อัพเดทสถานการณ์ ตม. เกาหลี เดือน พ.ย.23

อัพเดทสถานการณ์ ตม. เกาหลี เดือน พ.ย.23
เราไปเที่ยวเกาหลีเมื่อวันที่ 2-6 พ.ย. 23 ที่ผ่านมา
เล่าก่อนว่าเราเคยไปเที่ยวมาแล้วตั้งแต่ปี 2019 ก่อนโควิด
แต่รอบนี้ที่เราไปคือพาสปอร์ตใหม่ ใหม่แบบสดๆ ร้อน ๆ มาก
เราไปทำก่อนบินประมาณ 3 วัน เพราะเพิ่งรู้ว่าพาสปอร์ตเหลือไม่ถึง 6 เดือน

วันที่เราบินมันคือไฟล์ทเช้าประมาณตี 4 ถึงเกาหลีประมาณ 11:25 เวลาเกาหลี
ด้วยความที่เราบินของ Air asia มั้งนะ เราต้องแบบเดินไกลมากกกกกกก
กว่าจะถึง ตม. คือแบบนั่งรถไปต่อมาที่เทอมินอล 1 
แล้วมาถึงก็เจอคนเยอะมาก เพราะน่าจะมาถึงพร้อมกันประมาณ 3 ลำ
ทั้ง จีน, ญี่ปุ่น และไทย
แน่นอนว่าแถวจะยาวมาก เนื่องจากเป็นต่างชาติด้วยกันทั้งหมด
พอเห็นแถวยาวแค่นั้นหละ สิ่งที่เราทำสิ่งแรกคือการไปหยิบใบ arrival card มาก่อนแบบไม่ได้เขียน สัก 2-3 ใบ
แล้วรีบไปต่อแถว จะได้ไม่เสียเวลา
*เราไม่แน่ใจนะว่าที่บนเครื่องเขาแจกไหมเพราะเรานอนหลับ 55 หรือมันไม่ต้องเขียนเพราะเรามีใน K-ETA แล้ว
แต่เพื่อความปลอดภัย "เราเขียน" ลอกจาก K-ETA ที่เราแค็ปหน้าจอไว้นั่นหละ
เราใช้เทคนิคนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลา "เดินไป เขียนไป" แถวยาวมากกว่าจะถึงคิว เขียนได้อีกหลายแผ่น
*เตรียมปากกาของตัวเองติดตัวไปด้วยเสมอเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ

เราอ่าเตรียมเอกสารไปแบบพร้อมมาก เตรียมไปแบบเตรียมไปไฟท์เลย เกิดต้องเข้าห้องเย็นจริงๆ
แต่สิ่งแรกที่เราเตรียมติดมือไปเพื่อให้เขาเห็นคือ เรามีพาสปอร์ต 2 เล่ม
เนื่องจากของเรามันใหม่มาก เราคิดว่าเขาจะขอดูอันเก่าด้วย *เราแกล้งทำเป็นหยิบให้เขาเห็นด้วยนะ

พอไปถึงก็ยื่น พาสปอร์ตและ arrival card ให้เขา
เรื่องการแสดงออก เราก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ยิ้มแย้ม ก็แค่โฟกัสอยู่ที่เขา
พร้อมที่จะตอบคำถามเสมอ
จากนั้นเขาก็ให้เราแสกนนิ้ว และถ่ายรูป ไอ้เราก็คิดว่าผ่านแล้ว เปล่าจ้า
นางถามนะ 3 คำถาม ที่เป็นคำถามที่ใครก็ตอบได้ ถ้าเราเตรียมตัวไปจริงๆ
1.มาเกาหลีกี่วัน : เรานับวันไม่ถูก จึงบอกไปว่า 4 คืน
2.มาเที่ยวคนเดียวเหรอ : เราก็ตอบว่าใช่ (อันนี้หละนางจิ๊ปาก แล้วตึงเครียด) ฉันก็ตึงเครียดจ้า
แต่ผ่านไปสัก นาทีนึง นางก็ถามคำถามสุดท้าย
3.บริษัทของคุณชื่ออะไร : เราก็ตอบชื่อบริษัทไป (อันนี้จิ๊อีกรอบ) 
จากนั้นนางก็คืนพาสปอร์ต แล้วให้เราผ่านไป
แปลกอยู่นะที่เขาถามคำถามนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร อาจจะเป็นการเช็คความชัวร์ก็ได้ว่าทำงานที่นี่จริงไหม
เพราะชื่อบริษัทเราค่อนข้างอ่านยากด้วยหละ ถ้าไม่ใช่บริษัทที่เราทำงานจริงคงตอบไม่ได้ และไม่ตรงกับที่ลงไว้

*เราเพิ่งมาสังเกตจากคำถามนี้
แสดงว่า ต.ม.เขาเปิดดู K-ETA เรานะเพื่อเช็คว่าข้อมูลตรงไหม
คำถามต่างๆ ก็ต้องมาจากที่เราลงงทะเบียนไว้
ใครลงเองก็คือ ตอบได้สบายมากอยู่แล้ว

สิ่งที่เราอยากจะบอก จริงๆ แล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ถ้าเราไปแบบบริสุทธิ์ใจจริงๆ
เตรียมทุกอย่างให้พร้อม (ด้วยตัวเอง) เตรียมไปเถอะ เอกสารต่างๆ แม้จะไม่ได้ใช้
แต่ถ้าเกิดซวยจริงๆ ต้องใช้แล้วไม่ได้เตรียม นั่นหละ ชิป...
เทคนิคของเรามีแค่นี้นะ ไม่ได้สังเกตว่าช่องไหนใจดีไม่ใจดี
ช่องไหนว่างก็เข้า จะได้ไปเร็วๆ อีกอย่างสมมติติด จะได้รีบเข้าแล้วรีบออก
อีกอย่างที่เราอยากบอกคนที่กำลังจะไปว่า
อย่าเสพติ๊กต็อก หรือกระทู้ติด ตม มากเกินไปเพราะมันจะทำให้เราเครียดและกังวล
สิ่งที่ต้องทำก็คือ เตรียมตัวของเราให้พร้อม แล้วลุยเลย

**เอกสารที่เราเตรียมติดตัวไป
1.การจองตั๋ว ไป-กลับ (อันนี้จริงๆ สายการบินขอดูตั้งแต่ไปเช็คอินที่ไทยด้วยนะ)
2.การจองที่พัก ของเราจองเป็น Airbnb ไป
3.แพลนการท่องเที่ยว
4.เอกสารรับรองการทำงาน
5.K-ETA เราปริ้นไปด้วย (เรามี 2 อันคืออันเก่ากับอันใหม่ เอาไปหมดเลย)
6.พาสปอร์ต (เล่มเก่า,เล่มใหม่ เอาไปให้แน่น)
7.ข้อมูลการลางาน (งงไหม?? เราไปวันพฤหัสฯ ไง ถ้าไปต้องลางาน พอเราลางานเสร็จเราปริ้นใบลาไปด้วยจ้า คิดแล้วก็ตลกเหมือนกัน)
8.นามบัตร (อันนี้เราเอาติดตัวไปด้วยเสมอ มันช่วยเราได้ตอนเราติด ตม. ฮ่องกง)

ประมาณนี้นะ บางอย่างก็แปลกๆ แต่เตรียมติดตัวไว้ไม่เสียหาย
ถ้าบังเอิญมันได้ใช้ เราจะรู้สึกว่า "ดีนะที่เอามาด้วย"

ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ
ตั้งใจจะไปเที่ยวแล้วได้ไปเที่ยว นั่นคือโชคดีที่สุดแล้ว
ตอนที่เราไปอากาศกำลังเย็น แต่ตอนนี้อุณหภูมิลดลงแล้ว เตรียมกันหนาวกันให้ดี
แต่ถ้าใครไม่อยากหนาวเกินไป ให้ไปเดินห้างค่ะ อุ่นแน่นอน เพราะเราอุ่นจนร้อน

ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่