียว (เรื่องเล่าฝันร้ายของชะนีสายเที่ยว)
เอ้ะหรือไม่ยาว... 555555
สวัสดีค่ะ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ จขกท มีเจตนาที่อยากจะเล่าให้ฟังเฉยๆนะคะ ไม่ได้อยากทำลายธุรกิจใคร (สักวันเขาคงทำลายตัวเขาเองด้วยตัวเขาเองอยู่แล้ว) เรื่องมันก็เกิดมาซักพักแล้วและโดยส่วนตัวคิดว่ามันตลกและน่าสับสนดีค่ะ (เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องเล็กๆที่จะเล่าต่อไปนี้มันกลายเป็นปัญหาได้ยังไง) จขกท อยากให้คนที่ชอบเที่ยวเหมือนกันเข้ามาอ่านแล้วก็รู้ว่าแบบ ‘เออเรื่องแบบนี้ก็มีด้วย’ และทุกอย่างเกิดขึ้นได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีปาปริก้าค่ะ 555555555555
เรื่องก็มีอยู่ว่า จขกท จองโรงแรมไปกับเว็บไซต์ตัวอักษรย่อตัว B ค่ะ จองไปทั้งหมด 3 คืน ห้องพัดลม ที่เกาะหลีเป๊ะ กะว่าจะไปพักผ่อนชิวๆ ตามประสาคนชอบเที่ยวทั่วไปค่ะ ชาวต่างชาติรีวิวดีมากค่ะ เลยจองทีนี่ถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ติดทะเล ผู้ร่วมทริปไม่มีค่ะ ไปคนเดียว ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าก่อนตัดสินใจทำอะไรความปลอดภัยต้องมาก่อนค่ะ คนไปเที่ยวคนเดียวทุกคนไม่อยากไปมีปัญหาอะไรกับใครหรอกค่ะ มันไม่คุ้มกัน
เข้าประเด็นเลยนะคะ คือพอดีไปเช็คอินกับโรงแรมนามสมมุติ ABC ตามที่ได้จองไว้ ตอนเช็คอินทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ปกติทุกอย่างค่ะ คืนแรกผ่านไปแบบคันๆค่ะเพราะยุงกัด ที่นั่นยุงจะเยอะและตัวใหญ่มากกก เพราะรอบๆจะเป็นต้นไม้ใหญ่แบบ ป่าๆหน่อยค่ะ
วันที่สองตอนบ่ายหลังจากซื้อทัวร์ไปดำน้ำก็เดินกลับไปพักที่ รร ค่ะ เสร็จก็วางแผนว่าจะไปกินข้าวที่ รร.แถวริมทะเลแห่งหนึ่งเพราะได้ยินว่าส้มตำกรอบของเค้าอร่อยมาก จขกท ก็ไปถามเจ้าของ รร. ค่ะว่าไปทางไหน เดินไปได้ไหม สรุปว่าเดินไปได้ค่ะ ทีนี้ฝนตก จขกท ก็ขอยืมร่มกับทาง รร. ค่ะ เค้าก็ใจดีให้ยืมพร้อมบอกว่ามันเก่ามีสนิมและขามันจะหักๆหน่อยไม่เป็นไรใช่ไหม ซึ่งไม่ใช่ปัญหาค่ะ กันฝนได้เป็นพอ
เดินๆไปก็หลงทางค่ะ (คนเที่ยวบ่อยทุกคนจะเข้าใจดีว่า ถ้าไม่หลงแสดงว่ายังไปไม่ถึงที่นั้นค่ะ ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกันไหมนะ 5555) พอดีมีชาวบ้านแถวนั้นผ่านมาเขาก็อาสาพาไปส่งค่ะ ตอนขากลับถาม พนง. รร. เค้าแนะนำให้เดินกลับทางหาดพัทยา เพราะมันจะไปโผล่ตรง walking street ได้ ซึ่งเส้นทางนี้ จขกท คุ้นกว่า แต่ถามว่าแม่นไหมนั้น 5555 .... ก็มีผิดซอยบ้าง ถามๆคนแถวนั้นไปค่ะ และแล้วความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ (ที่ไม่น่าจะใหญ่) ก็เกิดขึ้น
!!!จขกท ลืมร่มไว้ที่ร้านของชำตอนไปซื้อน้ำเปล่า ข้าง รร ที่ไปกินส้มตำกรอบค่ะ!!!
นึกขึ้นได้ตอนที่เดินกลับไปถึง รร ABC แล้ว (ดูเวลาก็สามทุ่มแล้วค่ะ) ด้วยความที่ รร ABC อยู่ไกลจาก walking street ประมาน 15 – 20 นาที และมืดมาก! บอกตรงๆว่าไม่กล้าเดินกลับไปเอาค่ะ ร้านก็น่าจะปิดแล้ว ตั้งใจไว้ว่าตอนเช้าจะเดินไปเอาให้ก่อนไปทัวร์ รีบนอนค่ะ ตาขวากระตุกทั้งคืน แล้วคืนที่สองก็ผ่านไปแบบคันๆเหมือนเดิมค่ะ 555555
วันที่สามตื่นมาตอนเช้า ทัวร์นัดไว้ 9 โมง จขกท รีบอาบน้ำ จัดของ แล้วออกจาก รร ABC ไปตอนประมาน 7.50 น. ว่าจะเดินไปเอาร่มทางหาดพัทยา กินข้าวแถวนั้น แล้วไปทัวร์ต่อตอน 9 โมง เอาร่มฝากไว้ที่ร้านที่จองทัวร์เค้าคงไม่ว่าอะไร แต่ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด เพราะหลงทางอีกแล้วค่ะ ตั้งใจเดินไปหาดพัทยา รู้ตัวอีกทีไปโผล่เซเว่นหาดซันไรส์ค่ะ ซึ่งมันก็เดินจากกันประมานเมื่อยนึง คือไปเอาร่มไม่ทันแน่ๆ ระหว่างเดิน เจ้าของโรงแรม ABC โทรเข้ามาค่ะ (สนทนาคร่าวๆนะคะ เพราะจำแบบแน่นอนทุกประโยคไม่ได้ค่ะ จำได้แค่เด็ดๆที่โดนด่าค่ะ)
เรา : สวัสดีค่ะ
รร ABC : พอดีเห็นน้องเดินออกไป ฝนเหมือนจะตก ได้เอาร่มไปไหมครับ
เรา : อ่อพอดีหนูไปลืมร่มไว้ที่ร้านของชำเมื่อวานค่ะ ตอนนี้กำลังเดินไปทัวร์ เดี๋ยวตอนเย็นๆจะเดินไปเอามาคืนให้นะคะ
คือทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นี้ happy ending ตอนเย็นเราเอาร่มไปคืน และ vacation นี่ก็จะจบอย่างสมบูรณ์แบบแต่มันไม่ได้จบแค่นั้นค่ะ
รร ABC : เรื่องแบบนี้พี่คิดว่ามันควรจะบอกกันก่อนนะ (เสียงไม่พอใจ)
เรา : ตอนแรกหนูจะเดินไปเอาให้เช้านี้ค่ะแต่เดินมาผิดทาง ตอนเย็นพอกลับมาจากทัวร์จะเดินไปเอาให้นะคะ
รร ABC : แล้วทำไมไม่บอก! เช้านี้ พี่ก็เสริฟอาหารฝรั่ง 2 คน (รร.มีร้านอาหารอยู่ขวามือของทางเดินออกนอก รร ค่ะ ซึ่งเราต้องเลี้ยวซ้าย ก็ต้องมองไปทางซ้ายถูกไหม) น้องเดินผ่านไปเลยไม่มองพี่ แบบนี้มันไม่ใช่ น้องพูดไม่ตรง ไหนตอนแรกบอกจะไปทัวร์ (น้ำเสียงก็ยังคงไม่พอใจ)
เรางงมากค่ะ คือเขาเป็นเจ้าบ้านเห็นแขกก็ต้องทักแขกก่อนหรือเปล่า ?? และเขาเห็นเราเดินออกมาไม่มีร่ม ยังต้องโทรมาถามเอาอะไร มีเจตนาหาเรื่องหรือเปล่า คือไม่เข้าใจจริงๆค่ะ จุดๆนี้ XDDDD
เรา : พอดีหนูไม่เห็นพี่ค่ะ เดินออกมาปกติไม่ได้สนใจมองใคร นี้พี่โมโหอะไรหรือเปล่าค่ะ (พยายามพูดดีด้วยค่ะ เพราะอย่างที่บอก ทะเลาะกันไปก็ไม่คุ้มกัน เรามาเที่ยวค่ะ ไม่ได้มามีปัญหากับใคร)
รร ABC : มันไม่ใช่ไง นี่น้องพูดไม่ตรง ไม่จริงใจ น้องจะไม่เห็นได้ยังไง พี่เห็นน้องเดินออกไปอยู่เนี่ย!
เรา : พี่จะโมโหทำไมคะ ร่มคันเดียวเองพี่ ตอนเย็นหนูเดินไปเอาให้ ถ้าหายหนูก็ตั้งใจจะซื้อใหม่ให้ค่ะ เรื่องมันเล็กน้อยมากค่ะพี่ (เราพยายามรวบรวมสติมากกกกกก ไอบ้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ต้องมาทะเลาะกันเพราะร่มคันเดียว 5555555)
รร ABC : มันไม่ใช่ไง พี่ต้องการความรับผิดชอบ! นี่น้องไม่รับผิดชอบ! โตๆกันแล้วทำไมไม่รับผิดชอบ!
ณ จุดๆนี้ เราถึงกับเอามือทาบอกคะ คุณพระ! ร่มคันเดียว เสนอตัวไปเอาให้ก็แล้ว บอกว่าจะซื้อให้ใหม่ก็แล้ว เค้าจะเอาอะไรอีกคะคุณผู้โช้มมมมมมม เหมือนเราพูดภาษาแมว แต่เค้าพูดภาษาหมา สื่อสารยังไงก็ไม่เข้าใจกันซักที
เรา : พี่คะหนูจะเดินไปเอามาคืนให้ หนูรับผิดชอบค่ะ ร่มคันเดียว ถ้าหายจะซื้อให้ใหม่ค่ะ ไม่ต้องห่วงจริงๆ
รร ABC : เอาอย่างงี้นะ น้องไม่ต้องพูดแล้ว ตอนเย็นก็เอามาคืนนะ จบนะ
แล้วสายก็ตัดไปค่ะ ... เราก็คิดนะ omg วันนี้ก้าวขาผิดข้างออกจากห้องรึเปล่า อะไรจะขนาดนั้น ร่มคันเดียว คุณพระ!!
คือก่อนหน้าที่สายจะตัดไปเราก็แบบพยายามอธิบายแล้วว่าหลงทางจริงๆ กำลังไปเอาให้จริงๆ ถ้าหายจะซื้อให้ใหม่จริงๆ ร่มคันเดียว ไม่ต้องโมโหขนาดนี้ก็ได้ พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบสุภาพมากๆ พยายามมากแล้วจริงๆ แต่เหมือนมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น สายตัดไป เรานับ 1 – 20 พยายามรวบรวมสติ ดูเวลา ยังมีเวลาอีก 15 นาทีก่อน 9 โมง โอเคข้าวไม่ได้กินละ เดินมาถึงร้านที่จองทัวร์แล้ว (จุดนัดพบ) น้ำเสียงเจ้าขอ รร ฟังดูโมโหมากคืนนี้คงไม่นอนที่นั่นแล้วแหละ คงไม่ปลอดภัย เราตัดสินใจโทรหา call center ของ website B ค่ะ บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น และต้องการเช็คเอาท์ก่อนเวลา แต่ไม่กล้ากลับไปเอาของคนเดียว พอวางสายเสร็จก็เดินไปหาพี่ที่ร้านขายทัวร์ค่ะ ถามเขาว่าสถานีตำรวจไปทางไหน จะไปแจ้งความเผื่อตำรวจจะช่วยพาไปเก็บของ
พี่ที่ร้านขายทัวร์บอกไม่ต้องแจ้งความค่ะ เค้าเสนอตัวพาเราไปเอาร่มและพาไปเก็บของออกจากห้องพักค่ะ ตอนแรกเหมือนเค้าหวังดีแต่พอไปถึง รร ABC พี่ที่ไปส่งกับเจ้าของ รร ก็ยืนคุยกันค่ะ (มารู้ทีหลังว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน) หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ ถึงว่าห้ามไม่ให้แจ้งความ
เราเอาร่มคืนแล้วรีบเดินขึ้นไปเก็บของค่ะ กวาดทุกอย่างที่อยู่บนเตียงลงกระเป๋า รีบมากค่ะเพราะอยากออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุด อารมณ์นั้นคือค่อนข้างไม่พอใจ ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว ไม่ได้มาพักฟรี และเราก็พูดกับเค้าดี ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้กับเรา ตอนเดินออกมา ระหว่างรอสตาร์ทรถ เจ้าของ รร ABC ยังพูดไม่หยุดค่ะ เค้าบอกว่า จบนะ เรียนรู้นะ
เราบอกเค้าว่าพอแล้ว พอ พอได้แล้ว เอานิ้วอุดหูก็แล้ว เค้ายังไม่มีทีท่าจะหยุด จนเราบอกเค้าไปว่า พี่พอได้แล้วค่ะ พอ หยุดอยู่เงียบๆ ไม่ต้อง เ สื อ ก มาสอนคนอื่น เค้าก็ยังเหมือนจะพูดต่อ แฟนเค้าก็แทนที่จะห้ามกัน เปล่าเลยค่ะ เค้าบอกว่า พอแล้วเค้าฟังไม่ได้ น้องเค้าป่วย เค้าฟังไม่ได้ ปล่อยเค้าไป เค้าป่วย จนรถขับออกไปค่ะ
เรานี่แบบ เฮ้ย... นี่จ่ายเงินมาเข้าค่ายเหรอ ต้องมานั่งฟังเค้าสั่งสอน จำเป็นต้องฟังด้วยเหรอ งงมาก แล้วเค้าเป็นหมอเหรอถึงมาวินัจฉัยว่าเราป่วย ตรวจมาล่าสุดหมอก็บอกว่าแข็งแรงดีนะ รวมๆคือคนที่ทำงานบริการพูดจาแบบนี้กับแขกได้ด้วยเหรอ เราทำงานเป็น receptionist มา 4 ปี ยังไม่เคยด่าใครเพราะร่มคันเดียวเลยค่ะ ถ้าแขกทำหายก็แจ้ง charge แบบสุภาพชนค่ะ เพราะทำงานบริการค่ะ เราไม่ได้มาด่าว่าหรือมาวินิจฉัยโรคของใครค่ะ
เย็นวันนั้นกลับมาจากไปเที่ยว (ซึ่งไม่ได้เที่ยวอะไรมากค่ะ เพราะโทรคุยกับ call center) เราไปเช็คอิน รร .ใหม่ค่ะ ริมชายหาดพัทยา ราคาถูกกว่า บริการดีกว่า ปลอดภัยกว่า พนักงานก็มีน้ำใจกว่าเยอะค่ะ นอนหลับสบาย แอร์เย็น ยุงไม่กัด คือชีวิตดีค่ะ!!
แต่ก็ดีได้ไม่นาน เพราะตอนเช้ารื้อข้าวของออกมาจัดใหม่ เราดันไปเจอผ้าเช็ดตัวของโรงแรมอยู่ในกระเป๋าค่ะ omg เวรกรรมอะไรของกรู ในหัวคือแบบ ship หายละ เมื่อวานไม่น่ารีบเลย ยังไม่พอค่ะ เช้านั้นฝนตกไปอี้กกกก แต่ด้วยความที่ไม่อยากมีอะไรที่เป็นของเขาติดตัวไป บอกตรงๆว่าขยาดค่ะ นับ 1 2 3 สติมา เราเดินตากฝนหัวเปียกไปสถานีตำรวจค่ะ ให้ตำรวจเอาไปคืนให้ ตำรวจบอกให้เราไปกับเขาค่ะ แต่เราปฏิเสธ คือเราไม่อยากเข้าใกล้เค้า ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้น แต่เราก็นั่งรอจนคุณตร.กลับมาที่สถานีค่ะ คุณตร.บอกว่าเจ้าของ รร อยากแจ้งความจับเราข้อหาขโมยผ้าเช็ดตัวค่ะ คุณพระคุณเจ้า!! ให้ตร. เอาไปคืนก็ผิดอีกค่ะ เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของกรู!!! เค้าบอกตำรวจว่าถ้าเราจริงใจเราต้องเอาไปคืนด้วยตัวเอง ต้องไม่ให้ตร.เอาไปคืน เรานี่แบบเห้ยยย คือปลอดภัยไหมถ้าไปคืนเองคนเดียว จะไม่โดนฆ่าใช่ไหม แต่ก็ค่ะ ทุกอย่างจบแบบ งงๆ ค่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาโมโหอะไรนักหนา ร่มคันนั้นเป็นมรดกตกทอดเหรอ หรือถ้าแบบหวงทีหลังก็ไม่ต้องให้ยืมก็ได้
คำถามคือ
1 ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เราในฐานะผู้บริโภค ทำอะไรได้บ้างคะ นอกจากโทรหาเว็บไซต์ที่จองและเขียนรีวิว
2 เขาโมโหอะไรคะ มีใครเข้าใจเขาบ้างคะ ถ้ามีช่วยอธิบายหน่อยคะ
3 นี่เราไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองใช่ไหมคะว่า เจ้าของ รร ทำเกินไปในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ หรือนี่ก็ปกติ ตอนนี้ รร ที่ไหนก็พูดกับแขกแบบนี้แล้ว ตามโลกไม่ทันจริงๆค่ะ
4 เราควรจะเครียดกว่านี้ไม๊อ่ะ หรือปล่อยเบลอๆไปแบบนี้ดีแล้ว 5555555555555
5 ถ้าเราไม่ได้ไปคนเดียวเขาจะกล้าทำขนาดนี้ไหม
6 อย่างที่บอกว่าต่างชาติรีวิวเจ้าของดีค่ะ ที่เขาทำแบบนี้เพราะเราไม่ใช่ต่างชาติรึเปล่าคะ มันมีความคิดนี้แว้บเข้ามานิดๆ
ปล.ยืม account เพื่อนมานะคะ เพื่อนสมัครเพื่อให้มาโพสเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ เพื่อนย้ำว่าต้องแชร์จริงๆเพราะตั่งแต่เกิดมันก็เพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ งงไม่แพ้เราค่ะ XDDDD
ปล2 ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี่ เพราะร่มคันเดียวจริงๆค่ะ (อีร่มบ้า! )
ปล3 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ริจะเที่ยว ซื้อ backpack แพงๆ ซื้อกล้อง gopro ได้ก็ต้องรู้จักเจียดเงินไปซื้อร่มเป็นของตัวเองบ้าง จะได้ไม่ต้องไปยืมคนอื่น แล้วเรื่องทุกอย่างนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น 55555555 (ชีวิตมีค่าค่ะ ค่านู่นค่านี่เยอะแยะไปหมด XDD)