จริง ๆ ผมเป็นคนชอบดูหนังไทยอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นพวกหนังประวัติศาสตร์แบบนี้ยิ่งชอบ แต่ก็รู้อยู่ว่าระยะหลังคนสร้างหนังไทย มักจะสร้างออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้คนที่ไม่ชอบดูหนังไทยยิ่งไม่ชอบและไม่อยากดูไปกันใหญ่ บางคนก็พูดตรง ๆ เลยว่าไม่ชอบดูหนังไทย ทำให้ผมก็คิดว่าทองดี ฟันขาวอาจจะทำออกมาได้ไม่สนุกนัก และคงทำรายได้ไม่ค่อยดีเท่าไร
แต่จากที่เคยได้อ่านรีวิวจากเว็บอื่น และดูเองทำให้ผมรู้สึกเลยว่าเซอร์ไพรส์มาก คือทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด และมีหลายจุดที่เซอร์ไพรส์มากในเรื่อง
แน่นอนแหละว่าเนื้อหาก็กล่าวถึงพระยาพิชัยดาบหัก แต่ในเรื่องจะกล่างถึงชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของพระยาพิชัยดาบหัก โดยที่ใช้ชื่อเรื่องว่าทองดี ฟันขาว ก็เป็นเพราะที่มาจากชื่อของพระยาพิชัยดาบหักนั่นเอง โดยแท้จริงแล้ว พระยาพิชัยดาบหักมีชื่อว่า จ้อย แต่ต่อมาได้หนีภัยจากลูกชายเจ้าเมืองที่ชื่อ เชิด (ในหนังเรียกแบบนี้) จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ทองดี และเนื่องจากนายทองดีผู้นี้ไม่เคี้ยวหมาก ทำให้ฟันไม่ดำเหมือนคนอื่น จึงเรียกกันว่า ทองดี ฟันขาว การฝึกฝนเรียนรู้วิชาดาบและมวย จนมาถึงท้ายที่สุดที่ได้รับราชการกับพระเจ้าตาก ซึ่งในแต่ละฉากทำออกมาได้น่าดู ดูเพลิน ไม่น่าเบื่อชนิดที่ว่าต้องเดินออกจากโรงหรือต้องปิดแผ่นทิ้ง คิวบู๊ในเรื่องก็สมจริง
ส่วนจุดที่ว่าเซอร์ไพรส์นั้นก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นักแสดงที่เล่นเป็นจ้อยในวัยเด็ก หน้าเหมือนบัวขาวสุด ๆ ได้ยินมาว่าเป็นหลานของบัวขาวด้วย เหมือนมาก ๆ การพูดจาก็เหมือน
แล้วก็จะมีอีกฉากหนึ่งที่ในประวัติศาสตร์หรือหนังสือเรียนระบุไว้ว่า นายบุญเกิด ผู้ฝากตัวเป็นศิษย์กับนายทองดี ได้ถูกเสือคาบไประหว่างที่เดินทางอยู่ในป่า และนายทองดีได้เข้าไปช่วยนายบุญเกิดจากเสือด้วยมีดเพียงเล่มเดียว แต่ในหนังนี้ ผู้สร้างอาจจะคิดว่าคงไม่สามารถเอาเสือจริง ๆ มาเล่นได้ ครั้นจะทำซีจีก็อาจจะออกมาไม่เนียนนัก จึงปรับเปลี่ยนให้เป็นเสือที่หมายถึงโจร ยิงนายบุญเกิดจนบาดเจ็บสาหัส แต่ผู้สร้างก็ยังไม่ทิ้งเกร็ดในประวัติศาสตร์นั้นด้วยการทำให้เมื่อนายบุญเกิดฟื้นขึ้นมา ก็มีคนไปอำนายบุญเกิดว่าที่สลบไปก็เป็นเพราะเสือคาบไป แล้วนายทองดีไปช่วยไว้ได้
ต่อมาก็จะมีฉากเปรียบมวยในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของพระเจ้าตากเมื่อครั้งยังเป็น พระยาตาก มีฉากสนามมวยที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่ผมคิดไว้
ผู้รับบทพระเจ้าตาก ตอนแรกผมอึ้งเลยที่เห็น น้ำ-รพีภัทร มารับบทพระเจ้าตาก คือคิดว่าไม่เหมาะอย่างแรก ทั้งวัยและบุคลิก น้ำเสียง หน้าตาอะไรต่าง ๆ นึกไปถึงฉากรบ หรือฉากที่ต้องแสดงพลังอำนาจของความเป็นพระเจ้าตากยิ่งรู้สึกว่าไม่เหมาะ
ยิ่งต้องมาแสดงกับ เงาะ-กชกร ที่รับบทเป็น แม่สอน หรือหลังจากพระเจ้าตากครองราชย์แล้วสถาปนาเป็น กรมหลวงบาทบริจาริกา ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระเจ้าตากก็รู้สึกว่าน้ำ-รพีภัทรยิ่งไม่เหมาะ
แต่หลังจากการเปรียบมวยเสร็จสิ้นลง เมื่อพระยาตากจะลงมาประทานรางวัลให้กับผู้ชนะ ก็ปรากฏว่ามีโจรบุกเข้ามาหมายปองร้ายพระยาตาก ทำให้นายทองดีและทหารหลายนายเข้าไปคุ้มกันพระยาตากไว้ ซึ่งหัวหน้าโจรนั้นก็มิใช่ใครอื่น นายเรือง ที่เคยให้ความช่วยเหลือนายทองดีเมื่อครั้งพานายบุญเกิดที่บาดเจ็บไปรักษานั่นเอง
เมื่อต้องเดิมพันด้วยชีวิต นายทองดีก็พร้อมจะสละชีวิตเพื่อพระยาตาก ยอมที่จะโดนยิงตายแทนพระยาตาก
ฉากนี้คือฉากเซอร์ไพรส์สุด ๆ แล้ว เพราะแท้จริง นายเรืองที่นำโจรบุกเข้ามานั้นคือ นายสิน หรือพระยาตาก ตัวจริง ผู้ซึ่งเวลาต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นั่นเอง แต่ที่ทำไปเช่นนั้นเพื่อทดสอบความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ของผู้เปรียบมวยทุกคนว่าหากเกิดภัยมาถึงตัวพระยาตากจริง ๆ แล้วไซร้ คนเหล่านั้นจะทำอย่างไร
มีฉากฮาเล็กน้อยตรงที่ น้ำ-รพีภัทร หรือนายกล่ำที่รับบทเป็นพระยาตากตัวปลอมเมือครู่อยู่ในอาการลนลาน กลัวว่าพระยาตากจะกุดหัว เพราะตนไปทำให้พระยาตากเลือดออก
ฉากที่เป็นจุดพีคสุดของเรื่องก็คือฉาก ดาบหัก นั่นแหละ
สรุปก็คือหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมชอบเรื่องหนึ่ง บทพูดก็ดูดี คิวบู๊ก็สมจริง มีฉากฮาเรียกเสียงหัวเราะมาได้เป็นระยะ ๆ
เพิ่งมีโอกาสได้ดู ทองดี ฟันขาว หนังเซอร์ไพรส์ที่น่าดูอีกเรื่ีอง
แต่จากที่เคยได้อ่านรีวิวจากเว็บอื่น และดูเองทำให้ผมรู้สึกเลยว่าเซอร์ไพรส์มาก คือทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด และมีหลายจุดที่เซอร์ไพรส์มากในเรื่อง
แน่นอนแหละว่าเนื้อหาก็กล่าวถึงพระยาพิชัยดาบหัก แต่ในเรื่องจะกล่างถึงชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของพระยาพิชัยดาบหัก โดยที่ใช้ชื่อเรื่องว่าทองดี ฟันขาว ก็เป็นเพราะที่มาจากชื่อของพระยาพิชัยดาบหักนั่นเอง โดยแท้จริงแล้ว พระยาพิชัยดาบหักมีชื่อว่า จ้อย แต่ต่อมาได้หนีภัยจากลูกชายเจ้าเมืองที่ชื่อ เชิด (ในหนังเรียกแบบนี้) จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ทองดี และเนื่องจากนายทองดีผู้นี้ไม่เคี้ยวหมาก ทำให้ฟันไม่ดำเหมือนคนอื่น จึงเรียกกันว่า ทองดี ฟันขาว การฝึกฝนเรียนรู้วิชาดาบและมวย จนมาถึงท้ายที่สุดที่ได้รับราชการกับพระเจ้าตาก ซึ่งในแต่ละฉากทำออกมาได้น่าดู ดูเพลิน ไม่น่าเบื่อชนิดที่ว่าต้องเดินออกจากโรงหรือต้องปิดแผ่นทิ้ง คิวบู๊ในเรื่องก็สมจริง
ส่วนจุดที่ว่าเซอร์ไพรส์นั้นก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปก็คือหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมชอบเรื่องหนึ่ง บทพูดก็ดูดี คิวบู๊ก็สมจริง มีฉากฮาเรียกเสียงหัวเราะมาได้เป็นระยะ ๆ