เริ่มต้นด้วยคำถาม ไปยังไง นอนที่ไหน เดินทางลำบากไหม?


เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ด้วยสายการบิน Hong Kong Airlines เที่ยวบินที่ HX 780
ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ประมาณตี 3.50 ถึง ฮ่องกงประมาณ 7 โมง 50 เวลาฮ่องกง ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
(เครื่องขาไปเป็นเครื่องแบบ A330-300 มีจอหลังเบาะ แต่ง่วงไง ไม่อยากดูไง แล้วขากลับเครื่องเล็ก ไม่มีจอไง อดดูเลยไง TT)
*ไปครั้งแรก เช่า Pocket Wifi ไปด้วยก็ดี มันทำให้เราซอกแซกได้สนุกขึ้น และ หลงน้อยลง

ราคาตั๋วเครื่องบินคนละ 5200 บาท
**ประกันการเดินทาง 430 บาท
**Pocket wifi วันละ 300 บาท (จองล่วงหน้า 5 วันเหลือ 200 บาท)
**ซื้อก็ดี ไม่ซื้อก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย
ปล.ตอนที่เราไปคราวนี้มีฝนฟ้า อึมครึมทั้งวัน ภาพที่ได้ก็จะติด Fog มาบ้าง ไม่ได้แต่งภาพให้ดูสวยเกินไป


เมื่อถึงแล้วก็ต้องเดินทางจาก Gate ไป Terminal สนามบินที่นี่จะไม่ใช้รถบัส ใช้เป็นรถไฟฟ้าแทน
เพราะจุคนได้เยอะกว่า เดินทางได้พร้อมกันหลายเที่ยวบิน คือดีมากๆ รถไฟวิ่งเร็ว
แต่ขากลับต้องระวัง ลงผิดสถานี ชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว
*ตม. ที่นี่แลดูผ่านง่าย ไม่ดุ


พอเข้าประเทศได้แล้ว ก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อเข้าเมือง ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้และต้องทำ
คือบัตร Octopus ราคา 150 เหรียญ เป็นค่ามัดจำบัตร 50 และ เงินในบัตรอีก 100 เหรียญ ทำได้ที่ Customer service ทุกสถานี
ใช้แตะจ่ายได้ทุกอย่างทั้งรถไฟฟ้า , รถบัส , 7-11 , Circle K (ร้านสะดวกซื้อ) , ห้าง ,ร้านอาหารบางร้าน โคตรสะดวก
(ก่อนกลับอย่าลืมคืนบัตร คืนได้ที่ Customer service ทุกสถานี MTR จะได้ค่ามัดจำคืน แต่หักค่าใช้บัตรไป 9 hkd บัตรมีอายุ 3 ปี ถ้าจะกลับมาอีก หรือ เงินเหลือน้อย ก็ไม่ต้องคืน เก็บไว้ เผื่อมาใหม่)  


โรงแรมที่ไปพักชื่อว่า Micro Hotel เป็นโรงแรมขนาด Micro อยู่ที่ตึก Alhambra สถานี Jordan ตรงข้ามโรงแรม ESTON Nathan Rd. (Google map พาไปได้) ที่ก้าวเท้าซ้ายถึงเตียง ก้าวเท้าขวาถึงห้องน้ำ ขนาดห้องประมาณ 5-7 ตร.ม (หอพักปกติในไทยประมาณ 40-42 ตร.ม) เข้าใจคำว่าอาบน้ำนอนก็ตอนนี้แหละ คือมีห้องไว้ อาบน้ำกับนอน แค่นั้นจริงๆ


แต่ถึงจะ Micro แต่ค่าห้องก็ถูกมากกก ไป 2 คนเฉลี่ยคนละ 500 บาทต่อคืน ซึ่งห้องก็ดีนะ เตียงนุ่ม มีทีวี มีน้ำอุ่น มีไดร์ มีกาน้ำ น้ำแรงมาก มีหัวปลั้กให้ด้วย ลืมพกหัวปลั้กไป ก็ไม่ลำบาก แต่ต้องพกผ้าขนหนูไปนะ เพราะที่โรงแรมมีแต่ผืนเล็ก ลิฟต์น่ากลัวหน่อย อย่าขึ้นลิฟต์ซ้ายสุด ถ้าไปชั้นสูงๆ 555
Tartar เป็น staff ที่น่ารัก และ มี Service mind สูงมาก นางพยายามหาผ้าห่มผืนใหญ่ให้ ตอนเช็คเอ้าท์คุยแชทกันแล้ว งง
นางเดินจากชั้น 9 ลงมาบอก (พักอยู่ชั้น 3) โคตร Nice

ภาพนี้จาก Booking.com นะ ถ้าใครจะจองที่พักมีส่วนลด 550 บาทให้ ลดได้ทุกโรงแรมทั่วโลก กดจองที่ Link >> https://www.booking.com/s/870b0a64 เท่านั้น ถึงจะได้
(เงินจะคืนเข้าบัญชีของคุณ 550 บาท หลังจากเข้าพักในทริปนั้นเรียบร้อยแล้ว)


ความที่ค่าห้องถูกมาก จนไม่เสียดาย ทำให้เรามีเวลาเดินสำรวจฮ่องกงกันสนุก เพราะเราไม่รู้สึกเสียดายค่าที่พัก ไม่ต้องอยู่โรงแรมให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
แต่ด้วยความที่เราไปถึงเช้าและก่อนเวลาเช็คอิน ก็เลยต้องเอากระเป๋าไปฝากโรงแรมไว้ และ ออกไปหาข้าวเช้ากิน เดินเล่นกันไปก่อน รอเวลา


เราสามารถเดินเล่นไปเรื่อยๆ ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวภยันตรายใดๆ เพราะฟุตบาทที่ฮ่องกง สะอาดและราบเรียบมาก ไม่มีหลุมน้ำแบบเกมส์วางระเบิดเหมือนในไทย ฝาท่อปิดสนิทเรียบเนียนไปกับฟุตบาท มีถังขยะสีส้มบ้าง เขียวบ้างอยู่ตลอดทาง แต่ก็ไม่ทำให้บ้านเมืองดูไม่สะอาดตา เพราะเขาออกแบบดี
แต่มีอย่างนึงที่ไม่ดี คือ เหม็นบุหรี่มาก สูบกันจัดมาก


ซึ่งถ้าตั้งใจจะไป Backpack เดินดูนกชมไม้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ และต้องเอาไปคือ รองเท้าผ้าใบ โยน Birkenstock ไว้ที่ไทยก่อน ไม่น่ารอด รองเท้าส้นสูง พื้นแข็งทั้งหลาย ตัดออกไปจากกระเป๋า เปลืองพื้นที่ และไม่มีประโยชน์ แม้กระทั่งคนฮ่องกงเอง รองเท้าที่นิยมใส่กันก็ไม่ใช่ส้นสูง แต่นิยมใส่รองเท้าผ้าใบทั้งคนแก่ ทั้งวัยรุ่น


Guide Book ดีๆก็สำคัญสำหรับสายเที่ยวเอง เพราะ Guide Book ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Guide Book เล่มนี้ที่กิน ที่เที่ยว ที่ช้อปครบ ใช้เที่ยวได้จริงตามที่หนังสือการันตี


นอกจาก Guide Book แล้ว โพยแผนที่ MTR ที่วางแผนไว้ ก็ดูจะสำคัญสำหรับทริปนี้มาก มีประโยชน์และเปิดดูง่ายกว่าแผนที่ที่อยู่ใน Guide Book เพราะแค่จำว่าที่ๆเราจะไปอยู่ไหน ลงสถานีไหน มีอะไรอยู่ใกล้ๆบ้าง ถ้าอยู่สถานีติดกันก็เดินเอา ให้ Google map พาไป

ไปแล้วกินอะไรดี อาหารอร่อยไหม? (แอบบอกก่อนว่าอาหารอร่อยมากกกกก)
อ่านต่อที่ Comment...