
ไอซ์แลนด์เปรียบเสมือนซุปเปอร์มาเก็ตที่รวบรวม สถานที่ธรรมชาติเอาไว้ให้นักเดินทางเลือกว่าอยากจะเสพอะไร
หรือ ถ้าเปรียบเหมือนคน ก็คงจะเป็นคน เท่ๆ คูลๆ พูดน้อย แต่มีเรื่องราวให้น่าศึกษาเยอะแยะมากมาย
สวัสดีอย่างเป็นทางการ นัก ”อยาก” จะล่าแสงเหนือทุกคน
พึ่งไปเที่ยวไอซ์แลนด์กลับมาช่วง สงกรานต์ เดือนเมษายน
วันนี้จะรวบรวมข้อมูลมาแบ่งปัน ทั้งหมด 14 ข้อควรรู้ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง
โดยไม่พูดถึงรายละเอียดในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้าง
ทริปนี้เดินทางด้วยกันทั้งหมด 4 คน และเราจะเที่ยวเฉพาะทางใต้เพราะมีเวลาแค่ 5 วัน
1) สายการบินภายในประเทศ Iceland Air
สายการบินหลักที่บินเข้าไอซ์แลนด์มี 2 สาย คือ Iceland Air กับ Wow Air ซึ่งเป็น low cost ทำให้คนไทยเลือกใช้ Iceland Air มากกว่า
บนเครื่องจะมี In-flight Entertainment อย่างเช่นหนัง, เพลง, เกมส์ เพียงแต่เราต้องเตรียมหูฟังไปเอง
นอกจากช่องหูฟังยังมีช่องเสียบ USB บริการสำหรับไว้ชาร์จมือถืออีกด้วย ส่วน WIFI สามารถซื้อได้ผ่านบัตรเครดิตประมาณ 6 Euro ต่อการเล่น 1 ครั้ง บนเครื่องมีบริการน้ำเปล่าและน้ำส้มซึ่งเราสามารถขอได้ฟรี

2) สภาพอากาศที่ทำให้แทบบ้า
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่คาดเดาสภาพอากาศได้ยากมากเพราะพยากรณ์อากาศเปลี่ยนแทบทุกชั่วโมง วันแรกที่ไปก็ต้อนรับกันด้วยพายุเลยทีเดียว
ถึงขั้นลมพัดรถเข็นกระเป๋าที่สนามบินปลิว กระเป๋าดีเลย์ 4 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลาสำหรับเรื่องที่ไม่คาดฝันไว้ด้วยก็ดี

3) Pocket Wifi คือชีวิต
Internet และ Sim Card เป็น MUST HAVE ITEM ในการจะอัพรูปอวดเพื่อน! หาซื้อได้ที่สนามบิน ราคาแต่ละเครือข่ายก็จะแตกต่างกัน
(ส่วนตัวเลือกใช้ Pocket Wifi ที่มากับบริษัทรถ) ขอเสริมอีกอย่างคือควรเตรียมสายชาร์จโทรศัพท์ในรถ + AUX และ Playlist ที่อยากฟังไว้เยอะๆเลยเพราะ 95% จะต้องใช้ชีวิตกันอยู่ในรถ
4) พาหนะคู่ใจ
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่เหมาะกับการเดินทางด้วยขนส่งสาธรณะ ส่วนแท็กซี่ก็โคตรแพง เพราะฉนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการเช่ารถขับเองซึ่งเราเลือกบริษัท Go Car Rental ราคา 5 วันประมาณ 26,000 บาท สำหรับรถ 4x4 Subaru และราคานี้รวม Wifi แล้ว
*เวลารับรถ* ให้ตรวจสอบรถอย่างดี หากมีรอยแม้แต่นิดเดียวให้ report กับบริษัททันที
*เวลาคืนรถ* บริษัทนี้ตอนคืนรถจะไม่มีคนมารับ แต่ให้ขับไปจอดที่ลานทิ้งไว้เลย ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยรอบคัน ไม่อย่างงั้นจะโดนแบบเราคือโดนชาร์จเพิ่ม 500 Euro เพราะทางบริษัทเมล์มาบอกว่าท้ายรถเป็นรอย ทั้งๆที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มี น่าโมโหจริงๆ
5) กระเป๋าเดินทางกับการเช่ารถขับ
ที่อยากจะพูดถึงข้อนี้เพราะมาจากประสบการณ์ตรง กระเป๋าเดินทาง 6 ใบ สำหรับ 4 คน ไม่สามารถยัดเข้าไปในรถ SUV Hyundai ที่จองมาได้ และพายุก็รุนแรงเหลือเกินในวันรับรถ ทำให้มีอุปสรรคมากมาย 555 ท้ายที่สุดก็ต้องเปลี่ยนเป็น Subaru อยากแนะนำคนที่จะมาขับรถเที่ยวว่าให้เช็คให้แน่ใจว่ารถที่เราเช่าสามารถใส่กระเป๋าและสัมภาระของทุกคนในทริปได้เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหน้างานแบบเรา จะได้ไม่เสียเวลา และถ้าโชคไม่ดีอาจจะไม่มีรถให้เปลี่ยนด้วย
6) บัตรเครดิตคู่ใจ
ในการใช้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยตลอดทริป สิ่งจำเป็นอีกอย่างคือบัตรเครดิต (อย่าลืมโทรขอ Pin 4 หลักเพราะต้องใช้เวลาเติมน้ำมัน)
ไม่งั้นก็ใช้ไม่ได้นะจ๊ะ
7) เรื่องกินเรื่องใหญ่
อาหารที่นี่แพงมหาโหด แพงแบบล้มละลาย เบอร์เกอร์ธรรมดาที่มินิมาร์ตชิ้นละ 1,000 บาท โค้กคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300 บาทต่อขวด ถ้าอยากได้อาหารถูกให้ซื้อที่ Supermarket ทั้ง Kronan และ Bonus หาได้ตามในเมือง และอย่าลืมตุนขนมและผลไม้ไว้ด้วย เพราะทางเลือกอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีให้เลือกแค่ โดนัท มัฟฟิน ฮอทดอก
ปล.คนที่นี่บอกว่าน้ำก๊อกดื่มได้เลย แต่จากการทดลองน้ำมีกลิ่นกำมะถันแรงมากในโซนทางใต้ ใครไม่ชินให้ซื้อน้ำจากซุปเปอร์มาเก็ตติดรถไว้เป็นแพค

8) ตารางเที่ยว
อยากแนะนำให้ทำตารางเที่ยวแต่ละวันหลวมๆ เพราะประเทศบ้านี้จะทำให้อยากจอดแวะถ่ายรูปตลอดเวลา ถ้าตารางแน่นเกินไปอาจจะทำให้เสียแผน
9) อย่าลืมตุนน้ำดื่มไว้ในรถ
นอกจากทั้งหมดที่เขียนมา น้ำก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยความที่ไอซ์แลนด์เป็นประเทศกว้างใหญ่ ประชากรก็มีเพียง 300,000 คนเท่านั้น
การจะหาปั๊มหรือคนมาช่วยเหลือในกรณีรถเสียเป็นเรื่องยาก ขับไปชั่วโมงนึงจะเจอรถสวนมาสักคัน จากที่ขับรถมา 5 วัน ตลอดข้างทางจะเจอรถเสียเพราะหม้อน้ำแห้งหลายคัน นี่เป็นเหตุผลทำไมควรตุนน้ำไว้ในรถ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
10) Blue Lagoon
Blue Lagoon เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ก่อนไปควรจองล่วงหน้าสัก 2 อาทิตย์ เมื่อไปถึงเราจะได้รับ Wristband คนละ 1 อัน ตามแพคเกจที่เราซื้อ ของเราเป็นสีเขียว (ISK7400) ซึ่งจะได้รับ Silica Mud, Mask Algae Mask, ผ้าเช็ดตัว, และเครื่องดื่มคนละ 1 แก้วที่เราสามารถเลือกได้ อย่างเช่น Smoothie ไวน์ หรือ เบียร์ (แนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะไปเองด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อ) แต่ขอบอกว่าช่วงบ่ายคนจีนเยอะมาก ถ้าอยากหลีกเลี่ยงแนะนำให้ไปช่วงเย็น
ที่นั่นจะมีคาเฟ่ ร้านอาหารอยู่เผื่อเวลาไปนั่งชิลถ่ายรูปเล่นก็ไม่เลว อันนี้คือ link สำหรับจอง online
http://www.bluelagoon.com/


ภายใน Blue Lagoon ช่วงเย็นคะ

Banana Smoothie อร่อยมากกกก

แถมแผนที่ข้างใน Blue Lagoon
11) ยา + เสื้อกันหนาว + รองเท้า
ยาสำคัญมากเพราะใน 1 วันมีประมาณ 4 ฤดู เช้าฝนตก สักพักแดดออก ตอนบ่ายหิมะตก ตอนเย็นพายุเข้าและก็วนมาแดดออกอีก ไม่ป่วยให้มันรู้ไป!! อีกอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตก เสื้อกันหนาวที่ควรใช้ควรกันน้ำกันลมอย่างดีจะทำให้มีความสุขกับการเที่ยวขึ้น 10 เท่า
ส่วนรองเท้าที่ใช้ควรเป็นอะไรที่ลุยได้ไม่เสียดาย ใส่สบาย ไม่กัด หลีกเลี่ยงสีขาว เพราะการเที่ยวที่นี่เป็นการผญจภัยจริงๆ ทั้งโคลน ดิน น้ำและฝน


12) อย่าขับเกิน Speed Limit หรือประมาทกับการขับรถเด็ดขาด
ขับรถที่นี่จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะ Speed Limit บนถนนเส้นทางหลักจำกัดไว้ให้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถนนจะโล่งสะจนทำให้อยากเหยียบสัก 140 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวฝรั่งโดนกันไปเยอะแล้ว หลายพันยูโรก็มี ถ้ายังไงลองดูความเร็วเวลาขับให้ดี และก่อนจะจอดรถถ่ายรูปให้ดูป้ายและสิ่งรอบข้างก่อน อย่าเห็นว่าไม่มีรถและจอดได้เลยเพราะอันตรายมาก แต่ยังไงตลอดเส้นทางก็จะมีไหล่ทางให้ได้จอดพักรถถ่ายรูปอยู่แล้ว
13) โยเกิร์ต Skyr คู่บ้านคู่เมือง
เป็นโยเกิร์ตเนื้อเข้มข้นของประเทศนี้มีมากมายหลายรสชาติ ตั้งแต่ผลไม้ไปถึงชอคโกแลต
และยังทำการตลาดยิ่งใหญ่เวอร์วังอลังการสมกับเป็นไอซ์แลนด์จริงๆ ไม่ควรพลาด!!
14) แสงเหนือ
อย่างที่บอกไปตอนเริ่มว่า สภาพอากาศในไอซ์แลนด์แปรปวน เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมใจไว้ 50/50 ว่าเราอาจจะได้เจอแสงเหนือหรืออาจจะไม่เจอก็ได้ เกริ่นมาขนาดนี้ไม่ต้องถามว่าเจอมั้ย..........................ไม่เจอคะ 55555555
อย่างไรก็ตาม ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีเสน่ห์มาก แบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย Landscape ยิ่งใหญ่คุ้มค่ากับการเสียเงินแสนมาสัมผัสกันสักครั้งนึงในชีวิต ถึงแม้จะไม่ได้เจอแสงเหนือ แต่ก็ยังมีอีกหลายมิติที่ที่ควรค่าแก่การไปดูให้เห็นของจริง

ติดตามเพจเรา!!
[CR] 14 Tips ดีดีก่อนไปเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง
ไอซ์แลนด์เปรียบเสมือนซุปเปอร์มาเก็ตที่รวบรวม สถานที่ธรรมชาติเอาไว้ให้นักเดินทางเลือกว่าอยากจะเสพอะไร
หรือ ถ้าเปรียบเหมือนคน ก็คงจะเป็นคน เท่ๆ คูลๆ พูดน้อย แต่มีเรื่องราวให้น่าศึกษาเยอะแยะมากมาย
สวัสดีอย่างเป็นทางการ นัก ”อยาก” จะล่าแสงเหนือทุกคน
พึ่งไปเที่ยวไอซ์แลนด์กลับมาช่วง สงกรานต์ เดือนเมษายน
วันนี้จะรวบรวมข้อมูลมาแบ่งปัน ทั้งหมด 14 ข้อควรรู้ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง
โดยไม่พูดถึงรายละเอียดในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้าง
ทริปนี้เดินทางด้วยกันทั้งหมด 4 คน และเราจะเที่ยวเฉพาะทางใต้เพราะมีเวลาแค่ 5 วัน
สายการบินหลักที่บินเข้าไอซ์แลนด์มี 2 สาย คือ Iceland Air กับ Wow Air ซึ่งเป็น low cost ทำให้คนไทยเลือกใช้ Iceland Air มากกว่า
บนเครื่องจะมี In-flight Entertainment อย่างเช่นหนัง, เพลง, เกมส์ เพียงแต่เราต้องเตรียมหูฟังไปเอง
นอกจากช่องหูฟังยังมีช่องเสียบ USB บริการสำหรับไว้ชาร์จมือถืออีกด้วย ส่วน WIFI สามารถซื้อได้ผ่านบัตรเครดิตประมาณ 6 Euro ต่อการเล่น 1 ครั้ง บนเครื่องมีบริการน้ำเปล่าและน้ำส้มซึ่งเราสามารถขอได้ฟรี
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่คาดเดาสภาพอากาศได้ยากมากเพราะพยากรณ์อากาศเปลี่ยนแทบทุกชั่วโมง วันแรกที่ไปก็ต้อนรับกันด้วยพายุเลยทีเดียว
ถึงขั้นลมพัดรถเข็นกระเป๋าที่สนามบินปลิว กระเป๋าดีเลย์ 4 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลาสำหรับเรื่องที่ไม่คาดฝันไว้ด้วยก็ดี
Internet และ Sim Card เป็น MUST HAVE ITEM ในการจะอัพรูปอวดเพื่อน! หาซื้อได้ที่สนามบิน ราคาแต่ละเครือข่ายก็จะแตกต่างกัน
(ส่วนตัวเลือกใช้ Pocket Wifi ที่มากับบริษัทรถ) ขอเสริมอีกอย่างคือควรเตรียมสายชาร์จโทรศัพท์ในรถ + AUX และ Playlist ที่อยากฟังไว้เยอะๆเลยเพราะ 95% จะต้องใช้ชีวิตกันอยู่ในรถ
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่เหมาะกับการเดินทางด้วยขนส่งสาธรณะ ส่วนแท็กซี่ก็โคตรแพง เพราะฉนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการเช่ารถขับเองซึ่งเราเลือกบริษัท Go Car Rental ราคา 5 วันประมาณ 26,000 บาท สำหรับรถ 4x4 Subaru และราคานี้รวม Wifi แล้ว
*เวลารับรถ* ให้ตรวจสอบรถอย่างดี หากมีรอยแม้แต่นิดเดียวให้ report กับบริษัททันที
*เวลาคืนรถ* บริษัทนี้ตอนคืนรถจะไม่มีคนมารับ แต่ให้ขับไปจอดที่ลานทิ้งไว้เลย ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยรอบคัน ไม่อย่างงั้นจะโดนแบบเราคือโดนชาร์จเพิ่ม 500 Euro เพราะทางบริษัทเมล์มาบอกว่าท้ายรถเป็นรอย ทั้งๆที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มี น่าโมโหจริงๆ
ที่อยากจะพูดถึงข้อนี้เพราะมาจากประสบการณ์ตรง กระเป๋าเดินทาง 6 ใบ สำหรับ 4 คน ไม่สามารถยัดเข้าไปในรถ SUV Hyundai ที่จองมาได้ และพายุก็รุนแรงเหลือเกินในวันรับรถ ทำให้มีอุปสรรคมากมาย 555 ท้ายที่สุดก็ต้องเปลี่ยนเป็น Subaru อยากแนะนำคนที่จะมาขับรถเที่ยวว่าให้เช็คให้แน่ใจว่ารถที่เราเช่าสามารถใส่กระเป๋าและสัมภาระของทุกคนในทริปได้เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหน้างานแบบเรา จะได้ไม่เสียเวลา และถ้าโชคไม่ดีอาจจะไม่มีรถให้เปลี่ยนด้วย
ในการใช้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยตลอดทริป สิ่งจำเป็นอีกอย่างคือบัตรเครดิต (อย่าลืมโทรขอ Pin 4 หลักเพราะต้องใช้เวลาเติมน้ำมัน)
ไม่งั้นก็ใช้ไม่ได้นะจ๊ะ
อาหารที่นี่แพงมหาโหด แพงแบบล้มละลาย เบอร์เกอร์ธรรมดาที่มินิมาร์ตชิ้นละ 1,000 บาท โค้กคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300 บาทต่อขวด ถ้าอยากได้อาหารถูกให้ซื้อที่ Supermarket ทั้ง Kronan และ Bonus หาได้ตามในเมือง และอย่าลืมตุนขนมและผลไม้ไว้ด้วย เพราะทางเลือกอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีให้เลือกแค่ โดนัท มัฟฟิน ฮอทดอก
ปล.คนที่นี่บอกว่าน้ำก๊อกดื่มได้เลย แต่จากการทดลองน้ำมีกลิ่นกำมะถันแรงมากในโซนทางใต้ ใครไม่ชินให้ซื้อน้ำจากซุปเปอร์มาเก็ตติดรถไว้เป็นแพค
อยากแนะนำให้ทำตารางเที่ยวแต่ละวันหลวมๆ เพราะประเทศบ้านี้จะทำให้อยากจอดแวะถ่ายรูปตลอดเวลา ถ้าตารางแน่นเกินไปอาจจะทำให้เสียแผน
นอกจากทั้งหมดที่เขียนมา น้ำก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ด้วยความที่ไอซ์แลนด์เป็นประเทศกว้างใหญ่ ประชากรก็มีเพียง 300,000 คนเท่านั้น
การจะหาปั๊มหรือคนมาช่วยเหลือในกรณีรถเสียเป็นเรื่องยาก ขับไปชั่วโมงนึงจะเจอรถสวนมาสักคัน จากที่ขับรถมา 5 วัน ตลอดข้างทางจะเจอรถเสียเพราะหม้อน้ำแห้งหลายคัน นี่เป็นเหตุผลทำไมควรตุนน้ำไว้ในรถ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
Blue Lagoon เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ก่อนไปควรจองล่วงหน้าสัก 2 อาทิตย์ เมื่อไปถึงเราจะได้รับ Wristband คนละ 1 อัน ตามแพคเกจที่เราซื้อ ของเราเป็นสีเขียว (ISK7400) ซึ่งจะได้รับ Silica Mud, Mask Algae Mask, ผ้าเช็ดตัว, และเครื่องดื่มคนละ 1 แก้วที่เราสามารถเลือกได้ อย่างเช่น Smoothie ไวน์ หรือ เบียร์ (แนะนำให้เตรียมรองเท้าแตะไปเองด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อ) แต่ขอบอกว่าช่วงบ่ายคนจีนเยอะมาก ถ้าอยากหลีกเลี่ยงแนะนำให้ไปช่วงเย็น
ที่นั่นจะมีคาเฟ่ ร้านอาหารอยู่เผื่อเวลาไปนั่งชิลถ่ายรูปเล่นก็ไม่เลว อันนี้คือ link สำหรับจอง online http://www.bluelagoon.com/
ยาสำคัญมากเพราะใน 1 วันมีประมาณ 4 ฤดู เช้าฝนตก สักพักแดดออก ตอนบ่ายหิมะตก ตอนเย็นพายุเข้าและก็วนมาแดดออกอีก ไม่ป่วยให้มันรู้ไป!! อีกอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตก เสื้อกันหนาวที่ควรใช้ควรกันน้ำกันลมอย่างดีจะทำให้มีความสุขกับการเที่ยวขึ้น 10 เท่า
ส่วนรองเท้าที่ใช้ควรเป็นอะไรที่ลุยได้ไม่เสียดาย ใส่สบาย ไม่กัด หลีกเลี่ยงสีขาว เพราะการเที่ยวที่นี่เป็นการผญจภัยจริงๆ ทั้งโคลน ดิน น้ำและฝน
ขับรถที่นี่จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะ Speed Limit บนถนนเส้นทางหลักจำกัดไว้ให้ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถนนจะโล่งสะจนทำให้อยากเหยียบสัก 140 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวฝรั่งโดนกันไปเยอะแล้ว หลายพันยูโรก็มี ถ้ายังไงลองดูความเร็วเวลาขับให้ดี และก่อนจะจอดรถถ่ายรูปให้ดูป้ายและสิ่งรอบข้างก่อน อย่าเห็นว่าไม่มีรถและจอดได้เลยเพราะอันตรายมาก แต่ยังไงตลอดเส้นทางก็จะมีไหล่ทางให้ได้จอดพักรถถ่ายรูปอยู่แล้ว
เป็นโยเกิร์ตเนื้อเข้มข้นของประเทศนี้มีมากมายหลายรสชาติ ตั้งแต่ผลไม้ไปถึงชอคโกแลต
และยังทำการตลาดยิ่งใหญ่เวอร์วังอลังการสมกับเป็นไอซ์แลนด์จริงๆ ไม่ควรพลาด!!
อย่างที่บอกไปตอนเริ่มว่า สภาพอากาศในไอซ์แลนด์แปรปวน เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมใจไว้ 50/50 ว่าเราอาจจะได้เจอแสงเหนือหรืออาจจะไม่เจอก็ได้ เกริ่นมาขนาดนี้ไม่ต้องถามว่าเจอมั้ย..........................ไม่เจอคะ 55555555
อย่างไรก็ตาม ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีเสน่ห์มาก แบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย Landscape ยิ่งใหญ่คุ้มค่ากับการเสียเงินแสนมาสัมผัสกันสักครั้งนึงในชีวิต ถึงแม้จะไม่ได้เจอแสงเหนือ แต่ก็ยังมีอีกหลายมิติที่ที่ควรค่าแก่การไปดูให้เห็นของจริง
ใครอยากได้แพลนการเดินทาง ข้อมูลดีดี กดติดตามรอไว้เลย
สงสัยอะไรตรงไหนเข้าไปคุยกันได้ที่นี่นะคะ
https://www.facebook.com/14.reasonswhyofficial/