
เป็นการเล่าจากความทรงจำของผมนะครับ หากสำนวนไม่ถูกใจใครต้องขออภัยด้วย
ผมขอเริ่มเรื่องจากจุดแรกแล้วกัน ผมเป็นคนนครศรีธรรมราช เกิดและเติบโตบนแผ่นดินนี้ ผมเป็นคนหน้าตาดี ฐานะดี
แต่ผม...เรียนไม่จบมหาลัย ผมอาศัยความหล่อ และสมบัติที่มีของพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด มีแฟนคนแรกตั้งแต่อายุ14
สมัยนั้น ผมโดนสาวๆยกให้เป็นหนุ่มตัวท๊อปของโรงเรียน ผมเรียนไม่เก่งหรอก ลอกการบ้านเพื่อนทุกเช้า ลอกยันตอนสอบ
ทำรายงานก็จ้างเพื่อน ทุกๆอย่างที่ผมต้องการ ผมนำทางมันด้วย "เงิน" และใช้ความล่อเป็นตัวล่อสาวๆ
ตอนนั้น ผมสอยดาวโรงเรียนที่เป็นรุ่นพี่ มาเป็นแฟน ได้เสียกัน จนทางบ้านฝ่ายหญิงรับรู้
ผมต้องไปคุย ทางบ้านฝ่ายหญิง เห็นว่าผมบ้านรวย เลยจับหมั้นหมายกันไว้ก่อน
แต่หมั้นแล้วไง ผมมันหล่อ รวย สาวๆในโรงเรียนก็อยากเล่นด้วยเยอะ ถึงจะรู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว ก็ไม่วายแอบมาคุยกับผม ก็รักในวัยเด็ก ไม่มีความคิดเรื่องศีลธรรมอะไรหรอก อารมณ์และความต้องการนำไปล้วนๆ
ตลอดเวลา ผมไม่เคยรู้จักคำว่า "พอ" ปากหวาน หว่านเสน่ห์ ทำผู้หญิงตบกัน แฟนใครสวยถ้าเล่นด้วยกับผม ผมก็ไม่สนใจเหมือนกันถ้าผมจะเอา
กว่าจะจบ ม.6 ที่โรงเรียนนั้น ผมกวาดสาวๆในโรงเรียนไปร่วม10คน ไม่นับรวมคู่หมั้นผม
คู่หมั้นผม เธอหัวดี เข้าสู่รั้วมหาลัยดังในกรุงเทพได้ แต่ผมมันไม่ฉลาด ไม่มีความพยายามอะไรสักอย่าง ติดหรูอยู่สบาย ไม่เคยขวนขวายอะไร ผมบอกพ่อแม่ว่า ผมขออยู่บ้านเฉยๆสักปีนึงนะ แล้วจะเรียนต่อมหาลัย พ่อแม่ผมตามใจ เพราะผมมันลูกคนเดียว
ตลอด1ปีนั้น ผมยังคงความเลวได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายในเรื่องคาวผู้หญิง ผมบินไปๆมาๆ กรุงเทพ-นครศรี เพื่อไปหาคู่หมั้น สลับกับหาสาวสวยๆในเมืองนครกิน ผมไม่เคยซื้อกินหรอกนะ มีแต่เปย์ เบื่อก็เททิ้ง คู่หมั้นผมเธอไม่เคยระแคะระคายอะไรเรื่องนี้หรอก เพื่อนทุกคนช่วยผมปิดหมด ว่าผมแอบกินใคร คบใครซ้อน เพราะผมก็เปย์เพื่อนปิดปากเหมือนกัน
ผมติดสนุกกับชีวิตแบบนั้น จนแฟนผมเรียนจบมหาลัย ผมก็ยังไม่ได้เริ่มเรียนมหาลัยเลย
พอเธอเรียนจบ ผมให้พ่อแม่ไปคุยกับพ่อแม่เธอเรื่องจัดงานแต่ง แต่เหมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะ
เธอปฏิเสธผม ด้วยเหตุผลว่า เธอหมดรักผมไปนานแล้ว และผมก็มีดีแค่ความหล่อกับบ้านรวย ไม่ได้มียศฐาหรือความรู้อะไรที่เหมาะกับเธอ
ผมเสียใจ แต่ไม่ฟูมฟาย ไม่โกรธ เพราะผมยังคงคิดว่า ผมจะเอาผู้หญิงกี่คนก็ได้ ทำไมต้องแคร์ สาวสวยไม่รู้กี่คนที่ผมสอยมากอดและจบลงที่เตียง
ผมลุ่มหลง มัวเมาไปกับมายานั้นอย่างถอนไม่ขึ้น แล้วครอบครัวผมก็ตกอับยังกับละครไทย ครอบครัวเกิดหายนะ
พ่อผมฆ่าตัวตาย ธุรกิจของบ้านพังครืน ทรัพย์สินถูกยึด เพราะพ่อผมทำธุรกิจมืดบางอย่างอยู่เบื้องหลังงานสุจริต
ตอนนั้นผมอึ้งมาก ปรับอะไรไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกยึด ยังดีที่แม่ผมมีเงินเก็บส่วนตัวที่ฝากตายายไว้ จึงไปขอเอามาใช้
ผมซึมเศร้าเพราะรับการเปลี่ยนไม่ได้ อยู่เป็นเดือน เพื่อนๆรวมทั้งสาวๆที่ผมคบอยู่ หายหัวไปหมดทีละคน ทีละคน จนเหลือเพื่อนไม่กี่คน
แม่พาผมเดินทางเข้าหาดใหญ่ เราลงทุนทำร้านขายอาหารตามสั่ง ด้วยเงินเก็บส่วนตัวของแม่ที่ไม่ได้มากมายอะไร เริ่มชีวิตใหม่
ช่วงแรกๆก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เพราะแม่เป็นคนอัธยาศัยดี ทำอาหารอร่อย ก็เลยขายดีในตอนหลัง จนต้องหาลูกจ้างมาช่วย1คน
ตอนนั้น ผมคิดได้ ผมอยากปรับปรุงตัว ผมไปเข้าเรียนมหาลัยเอกชนในหาดใหญ่ ในตอนอายุ23 พอเลิกเรียนผมก็จะรีบมาช่วยแม่ที่ร้านขายอาหาร
มันทำให้ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึง ผมขอสมมุติว่าเธอชื่อ "แพรว" ก็แล้วกัน ผมชอบชื่อนี้
แพรว มาทำงานเป็นลูกจ้างของแม่ผม ได้ค่าจ้างวันละ300 ทำทุกอย่างที่แม่สั่ง แพรวเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ รูปร่างผอมบาง ผิวค่อนไปทางขาวแต่ไม่ขาวมาก ดูเผินๆเธอคล้ายสาวพม่า แพรวมีบ้านเช่าอยุ่ที่บ้านพรุอยู่กับพ่อแม่และน้อง2คน ไม่ไกลจากหาดใหญ่ แพรวเป็นคนที่ไม่แต่งหน้า ถ้าแต่งบ้างก็แค่วันสำคัญๆ ผมรู้จักแพรว เริ่มจากการพูดคุยแบบนายจ้าง ลูกจ้าง
เธออายุแค่18ปี แต่มีความคิดที่โตผิดอายุ ผมเองก็ชอบนั่งคุยกับแพรวบ่อยๆในตอนที่ลูกค้าไม่เข้า เธอจะชอบพร่ำเรื่องสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำในอนาคตไว้เป็นฉากๆ ซึ่งผมก็ชอบฟัง ฟังแพรวพูดทุกวัน แพรวมีคนมาจีบอยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นพวกวัยรุ่นขี่รถแต่ง เธอไม่สนใจ เธอบอกเธอไม่อยากสร้างปัญหาให้พ่อแม่ปวดหัว เลยขอตั้งใจทำงานช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องๆไปก่อน
ตอนนั้นชีวิตผมเหมือน หน่อหญ้าคา ที่พึ่งแทงหน่อคืนมา หลังการโดนไฟไหม้ครั้งใหญ่ ผมขับมอเตอร์ไซค์ราคาถูกๆมือ2ไปเรียน และเพราะหน้าตาผมมันยังใช้การได้ ถึงจะไม่รวยอีกต่อไปแล้ว และผมก็ไม่เคยโม้หรือเล่าเรื่องแต่หนหลังสมัยรวยๆของผมให้ใครฟังด้วย
ก็ยังมีสาวเข้ามาหาผม อาจไม่มากเท่าเดิม แต่ก็มีเรื่อยๆ
ผมเข็ดแล้ว กับการใช้ชีวิตแบบนั้น และผมจะไม่กลับไปเดินอีก ผมไม่เอาแล้ว เรื่องคบเพื่อน กินเหล้า เข้าผับ ผมมุมานะ ผมตั้งใจเรียน เลิกงานก็กลับบ้านช่วยงานแม่ พร้อมๆกับที่ผมเริ่มสนิทกับแพรว ลูกจ้างแม่ขึ้นทุกวัน ผมรู้สึกว่าคุยกับเธอแล้ว เหมือนได้เสวนาธรรมกับคนบรรลุโลกยังไงยังงั้น
เธอชอบพูดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต หลักธรรมต่างๆ ผมชอบการพูดของแพรว และความคิดของเธอ
แต่ตอนอยู่ปี3นั้น ผมก็มีผู้หญิงที่สวยมากคนนึงมาติดพัน ผมเองก็ยอมรับเลยว่า เมื่อเธอเข้ามา ผมก็หลงหัวปักหัวปำ ถึงผมจะไม่ค่อยมี แต่ผมก็พยายามหาของดีๆมาให้เธอ ผมคิดว่าผมไหว เราคือคู่ที่เหมาะสมกัน ใครๆก็ต้องอิจฉา แต่ผมไม่รู้ตัวหรอกว่า ผมมันเป็นแค่หมาจนๆหน้าตาดี ที่เธอหลอกเอาโซ่ความรู้สึกล่ามไว้อวดโชว์เพื่อนในมหาลัย ผมตาสว่างเมื่อขับรถไปส่งข้าวแล้วเจอเธอ นั่งรถเก๋งกับคนที่มีทองเต็มตัว ยิ้มระรื่นเดินเข้าลีการ์เด้นหาดใหญ่ด้วยกัน
ผมร้องไห้เหมือนหมาถูกหวดด้วยหวายแช่เยิ่ยว ผมร้องไห้บ่อยๆ นั่งเฉยๆน้ำตาก็ไหลได้เอง มีแค่แพรวผู้หญิงลูกจ้าง มานั่งปลอบ อย่าเสียใจไปเลย โลกมันก็เป็นแบบนี้แหละเนาะ คนเรามีพบมีจาก ไม่ได้ทำบุญร่วมกันมาก็ไม่ได้รักกันหรอก
ผมได้แต่สวนแพรวไปว่า "บ่นอะไรของเธอ"
แทนที่เธอจะน้อยใจในน้ำคำห้วนๆที่ผมสวนไป เธอกลับฉีกยิ้มใส่ผมแบบกวนๆ แล้วชวนไปวัดทำบุญในวันหยุด เผื่อความรักจะดีขึ้น
ผมก็ไป จากไปเที่ยววันหยุดครั้งแรกด้วยกัน ครั้ง2 ครั้ง3 ครั้ง4ก็ตามมา จนนับครั้งไม่ได้
ผมเริ่มรู้สึกว่า ผมรู้สึกดีกับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆคนนี้ไปแล้ว จนผมเคยถามแกมหยอกเธอว่า
"ถ้ามีคนหล่อๆแบบผมมาจีบแพรว แพรวจะทำไง"
แพรวบอกว่า เธอคงไม่ตอบรับ เพราะคนหล่อๆมักไม่ค่อยจริงใจ และมีคนเข้าหาเยอะ เธอไม่อยากเสียใจ
แต่ ในวันวาเลนไทน์ปีนั้น ผมลงทุนซื้อดอกกุหลาบแดง9ดอกใหญ่ๆ พร้อมตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ มาขอเธอเป็นแฟน ต่อหน้าแม่ และลูกค้าหลายคนในร้าน ผมบอกแม่ล่วงหน้าแล้วเรื่องนี้ แม่ไม่ว่าอะไร แม่บอกแล้วแต่ใจผม ถ้าตัดสินใจดีแล้วก็เอา แต่อย่าหลอกแพรวมันนะ แม่สงสารมันอยู่เหมือนกัน
แพรวเขิน และไม่ยอมรับดอกไม้ผม เธอยัง งงๆ และถามผมด้วยอารมณ์ไม่แน่ใจว่า
"พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย อย่ามาล้อเล่นกันดิ๊ หนูอายคน"
"เปล่าครับ พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่ชอบแพรว " แล้วผมก็ร้องเพลง อยากมีเธอเป็นแฟน ของไผ่ พงศธร ในท่อนฮุก คุกเข่าต่อหน้าเธอ
ผมขอเธอเป็นแฟน แพรวคงคิดหนัก ว่าผมเอาจริง เธอเขินมาก ลังเลแต่ก็รับดอกไม้กับหมีไป ผมไปที่บ้านของแพรว ไปพบพ่อแม่และครอบครัวเธอที่บ้านเช่าที่บ้านพรุ ผมขออนุญาตคบแพรว พ่อแม่เธอทีแรกก็ยัง งงๆ ว่าผมคือใคร อะไร ยังไง ขีมอไซค์มาขอเป็นแฟนกับแพรว
อาจจะเพราะยังไม่ค่อยเชื่อว่า ผมก็หน้าตาดี ทำไมมาขอคบลูกสาวเค้าที่ไม่ได้สวยอะไร แถมก็เรียนจบแค่ กศน. เพราะต้องทำงานช่วยครอบครัวตั้งแต่จบ ม.3
แต่พอผมบอกว่า ผมเป็นลูกชายของนายจ้างแพรวที่ร้าน และผมชอบในความคิดความอ่านของแพรว เหนือกว่าเรื่องหน้าตา เพราะที่ผ่านมา ผมเคยคบผู้หญิงสวยๆมาแล้ว จบไม่สวยเลยสักครั้ง ผมไม่ได้มาหลอก ถ้าผมเรียนจบเมื่อไหร่ ผมจะมาขอแพรวแต่งงาน ผมไม่ได้รวยอะไรเหมือนกัน แค่พออยู่พอกิน พ่อแม่แพรวก็อนุญาตให้เราคบกันได้
ผมพาแพรวไปไหนมาไหนในหาดใหญ่ ได้อย่างสบายใจ เพราะถือว่าเราเข้าตามตรอก ออกทางประตู ผมพาแพรวไปในมหาลัย ดูเธอกลัวๆ เธอบอกเธอไม่เคยเข้ามาสถานที่แบบนี้ ทำตัวไม่ค่อยถูก ตอนแรกๆที่ผมพาเธอไปมหาลัย เพื่อทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อนในวันหยุด แพรวก็จะขอผมหลบอยู่ที่อื่นรอ เธอบอกเธออายเพื่อนๆผม เพราะเธอไม่สวย กลัวคนนินทา แต่ผมก็ลากแพรวไปจนได้ ผมบอกว่าผมไม่อายหรอก เพราะแพรวคือคนสำคัญของใจ ไม่สวยในสายตาคนอื่นก็ชั่งเถอะ แพรวสวยสุดในหัวใจผมอยู่แล้ว ผมจับมือแพรวจนแน่นทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน อยากให้เธอมั่นใจ
แต่แพรวก็มาจากผมไปจากอุบัติเหตุครับ สภาพศพ อย่าให้ผมบรรยายเลย แค่นึกถึงน้ำตาผมก็จะไหลแล้ว
ผมทำใจไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว ผมหาความสุขในชีวิตไม่เจอเลย
หน้าตาผมก็หาแฟนใหม่ได้ แต่ผมกลับรู้สึกไม่อยากรับใครเข้ามาสร้างความจำใหม่ๆอีกแล้ว
ทุกวันนี้ผม ยังกอดรูปแพรว ยังคงร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงรักเศร้าๆ
หลายต่อหลายครั้ง ในวันที่มืดๆ คืนฝนพรำ ผมยังกอดหมอนข้างโดยคิดว่ากำลังกอดแพรวอยู่เลย
ผมลองเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ มันก็คิดได้แค่ตอนฟัง
แต่พอผมออกมาจากตรงนั้น ความรู้สึกเศร้า เสียใจ คิดถึง มันก็กลับมาหาผมอีก
มีผู้หญิงบางคน เข้ามาปลอบใจ มาคุยกับผม และมีท่าทีว่าชอบผม
แต่ผมกลับรู้สึกเพียงว่า เป็นเพื่อนคุยน่ะดีแล้ว
ผมยังกดโทรศัพท์โทรหาเบอร์ของแฟนที่เสียชีวิตไปตามเวลาที่เคยทำทุกคืน แม้จะรู้ว่าโทรไปก็ไม่ติดผมก็ยังเฝ้าทำ
ผมส่งข้อความไปบอกรักในกล่องข้อความเฟสทุกวันทุกคืน
ผมกลายเป็นเหมือนคนบ้า ที่เอาแต่นั่ง นอน เดิน ซึมๆ
ตั้งแต่วันที่เผาเธอไป ผมก็เฝ้าภาวนา ขอให้ผีมีจริง
ผมจุดธูป1 ดอก ตอนตี2 เรียกชื่อให้เธอมาหาทุกคืน
ความเชื่ออะไรที่สอนวิธีเห็นผี ผมก็ลองไปแอบทำหมด เช่นผมเอาขี้เถ้าจากการเผาศพป้ายเปลือกตา
เหลือแค่วิธีเดียวที่ยังไม่ได้ลองทำ คือเอาน้ำตาหมาดำมาป้ายตาตัวเอง เพราะหมาไม่ยอมให้ผมจับ และผมก็กลัวหมากัด
ผมไปนั่งร้องไห้ในสุสานคนจีนตอนค่ำๆ เคาะหลุมด้วย
อาอี้ อาม่า อากง ผีมีจริงไม๊ครับ ถ้ามีจริงออกมาให้ผมเห็นหน่อย ผมจะได้มีหวังได้เจอแฟนผมอีกสักครั้ง
ยังมีอีกหลายคำที่ผมอยากบอกเธอ เวลาคนเรากำลังเจ็บปวดจากการสูญเสียหนักๆผมเลิกกลัวแล้วผีเผอ
กลายมาเป็นขอให้ผมได้เจอเถอะ ผมขอกระดูกของเธอจากพ่อแม่เธอมาเก็บไว้ในห้องด้วย
แล้วคืนนึง เหมือนผมจะสมหวัง ผมฝันว่าเธอมานั่งให้ผมหนุนตักเธอบนเตียงที่ห้องผม
เธอไม่พูดอะไรกับผมหรอก ถึงจะเป็นฝัน แต่ผมกลับรู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นมากๆ
ผมไม่อยากลืมตา เพราะพอลืมตาทีไร ความรู้สึกนั้นจะหายไปทุกครั้งแล้วผมก็ต้องมานั่งร้องไห้อีก
ผมชอบนั่งร้องเพลงเป็นตายร้ายดี ของวงลาบานูน ต่อหน้าธูป1ดอกและห่อกระดูกของเธอทุกวัน
ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเธอจะได้ยืนหรือเปล่า
ผมอาจจะเหมือนคนบ้า แต่สติผมก็ครบถ้วนมากพอที่จะมาตั้งกระทู้ในพันทิปแห่งนี้
ผมฝันเห็นแพรวซ้ำๆ บางครั้งมาเข้าฝันเหมือนว่าเราไปเที่ยวด้วยกัน จับมือกัน
แต่บางครั้งก็มาสภาพเหมือนตอนเสียชีวิต เละๆนั่นล่ะ แต่ผมไม่กลัว
ยิ่งตอนฝันว่าแพรวมานั่งขอบเตียงให้ผมนอนหนุนตัก ผมมีความสุขมากครับ
จนไม่กี่วันมานี้ แม่ผมก็พาซินแสอะไรไม่รู้ มาที่บ้าน
ผมว่า เอามาทำไมแม่ซินแส
แม่ก็บอกผมว่า แม่กลัวผมเป็นอะไรไปเลยต้องพาหมอผีมา
ผมข้องใจว่า ผมจะเป็นอะไร ยังไง เกี่ยวไรกับซินแส
แม่บอกว่า มีลูกค้าบางคนที่เขารู้จักแพรว ขี่รถผ่านตอนดึกๆ เขาเห็นแพรว
มาเดินเข้าออกบ้านผม บางคนเห็นว่าแพรวยืนอยู่บนระเบียงชั้น2ตอนดึกๆ มองตาขวางสภาพน่ากลัวมาที่เขาที่มองขึ้นไป
ช็อตเด็ดคือแม่บอกว่า แม่จะขึ้นมาดูผมในห้อง ผมไม่ได้ปิดห้อง แม่แง้มเข้ามาชะเง้อมองว่าผมนอนหรือยัง
แม่ว่า แม่เห็นว่าแพรวน่ะนั่งอยู่ตรงหัวเตียงกำลังลูบหัวผมอยู่ ....เดี๋ยวต่อครับ
วันที่แฟนผมจากไป แล้วผมพยายามหาวิธีเพื่อให้ได้เห็นเธอ
เป็นการเล่าจากความทรงจำของผมนะครับ หากสำนวนไม่ถูกใจใครต้องขออภัยด้วย
ผมขอเริ่มเรื่องจากจุดแรกแล้วกัน ผมเป็นคนนครศรีธรรมราช เกิดและเติบโตบนแผ่นดินนี้ ผมเป็นคนหน้าตาดี ฐานะดี
แต่ผม...เรียนไม่จบมหาลัย ผมอาศัยความหล่อ และสมบัติที่มีของพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด มีแฟนคนแรกตั้งแต่อายุ14
สมัยนั้น ผมโดนสาวๆยกให้เป็นหนุ่มตัวท๊อปของโรงเรียน ผมเรียนไม่เก่งหรอก ลอกการบ้านเพื่อนทุกเช้า ลอกยันตอนสอบ
ทำรายงานก็จ้างเพื่อน ทุกๆอย่างที่ผมต้องการ ผมนำทางมันด้วย "เงิน" และใช้ความล่อเป็นตัวล่อสาวๆ
ตอนนั้น ผมสอยดาวโรงเรียนที่เป็นรุ่นพี่ มาเป็นแฟน ได้เสียกัน จนทางบ้านฝ่ายหญิงรับรู้
ผมต้องไปคุย ทางบ้านฝ่ายหญิง เห็นว่าผมบ้านรวย เลยจับหมั้นหมายกันไว้ก่อน
แต่หมั้นแล้วไง ผมมันหล่อ รวย สาวๆในโรงเรียนก็อยากเล่นด้วยเยอะ ถึงจะรู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว ก็ไม่วายแอบมาคุยกับผม ก็รักในวัยเด็ก ไม่มีความคิดเรื่องศีลธรรมอะไรหรอก อารมณ์และความต้องการนำไปล้วนๆ
ตลอดเวลา ผมไม่เคยรู้จักคำว่า "พอ" ปากหวาน หว่านเสน่ห์ ทำผู้หญิงตบกัน แฟนใครสวยถ้าเล่นด้วยกับผม ผมก็ไม่สนใจเหมือนกันถ้าผมจะเอา
กว่าจะจบ ม.6 ที่โรงเรียนนั้น ผมกวาดสาวๆในโรงเรียนไปร่วม10คน ไม่นับรวมคู่หมั้นผม
คู่หมั้นผม เธอหัวดี เข้าสู่รั้วมหาลัยดังในกรุงเทพได้ แต่ผมมันไม่ฉลาด ไม่มีความพยายามอะไรสักอย่าง ติดหรูอยู่สบาย ไม่เคยขวนขวายอะไร ผมบอกพ่อแม่ว่า ผมขออยู่บ้านเฉยๆสักปีนึงนะ แล้วจะเรียนต่อมหาลัย พ่อแม่ผมตามใจ เพราะผมมันลูกคนเดียว
ตลอด1ปีนั้น ผมยังคงความเลวได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายในเรื่องคาวผู้หญิง ผมบินไปๆมาๆ กรุงเทพ-นครศรี เพื่อไปหาคู่หมั้น สลับกับหาสาวสวยๆในเมืองนครกิน ผมไม่เคยซื้อกินหรอกนะ มีแต่เปย์ เบื่อก็เททิ้ง คู่หมั้นผมเธอไม่เคยระแคะระคายอะไรเรื่องนี้หรอก เพื่อนทุกคนช่วยผมปิดหมด ว่าผมแอบกินใคร คบใครซ้อน เพราะผมก็เปย์เพื่อนปิดปากเหมือนกัน
ผมติดสนุกกับชีวิตแบบนั้น จนแฟนผมเรียนจบมหาลัย ผมก็ยังไม่ได้เริ่มเรียนมหาลัยเลย
พอเธอเรียนจบ ผมให้พ่อแม่ไปคุยกับพ่อแม่เธอเรื่องจัดงานแต่ง แต่เหมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะ
เธอปฏิเสธผม ด้วยเหตุผลว่า เธอหมดรักผมไปนานแล้ว และผมก็มีดีแค่ความหล่อกับบ้านรวย ไม่ได้มียศฐาหรือความรู้อะไรที่เหมาะกับเธอ
ผมเสียใจ แต่ไม่ฟูมฟาย ไม่โกรธ เพราะผมยังคงคิดว่า ผมจะเอาผู้หญิงกี่คนก็ได้ ทำไมต้องแคร์ สาวสวยไม่รู้กี่คนที่ผมสอยมากอดและจบลงที่เตียง
ผมลุ่มหลง มัวเมาไปกับมายานั้นอย่างถอนไม่ขึ้น แล้วครอบครัวผมก็ตกอับยังกับละครไทย ครอบครัวเกิดหายนะ
พ่อผมฆ่าตัวตาย ธุรกิจของบ้านพังครืน ทรัพย์สินถูกยึด เพราะพ่อผมทำธุรกิจมืดบางอย่างอยู่เบื้องหลังงานสุจริต
ตอนนั้นผมอึ้งมาก ปรับอะไรไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกยึด ยังดีที่แม่ผมมีเงินเก็บส่วนตัวที่ฝากตายายไว้ จึงไปขอเอามาใช้
ผมซึมเศร้าเพราะรับการเปลี่ยนไม่ได้ อยู่เป็นเดือน เพื่อนๆรวมทั้งสาวๆที่ผมคบอยู่ หายหัวไปหมดทีละคน ทีละคน จนเหลือเพื่อนไม่กี่คน
แม่พาผมเดินทางเข้าหาดใหญ่ เราลงทุนทำร้านขายอาหารตามสั่ง ด้วยเงินเก็บส่วนตัวของแม่ที่ไม่ได้มากมายอะไร เริ่มชีวิตใหม่
ช่วงแรกๆก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เพราะแม่เป็นคนอัธยาศัยดี ทำอาหารอร่อย ก็เลยขายดีในตอนหลัง จนต้องหาลูกจ้างมาช่วย1คน
ตอนนั้น ผมคิดได้ ผมอยากปรับปรุงตัว ผมไปเข้าเรียนมหาลัยเอกชนในหาดใหญ่ ในตอนอายุ23 พอเลิกเรียนผมก็จะรีบมาช่วยแม่ที่ร้านขายอาหาร
มันทำให้ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึง ผมขอสมมุติว่าเธอชื่อ "แพรว" ก็แล้วกัน ผมชอบชื่อนี้
แพรว มาทำงานเป็นลูกจ้างของแม่ผม ได้ค่าจ้างวันละ300 ทำทุกอย่างที่แม่สั่ง แพรวเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ รูปร่างผอมบาง ผิวค่อนไปทางขาวแต่ไม่ขาวมาก ดูเผินๆเธอคล้ายสาวพม่า แพรวมีบ้านเช่าอยุ่ที่บ้านพรุอยู่กับพ่อแม่และน้อง2คน ไม่ไกลจากหาดใหญ่ แพรวเป็นคนที่ไม่แต่งหน้า ถ้าแต่งบ้างก็แค่วันสำคัญๆ ผมรู้จักแพรว เริ่มจากการพูดคุยแบบนายจ้าง ลูกจ้าง
เธออายุแค่18ปี แต่มีความคิดที่โตผิดอายุ ผมเองก็ชอบนั่งคุยกับแพรวบ่อยๆในตอนที่ลูกค้าไม่เข้า เธอจะชอบพร่ำเรื่องสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำในอนาคตไว้เป็นฉากๆ ซึ่งผมก็ชอบฟัง ฟังแพรวพูดทุกวัน แพรวมีคนมาจีบอยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นพวกวัยรุ่นขี่รถแต่ง เธอไม่สนใจ เธอบอกเธอไม่อยากสร้างปัญหาให้พ่อแม่ปวดหัว เลยขอตั้งใจทำงานช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้องๆไปก่อน
ตอนนั้นชีวิตผมเหมือน หน่อหญ้าคา ที่พึ่งแทงหน่อคืนมา หลังการโดนไฟไหม้ครั้งใหญ่ ผมขับมอเตอร์ไซค์ราคาถูกๆมือ2ไปเรียน และเพราะหน้าตาผมมันยังใช้การได้ ถึงจะไม่รวยอีกต่อไปแล้ว และผมก็ไม่เคยโม้หรือเล่าเรื่องแต่หนหลังสมัยรวยๆของผมให้ใครฟังด้วย
ก็ยังมีสาวเข้ามาหาผม อาจไม่มากเท่าเดิม แต่ก็มีเรื่อยๆ
ผมเข็ดแล้ว กับการใช้ชีวิตแบบนั้น และผมจะไม่กลับไปเดินอีก ผมไม่เอาแล้ว เรื่องคบเพื่อน กินเหล้า เข้าผับ ผมมุมานะ ผมตั้งใจเรียน เลิกงานก็กลับบ้านช่วยงานแม่ พร้อมๆกับที่ผมเริ่มสนิทกับแพรว ลูกจ้างแม่ขึ้นทุกวัน ผมรู้สึกว่าคุยกับเธอแล้ว เหมือนได้เสวนาธรรมกับคนบรรลุโลกยังไงยังงั้น
เธอชอบพูดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต หลักธรรมต่างๆ ผมชอบการพูดของแพรว และความคิดของเธอ
แต่ตอนอยู่ปี3นั้น ผมก็มีผู้หญิงที่สวยมากคนนึงมาติดพัน ผมเองก็ยอมรับเลยว่า เมื่อเธอเข้ามา ผมก็หลงหัวปักหัวปำ ถึงผมจะไม่ค่อยมี แต่ผมก็พยายามหาของดีๆมาให้เธอ ผมคิดว่าผมไหว เราคือคู่ที่เหมาะสมกัน ใครๆก็ต้องอิจฉา แต่ผมไม่รู้ตัวหรอกว่า ผมมันเป็นแค่หมาจนๆหน้าตาดี ที่เธอหลอกเอาโซ่ความรู้สึกล่ามไว้อวดโชว์เพื่อนในมหาลัย ผมตาสว่างเมื่อขับรถไปส่งข้าวแล้วเจอเธอ นั่งรถเก๋งกับคนที่มีทองเต็มตัว ยิ้มระรื่นเดินเข้าลีการ์เด้นหาดใหญ่ด้วยกัน
ผมร้องไห้เหมือนหมาถูกหวดด้วยหวายแช่เยิ่ยว ผมร้องไห้บ่อยๆ นั่งเฉยๆน้ำตาก็ไหลได้เอง มีแค่แพรวผู้หญิงลูกจ้าง มานั่งปลอบ อย่าเสียใจไปเลย โลกมันก็เป็นแบบนี้แหละเนาะ คนเรามีพบมีจาก ไม่ได้ทำบุญร่วมกันมาก็ไม่ได้รักกันหรอก
ผมได้แต่สวนแพรวไปว่า "บ่นอะไรของเธอ"
แทนที่เธอจะน้อยใจในน้ำคำห้วนๆที่ผมสวนไป เธอกลับฉีกยิ้มใส่ผมแบบกวนๆ แล้วชวนไปวัดทำบุญในวันหยุด เผื่อความรักจะดีขึ้น
ผมก็ไป จากไปเที่ยววันหยุดครั้งแรกด้วยกัน ครั้ง2 ครั้ง3 ครั้ง4ก็ตามมา จนนับครั้งไม่ได้
ผมเริ่มรู้สึกว่า ผมรู้สึกดีกับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆคนนี้ไปแล้ว จนผมเคยถามแกมหยอกเธอว่า
"ถ้ามีคนหล่อๆแบบผมมาจีบแพรว แพรวจะทำไง"
แพรวบอกว่า เธอคงไม่ตอบรับ เพราะคนหล่อๆมักไม่ค่อยจริงใจ และมีคนเข้าหาเยอะ เธอไม่อยากเสียใจ
แต่ ในวันวาเลนไทน์ปีนั้น ผมลงทุนซื้อดอกกุหลาบแดง9ดอกใหญ่ๆ พร้อมตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ มาขอเธอเป็นแฟน ต่อหน้าแม่ และลูกค้าหลายคนในร้าน ผมบอกแม่ล่วงหน้าแล้วเรื่องนี้ แม่ไม่ว่าอะไร แม่บอกแล้วแต่ใจผม ถ้าตัดสินใจดีแล้วก็เอา แต่อย่าหลอกแพรวมันนะ แม่สงสารมันอยู่เหมือนกัน
แพรวเขิน และไม่ยอมรับดอกไม้ผม เธอยัง งงๆ และถามผมด้วยอารมณ์ไม่แน่ใจว่า
"พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย อย่ามาล้อเล่นกันดิ๊ หนูอายคน"
"เปล่าครับ พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่ชอบแพรว " แล้วผมก็ร้องเพลง อยากมีเธอเป็นแฟน ของไผ่ พงศธร ในท่อนฮุก คุกเข่าต่อหน้าเธอ
ผมขอเธอเป็นแฟน แพรวคงคิดหนัก ว่าผมเอาจริง เธอเขินมาก ลังเลแต่ก็รับดอกไม้กับหมีไป ผมไปที่บ้านของแพรว ไปพบพ่อแม่และครอบครัวเธอที่บ้านเช่าที่บ้านพรุ ผมขออนุญาตคบแพรว พ่อแม่เธอทีแรกก็ยัง งงๆ ว่าผมคือใคร อะไร ยังไง ขีมอไซค์มาขอเป็นแฟนกับแพรว
อาจจะเพราะยังไม่ค่อยเชื่อว่า ผมก็หน้าตาดี ทำไมมาขอคบลูกสาวเค้าที่ไม่ได้สวยอะไร แถมก็เรียนจบแค่ กศน. เพราะต้องทำงานช่วยครอบครัวตั้งแต่จบ ม.3
แต่พอผมบอกว่า ผมเป็นลูกชายของนายจ้างแพรวที่ร้าน และผมชอบในความคิดความอ่านของแพรว เหนือกว่าเรื่องหน้าตา เพราะที่ผ่านมา ผมเคยคบผู้หญิงสวยๆมาแล้ว จบไม่สวยเลยสักครั้ง ผมไม่ได้มาหลอก ถ้าผมเรียนจบเมื่อไหร่ ผมจะมาขอแพรวแต่งงาน ผมไม่ได้รวยอะไรเหมือนกัน แค่พออยู่พอกิน พ่อแม่แพรวก็อนุญาตให้เราคบกันได้
ผมพาแพรวไปไหนมาไหนในหาดใหญ่ ได้อย่างสบายใจ เพราะถือว่าเราเข้าตามตรอก ออกทางประตู ผมพาแพรวไปในมหาลัย ดูเธอกลัวๆ เธอบอกเธอไม่เคยเข้ามาสถานที่แบบนี้ ทำตัวไม่ค่อยถูก ตอนแรกๆที่ผมพาเธอไปมหาลัย เพื่อทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อนในวันหยุด แพรวก็จะขอผมหลบอยู่ที่อื่นรอ เธอบอกเธออายเพื่อนๆผม เพราะเธอไม่สวย กลัวคนนินทา แต่ผมก็ลากแพรวไปจนได้ ผมบอกว่าผมไม่อายหรอก เพราะแพรวคือคนสำคัญของใจ ไม่สวยในสายตาคนอื่นก็ชั่งเถอะ แพรวสวยสุดในหัวใจผมอยู่แล้ว ผมจับมือแพรวจนแน่นทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน อยากให้เธอมั่นใจ
แต่แพรวก็มาจากผมไปจากอุบัติเหตุครับ สภาพศพ อย่าให้ผมบรรยายเลย แค่นึกถึงน้ำตาผมก็จะไหลแล้ว
ผมทำใจไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว ผมหาความสุขในชีวิตไม่เจอเลย
หน้าตาผมก็หาแฟนใหม่ได้ แต่ผมกลับรู้สึกไม่อยากรับใครเข้ามาสร้างความจำใหม่ๆอีกแล้ว
ทุกวันนี้ผม ยังกอดรูปแพรว ยังคงร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงรักเศร้าๆ
หลายต่อหลายครั้ง ในวันที่มืดๆ คืนฝนพรำ ผมยังกอดหมอนข้างโดยคิดว่ากำลังกอดแพรวอยู่เลย
ผมลองเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ มันก็คิดได้แค่ตอนฟัง
แต่พอผมออกมาจากตรงนั้น ความรู้สึกเศร้า เสียใจ คิดถึง มันก็กลับมาหาผมอีก
มีผู้หญิงบางคน เข้ามาปลอบใจ มาคุยกับผม และมีท่าทีว่าชอบผม
แต่ผมกลับรู้สึกเพียงว่า เป็นเพื่อนคุยน่ะดีแล้ว
ผมยังกดโทรศัพท์โทรหาเบอร์ของแฟนที่เสียชีวิตไปตามเวลาที่เคยทำทุกคืน แม้จะรู้ว่าโทรไปก็ไม่ติดผมก็ยังเฝ้าทำ
ผมส่งข้อความไปบอกรักในกล่องข้อความเฟสทุกวันทุกคืน
ผมกลายเป็นเหมือนคนบ้า ที่เอาแต่นั่ง นอน เดิน ซึมๆ
ตั้งแต่วันที่เผาเธอไป ผมก็เฝ้าภาวนา ขอให้ผีมีจริง
ผมจุดธูป1 ดอก ตอนตี2 เรียกชื่อให้เธอมาหาทุกคืน
ความเชื่ออะไรที่สอนวิธีเห็นผี ผมก็ลองไปแอบทำหมด เช่นผมเอาขี้เถ้าจากการเผาศพป้ายเปลือกตา
เหลือแค่วิธีเดียวที่ยังไม่ได้ลองทำ คือเอาน้ำตาหมาดำมาป้ายตาตัวเอง เพราะหมาไม่ยอมให้ผมจับ และผมก็กลัวหมากัด
ผมไปนั่งร้องไห้ในสุสานคนจีนตอนค่ำๆ เคาะหลุมด้วย
อาอี้ อาม่า อากง ผีมีจริงไม๊ครับ ถ้ามีจริงออกมาให้ผมเห็นหน่อย ผมจะได้มีหวังได้เจอแฟนผมอีกสักครั้ง
ยังมีอีกหลายคำที่ผมอยากบอกเธอ เวลาคนเรากำลังเจ็บปวดจากการสูญเสียหนักๆผมเลิกกลัวแล้วผีเผอ
กลายมาเป็นขอให้ผมได้เจอเถอะ ผมขอกระดูกของเธอจากพ่อแม่เธอมาเก็บไว้ในห้องด้วย
แล้วคืนนึง เหมือนผมจะสมหวัง ผมฝันว่าเธอมานั่งให้ผมหนุนตักเธอบนเตียงที่ห้องผม
เธอไม่พูดอะไรกับผมหรอก ถึงจะเป็นฝัน แต่ผมกลับรู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นมากๆ
ผมไม่อยากลืมตา เพราะพอลืมตาทีไร ความรู้สึกนั้นจะหายไปทุกครั้งแล้วผมก็ต้องมานั่งร้องไห้อีก
ผมชอบนั่งร้องเพลงเป็นตายร้ายดี ของวงลาบานูน ต่อหน้าธูป1ดอกและห่อกระดูกของเธอทุกวัน
ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเธอจะได้ยืนหรือเปล่า
ผมอาจจะเหมือนคนบ้า แต่สติผมก็ครบถ้วนมากพอที่จะมาตั้งกระทู้ในพันทิปแห่งนี้
ผมฝันเห็นแพรวซ้ำๆ บางครั้งมาเข้าฝันเหมือนว่าเราไปเที่ยวด้วยกัน จับมือกัน
แต่บางครั้งก็มาสภาพเหมือนตอนเสียชีวิต เละๆนั่นล่ะ แต่ผมไม่กลัว
ยิ่งตอนฝันว่าแพรวมานั่งขอบเตียงให้ผมนอนหนุนตัก ผมมีความสุขมากครับ
จนไม่กี่วันมานี้ แม่ผมก็พาซินแสอะไรไม่รู้ มาที่บ้าน
ผมว่า เอามาทำไมแม่ซินแส
แม่ก็บอกผมว่า แม่กลัวผมเป็นอะไรไปเลยต้องพาหมอผีมา
ผมข้องใจว่า ผมจะเป็นอะไร ยังไง เกี่ยวไรกับซินแส
แม่บอกว่า มีลูกค้าบางคนที่เขารู้จักแพรว ขี่รถผ่านตอนดึกๆ เขาเห็นแพรว
มาเดินเข้าออกบ้านผม บางคนเห็นว่าแพรวยืนอยู่บนระเบียงชั้น2ตอนดึกๆ มองตาขวางสภาพน่ากลัวมาที่เขาที่มองขึ้นไป
ช็อตเด็ดคือแม่บอกว่า แม่จะขึ้นมาดูผมในห้อง ผมไม่ได้ปิดห้อง แม่แง้มเข้ามาชะเง้อมองว่าผมนอนหรือยัง
แม่ว่า แม่เห็นว่าแพรวน่ะนั่งอยู่ตรงหัวเตียงกำลังลูบหัวผมอยู่ ....เดี๋ยวต่อครับ