วันที่ 7: Paris, France
วันนี้เราบินจาก Basel Euro Airport มาที่ Paris CDG Airport และเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากเครื่องบินที่มาจาก Basel เป็นเครื่องบินเล็กประกอบกับเป็น domestic flight ดังนั้นเราจึงมาลงที่ terminal G ของ CDG ซึ่งเป็น terminal ที่เล็กมาก เมื่อเราเดินมาถึงสายพานรับกระเป๋าก็แปลกใจที่ทั้งสายพานมีกระเป๋าเพื่อนผมออกมาแค่ใบเดียว ซึ่งผมก็รอกระเป๋าของผมออกมาอยู่สักพัก และเมื่อสายพานหยุดหมุน ก็เป็นที่สรุปได้ว่ากระเป๋าหาย และเมื่อจะขอความช่วยเหลือก็ไม่มีพนักงานทั้งของสนามบินและสายการบินเลย ทำได้เพียง report กระเป๋าล่าช้าผ่านทางตู้ kiosk แล้วเดินออกจากจุดรับกระเป๋า เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ด้านนอกก็ได้รับคำตอบว่าที่ terminal นี้ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ ต้องขึ้น shuttle bus ไปหาเจ้าหน้าที่ของสายการบิน Air France ที่ terminal F ชั้น Arrival สรุปคร่าวๆคือเสียเวลาประมาณชั่วโมงนึงจึงจะได้ Baggage Delay Report มา
ทริปนี้ผมซื้อประกันเดินทาง MSIG ไว้ ที่นี้ก็มารอลุ้นว่าจะสามารถได้เงินเคลมค่าเสื้อผ้าและของใช้จะเป็นที่ต้องซื้อใหม่ระหว่างที่กระเป๋า delay มั้ย กลับมาถึงผมก็รีบส่งอีเมลพร้อมแสกนเอกสารส่งไปแล้ว แต่ทาง MSIG ตอบกลับมาว่าต้องใช้ใบเสร็จตัวจริง (Thailand 4.0 จริงๆ) ผมเลยต้องส่ง EMS ไปให้

จบเรื่องกระเป๋าหาย ก็ได้เวลาเข้าเมือง Paris สำหรับเราซื้อบัตร Visit 2 days pass ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคุ้มมั้ย แต่ก็จ่ายๆไป เพราะเราอยู่ปารีสจริงๆแค่สองวัน
ขึ้นรถไฟจากสนามบินไปลง Gare du Nord แล้วเดินต่อไป Gare de l'est ซึ่งคืนนี้เราพักที่โรงแรม Libertel Gare De L Est Francais ซึ่งอยู่หน้าสถานี ขอเตือนว่าสถานี Metro และ RER ที่ Paris จะไม่ค่อยมีลิฟท์หรือบันไดเลื่อนที่ทันสมัยเหมือนกรุงเทพ ดังนั้นถ้าแพคกระเป๋ามาเยอะ ต้องเตรียมแรงไว้ยกขึ้นลงบันได้ด้วย



----------------------------------------------------------------------------------------------------
Part 1: เริ่มเดินทาง & The Netherlands :
https://pantip.com/topic/36468104
Part 2: Switzerland - Bern, Zermatt, Gornergrat, Interlaken, Luzern, Basel :
https://pantip.com/topic/36471624
เที่ยวยุโรป 11 วัน 4 ประเทศ - Part 3: Paris, France
วันนี้เราบินจาก Basel Euro Airport มาที่ Paris CDG Airport และเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากเครื่องบินที่มาจาก Basel เป็นเครื่องบินเล็กประกอบกับเป็น domestic flight ดังนั้นเราจึงมาลงที่ terminal G ของ CDG ซึ่งเป็น terminal ที่เล็กมาก เมื่อเราเดินมาถึงสายพานรับกระเป๋าก็แปลกใจที่ทั้งสายพานมีกระเป๋าเพื่อนผมออกมาแค่ใบเดียว ซึ่งผมก็รอกระเป๋าของผมออกมาอยู่สักพัก และเมื่อสายพานหยุดหมุน ก็เป็นที่สรุปได้ว่ากระเป๋าหาย และเมื่อจะขอความช่วยเหลือก็ไม่มีพนักงานทั้งของสนามบินและสายการบินเลย ทำได้เพียง report กระเป๋าล่าช้าผ่านทางตู้ kiosk แล้วเดินออกจากจุดรับกระเป๋า เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ด้านนอกก็ได้รับคำตอบว่าที่ terminal นี้ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ ต้องขึ้น shuttle bus ไปหาเจ้าหน้าที่ของสายการบิน Air France ที่ terminal F ชั้น Arrival สรุปคร่าวๆคือเสียเวลาประมาณชั่วโมงนึงจึงจะได้ Baggage Delay Report มา
ทริปนี้ผมซื้อประกันเดินทาง MSIG ไว้ ที่นี้ก็มารอลุ้นว่าจะสามารถได้เงินเคลมค่าเสื้อผ้าและของใช้จะเป็นที่ต้องซื้อใหม่ระหว่างที่กระเป๋า delay มั้ย กลับมาถึงผมก็รีบส่งอีเมลพร้อมแสกนเอกสารส่งไปแล้ว แต่ทาง MSIG ตอบกลับมาว่าต้องใช้ใบเสร็จตัวจริง (Thailand 4.0 จริงๆ) ผมเลยต้องส่ง EMS ไปให้
จบเรื่องกระเป๋าหาย ก็ได้เวลาเข้าเมือง Paris สำหรับเราซื้อบัตร Visit 2 days pass ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคุ้มมั้ย แต่ก็จ่ายๆไป เพราะเราอยู่ปารีสจริงๆแค่สองวัน
ขึ้นรถไฟจากสนามบินไปลง Gare du Nord แล้วเดินต่อไป Gare de l'est ซึ่งคืนนี้เราพักที่โรงแรม Libertel Gare De L Est Francais ซึ่งอยู่หน้าสถานี ขอเตือนว่าสถานี Metro และ RER ที่ Paris จะไม่ค่อยมีลิฟท์หรือบันไดเลื่อนที่ทันสมัยเหมือนกรุงเทพ ดังนั้นถ้าแพคกระเป๋ามาเยอะ ต้องเตรียมแรงไว้ยกขึ้นลงบันได้ด้วย
Part 1: เริ่มเดินทาง & The Netherlands : https://pantip.com/topic/36468104
Part 2: Switzerland - Bern, Zermatt, Gornergrat, Interlaken, Luzern, Basel : https://pantip.com/topic/36471624