ก่อนอื่นต้องขออนุญาตตั้งกระทู้นี้เพราะอยากแชร์ประเด็นนี้ค่ะ แต่หากระทู้ที่มีเนื้อหาคุยเรื่องนี้ไม่เจอเลยก็เลยต้องลองตั้งกระทู้เอง
คือประเด็นที่อยากแชร์เพราะวันนี้ได้ฟังสัมภาษณ์ของผลิต เรื่องการรับงานว่าทุกวันนี้ทั้งหมดจนถึงปลายปีแล้วถึงอาจจะมีอัลบั้มใหม่ต้นปีหน้าเป็นการวางแพลนจากแกรมมี่ตั้งแต่ผลิตถอดหน้ากาก พอได้ยินแบบนั้นอย่างแรกที่รู้สึกคือ
รู้สึกผิดที่อาจจะเคยตำหนิค่ายแกรมมี่ว่าทำไมไม่ดันและไม่รีบต่อยอดให้ผลิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เพิ่งเป็นกระแสดังตอนถอดหน้ากากจิงโจ้ใหม่ๆ และยังมีคำถามในใจตลอดว่าทำไมค่ายดูเงียบมากและไม่แอคชั่นอะไรเลย แต่มันก็แค่คิดอยู่ในใจ จนก็เห็นว่ามีหลายๆคนก็รู้สึกกับเรื่องนี้เหมือนเราเลย ไม่ว่าจะอยากให้ผลิตรีบออกซิงเกิลหรือคอนเดี่ยวใหญ่ ซึ่งเราก็คิดว่าเหมือนกับทุกคนว่าศักยภาพของผลิตเอาอยู่แน่ๆ แต่พอผลิตออกมาแสดงออกในทิศทางที่เค้าให้ใจและเคารพค่ายของเค้ามากๆ ดราม่าเลยหยุดไป
อย่างที่บอกว่าทำไมเรารู้สึกผิดเพราะ จากที่ฟังผลิตพูด มันทำให้นึกไปว่าหรือจริงๆแล้วแกรมมี่เค้าวางแผนและคิดวิเคราะห์ทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เรียกผลิตไปคุยหลังจากถอดหน้ากากใหม่ๆ ซึ่งถ้าสิ่งที่เราคิดนี้มันเป็นสิ่งที่แกรมมี่วางแผนไว้เราก็อยากจะขอบคุณแกรมมี่มากจริงๆเหมือนหัวข้อกระทู้นั่นแหละเพราะมันทำให้ผลิตมาถึงจุด ณ วันนี้ วันที่ผลิตได้รับฉายา... ผลิตห้างแตก ผลิตเมียแสน หรืออะไรอีกมากมาย.. อีกทั้งกระแสที่โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆมีแฟนคลับทุกวัยและหลายๆกลุ่ม และได้รับรางวัลศิลปินขวัญใจมหาชน จนกระทั้งได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ AIS ภายในเวลา 2 เดือน
ซึ่งในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมามันอาจจะดูยาวนานสำหรับแฟนคลับที่รักผลิตมากๆตั้งแต่ถอดหน้ากากใหม่ๆในเวลานั้นมันมีความอยากสนับสนุนเค้า อยากเห็น come back ของผลิตแบบยิ่งใหญ่ การรอคอยแม้แค่วีคเดียวก็ยังรู้สึกว่านานเกินไปด้วยซ้ำ แต่ ณ ตอนนั้นเท่าที่เห็นภาพค่ายแกรมมี่คือนิ่งมาก ที่เห็นเคลื่อนไหวคืออัดงานทัวร์ต่างจังหวัดให้ผลิตแบบชนิดที่ว่า ทุกคนคิดว่าผลิตร้อนเงินหรือเป็นหนี้นอกระบบแน่ๆ 5555 ตอนนั้นคิดว่าทุกคนคงสงสัยแบบนี้เหมือนกัน
แต่ตอนนี้เราคิดว่า หรือแกรมมี่ใช้วิธีแบบสมัยก่อนในยุคที่แกรมมี่สร้างความนิยมให้กับนักร้องยุค 80 เช่นพี่เบิร์ด พี่เจ พี่ติน่า เอากลับมาใช้กับผลิต เพราะสมัยโน้นพอเปิดอัลบั้มปุ๊ปนี่ศิลปินออกทัวร์ต่างจังหวัดทั่วประเทศก่อนเลย จำได้ว่าตอนเด็กๆยังได้วิ่งตามรถกะบะแห่พี่เบิร์ดอยู่เลย ซึ่งมันทำให้ใครๆก็รู้จักศิลปินในสมัยนั้นแบบยังกะเป็นญาติพี่น้อง แต่ถามว่าในสมัยนี้การทำความรู้จักของศิลปินกับแฟนเพลงมันก็เป็นเรื่องง่ายมากเพราะโลกโซเชียลออกซิงเกิลใหม่โปรโมตตามรายการใช้ทีวีอัดเพลงบ่อยๆแฟนเพลงก็โหลดๆเข้าไปอะยอดขึ้นๆแล้วก็อะดังแล้วทุกคนร้องได้ แต่สิ่งที่ศิลปินสมัยนี้ที่เราเห็นร้องเพลงตามได้แต่มันจะขาดอีโมชั่นนอลแบบว่าคลั่งไคล้และโหยหา ซึ่งการทัวร์คอนทั่วประเทศนี่แหละเราว่าสำคัญวงกว้างมากๆ การสร้างการปฏิสัมพันธ์ของศิลปินกับแฟนเพลงแบบ face to face ผลความคลั่งไคล้มันรุนแรงกว่ามากจริงๆในแง่จิตวิทยา คุณได้สัมผัสเค้า ได้ยินเสียงเค้าสดๆ และยิ่งถ้าศิลปินคนนั้นมีตัวตนที่น่ารักอยู่แล้ว คุณจะตกเป็นทาสเค้าทันที 555 ซึ่งเราก็คิดว่าแกรมมี่ใช้วิธีนี้กับผลิตเพราะเค้าเหมือนเริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ให้ผลิตแต่เอามาจากตัวตนผลิตจริงๆออกมาโชว์คือดันผลิตให้ออกไปเจอกลุ่มแฟนเพลงให้เยอะที่สุดเหมือนให้โอกาสผลิตสร้างฐานแฟนเพลงใหม่ส่วนแฟนเพลงเก่าก็เหมือนไปตอกย้ำให้ฐานมันแน่นกว่าเดิมและให้ผลิตสร้างแบรนด์ที่มันเป็นตัวตนจริงๆของผลิตให้โชว์ออกมาโดยที่มันกลายเป็นส่วนดีที่มันได้ลบภาพจำเก่าและลบข่าวลือต่างในอดีตโดยอัตโนมัติไม่ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเลย เพราะดูแกรมมี่เปิดโอกาสให้ผลิตได้จัดโชว์เองทุกครั้งลิตส์เพลงเอง ไม่มีกรอบหรือผู้คุมโชว์ใดๆเลย หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ทุกคนเคยกลัวคือการหยุดไลฟ์ชีวิตส่วนตัวของผลิต ยกเว้นไลฟ์ที่เกี่ยวกับลิขสิทธ์ เพราะผลิตก็ยังคงไลฟ์แบบอยากไลฟ์ก็ไลฟ์อยากเทก็เท ดูที่จะทำเป็นรูปแบบจริงๆก็แค่มีผจก.และทีมแบนด์แบคอัพประจำซึ่งมันก็เหมือนทางค่ายก็เตรียมรูปแบบการก้าวเดินแบบพิเศษให้ผลิตไว้แล้ว การออกไปโชว์ก็ไม่ใช่ไปโชว์แบบต้องแจมกับเพื่อนๆร่วมค่ายเหมือนที่ผ่านมาแล้ว สังเกตุจากใช้คำว่ามินิคอนแบบส่วนตัวกับผลิต และเหมือนค่ายจงใจไม่ให้ผลิตออกรายการต่างๆในสังกัดมันการขีดเส้นไว้เพื่อยกระดับเป็นศิลปินตัวหลักของค่ายที่เค้าก็จะไม่ปล่อยให้ไปออกรายการเกมส์โชว์พร่ำเพรือ (หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจหรือตารางทัวร์แน่นเกิน 5555 )
แต่ผลจากการทัวร์ต่างจังหวัดและในกรุงเทพอันหนักหน่วงมันก็ได้ผลอย่างทุกวันนี้ คือ ผลิตกลายเป็นสามี 4 ภาคไปแล้วคือมีเมียมันทุกจังหวัด บางจังหวัดไปซ้ำมากหน่อย ฐานทัพเมียจังหวัดนั้นๆก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลายๆคนเจอตัวเป็นๆแล้วก็อยากเจออีกมันกลายเป็นเสพติดเพราะตัวตนศิลปิน ซึ่งถ้าค่ายเลือกรับงานแค่ให้ผลิตไปออกตามรายการต่างๆที่สังกัดมีมันก็จะเข้ารูปแบบเดิมที่ผ่านมาไง...อ้อก็ ผลิตโชคที่เป็นหน้ากากจิงโจ้ไง แล้วไงเล่าเรื่องตอนใส่หน้ากากแล้วก็จบ แต่การทัวร์ทั่วประเทศเนี่ยแหละมันเหมือนศิลปินได้เดินทางเพื่อไปหาคุณถึงที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณเป็นชั่วโมงๆ อารมณ์มันก็ไม่ต่างกันจากความคลั่งไคล้ศิลปินในยุคเก่าเลย เพียงแต่ผลิตถือว่าใช้เวลาแค่ 2เดือน แต่เมื่อก่อนกว่าจะทัวร์ครบก็เกือบครึ่งปีจนครบและมีคอนใหญ่ที่กรุงเทพ
ส่วนซิงเกิลที่ลากยาวมานานขนาดนี้ เราคิดว่าสิ่งที่หลายคนเคยเม้นท์ถึงเพลงใหม่ของผลิตที่แกรมมี่ต้องทำว่าอยากได้แบบไหน อย่างน้อยมันคงถึงหูค่ายที่รับผิดชอบบ้างแหละว่าแฟนเพลงผลิตเซย์โนแน่ๆถ้าไม่เจ๋งจริงๆ มันถึงต้องมีการเปลี่ยนค่ายในสังกัดและคนดูแลเรื่องเพลงของผลิตแถมจัดคนทำเพลงฟูลทีมขนาดนี้ แต่ผลดีของการใช้เวลานานในการทำเพลงใหม่อีกอย่างก็คือมันต่อยอดการขายเพลงเก่าๆของผลิตเองด้วย เพราะบรรดาคนรักผลิตก็ไม่ได้ใช้การรอให้เปล่าประโยชน์ อุดหนุนผลงานทุกอย่างของผลิต ซึ่งอันนี้คิดว่าแกรมมี่เองคงไม่ได้คาดคิดกระแสแบบนี้มาก่อนถึงได้เริ่มมีการ Reuse เพลงคอลเลคชั่นของผลิตตามออกมาในช่วงนี้
แต่ถ้าลองคิดกลับกันว่าถ้าแกรมมี่ฉวยโอกาสทำทุกอย่างในตอนนั้น ตอนที่ทุกคนเรียกร้องเมื่อ 2เดือนที่แล้ว ออกผลงานแบบรีบๆแล้วเอาเพลงที่อาจจะเขียนทิ้งไว้ให้ศิลปินคนอื่นร้องแล้วเอามาให้ผลิตร้องเพื่อมาเสริฟเป็นอาหารจานด่วนให้พวกเราชิมเพียงเพราะว่าแฟนเพลงอย่างพวกเราต้องการ แต่เราจะรีบเสพแบบไม่มีสติในเวลานั้น พอเสพแบบนั้นมันก็แค่เอาพออิ่มแต่ไม่อร่อย และเราก็ไม่อยากกินอีก นั้นก็คือเราอาจจะอยากทิ้งผลิตไปแบบที่เคยทำกันก็ได้ และถ้าเป็นแบบนั้นเราก็คงไม่เห็นผลิตโชคขึ้นไปรับรางวัลศิลปินขวัญใจมหาชนแบบเมื่อวานแน่ๆ เพราะอย่าลืมว่าจุดแข็งของผลิตคือคุณเสียงและคุณภาพเพลง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ขอให้เราคิดถูกว่าค่ายแกรมมี่ได้คิดวิเคราะห์แผนการตลาดเพื่อผลิตในวันนี้ จะขอบคุณมากและคิดว่าค่ายทำมาได้ถูกทางแล้วเหลือทำเพลงออกมาปังๆและแผนโปรโมตเจ๋งๆแค่นั้นเพราะตอนนี้เท่าที่ดูแฟนคลับผลิตโชคพร้อมเต็มที่มากๆ
แต่ถ้ามันไม่ใช่.. และนี่คือเรื่องบังเอิญ.. ก็ถือซะว่าทุกอย่างที่มันได้เดินทางมาถึงจุดนี้เวลานี้มันเป็นสิ่งฟ้าดินได้ประทานพรมาให้ผลิตโชคละกัน ..ความสำเร็จมันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่มันก็คุ้มค่ามากที่ต้องรอ..
จะสายไปไหมที่จะขอบคุณแกรมมี่ที่ไม่เสริฟเป๊กผลิตโชคเป็นอาหารจานด่วน
คือประเด็นที่อยากแชร์เพราะวันนี้ได้ฟังสัมภาษณ์ของผลิต เรื่องการรับงานว่าทุกวันนี้ทั้งหมดจนถึงปลายปีแล้วถึงอาจจะมีอัลบั้มใหม่ต้นปีหน้าเป็นการวางแพลนจากแกรมมี่ตั้งแต่ผลิตถอดหน้ากาก พอได้ยินแบบนั้นอย่างแรกที่รู้สึกคือ
รู้สึกผิดที่อาจจะเคยตำหนิค่ายแกรมมี่ว่าทำไมไม่ดันและไม่รีบต่อยอดให้ผลิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เพิ่งเป็นกระแสดังตอนถอดหน้ากากจิงโจ้ใหม่ๆ และยังมีคำถามในใจตลอดว่าทำไมค่ายดูเงียบมากและไม่แอคชั่นอะไรเลย แต่มันก็แค่คิดอยู่ในใจ จนก็เห็นว่ามีหลายๆคนก็รู้สึกกับเรื่องนี้เหมือนเราเลย ไม่ว่าจะอยากให้ผลิตรีบออกซิงเกิลหรือคอนเดี่ยวใหญ่ ซึ่งเราก็คิดว่าเหมือนกับทุกคนว่าศักยภาพของผลิตเอาอยู่แน่ๆ แต่พอผลิตออกมาแสดงออกในทิศทางที่เค้าให้ใจและเคารพค่ายของเค้ามากๆ ดราม่าเลยหยุดไป
อย่างที่บอกว่าทำไมเรารู้สึกผิดเพราะ จากที่ฟังผลิตพูด มันทำให้นึกไปว่าหรือจริงๆแล้วแกรมมี่เค้าวางแผนและคิดวิเคราะห์ทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เรียกผลิตไปคุยหลังจากถอดหน้ากากใหม่ๆ ซึ่งถ้าสิ่งที่เราคิดนี้มันเป็นสิ่งที่แกรมมี่วางแผนไว้เราก็อยากจะขอบคุณแกรมมี่มากจริงๆเหมือนหัวข้อกระทู้นั่นแหละเพราะมันทำให้ผลิตมาถึงจุด ณ วันนี้ วันที่ผลิตได้รับฉายา... ผลิตห้างแตก ผลิตเมียแสน หรืออะไรอีกมากมาย.. อีกทั้งกระแสที่โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆมีแฟนคลับทุกวัยและหลายๆกลุ่ม และได้รับรางวัลศิลปินขวัญใจมหาชน จนกระทั้งได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ AIS ภายในเวลา 2 เดือน
ซึ่งในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมามันอาจจะดูยาวนานสำหรับแฟนคลับที่รักผลิตมากๆตั้งแต่ถอดหน้ากากใหม่ๆในเวลานั้นมันมีความอยากสนับสนุนเค้า อยากเห็น come back ของผลิตแบบยิ่งใหญ่ การรอคอยแม้แค่วีคเดียวก็ยังรู้สึกว่านานเกินไปด้วยซ้ำ แต่ ณ ตอนนั้นเท่าที่เห็นภาพค่ายแกรมมี่คือนิ่งมาก ที่เห็นเคลื่อนไหวคืออัดงานทัวร์ต่างจังหวัดให้ผลิตแบบชนิดที่ว่า ทุกคนคิดว่าผลิตร้อนเงินหรือเป็นหนี้นอกระบบแน่ๆ 5555 ตอนนั้นคิดว่าทุกคนคงสงสัยแบบนี้เหมือนกัน
แต่ตอนนี้เราคิดว่า หรือแกรมมี่ใช้วิธีแบบสมัยก่อนในยุคที่แกรมมี่สร้างความนิยมให้กับนักร้องยุค 80 เช่นพี่เบิร์ด พี่เจ พี่ติน่า เอากลับมาใช้กับผลิต เพราะสมัยโน้นพอเปิดอัลบั้มปุ๊ปนี่ศิลปินออกทัวร์ต่างจังหวัดทั่วประเทศก่อนเลย จำได้ว่าตอนเด็กๆยังได้วิ่งตามรถกะบะแห่พี่เบิร์ดอยู่เลย ซึ่งมันทำให้ใครๆก็รู้จักศิลปินในสมัยนั้นแบบยังกะเป็นญาติพี่น้อง แต่ถามว่าในสมัยนี้การทำความรู้จักของศิลปินกับแฟนเพลงมันก็เป็นเรื่องง่ายมากเพราะโลกโซเชียลออกซิงเกิลใหม่โปรโมตตามรายการใช้ทีวีอัดเพลงบ่อยๆแฟนเพลงก็โหลดๆเข้าไปอะยอดขึ้นๆแล้วก็อะดังแล้วทุกคนร้องได้ แต่สิ่งที่ศิลปินสมัยนี้ที่เราเห็นร้องเพลงตามได้แต่มันจะขาดอีโมชั่นนอลแบบว่าคลั่งไคล้และโหยหา ซึ่งการทัวร์คอนทั่วประเทศนี่แหละเราว่าสำคัญวงกว้างมากๆ การสร้างการปฏิสัมพันธ์ของศิลปินกับแฟนเพลงแบบ face to face ผลความคลั่งไคล้มันรุนแรงกว่ามากจริงๆในแง่จิตวิทยา คุณได้สัมผัสเค้า ได้ยินเสียงเค้าสดๆ และยิ่งถ้าศิลปินคนนั้นมีตัวตนที่น่ารักอยู่แล้ว คุณจะตกเป็นทาสเค้าทันที 555 ซึ่งเราก็คิดว่าแกรมมี่ใช้วิธีนี้กับผลิตเพราะเค้าเหมือนเริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ให้ผลิตแต่เอามาจากตัวตนผลิตจริงๆออกมาโชว์คือดันผลิตให้ออกไปเจอกลุ่มแฟนเพลงให้เยอะที่สุดเหมือนให้โอกาสผลิตสร้างฐานแฟนเพลงใหม่ส่วนแฟนเพลงเก่าก็เหมือนไปตอกย้ำให้ฐานมันแน่นกว่าเดิมและให้ผลิตสร้างแบรนด์ที่มันเป็นตัวตนจริงๆของผลิตให้โชว์ออกมาโดยที่มันกลายเป็นส่วนดีที่มันได้ลบภาพจำเก่าและลบข่าวลือต่างในอดีตโดยอัตโนมัติไม่ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเลย เพราะดูแกรมมี่เปิดโอกาสให้ผลิตได้จัดโชว์เองทุกครั้งลิตส์เพลงเอง ไม่มีกรอบหรือผู้คุมโชว์ใดๆเลย หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ทุกคนเคยกลัวคือการหยุดไลฟ์ชีวิตส่วนตัวของผลิต ยกเว้นไลฟ์ที่เกี่ยวกับลิขสิทธ์ เพราะผลิตก็ยังคงไลฟ์แบบอยากไลฟ์ก็ไลฟ์อยากเทก็เท ดูที่จะทำเป็นรูปแบบจริงๆก็แค่มีผจก.และทีมแบนด์แบคอัพประจำซึ่งมันก็เหมือนทางค่ายก็เตรียมรูปแบบการก้าวเดินแบบพิเศษให้ผลิตไว้แล้ว การออกไปโชว์ก็ไม่ใช่ไปโชว์แบบต้องแจมกับเพื่อนๆร่วมค่ายเหมือนที่ผ่านมาแล้ว สังเกตุจากใช้คำว่ามินิคอนแบบส่วนตัวกับผลิต และเหมือนค่ายจงใจไม่ให้ผลิตออกรายการต่างๆในสังกัดมันการขีดเส้นไว้เพื่อยกระดับเป็นศิลปินตัวหลักของค่ายที่เค้าก็จะไม่ปล่อยให้ไปออกรายการเกมส์โชว์พร่ำเพรือ (หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจหรือตารางทัวร์แน่นเกิน 5555 )
แต่ผลจากการทัวร์ต่างจังหวัดและในกรุงเทพอันหนักหน่วงมันก็ได้ผลอย่างทุกวันนี้ คือ ผลิตกลายเป็นสามี 4 ภาคไปแล้วคือมีเมียมันทุกจังหวัด บางจังหวัดไปซ้ำมากหน่อย ฐานทัพเมียจังหวัดนั้นๆก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลายๆคนเจอตัวเป็นๆแล้วก็อยากเจออีกมันกลายเป็นเสพติดเพราะตัวตนศิลปิน ซึ่งถ้าค่ายเลือกรับงานแค่ให้ผลิตไปออกตามรายการต่างๆที่สังกัดมีมันก็จะเข้ารูปแบบเดิมที่ผ่านมาไง...อ้อก็ ผลิตโชคที่เป็นหน้ากากจิงโจ้ไง แล้วไงเล่าเรื่องตอนใส่หน้ากากแล้วก็จบ แต่การทัวร์ทั่วประเทศเนี่ยแหละมันเหมือนศิลปินได้เดินทางเพื่อไปหาคุณถึงที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณเป็นชั่วโมงๆ อารมณ์มันก็ไม่ต่างกันจากความคลั่งไคล้ศิลปินในยุคเก่าเลย เพียงแต่ผลิตถือว่าใช้เวลาแค่ 2เดือน แต่เมื่อก่อนกว่าจะทัวร์ครบก็เกือบครึ่งปีจนครบและมีคอนใหญ่ที่กรุงเทพ
ส่วนซิงเกิลที่ลากยาวมานานขนาดนี้ เราคิดว่าสิ่งที่หลายคนเคยเม้นท์ถึงเพลงใหม่ของผลิตที่แกรมมี่ต้องทำว่าอยากได้แบบไหน อย่างน้อยมันคงถึงหูค่ายที่รับผิดชอบบ้างแหละว่าแฟนเพลงผลิตเซย์โนแน่ๆถ้าไม่เจ๋งจริงๆ มันถึงต้องมีการเปลี่ยนค่ายในสังกัดและคนดูแลเรื่องเพลงของผลิตแถมจัดคนทำเพลงฟูลทีมขนาดนี้ แต่ผลดีของการใช้เวลานานในการทำเพลงใหม่อีกอย่างก็คือมันต่อยอดการขายเพลงเก่าๆของผลิตเองด้วย เพราะบรรดาคนรักผลิตก็ไม่ได้ใช้การรอให้เปล่าประโยชน์ อุดหนุนผลงานทุกอย่างของผลิต ซึ่งอันนี้คิดว่าแกรมมี่เองคงไม่ได้คาดคิดกระแสแบบนี้มาก่อนถึงได้เริ่มมีการ Reuse เพลงคอลเลคชั่นของผลิตตามออกมาในช่วงนี้
แต่ถ้าลองคิดกลับกันว่าถ้าแกรมมี่ฉวยโอกาสทำทุกอย่างในตอนนั้น ตอนที่ทุกคนเรียกร้องเมื่อ 2เดือนที่แล้ว ออกผลงานแบบรีบๆแล้วเอาเพลงที่อาจจะเขียนทิ้งไว้ให้ศิลปินคนอื่นร้องแล้วเอามาให้ผลิตร้องเพื่อมาเสริฟเป็นอาหารจานด่วนให้พวกเราชิมเพียงเพราะว่าแฟนเพลงอย่างพวกเราต้องการ แต่เราจะรีบเสพแบบไม่มีสติในเวลานั้น พอเสพแบบนั้นมันก็แค่เอาพออิ่มแต่ไม่อร่อย และเราก็ไม่อยากกินอีก นั้นก็คือเราอาจจะอยากทิ้งผลิตไปแบบที่เคยทำกันก็ได้ และถ้าเป็นแบบนั้นเราก็คงไม่เห็นผลิตโชคขึ้นไปรับรางวัลศิลปินขวัญใจมหาชนแบบเมื่อวานแน่ๆ เพราะอย่าลืมว่าจุดแข็งของผลิตคือคุณเสียงและคุณภาพเพลง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ขอให้เราคิดถูกว่าค่ายแกรมมี่ได้คิดวิเคราะห์แผนการตลาดเพื่อผลิตในวันนี้ จะขอบคุณมากและคิดว่าค่ายทำมาได้ถูกทางแล้วเหลือทำเพลงออกมาปังๆและแผนโปรโมตเจ๋งๆแค่นั้นเพราะตอนนี้เท่าที่ดูแฟนคลับผลิตโชคพร้อมเต็มที่มากๆ
แต่ถ้ามันไม่ใช่.. และนี่คือเรื่องบังเอิญ.. ก็ถือซะว่าทุกอย่างที่มันได้เดินทางมาถึงจุดนี้เวลานี้มันเป็นสิ่งฟ้าดินได้ประทานพรมาให้ผลิตโชคละกัน ..ความสำเร็จมันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่มันก็คุ้มค่ามากที่ต้องรอ..