ทัวร์เกาหลี เหมือนชีวิตดี๊ดีแต่จริงๆโดนไป ม่านรูด T ___ T

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา
(ถ้าหากสะกดผิด หรือ ผิดพลาดอะไร ขออภัยผู้อ่านไว้ก่อนเลย ติได้ค่า จะแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องนะคะ)

น้องสาวมาชวนไปเที่ยวด้วยกันที่เกาหลี น้องบอกว่าบริษัทที่เรากำลังจะจองมีเพื่อนน้องเคยไปแล้ว ก็โอเคน่ะ ไปครั้งนี้มีเพื่อนน้อง น้องชาย และ คุณแม่ของเพื่อนด้วย รวม 5 คน
ทัวร์ที่จอง คือ วันที่ 13-17 เมษายน ราคา 28,900 บาท / คน  

ช่วงนั้นกำลังจะหยุดยาว เรางานเยอะมากๆก็ไม่ได้เช็คละเอียด เพราะตั้งใจไปแปบเดียวด้วย กะว่าไปช๊อปปิ้งนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร แต่ไม่คิดจะต้องมาเจอแบบนี้ คืนที่บิน เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปถึงรอต่อแถวจะเช็คอิน นั่นเป็นครั้งแรกที่เจอไกด์ ทันทีที่ยังไม่ได้เช็คอินเลย ยืนต่อแถวอยู่เมืองไทยนี่แหละ ก็เรียกเก็บค่าทริปก่อนเลย 30,000 วอน ยังไม่ออกจากประเทศก็เสียตังล่ะจ้าาา

พอถึงที่เกาหลี ก็ได้รู้ว่าคนในทริปเดียวกันต่างคนต่างจองมาคนล่ะเอเจน ราคาไม่เท่ากัน แล้วรวมเป็นทริปของอีกบริษัท พอขึ้นรถทัวร์ ที่แรกที่ได้ไป คือ ร้านอาหารของทัวร์โดยเฉพาะ นี่คือมื้อแรกของเรา


หม้อนี้กิน 4 คน ขอเติมได้ อาหารเกาหลีที่เป็นสีแดงๆโดยปกติจะไม่เผ็ด เพราะขั้นตอนการทำเค้าจะขูดเม็ดพริกตรงกลางออกก่อน ซึ่งงงว่าไม่รู้ทำไมอันนี้เผ็ดมากจนกินไม่ได้ อาจจะขูดเม็ดออกไม่หมด เราเลยถามไกด์ว่าขอสั่งอย่างอื่นได้มั้ย ขอจ่ายเงินเพิ่มก็ได้ เพราะอันนี้เรากินไม่ได้จริงๆ เค้าบอกว่าไม่ได้ทั้งร้านมีเมนูเดียว เราบอกงั้นขอหมูเปล่าๆที่ยังไม่ผสมซอสได้มั้ย ก็ไม่ได้อีก เราเลยหันไปดูคนอื่นว่าเค้ายังไงกันบ้าง โต๊ะข้างๆเรามีเด็กมาก็กินไม่ได้เหมือนกัน แต่เค้าไม่มีปากเสียงอะไรเลย บนโต๊ะมีอะไรก็ใช้ของบนโต๊ะเอามาปรับกันไป เค้าเอาน้ำเย็นล้างหมูให้ลูกเค้ากินแทน จบมื้อนี้ กินได้ 3 คำ พอขึ้นรถทัวร์ไกด์ก็ย้ำหลายรอบมากๆ ว่าที่เกาหลีไม่เหมือนประเทศอื่น ร้านอาหารที่นี่ร้านนึงจะมีเมนูเดียว ถ้าอยากสั่งอย่างอื่นก็ต้องไปร้านอื่น นี่ได้แต่งง ว่าจริงหรอ ร้านในเกาหลีทั้งร้านจะมีเมนูเดียว
เม่าเหม่อ  เกาหลีพึ่งมาครั้งแรกด้วยค่ะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ไปกินร้านข้างๆ แต่ที่ที่เค้าพามาไม่รู้อยู่ตรงไหน รอบๆไม่มีอะไรเลย ติดกับร้านอาหารก็มีแต่เต้นใหญ่ๆติดแอร์ที่เค้าไว้ขายของลูกทัวร์

ที่ต่อมาที่พามา คือ สวนสาธารณะ ที่เกาะนามิ

แล้วก็ไปกินข้าว มื้อที่ 2 ของเรา ร้านนี้อร่อยค่ะ ไม่เปนร้านเฉพาะทัวร์ด้วย


กินไปคิดในใจรอดแล้ว อดมาตั้งแต่เช้า แล้วความนอยก็มาต่อ ตอนอยู่บนรถทัวร์เค้าบอกว่าขอเติมได้

*** จากรูปด้านบน จงหาไก่ในกะทะ ***
ผักกับข้าวเยอะมาก ไก่มีน้อยมากค่ะ ต้องแบ่งกันกิน 4 คน เรากับโต๊ะข้างๆก็กินไม่อิ่มเลยขอเพิ่ม ผลัดกันขอกันเป็น 10 รอบ ทั้งภาษาอังกฤษ ทั้งพิมพ์ในกลูเกิ้ลแปลภาษาเป็นเกาหลีว่าไก่ ทั้งชี้ในจานทำภาษามือ พนักงานทำหน้างงแล้วก็ไม่ได้ไรกลับมา จนรอบนึงพนักงานถือไก่มาให้โต๊ะข้างๆ เราก็เลยขอมั่งอีกรอบ ก็ไม่ได้ค่ะ พนักงานเดินไปคุยกับไกด์ แล้วไกด์ก็เดินมาที่โต๊ะบอกว่า ไก่ขอเพิ่มไม่ได้ เพราะที่นี่ไม่มีแยก ถ้าสั่งจะมาทั้งข้าว และ ผักเลย เราบอกเอา เพราะเรากินไม่อิ่ม ไกด์ก็บอกถ้าขอเพิ่มคิดเงินเพิ่มน่ะ เราก็โอเค บอกไปเลยคิดเพิ่มก็ไม่เป็นไร เอาค่ะ โต๊ะข้างๆเราที่ได้ไก่มาก่อนได้ยินก็ทำหน้าผงะ แล้วไกด์ก็เดินออกไปจากโต๊ะ หลังจากนั้นไม่มีการมาเสริฟอะไรเพิ่มทั้งนั้น โต๊ะข้างๆก็ตักไก่เค้าที่เค้าได้มาแบ่งให้โต๊ะเรากิน ใจเราแบบแย่มากเราหิวต้องการอาหารก็ไม่ได้หรอ
เม่าฝนตก

ไปเที่ยวครบโปรแกรมจริงๆนะ เค้าแจ้งว่าโปรแกรมทัวร์อาจมีการสลับบ้าง แต่สลับเวลาไม่ดูสถานที่เลย ระหว่างทางน้องเราถามไกด์ว่าโรงแรมตามที่เขียนมาในโปรแกรมมั้ย ไกด์บอกที่เดิมไม่เปลี่ยน ช่วงที่เราไปซากุระกำลังบาน หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เค้าก็พาไปดูซากุระค่ะ ซึ่งจริงๆมันมีทั่วเลยน่ะที่นี่ เค้าก็จอดรถทัวร์ริมถนนค่ะ แล้วก็ให้เราลงค่ะ งงมาอีกแล้ว (นี่คงเป็นกระทู้ที่มี งอ งู เยอะที่สุดในรอบปี) แล้วก็ให้พวกเราลงไปเดินดูซากุระในเวลาที่ไม่มีแม้แสงอาทิตย์

ที่ที่ไปก็คือข้างถนนในเกาหลีซักที่ ลงมาแบบงงๆ ข้างถนนจริงๆ ไม่ได้มีแหล่งช๊อปอะไรน่ะ เค้าให้เราเดินๆแถวนี้ประมาณ 40 นาที


โชคดีข้างถนนแถวนี้มีข้าวโพดให้เรากินด้วย T v T ไม่รู้มาเที่ยวหรือมาเข้าครอสลดน้ำหนัก


ในที่สุดก็หมดวันไปแบบงงๆ พอกลับขึ้นรถจะเดินทางต่อไปโรงแรม ไกด์ก็ได้ประกาศว่าเราจะเปลี่ยนโรงแรมไปนอนอีกที่นึง เราได้แต่ร้องอ่าวววอยู่ในใจ ไหนบอกไม่เปลี่ยน

พอมาถึง เป็นโรงแรมเล็กๆไม่สะอาดเลย เราก็ไม่ได้ถ่ายเก็บรายละเอียดอะไรมาก เพราะตอนแรกไม่ตั้งใจว่าจะมาเขียนกระทู้ เป็นรูปที่เราถ่ายส่งให้พ่อกับแม่ แล้วก็เพื่อนกลุ่มเราดู ลองสังเกตุพื้นน่ะ สกปรกมากจริงๆ พื้นเหนียวมากกกกกก
ถ้าบอกว่าเอากาวดักหนูมาทำน้ำยาเช็ดพื้นก็เชื่อ!!!

..............แล้วเราเจอซองถุงยางใช้แล้วตกอยู่ข้างเตียง


ทันทีที่เราเจอเปลือกถุงยางใช้แล้ว คิดได้ทันทีเลยถ้าพื้นมีแบบนี้ บนเตียงไม่น่ารอด เรารีบเดินไปที่เตียงรื้อผ้าห่มที่พับไว้ขึ้นมาดู แล้วเราก็เจอ

...............คราบน้ำโปรตีนบนผ้าห่มเรา
เม่าตกใจเม่าตกใจเม่าตกใจ


เราโทรหาไกด์ บอกว่าเจอแบบนี้จะแก้ไขยังไง ไกด์ตอบกลับมาบอกว่าตอนนี้ทำไรไม่ได้ ให้รอพรุ่งนี้เช้า งงมากจ้าาาาา คือไร ให้เรานอนคู่เปลือกถุงยางใช้แล้วห่มตัวด้วยผ้าที่มีคราบน้ำโปรตีนใครไม่รู้ โทรไปกรีดร้องใส่เพื่อน เพื่อนบอกว่าแกรไปถามมันเลย ว่ามานอนแทนมั้ย ???

เม่าสงสัย

สุดท้ายเราเลยลงไปคุยกับโรงแรมเอง เค้าก็ขอโทษ จะเปลี่ยนห้องให้แต่โรงแรมตอนนี้เต็ม เหลืออยู่ห้องเดียว เราก็บอกว่าจะขอดูห้องที่จะเปลี่ยนให้ก่อน เป็นห้องสูบบุหรี่ กลิ่นแรงมากกก เราก็บอกเค้าว่ากลิ่นเหม็นขนาดนี้เราจะอยู่ได้ยังไง เค้าก็จะแก้ปัญหานี้ให้เรา โดยการฉีดสเปรย์ปรับอากาศให้ โอ้วพระเจ้าาาาา

เราเลยบอกเค้าว่าเราขออยู่ห้องเดิมแล้วกัน แต่ขอให้มาทำความสะอาดใหม่ โชคยังดีที่พนักงานยังพูดภาษาอังกฤษได้

แล้วพนักงานก็มาทำความสะอาดกัน 2 คน ทั้งที่เราไม่ได้พูดไรเลย ได้แต่ยืนเศร้าอยู่มุมห้อง น้องเราก็ร้องแต่อยากกลับบ้านๆ พนักงานทำหน้าไม่ดีเลย แล้วก็เวี่ยงของไปมาแรงมาก ทั้งหมอนผ้าห่มของโรงแรมเอง และ ของใช้เราที่เอาออกมาวาง สุดท้าย คือ ไม่รู้ทำไงไม่ได้สะอาดขึ้นเท่าไหร่ แล้วก็จะออกจากห้องไปโดยเปลือกถุงยางยังคงอยู่ที่พื้น เราก็ชี้ให้เค้าดู เค้าก็ก้มเก็บแล้วก็หันไปหัวเราะกับพนักงานอีกคน

เดี๊ยวมาดูบรรยากาศในห้องกันดีกว่า



บรรยากาศเซ็กซี่มากๆมีกระจกรอบตัว หันหน้าเห็นหลัง หันหลังเห็นหน้า เชคท่วงท่าได้ 360 องศากันไปเลย
เราต้องโดนนอนที่นี่ 2 คืน เราเลยตกลงกับน้องว่าจะไม่ให้เค้าเข้ามาทำความสะอาด เพราะกลัวเค้ามาเวี่ยงของเราอีก


เราก็ถามน้องน่ะว่าจะย้ายโรงแรมมั้ย ย้ายไปนอนที่ดีๆ จอง agoda ก็ได้ บัตรก็เชื่อมไว้ แค่คลิ๊กไม่กี่ทีไปได้แล้ว น้องเราไม่ไป บอกอยากไป แต่นู๋ทิ้งเพื่อนไม่ได้ ไปชวนเพื่อนมาด้วยแม่เพื่อนอีก ไม่รู้เค้าจาไปกันรึป่าว พามาเจอทัวร์แบบนี้ก็รู้สึกผิดแล้ว ไม่อยากทิ้งเพื่อน
ใครเป็นเพื่อนนางต้องเอาพานพุ่มไปถวายน่ะ รักเพื่อนเบอร์ไหน ยอมลำบากไปด้วยไม่ยอมทิ้ง

เช้าขึ้นมาเราเลยกดปุ่ม Do not disturb ไว้ สุดท้ายตอนกลับมาก็พบว่าห้องโดนจัดการไปเรียบร้อยแล้ว งงอีกแล้ว เค้ามีปุ่มไว้ทำไร หรือว่าอ่านไม่ออกรึป่าว อยากจะร้องไห้ ห้องน้ำมีอ่างด้วยน่ะ แต่ประหลาดมากทำอ่างสูง เกิน 80 cm เกินจริงๆน่ะ ไม่มีบันไดด้วย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา คือ ไปอยู่แล้วได้ฝึกเล่นกายกรรมไปด้วยเลย จะต้องปีนขึ้นปีนลงยังไงดี พื้นก็ลื่น ทำท่าเดียวกับสไปเดอร์แมนวนไปให้เข้าตีมห้อง ห้องน้ำก็สกปรก ฝักบัวเพดานน่ากลัวมากสนิมเขียว ราขึ้นแบบหนักมาก เงยหน้าขึ้นไปมองขนลุกเลย

น้องบอกเราว่านู๋รู้ล่ะ กลับไปนู๋จะหาเงินให้ได้เยอะๆ เยี่ยม

วันต่อมา
กินอาหารเช้าที่โรงแรม ไม่เป็นไร อาหารรสชาติยังไงเราไม่ได้สนใจ ไม่มีไรให้เลือกเยอะก็ไม่เป็นไร เพราะมีไข่ต้มกับนมให้เรากินก็พอแล้ว กินเสร็จเราแอบเอาไข่ต้มใส่กระเป๋ามา 2 ฟอง เผื่ออาหารวันนี้กินไม่พอ แล้วโดนไปแถวที่ไม่มีร้านขายไรเลยอีก กลัวแล้วจ้าาา

วันนี้เราเริ่มเบื่อตัวเองล่ะ เริ่มสงสัยว่าเราเรื่องมากรึป่าวทำไมไม่มีไรที่โอเคเลย แล้วบ้านอื่นเงียบมากกก ไม่มีใครมีปากเสียงอะไร น้องเราก็ถามว่าคนอื่นเค้าโอเคกันหรอ หรือ ต่างคนต่างไม่รู้เรื่องของกัน เพราะก็คงไม่มีใครรู้เรื่องเมื่อคืนของเราเหมือนกัน

เราได้ไปเรียนทำกิมจิ มาถึงเค้าก็อธิบายให้เราฟัง ในจานมีผัก 1 ชิ้น กับซอสประมาน 2 ช้อน ในจานที่เราถือ เราเอาซอสมาถูๆกับผักแล้วก็เสร็จ แต่ไม่ให้กินน่ะ เค้าเก็บไปบริจาค ถ้าอยากกินต้องซื้อ



พอทำกิมจิเสร็จก็ขึ้นไปชั้นบนตึกเดียวกันมีให้ใส่ชุดฮันบก ซึ่งชุดไม่สวยเลย เก่าๆลอกๆดำๆ มีฉากเป็นรูปกระดาษติดกำแพง

ผ่านมาเดือนกว่าๆเราหายโกรธ แล้วก็เป็นทริปที่เราถ่ายรูปน้อย เพราะสภาพเราพังมาก แทบไม่ได้นอนเลย นอนไม่ค่อยหลับด้วย เรากับน้องบ่นกันทุกวันว่าอยากกลับบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่

อาหารกลางวันวันนี้ หมูเพียบเลยดีใจ


แต่......แต่มาอีกแล้ว มาที่นี่ ร้านอาหารทุกร้านจะมีเหยือกน้ำตั้งไว้บนโต๊ะ คือ เราไม่รู้คนที่นี่กินน้ำปะปากันรึป่าว วันที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้สังเกตุอะไร เพราะรสชาติไม่ได้แปลก หลายประเทศที่เราไปก็กินน้ำจากก๊อกได้กันน่ะ แต่วันนี้น้ำมีกลิ่นคลอลีนผิดปกติ แรงเลยแหละ ก็หันไปถามน้องได้กลิ่นคลอลีนในน้ำมั้ย น้องก็บอกอืมมม สงสัยน้ำปะปา เราก็เออๆงั้นก็ไม่ต้องกินเดี๊ยวเราไปกินน้ำขวดที่รถที่ซื้อมากัน ซักพักหันไปน้องกินน้ำใหญ่เลย ถามว่ากินได้ไง น้องบอก หิวน้ำให้ทำยังไง T v T

เย็นวันนั้นเราตัดสินใจหนีทัวร์ออกมา บอกไกด์ว่าเราจะไม่ไปด้วย ไปหาไรกินเอง ไปเที่ยวเอง แล้วที่โดนบังคับไปร้านขายของกรุ๊ปทัวร์เราจะไปด้วย เพราะถ้าไม่ไป เค้าบอกจะปรับ 300 us

พอเราได้ออกมาเองเป็นวันแรกที่เราประทับใจที่นี่ ตอนอยู่กับทัวร์นี่คิดเลยว่าเข็ดกลับประเทศนี้แล้ว ไม่อยากมาอีก หมดความนิยมประเทศนี้ไปเลย พอเราหนีออกมาเอง เราไปเมียงดง แค่เหยียบไปในห้างความรู้สึกเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลย ได้กลิ่นความเจริญ ความสะอาด แบบเออดีอ่ะ เค้าเอาเราไปทิ้งที่ไหนมาเนี่ย แค่ได้เข้าห้องน้ำน่ะ น้องเรายังเดินออกมา โอโห..... กระดาษทิชชูในห้องน้ำยังนุ่มเลย เราช๊อปกันถึงเที่ยงคืน กินอิ่ม ไม่โดนเอาไปนั่งบนรถวิ่งไปมาเป็นที่นึงชั่วโมงๆ 2 ชั่วโมง แต่ลงรถเที่ยวแปบเดียวเเล้ว ช๊อปปิ้งเสร็จเราก็กลับไปนอนกับทัวร์น่ะ เพราะทิ้งของไว้ ตอนกลับดึกมากเกินเวลาค่าแทกซี่ 50,000 วอน แต่คุ้มน่ะ ถ้าเราไม่ได้แยกออกมาคงเสียใจ เราได้ของที่ตั้งใจไปซื้อครบทุกอย่าง มีเวลาไปนั่งคาเฟ่ที่เค้าฮิตๆกันด้วย

............. มีต่อ ...............
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่