สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เสียดายเงิน ค่าชุด ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าใช้จ่ย
ทหารเกณฑ์ ก็รับเป็นเเสนคนแล้วยังเรียกฝึก รด.อีก
จะเกณฑ์คนไปรบกับใคร เบื่อทหาร
ทหารเกณฑ์ ก็รับเป็นเเสนคนแล้วยังเรียกฝึก รด.อีก
จะเกณฑ์คนไปรบกับใคร เบื่อทหาร
สมาชิกหมายเลข 7979573 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1258583 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 846175 ถูกใจ, satus สยอง, สมาชิกหมายเลข 728142 ถูกใจ, wellcare55 ถูกใจ, สามขีด ||| ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3841125 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3137767 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2994377 ทึ่งรวมถึงอีก 11 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
กฎหมายการเมือง
อาวุธยุทโธปกรณ์
ทหารเกณฑ์
ทรัพยากรบุคคล
มนุษย์เงินเดือน
เริ่มแล้ว! กองทัพเรียกฝึก “พลสำรอง” ย้ำนายจ้างอนุญาต “แรงงาน” ลาราชการทหาร แต่ยังรับเงินตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กระทรวงกลาโหมจะทยอยเรียกกำลังพลสำรอง ตาม พ.ร.บ. กำลังพลสำรอง 2558 โดยเป็นกำลังพลสำรองที่มีระบุในบัญชีของหน่วยงานที่มีสถานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน หรือ รด. ปี 5 และ รด. ปี 3 และทหารที่ปลดกองประจำการแล้ว หรือบุคคลที่จับได้ใบดำและจะต้องมีอายุไม่เกิน 45 ปี โดยคิดเป็นร้อยละ 1 - 2 หรือ ประมาน 7 หมื่นคน เฉลี่ยแล้วฝึกไม่เกิน 10 วัน และจะได้รับสิทธิเบี้ยเลี้ยงด้วยนั้น ขณะนี้เริ่มมีการทยอยส่งหมายเรียกพลไปยังกำลังพลสำรองตามที่ระบุในบัญชี
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่เข้าทำงานอาจจำเป็นต้องลางาน เนื่องจากหากไม่ไปรายงานตัว หรือไปไม่ทันตามวัน เวลาที่กำหนดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยผู้ถูกเรียกจะต้องนำหมายเรียกพลส่งให้เจ้าหน้าที่ สำหรับผู้ที่เรียน รด. เป็นทหารกองหนุน จะต้องนำสมุดประจำตัวทหารกองหนุนติดตัวไปด้วย
วันนี้ (17 พ.ค.) พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ทำการเรียกทหารกองหนุนเข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ระหว่าง มี.ค. - ก.ค. 2560 กระทรวงแรงงานจึงออกประกาศขอความร่วมมือนายจ้างปฏิบัติตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 โดยนายจ้างที่มีลูกจ้างซึ่งเป็นทหารกองหนุนทำงานอยู่และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 35 และมาตรา 58 ในส่วนที่เกี่ยวกับการลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพล เพื่อการตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร และในการจ่ายค่าจ้างในวันที่ลาด้วย
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า เมื่อลูกจ้างได้รับคำสั่งเรียกพล (ตพ.17) หรือหมายเรียกพล (ตพ.13) เพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ประจำปี 2560 ตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ให้ลูกจ้างนำคำสั่งหรือหมายเรียกดังกล่าวแสดงต่อนายจ้าง พร้อมขออนุญาตลาหยุดงาน โดยนายจ้างต้องอนุญาตให้ลูกจ้างลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพลครั้งนี้ ตามกำหนดเวลาและสถานที่ที่ปรากฏในคำสั่งหรือหมายเรียกพล เมื่อครบระยะเวลาการฝึกแล้ว ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองนำเอกสารขอความร่วมมือในการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้าง (ตพ. 22) ไปแสดงต่อนายจ้างเพื่อขอรับค่าจ้าง โดยให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อรับราชการทหารเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกินหกสิบวัน พร้อมทั้งรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างเดิม ทั้งนี้ การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารในกรณีนี้ ไม่รวมถึงการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร)