ข้อสังเกตงานวิ่งมาราธอน และพฤติกรรมของออแกนไนซ์ในยุคนี้

กระแสการงานวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กระแสแรงมาก มีนักวิ่งต่างให้ความสนใจสมัครวิ่งตามงานต่าง ๆ กันมากมาย

อย่างที่เราเคยเห็นประกาศโฆษณา เราพอจะจำแนกงานวิ่งได้หลายแบบ เช่น
-งานวิ่งเพื่อการกุศล
-งานวิ่งเพื่อสงเสริมสุขภาพ กิจกรรมชุมชน กิจกรรมองค์กร
-งานวิ่งเพื่อการท่องเที่ยว
-งานวิ่งภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการขาย

ก็เหมือนกับงานอีเว้นทั่วไป ที่จะมีผู้รับเหมามาจัดงานให้สะดวกเรียบร้อย ปีก่อน ๆ ราคางานวิ่งทั่ว ๆ ไปค่าสมัครระยะไม่เกิน 21 กิโลเมตร ก็จะอยู่ราว ๆ 300-400 บาท บางงาน 150-200 บาทก็มี เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วก็อาจจะเหลือไม่มากนักแล้วแต่ความทุ่มเทของเจ้าภาพว่าจะตั้งใจให้เหลือมากเหลือน้อย

และปีนี้ค่าวิ่งขยับไปแตะ 700 บาท วิ่งมาราธอน 900 บาท ก็มี ทำให้รายได้จากการวิ่งพุ่งสูงขึ้นไปมาก จนมีออแกนไนซ์เกิดใหม่มากมาย จัดงานวิ่งกันทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละหลาย ๆ งาน เพราะมันคือแหล่งผลประโยชน์ขนาดใหญ่กับกิจกรรมรักสุขภาพ

เกริ่นมาซะยาว เรื่องมันก็มีอยู่ว่า มีออแกนไนซ์ที่คิดหาผลประโยชน์จากท้องถิ่น สถานที่ ที่ชื่อมันขายได้ โดยการประกาศจัดงานวิ่งโดยพลการ ในสถานที่ ท้องถิ่น นั้น ๆ โดยคนในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วม หรือริเริ่มจัดงาน รับสมัครราคาแพง ๆ ดำเนินการไปก่อนที่จะมีการขออนุญาตเป็นทางการ และได้รับการยินยอมจากทุกฝ่ายให้ดำเนินการได้

หลักของออแกนไนซ์แบบนี้คือ "การตีหัวเข้าบ้าน" สมัยนี้การสื่อสารผ่านโซเชี่ยวมันง่าย ราคาถูก มีชุมชนนักวิ่งในโลกออนไลน์เยอะ การประกาศจัดงานวิ่งจึงไม่ต้องลงทุนค่าสื่อประชาสัมพันธ์ เพียงแต่สร้างเพจงานวิ่งขึ้นมาทำรูปกราฟฟิคนิดหน่อยก็กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว

และสมัยนี้ก็จะมีนักวิ่งจำนวนมากที่พร้อมใจกันสมัครอย่างรวดเร็วหากว่าชื่องานนั้น ๆ น่าสนใจ บวกกับหากมีโปรโมชั่นสมัครก่อนลดค่าวิ่งได้อีก จึงให้ยอดสมัครล่วงหน้ามีจำนวนมากพอที่ออแกนไนซ์จะมีทุนทำได้อย่างสบาย โดยที่ยังไม่ได้เตรียมงานใด ๆ ก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น

พอได้เงินมา ทางออแกนไนซ์จึงค่อยเริ่มประสานงานสถานที่ หน่วยงานต่าง ๆ ที่จะไปจัดงาน หากสถานที่นั้น ๆ แบ่งบันผลประโยชน์ลงตัว งานวิ่งก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

หรือถ้าสถานที่นั้น ๆ ไม่อนุญาต ก็จะเกิดกระแสต่อว่า ทำให้เสียชื่อเสียง หลายครั้งไม่อยากรับก็ต้องจำใจให้ทำ เพราะออแกนไนซ์มีนักวิ่งเป็นตัวประกัน คนสมัครมาเป็นพัน ๆ เขาเล่นเราแน่

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันก็เป็นแค่ออแกนไนซ์บางกลุ่ม ที่จะทำให้กระแสการออกกำลังกายโดนมองในแง่ลบ เพราะมุ่งหาแต่ผลประโยชน์

เราเองก็อย่าไปยึดติดการไปวิ่งตามงานมากนักจนเป็นเหยื่อการตลาดมากเกินไป เอาที่พอเหมาะพอดี และผมเองก็จะสุขใจมากหากงานวิ่งนั้น ๆ เป็นงานวิ่งเพื่อการกุศล รูปแบบจัดไม่ได้ดีมากไม่เป็นไรแต่ก็ได้ทำบุญ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่