เปิดประสบการณ์ทำทรีทเมนท์ครั้งแรกในชีวิต!! พิชิตสารพัดสิวที่ทนมา 8 ปี ด้วยวิธีที่เกือบมองข้ามไป

สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเข้าคลินิก ทำทรีทเมนท์รักษาสิวครั้งแรกในชีวิต ที่คนอย่างเราไม่เคยคิดเลยว่าไอ้การไปนอนให้หมอทำนู่นทำนี่แค่แป๊บๆ มันจะได้อะไรหรือ เห็นความแตกต่างมากกว่าการรักษาสิวทั้งหลายที่เราเคยทำมาตลอดทั้งชีวิต ถึงวันนี้ เราลาขาดกับฉายา “อาซิ้มหน้าสิว” ที่อยู่กับเรามาตลอด 8 ปี ได้แล้วค่าา

**  สิ่งที่จะเอามาแชร์ในกระทู้นี้มาจากประสบการณ์ตรงล้วนๆ ผิดพลาดตรงไหน ติชมได้เลยค่ะ **

เปิดมาด้วยรูปยอดฮิตก่อนเลยค่ะ
Before-After



เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา เราเป็นผู้หญิงหน้าสิวมาตลอด เริ่มเข้าสู่วงการสิวตั้งแต่ช่วง ม.ปลายจนถึงปัจจุบันวัยทำงาน เป็นทั้งสิวฮอร์โมน สิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ รูขุมขนกว้าง คือแทบทุกรุปแบบค่ะ! จนบางทีก็รู้สึกว่ามันเป็นปมด้อยของเราไปแล้ว เวลาเจอใครก็มีแต่คนทักเรื่องสิว ยิ่งช่วงอยู่มหาวิทยาลัยยิ่งเป็นเยอะเลยค่ะ สิวยกระดับจากเม็ดเล็กขึ้นมาเม็ดใหญ่กว่าเดิมมาก จากที่เป็นสิวอยู่แล้วทีนี้กลายเป็นหนักกว่าเดิมอีก แล้วสังคมที่เราอยู่ส่วนใหญ่เค้ามีแต่คนที่สวยๆเจิดๆกัน มีเรานี่แหละ หน้าสิวเด่นสุดในคณะเลย เวลาเจอใครก็ไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุย ไม่กล้าสบตา เวลาคุยกับคนอื่นนี่ไม่อยากให้เค้ามองหน้าเลยค่ะ เป็นคนที่ขาดความมั่นใจแบบสุดๆๆ
แต่ละช่วงชีวิตของเรา อาจจะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป แต่มีสิ่งนึงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยคือ เป็นสิวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรอยดำที่แถมมาตอนสิวหายค่ะ! #ซึ้งมากน้ำตาจิไหล


รูปนี้คือเมื่อ 8 ปีก่อนค่ะ ช่วง ม.ปลาย มือใหม่หัดเป็นสิว


นี้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยสิวเม็ดใหญ่เริ่มแวะมาเยี่ยมแล้วค่ะ
แต่ด้วยคุณภาพของกล้องอาจจะทำให้ไม่เห็นความชัดของสิว ขออภัยมา ณ ทีนี้ค่ะ TT


รูปนี้เรียนจบแล้ว ทำงานแล้วค่ะ แต่น้องสิวยังตามหลอกหลอนตลอด หนำซ้ำยังมีพวกรอยดำอีก TT

ความจริงเราเนี่ยเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร ไม่ค่อยสนใจว่าชีวิตนี้ต้องเป็นคนสวยซักเท่าไหร่ มีสิวก็มีไปสิ เรื่องธรรมชาติ(ลงโทษ) เราเลยอยู่กับมันมาได้ตลอด แต่ล่าสุด ก่อนหน้าที่เราจะตัดสินใจไปทำทรีทเมนท์ ไปรักษาสิวแบบจริงจัง มันมีเหตุการณ์นึงในออฟฟิศเกี่ยวกับงานที่เราทำ ซึ่งส่งผลกับความรู้สึกมากๆ (ขอไม่ลงรายละเอียดแล้วกันนะคะ) แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ความคิดของเรา เกี่ยวกับการดูแลรักษาสิวบนหน้าเกิดจุดเปลี่ยนขึ้นมาทันที ตั้งแต่วันนั้นมันทำให้เราหันมาใส่ใจกับตัวเองอย่างจริงจัง เริ่มสร้างคุณค่าให้ตัวเองก่อน เพื่อที่จะให้คนอื่นเห็นคุณค่าของตัวเรา ..

ก่อนหน้านี้เราก็ลองรักษาเองมาหลายวิธี ทาครีม ทายานั่นนู่นนี่ที่เค้ารีวิวกันว่าดีนี่ก็ลองมาเกือบหมด แต่มันไม่ค่อยเห็นผลกับหน้าเราเลยอะ ลางเนื้อชอบลางยาอะเนอะ แต่มีอยู่วิธีนึงที่เราไม่เคยคิดจะลองเลยนั่นก็คือ การเข้าคลินิกรักษาสิวค่ะ อาจจะเพราะก่อนหน้านี้มันดูเกินตัวเราละมั้ง ทำครั้งนึงก็หลายร้อยหรือเป็นพัน ทีนี้พอเริ่มทำงาน หาเงินเองได้แล้วก็เลยแบบ เอาวะ ลองดู แอบคิดว่าบางทีประตูที่เราไม่เคยเปิดเลย มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้ ><! #งานให้กำลังใจตัวเองต้องมา

และด้วยความที่ไม่เคยไปคลินิกไหนมาก่อน ก็เลยเลือกเอาคลินิกที่ใกล้คอนโดมากที่สุดเนี่ยแหละ ง่ายดี ตลกตัวเองเหมือนกัน เดินแบกหน้าสิวผ่านไปผ่านมาอยู่ทุกวันไม่เคยสนใจ - -* แต่พอทำครั้งแรกก็ติดใจเลย จนตอนนี้ทำมาได้ 5 ครั้งเกือบจบคอร์สแล้ว เรียกว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเองจริงๆ



เราเลือกทำทรีทเมนท์ที่นี่ไม่ใช่เพราะเค้ามีชื่อเสียงหรืออะไรนะคะ เหตุผลคืออยู่ใกล้คอนโดเราสุดๆ เดินแป๊บเดียวถึง ตอนที่ไปครั้งแรกก็แอบตื่นเต้นอยู่นะ แล้วคือวันนั้นพอบอกเพื่อนว่าจะไปทำทรีทเมนท์ เพื่อนตื่นเต้นกว่าเราอีก อารมณ์แบบไม่เชื่อว่าคนอย่างเราจะไปทำจริง 5555+ เราเลยขออนุญาตคุณหมอ แล้วก็ฝากพี่ผู้ช่วยถ่ายรูปมาให้เพื่อนดูด้วยค่ะ เลยถือโอกาสเอามาทำกระทู้รีวิวซะเลย

เข้าไปถึงคุณหมอก็พูดคุยสอบถามอาการเราอยู่พักนึง วิเคราะห์สภาพหน้าเราแล้วก็แนะนำเป็นคอร์ส Derma Deep Beauty ค่ะ คือหลักๆที่จำได้จะเป็นการใช้ระบบผลัดเซลล์ผิว ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดสิวใหม่ กระชับรูขุมขุน ลดรอยแดง รอยดำจากสิวค่ะ

ขั้นแรกก็จะเริ่มจากการเตรียมผิวโดยเช็ดด้วยคลีนซิ่งให้หน้าสะอาดก่อนการกดสิว เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่มานอนเสียตังค์ให้คนอื่นกดสิวบนหน้า 55555+ รู้สึกแปลกๆ แต่ดันไม่รู้สึกเจ็บเหมือนที่คิดเอาไว้แฮะ รวมๆแล้วกดไปร่วมชั่วโมงนึงได้ สิวเต็มสำลี 3 แผ่น โอ้วแม่เจ้า! =[]=

พอกดสิวเสร็จคุณหมอก็จะลงตัวยาเพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิว มันก็จะแสบยิบๆนิดหน่อยตามบริเวณที่กดสิวค่ะ แต่เพื่อความสิวหาย ศรีทนได้ค่ะ! จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการเติมวิตามิน 6 ตัวให้กับผิว มีอะไรบ้างเราก็จำไม่ค่อยได้ คุณหมอพูดรัวฟังไม่ทันกันเลยทีเดียว เขาจะใช้เครื่องผลักวิตามินเข้าผิวเราประมาณ 10 นาทีค่ะ


เสร็จจากการเติมวิตามินเข้าผิวก็ตามด้วยการลอกสิวเสี้ยน ทรีทเม้นท์รอบดวงตา และมาส์กคอลลาเจนใต้ตา หมอบอกว่าเพื่อช่วยลดความหมองคล้ำแล้วก็ริ้วรอยค่ะ ที่เราตื่นเต้นอีกอย่างคือคอร์สนี้เขามีมาส์กทองให้ด้วย นี่ก็ครั้งแรกในชีวิตเหมือนกันสำหรับงานมาร์กทองคำเนี่ย ปิดท้ายด้วยการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยอโลเวล่ากับไฮยาลูรอน ขั้นตอนนี้ฟินมาก หน้าจะเย็นๆสบายๆผิว เหมือนใช้แผ่นมาร์กหน้าที่แช่เย็นไว้นั่นแหละค่ะ ไม่อยากให้ผ่านขั้นตอนนี้ไปเลยค่ะ คือเพลินมากเกือบเคลิ้มหลับแหน่ะ


ขั้นตอนการมาส์กทอง


เพิ่มความชุ่มชื่นด้วยเครื่อง Cool (เย็น)

ของเราโดนกดสิวเยอะมาก คุณหมอก็เลยมีมาส์กลดการอักเสบต่อให้ แล้วก็ลงครีมบำรุงกับกันแดดให้ มีนวดหลังนวดไหล่เสริมให้ด้วย (ไม่รู้ที่อื่นมีแบบนี้รึเปล่านะ) รวมๆแล้วใช้เวลาทำทรีทเม้น 1 ชั่วโมง ถ้ารวมกดสิวด้วยก็ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ นอนเพลินๆเลยค่า สำหรับการทำทรีทเมนท์ครั้งแรกของเรารู้สึกว่ามันโอเคอยู่นะ คือไม่ได้ว้าววว สิวหายไปหมดแล้ว!! อย่างน้อยเราก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังเลยค่ะ สุดท้ายคุณหมอก็จ่ายยา 3 ตัวนี้มาให้ค่ะ

ตัวแรก B.P. Gel 2.5% เป็นยาที่มีสรรพคุณเอาไว้ทาละลายหัวสิวอุดตัน
ตัวถัดมาก็จะเป็น Vitara Clinda Gel จะเป็นเจลใสๆ ทาบริเวณที่เป็นสิวอุดตัน อักเสบ สิวหนอง
ตัวสุดท้าย MelloDerm-HQ เป็นเจลลดรอย ฝ้า กระ ทาเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น


จากคนไม่เคยทำทรีทเมนท์หรือดูแลผิวจริงจังขนาดนี้มาก่อน พอได้มาทำแค่ครั้งแรกรู้สึกเลยว่ามันต่างกับการทุกอย่างที่เคยทำมาเลย
ช่วงแรกที่กดมาก็จะเป็นรอยแผล รอยแดง แต่ไม่เกินอาทิตย์รอยพวกนี้ก็จะหายไปค่ะ ตอนนี้เรื่องสิวนี่หายไปเยอะมาก หน้าดูดีขึ้นค่ะ จากครั้งแรกถึงตอนนี้ทำทรีทเม้นมาได้ 5 ครั้งแล้ว เราได้โปรโมชั่นซื้อ 5 ครั้ง แถม 1 ครั้ง แต่เราเลือกคอร์สสั้นๆก่อนเผื่อไม่ปลื้มค่ะ ตอนนี้พวกสิว กับรอยต่างๆก็ดีขึ้นชัดเจน ทำให้รู้เลยว่าที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกับการรักษาสิวที่ผิดวิธี แล้วก็ไม่เหมาะกับตัวเองมาตั้งนาน

แต่ถึงตอนนี้สภาพผิวดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่ทุกวันเราก็ยังคงต้องหมั่นดูแลผิวอยู่ตลอด แล้วก็ใช้พวกเวชสำอางอยู่เป็นประจำค่ะ เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นี่ก็ไม่ง่ายเลยนะ เรากลัวว่าถ้าเราขาดวินัยในการดูแลตัวเองไปจะกลับมาเป็นอาซิ้มหน้าสิวอีกค่ะ 55555++



เชื่อว่าหลายคนก็คงมีวิธีรักษาสิวที่ดีที่สุดในแบบของตัวเองอยู่แล้วแหละเนอะ เพียงแต่เราเพิ่งเคยทำทรีทเม้นท์ครั้งแรก แล้วรู้สึกว่ามันช่วยได้เยอะจริงๆ แต่ยังไงซะเราก็ยังต้องใช้บำรุงผิว ต้องดูแลผิวกันต่อไปอีกเรื่อยๆ ถ้าใครมีเคล็ดลับดีๆหรือคอร์สทรีทเม้นลดสิวที่ไหนได้ผลดีมาแชร์กันได้เลยค่ะ

เราอาจจะคิดผิดก็ได้นะคะ แต่ที่คิดว่าสมัยนี้ ในโลกของความเป็นจริง การเป็นคนที่พร้อมสำหรับทุกโอกาส ก็มักจะได้เปรียบมากกว่าคนอื่น เราเชื่อว่าประตูของโอกาสและความสำเร็จมันเปิดกว้างสำหรับคนที่มีความคิดและทัศนะคติดีๆเสมอค่ะ แต่อีกสิ่งที่จะเป็นใบเบิกทางให้ประตูเหล่านั้นมันกว้างขึ้น ก็คือรูปร่างหน้าตาและบุคลิกภาพภายนอกนี่แหละค่ะ ที่จะทำให้คนอื่นหันมาสนใจอยากจะค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในของเรามากขึ้น มันก็น่าจะดีกว่าเนอะ ถ้าเราหันมาสร้างคุณค่าให้ตัวเราเอง เปลี่ยนแปลงพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆด้าน เพื่อให้เราพร้อมสำหรับทุกโอกาสที่กำลังจะมาถึง

ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ด้วยนะคะ จากจะถ่ายรูปให้เพื่อนดูกลายเป็นกระทู้รีวิวจริงจังเฉยเลย ไปจริงๆแล้วนะ สวัสดีค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่