อ่านเรื่องการติด ตม. ที่ประเทศยอดฮิตมาหลายกระทู้ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ติด ตม. ที่ฮ่องกงถึงสองครั้งบ้าง
*เนื้อหาไม่ได้ต้องการโจมตีหน่วยงานหรือบุคคลใดเป็นพิเศษ แค่ต้องการบอกเล่าประสบการณ์ตรงที่ได้เจอมาในต่างแดน
การไปฮ่องกงครั้งแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เกิดจากความติสท์ งานมีปัญหาเยอะ จุกจิก กวนใจหนักมาก รู้สึกอยากพักร่าง ประกอบกับมีเพื่อนใหม่ชาวฮ่องกงที่ได้รู้จักตอนเค้ามาติดต่องานที่ไทย และเรามีหน้าที่ต้องพาเค้าไปพบลูกค้า และพาชมวิถีชีวิตเมืองไทยในวันที่เค้าพอมีเวลา ก่อนกลับเค้าเลยชวนว่าถ้าไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อไหร่ให้บอกเค้านะ เค้ายินดีพาเที่ยวนะ พอติสท์หนักเลยจัดทริปเลย ไปคนเดียวนี่ล่ะ ก่อนไปเราก็ศึกษาสถานที่เที่ยว ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินหางแดงไปลงมาเก๊า เพราะช่วงนั้นยังไม่มีไปลงฮ่องกง รึมีแต่แพงมากก็จำไม่ได้แล้ว เมื่อได้ไฟลท์บินแล้วก็จองโรงแรมตามที่เพื่อนแนะนำมา
วันออกเดินทาง จขกท เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไฟลท์บ่าย ไปถึงมาเก๊าประมาณ 4 โมงเย็น เดินทางจากสนามบินไปขึ้นเรือข้ามฟากเพื่อไปฝั่งฮ่องกงทันเรือเที่ยวสุดท้ายพอดี
เมื่อไปถึงมาเก๊า ตม. ไม่ถงไม่ถามอะไร ปั๊มพรวด เราก็ชิว ไปขึ้นเรือสบายใจ ระหว่างรอเรือก็กำลังชิล ดูครอบครัวที่เค้ามาเที่ยวกัน ดูบรรยากาศไปเรื่อย
มาถึงฝั่งฮ่องกงด้วยเรือเที่ยวสุดท้ายก็เดินไปต่อแถวเพื่อผ่านตม.อย่างปกติ พอถึงเคาน์เตอร์ สิ่งที่เจอต่อมาคือโดนดึงตัวออกไปจากจุดนั้น ไปที่โพเดียมซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตม.ยืนอยู่ คำถามแรกคือ มาทำอะไร อยู่ที่ฮ่องกงกี่วัน พักที่ไหน มีไฟลท์กลับมั้ย ขอดูไฟลท์กลับ เราก็ส่งเอกสารให้ดู คำถามต่อมา ทำไมมาคนเดียว เราก็บอกว่าเรามาหาเพื่อน เดี๋ยวเพื่อนพาเที่ยว แล้วก็ให้เบอร์เพื่อนไป ตม.ลองโทรติดต่อเพื่อนเรา แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา พร้อมกับถือพาสปอร์ตเดินกลับไปที่เคาร์เตอร์ ปั๊มพรึ่บให้
การไปฮ่องกงครั้งที่สองคือเมื่อปี 56 ครั้งนี้ จขกท เดินทางไปกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัวเพื่อนทั้งหมด 12 ชีวิต ซึ่งการไปเที่ยวครั้งนี้เที่ยวทั้งมาเก๊าและฮ่องกงด้วยเครื่องหางแดงอีกเช่นเคย ไฟลท์บิน 6 โมงเช้า ไปถึงมาเก๊าประมาณ 11โมง ก็ผ่าน ตม. กันมาอย่างราบรื่น เราเที่ยวกันต่อจนจวนเวลาต้องไปขึ้นเรือเที่ยวสุดท้ายเพื่อข้ามฟากไปฝั่งฮ่องกง
ไปถึงฝั่งฮ่องกง ด้วยที่ว่ากรุ๊ปเรามีทั้งเด็ก ป.5 กับ ม.1 และพ่อ/แม่เพื่อน เมื่อนั่งเรือนานๆ ทั้งโดนฝนเรือโคลงไปมา ในกรุ๊ปมีทั้งเมาเรือจะอ้วก เวียนหัว และปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ เลยทำให้เราไปต่อแถวผ่านตม.เป็นกลุ่มท้ายๆ และด้วยความเหนื่อยที่เดินทางกันทั้งวันแล้ว เลยกระจายกันต่อแถวเพื่อความรวดเร็ว คนแรกที่ถึงเคาน์เตอร์คือพี่คนที่อายุเยอะสุดในกลุ่ม โดนดึงไปที่โพเดียม คนที่สองคือเพื่อนสาวสวยก็ไม่รอด ตอนนั้นพี่คนแรกแกพุดอังกฤษไม่ได้เริ่มโดนเจ้าหน้าที่ที่โพเดียมถามแล้ว คนที่สามคือ จขกท ที่พยายามสื่อสารว่ามาด้วยกัน เดี๋ยวไปตอบให้ ก็เลยโดนดึงไปอยู่ด้วยกัน และคนที่สี่คือเพื่อนตุ๊ดที่ผ่านฉลุย จากนั้นก็สาวๆอีก 3 คนในกรุ๊ปโดนรวบหมด ส่วนพ่อ/แม่ และเด็กๆนั้นก็ผ่านฉลุยเช่นกัน สรุปคือ สาวๆ สาวน้อย สาวแก่ อายุ 20-40 โดนรวบหมด คนที่เหลือในกรุ๊ปตม.ก็ไม่ได้ไล่ออกไปจากพื้นที่ ยังคงจับกลุ่มนั่งรอกันอยู่ มีแซวกันขำๆว่าว้ายๆๆๆ ไม่ผ่านอะ ติดหรอๆ ส่วนเพื่อนตุ๊ดนางงงว่าทำไมนางผ่าน ทั้งกลุ่มนี้ไม่ได้มีความสลดแม้แต่นิด ซึ่งช่วงเวลาที่โดนรวบมานั้นเริ่มจะไม่มีคนแล้ว
คำถามจากเจ้าหน้าที่ตม.ก็ตามนี้
1.มาทำอะไรที่ฮ่องกง
2.มาอยู่กี่วัน
3.พักที่ไหน
4.มีแพลนไปเที่ยวไหนบ้าง
5.กลับวันไหน
6.ขอดูไฟลท์กลับ
พอจบคำถามเจ้าหน้าที่ก็กดโทรศัพท์ไปเช็คกับโรงแรมที่เราให้ดูบุคกิ้ง ส่งภาษาจีนกันพักนึง แล้วก็หันมาขอโทษขอโพย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ทำให้เสียเวลา ตอนนี้ด่านก็ปิดแล้ว จะเดินทางไปโรงแรมยังไงกัน พร้อมเดินเอาพาสปอตทั้งกองที่รวบไว้ไปปั๊มให้ แบ่งกันปั๊มหลายเคาน์เตอร์ และเดินออกมาส่งด้านนอกจุดตรวจ เพราะช่วงนั้นไม่มีป้ายบอกทาง เดินหมุนซ้าย/ขวาหาทางออกกันให้ยุ่ง จะเดินตามคนข้างหน้าก็ไม่มีใครเลย
ที่เจ้าของกระทู้รอดมาได้ทั้ง 2 ครั้งน่าจะเพราะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษพอได้รึเพราะมีข้อมูลที่พัก ไฟลท์กลับครบรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ ส่วนเหตุผลที่โดนกักตัวเพราะคิดว่าจะไปขายบริการหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่พอรอดออกมาก็คุยกันเฮฮาว่าคิดได้ไงจะไปขายบริการ ดูหน้า ดูหุ่นก่อนมั้ย ส่วนคนที่นอยสุดในทริปก็คือเพื่อนตุ๊ด นางโวยวายว่าทำไมนางรอด ทำไมตม.คิดว่าอย่างนางขายบริการไม่ได้ (นางตุ๊ดร่างยักษ์ อ้วน ดำ ที่เวลาเข้าร้านเสื้อผ้าต้องเดินไปสุดราว รอบหน้าต้องไซส์ฝรั่งนี่อะนะ 555)
แชร์ประสบการณ์ติด ตม. 2 ครั้งที่ฮ่องกง
*เนื้อหาไม่ได้ต้องการโจมตีหน่วยงานหรือบุคคลใดเป็นพิเศษ แค่ต้องการบอกเล่าประสบการณ์ตรงที่ได้เจอมาในต่างแดน
การไปฮ่องกงครั้งแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เกิดจากความติสท์ งานมีปัญหาเยอะ จุกจิก กวนใจหนักมาก รู้สึกอยากพักร่าง ประกอบกับมีเพื่อนใหม่ชาวฮ่องกงที่ได้รู้จักตอนเค้ามาติดต่องานที่ไทย และเรามีหน้าที่ต้องพาเค้าไปพบลูกค้า และพาชมวิถีชีวิตเมืองไทยในวันที่เค้าพอมีเวลา ก่อนกลับเค้าเลยชวนว่าถ้าไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อไหร่ให้บอกเค้านะ เค้ายินดีพาเที่ยวนะ พอติสท์หนักเลยจัดทริปเลย ไปคนเดียวนี่ล่ะ ก่อนไปเราก็ศึกษาสถานที่เที่ยว ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินหางแดงไปลงมาเก๊า เพราะช่วงนั้นยังไม่มีไปลงฮ่องกง รึมีแต่แพงมากก็จำไม่ได้แล้ว เมื่อได้ไฟลท์บินแล้วก็จองโรงแรมตามที่เพื่อนแนะนำมา
วันออกเดินทาง จขกท เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไฟลท์บ่าย ไปถึงมาเก๊าประมาณ 4 โมงเย็น เดินทางจากสนามบินไปขึ้นเรือข้ามฟากเพื่อไปฝั่งฮ่องกงทันเรือเที่ยวสุดท้ายพอดี
เมื่อไปถึงมาเก๊า ตม. ไม่ถงไม่ถามอะไร ปั๊มพรวด เราก็ชิว ไปขึ้นเรือสบายใจ ระหว่างรอเรือก็กำลังชิล ดูครอบครัวที่เค้ามาเที่ยวกัน ดูบรรยากาศไปเรื่อย
มาถึงฝั่งฮ่องกงด้วยเรือเที่ยวสุดท้ายก็เดินไปต่อแถวเพื่อผ่านตม.อย่างปกติ พอถึงเคาน์เตอร์ สิ่งที่เจอต่อมาคือโดนดึงตัวออกไปจากจุดนั้น ไปที่โพเดียมซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตม.ยืนอยู่ คำถามแรกคือ มาทำอะไร อยู่ที่ฮ่องกงกี่วัน พักที่ไหน มีไฟลท์กลับมั้ย ขอดูไฟลท์กลับ เราก็ส่งเอกสารให้ดู คำถามต่อมา ทำไมมาคนเดียว เราก็บอกว่าเรามาหาเพื่อน เดี๋ยวเพื่อนพาเที่ยว แล้วก็ให้เบอร์เพื่อนไป ตม.ลองโทรติดต่อเพื่อนเรา แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา พร้อมกับถือพาสปอร์ตเดินกลับไปที่เคาร์เตอร์ ปั๊มพรึ่บให้
การไปฮ่องกงครั้งที่สองคือเมื่อปี 56 ครั้งนี้ จขกท เดินทางไปกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัวเพื่อนทั้งหมด 12 ชีวิต ซึ่งการไปเที่ยวครั้งนี้เที่ยวทั้งมาเก๊าและฮ่องกงด้วยเครื่องหางแดงอีกเช่นเคย ไฟลท์บิน 6 โมงเช้า ไปถึงมาเก๊าประมาณ 11โมง ก็ผ่าน ตม. กันมาอย่างราบรื่น เราเที่ยวกันต่อจนจวนเวลาต้องไปขึ้นเรือเที่ยวสุดท้ายเพื่อข้ามฟากไปฝั่งฮ่องกง
ไปถึงฝั่งฮ่องกง ด้วยที่ว่ากรุ๊ปเรามีทั้งเด็ก ป.5 กับ ม.1 และพ่อ/แม่เพื่อน เมื่อนั่งเรือนานๆ ทั้งโดนฝนเรือโคลงไปมา ในกรุ๊ปมีทั้งเมาเรือจะอ้วก เวียนหัว และปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ เลยทำให้เราไปต่อแถวผ่านตม.เป็นกลุ่มท้ายๆ และด้วยความเหนื่อยที่เดินทางกันทั้งวันแล้ว เลยกระจายกันต่อแถวเพื่อความรวดเร็ว คนแรกที่ถึงเคาน์เตอร์คือพี่คนที่อายุเยอะสุดในกลุ่ม โดนดึงไปที่โพเดียม คนที่สองคือเพื่อนสาวสวยก็ไม่รอด ตอนนั้นพี่คนแรกแกพุดอังกฤษไม่ได้เริ่มโดนเจ้าหน้าที่ที่โพเดียมถามแล้ว คนที่สามคือ จขกท ที่พยายามสื่อสารว่ามาด้วยกัน เดี๋ยวไปตอบให้ ก็เลยโดนดึงไปอยู่ด้วยกัน และคนที่สี่คือเพื่อนตุ๊ดที่ผ่านฉลุย จากนั้นก็สาวๆอีก 3 คนในกรุ๊ปโดนรวบหมด ส่วนพ่อ/แม่ และเด็กๆนั้นก็ผ่านฉลุยเช่นกัน สรุปคือ สาวๆ สาวน้อย สาวแก่ อายุ 20-40 โดนรวบหมด คนที่เหลือในกรุ๊ปตม.ก็ไม่ได้ไล่ออกไปจากพื้นที่ ยังคงจับกลุ่มนั่งรอกันอยู่ มีแซวกันขำๆว่าว้ายๆๆๆ ไม่ผ่านอะ ติดหรอๆ ส่วนเพื่อนตุ๊ดนางงงว่าทำไมนางผ่าน ทั้งกลุ่มนี้ไม่ได้มีความสลดแม้แต่นิด ซึ่งช่วงเวลาที่โดนรวบมานั้นเริ่มจะไม่มีคนแล้ว
คำถามจากเจ้าหน้าที่ตม.ก็ตามนี้
1.มาทำอะไรที่ฮ่องกง
2.มาอยู่กี่วัน
3.พักที่ไหน
4.มีแพลนไปเที่ยวไหนบ้าง
5.กลับวันไหน
6.ขอดูไฟลท์กลับ
พอจบคำถามเจ้าหน้าที่ก็กดโทรศัพท์ไปเช็คกับโรงแรมที่เราให้ดูบุคกิ้ง ส่งภาษาจีนกันพักนึง แล้วก็หันมาขอโทษขอโพย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่ทำให้เสียเวลา ตอนนี้ด่านก็ปิดแล้ว จะเดินทางไปโรงแรมยังไงกัน พร้อมเดินเอาพาสปอตทั้งกองที่รวบไว้ไปปั๊มให้ แบ่งกันปั๊มหลายเคาน์เตอร์ และเดินออกมาส่งด้านนอกจุดตรวจ เพราะช่วงนั้นไม่มีป้ายบอกทาง เดินหมุนซ้าย/ขวาหาทางออกกันให้ยุ่ง จะเดินตามคนข้างหน้าก็ไม่มีใครเลย
ที่เจ้าของกระทู้รอดมาได้ทั้ง 2 ครั้งน่าจะเพราะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษพอได้รึเพราะมีข้อมูลที่พัก ไฟลท์กลับครบรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ ส่วนเหตุผลที่โดนกักตัวเพราะคิดว่าจะไปขายบริการหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่พอรอดออกมาก็คุยกันเฮฮาว่าคิดได้ไงจะไปขายบริการ ดูหน้า ดูหุ่นก่อนมั้ย ส่วนคนที่นอยสุดในทริปก็คือเพื่อนตุ๊ด นางโวยวายว่าทำไมนางรอด ทำไมตม.คิดว่าอย่างนางขายบริการไม่ได้ (นางตุ๊ดร่างยักษ์ อ้วน ดำ ที่เวลาเข้าร้านเสื้อผ้าต้องเดินไปสุดราว รอบหน้าต้องไซส์ฝรั่งนี่อะนะ 555)