ความฝันที่เป็นจริง...เรื่องจริงในเช้า วันที่ 12 พ.ค. 60

สวัสดีค่ะ..วันนี้เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะว่า อยากเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในพันทิปของเรา บัญชีของเราไม่ได้ยืนยันตัวบุคคลนะ เลยเลือกตั้งเป็นกระทู้คำถามแทน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นของเราเป็นเรื่องจริงนะ ถ้าใครจะคิดว่าเราแต่งขึ้นหรือมโนเอง ก็โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเรื่องราวนี้
เราคิดอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้ดีไหม แต่อยากที่ได้บอก ว่าอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำของเราเท่านั้น

เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่ต่อจากกระทู้ที่แล้ว เราเคยขอถามความเห็นของคนในพันทิปว่า มีวิธีการใดบ้างทำให้กำลังใจคนป่วย
คือกระทู้นี้ ---> https://pantip.com/topic/36403859 แล้วก็มีหลายต่อหลายคอมเม้นต์ เราก็พยายามที่จะทำใจอยู่แล้วว่ายังไง ถ้าเขาอยากไปเราจะไม่รั้ง ในวันที่เราตั้งกระทู้นั้น คือเรานั่งอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดที่เราอยู่ เรามาเป็นเพื่อนพี่เขาตั้งแต่เช้าเพราะมาส่งเอกสารส่งตัวคนไข้ เราเป็นคนเดินเรื่องต่างๆ ให้แทนสามีของพี่เขา
และเช้าวันนั้น (1 พ.ค. 60 เข้าโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย) พี่สาวเราต้องเข้าห้องฉุกเฉินทันที ทั้งทีเรายังไม่ได้เดินเอกสารอะไรเลย สุดท้ายคุณหมอก็ให้นอนที่โรงพยาบาล เพราะพี่สาวเรามีอาการที่เหนื่อยหอบ หายใจที่มีเสียง ฟี๊ดๆ อย่างชัดเจน พอเข้าห้องฉุกเฉินหมอให้ยาทันที จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ อายุรกรรมหญิง พี่สาวเราเขาจะพยายามคุยกับเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะคุยได้ เราก็บอกว่า อย่าพึ่งพูดเลย พี่จะเหนื่อยเอา ยังไงก็พักก่อน เขาก็พยักหน้ารับนะ แล้วก็ยิ้มให้เรา เสียงลมหายใจเขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เราต้องออกมารอข้างนอกเพราะยังไม่ได้เวลาเข้าเยี่ยม เรารอตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงเที่ยงเวลาเข้าเยี่ยมได้ พี่สาวเราก็ห่วงเราว่าอยากกินอะไรไหม กินข้าวหรือยัง เราก็ตอบไปว่ากินแล้วไม่ต้องห่วง

เรานั่งอยู่กับพี่สาวเราตั้งแต่เที่ยงจนถึงบ่ายสอง เราคุยกับหลายเรื่อง เรื่องราวบางเรื่องราวจากคนที่พี่เขารักที่สุด คำพูดที่ทำให้คนป่วยเสียใจและหมดกำลังใจ เราก็ได้รู้ว่าที่เขาไม่อยากอยู่ต่อไปเพราะเหนื่อยทั้งร่างกายและเหนื่อยทั้งใจ เราก็บอกว่าให้เราปล่อยวาง อโหสิกรรมให้ทุกคนเราเคยทำไม่ดีต่อกันไรงี้ พี่สาวเราก็ยิ้มและบอกว่า "เออ..พี่อโหสิกรรมให้ทุกคนแหละ" ก็เลยต้องขอตัวกลับ(วันนั้นเราไม่สบายด้วย เป็นหวัด มันจะปวดๆหัว ยิ่งอยู่โรงพยาบาลนานๆแล้วเราไม่ไหวด้วย) พี่สาวเราเอามือมาลูบหัวเราแล้วพูดว่า "ตั้งใจเรียนนะ เอาปริญญามาให้พ่อแม่ให้ได้ เผื่อพี่ด้วย แกเป็นความหวังของครอบครัวนะเว้ย" แล้วเขาก็ยิ้มให้เรา และก็เหนื่อยหอบ เราก็ตอบไปว่า "ไม่ต้องห่วง พี่ต้องอยู่ให้ถึงวันนั้นดิ อีก 3 ปีเอง สู้ๆ" และเราก็ไม่คิดว่าวันนั้นเป็นวันที่เราเห็นรอยยิ้มของเขาเป็นวันสุดท้าย...

พอประมาณ วันที่ 10 พ.ค.60 เราฝันว่า พี่สาวเราได้ย้ายเตียง นอนหันหลังให้เรา นอนขดตัวนิ่งๆ  (ซึ่งมันต่างจากความจริงที่เขานอนแบบนั้นไม่ได้เลย มันเป็นฝันแปลกๆ) คือนอนที่มุมห้องคนเดียว นอนหันหลังให้เรา พอเราตื่นมา เราก็เล่าความฝันให้แม่ฟัง แม่บอกว่าวันพรุ่งนี้(11 พ.ค. 60) จะไปเยี่ยมพี่สาวเรา เราก็ตั้งใจจะไปเยี่ยม ไปกันเองกับแม่(ปกติถ้าจะไปเยี่ยมพี่สาวสามีของพี่สาวจะมารับไปโรงพยาบาลด้วยกัน) และพอวันนั้นแม่เราเป็นไข้หวัด บ่นเวียนหัว แกอ้วกไม่สบายหนักขึ้นมา วันนั้นก็เลยยกเลิกไป แม่บอกว่ารู้สึกไม่ดีเลยเลื่อนวันไปอีกวัน และพอประมาณ 3 ทุ่มกว่าสามีของพี่สาวก็ขี่รถเข้ามาเก็บในพื้นที่ของบ้าน เขาถือกระเป๋าของพี่สาวกลับมาด้วย แม่ก็ถามปกติว่า พี่สาวเราเป็นยังไงบ้างดีขึ้นไหม สามีเขาก็ส่ายหน้า อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่ก็ให้เรากระเป๋ากลับมา ทั้งๆที่เขารักกระเป๋าในนี้มาก(กลิ่นกระเป๋าเหมือนกับกลิ่นตัวของพี่สาวเลย) และแม่ก็นัดแนะกับเราแล้วว่า พรุ่งนี้จะไปให้ได้(12 พ.ค.60)

และในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 4.30 น. ของวันนั้น เราได้ยินเสียงหมาหอนดังมาก มันดังแบบวี๊ดๆ มันดังจนเราปวดหู (เราถามแม่ว่าได้ยินเสียงหมาหอนไหม เวลาอะไร แบบบอกว่าตอนตีสี่ครึ่ง เราก็เลยเข้าใจว่านั้นมันคือเวลานี่เราเริ่มฝันความฝันนี้) ในความฝันเราฝันว่ามีคนบอกว่าพี่สาวเราเสียชีวิตแล้ว ให้เราไปรับศพที่โรงพยาบาลในวันนี้ เสียงคนร้องไห้ระงมไปหมดในฝัน เราก็เถียงกลับไปว่าไม่จริง จะไปดูที่โรงพยาบาล และในฝันเราไปในที่เราคิดได้เร็วมาก พอมาถึงโรงพยาบาล เราเห็นพี่สาวเรา ไปอาบน้ำ ทาแป้งตัวหอมมาก เดินยิ้มมาหาเราเตียงของเขาอ่ะ กลิ่นพี่สาวที่ได้กลิ่นประจำ เราก็เถียงกับคนที่บอกว่า นี่ไงจะตายได้ไง ก็ยังอยู่ แต่พอเราจะหันไปหาพี่เตียง ปรากฎว่ามันไม่มีใครแล้ว มีแต่เตียงและพวกสายน้ำเกลือเครื่องต่างๆมันดังอยู่ แต่พี่สาวเราหายไปแล้ว และก็มีพยาบาลมาบอกให้เราทำความสะอาดทุกอย่างด้วย เอาทุกอย่างไปล้างและคืนให้โรงพยาบาล เราก็เริ่มทำทุกอย่างที่เขาบอก ล้างทำความสะอาดร้องไห้ไป พอทำเสร็จเข้าบอกให้เราไปรับศพพี่สาวได้แล้ว(สภาพศพในฝันนอนขดเหมือนที่เราฝันคืนก่อน ไม่ได้ใส่โลง หมัดผ้าขาวเฉยๆอ่ะ เราก็โวยวายในฝันว่า ทำไมไม่ใส่โลงให้ เขาก็บอกว่าไม่มีโลงใส่ให้หรอก ไปหาเอาเอง) เพราะมีคนรอไปส่งแล้ว เราเดินออกจากห้องนั้นก็เจอเป็นกำแพงสีขาวสูงมากอ่ะ และมีฟุตบาทสองข้างทาง มีถนนสีดำเหมือนลาดยางมะตอยยาวไปข้างหน้า ยาวไปสุดลูกหูลูกตา เรายืนอยู่ฝั่งขวาของฟุตบาทเพราะมองเห็นกำแพงสูงสีขาวนั้นพอดี และเราก็หันไปเจอผู้ชายตัวสูงใส่ชุดสีดำ สวมถุงมือ ใส่หมวกปิดหน้า ก้มหน้าลงหน่อยๆ สีผิวออกไปทางสีเข้มเลยนะ (ตัวของเราถึงประมาณหูลงของเขาเลยนะ สูงใหญ่พอสมควร) พอจับรถเข็นเตรียมจะเข็นศพเราก็ถามเขาไปว่า จะพาไปไหน เขาตอบมาว่า "ไปที่วัดไง ไปกันเถอะ" เราก็พยักหน้ารับ ช่วยเขาเข็นศพไป (ผู้ชายชุดดำที่ช่วยเข็นศพนั้น เขาก้มหน้าก้มตาร้องไห้ น้ำตาหยดลงมาเป็นเม็ดเลยอ่ะ น้ำตาเขาใสมาก) จังหวะที่เรากำลังจะลงไปช่วยเข็นนั้น รองเท้าก็หลุดออกจากเท้าเราทั้งสองข้าง ผู้ชายคนนั้นไม่รอให้เราไปเก็บรองเท้าก่อนเลย เราก็คิดว่าไม่เอาก็ได้ เดินเท้าเปล่าจนมาถึงวัด (ซึ่งมันเป็นวัดที่เราจัดงานศพพี่สาวเราจริงๆ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไร) พอเขาเอาศพไปเข้าที่แล้ว เราก็หยุดอยู่ตรงทางสามแพร่งและร้องไห้ออกมา เราก็ล้มตัวนอนราบไปกับพื้น นอนคว่ำหน้าร้องไห้อยู่แบบนั้น และก็มีพระอยู่สามรูปเดินผ่านมาบอกให้เราหยุดร้องไห้และกลับบ้านได้แล้ว เราก็นอนคว่ำหน้าร้องไห้อยู่กับพื้นแบบนั้น หันหัวไปทางทิศใต้ ทิศของศาลาที่ตั้งศพพี่สาวเรา ฝันเพียงเท่านั้นเราก็ตื่นขึ้นมา เพราะเสียงแม่ปลุกให้เราไปตลาดช่วง ตี 5 กว่าแล้ว เราลุกขึ้นมานั่งอย่างช้าๆ นั่งคิดอยู่กับความฝันเราแบบนั้น สัก 5 นาที แม่ก็เรียกอีกครั้ง เราก็เดินออกจากห้องไปเข้าห้องน้ำ เอาน้ำลูบหน้าตาเอง ก็ว่าตัวเองว่าแค่ฝัน อย่าไปคิดมาก ตอนนั้นคือเราซึมไปแล้ว ไม่ยิ้มอะไรเลย เรารู้สึกตัวเลยนะ ว่าเรานิ่งมาก เราปวดตามาก แต่ตื่นมาก็ไม่ได้มีน้ำตาอะไร มันแค่ปวดตาแค่นั้น...

พอขี่รถออกมาจากบ้าน เราก็ยังคิดเรื่องฝันอยู่ คิดวนๆอยู่หลายรอบ จนเราเก็บมันไม่ไหวแล้วอ่ะ มันเศร้ามากเศร้านั้นอ่ะ ฝันนี้ทำเราเสียใจมากๆ เราก็เลยบอกแบบไป..."แม่ หนูฝันว่าพี่ ตายแล้วอ่ะแม่" เราพูดแค่นั้น แม่ก็นิ่งไป เราก็เล่าเรื่องราวความฝันให้แม่ฝัน แม่ก็เล่าความฝันตัวเองบอก แม่ฝันว่า...มีคนแก่ เอาวัว สวยมากๆ ตัวใหญ่ สีน้ำตาลแดงมาให้แม่ 4 ตัว และวัวน้อยอีกตัวหนึ่ง แม่ก็ถามว่า เรามาให้ทำไมเลี้ยงไม่ไหวหรอก คนแก่คนนั้นก็บอกแม่ว่า เลี้ยงไว้เถอะ และเขาก็หายไป แม่เราก็ตื่นจากความฝัน แม่ก็พยายามคิดในทางที่ดี แต่น้าสาวเราไปดูทำนายฝัน ว่าจะได้รับข่าวร้ายอะไรประมาณนี้ วันนั้นทั้งวันอากาศก็แย่ เราก็เจอฝันแบบนี้ จิตใจแย่ไปอีก

จากนั้นประมาณ 10 โมงเช้าของวันนั้น เราได้รับสายจากสามีของพี่สาว เขาโทรมากบอกว่า...กุ้งเสียละเด้อ เท่านั้นละ เขาก็ร้องไห้ผ่านสายมา เราก็อึ้งแบบจุกที่อกอ่ะ เดินออกมาหาแม่ที่ร้าน ก็ร้องไห้ น้ำตามันไหลออกมาเองเลย พอเราบอกแม่ และทุกคนเขาก็อึ้ง ตกใจและเสียใจ

แม่ก็บอกว่าถ้าตัวเองไปเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวานก็คงดูใจทัน เราก็ร้องไห้พูดว่าทำไมหนูต้องฝันด้วย ทำไมต้องเป็นหนูที่ฝันด้วย แม่ก็เข้ามากอดเรา บอกว่าพี่เขาไปสบายแล้ว...เรากลัวฝันตัวเอง ฝันที่มันเป็นจริงแบบนั้น

-------------------------------------------------------

เดี๋ยวเราจะมาต่อให้นะ ไม่ได้ตั้งใจจะตัดแบบนี้ แต่มันจุกๆ ร้องไห้เฉยๆเลย ขอสงบอารมณ์สักครู่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่