สวัสดีครับ ผมชื่อเจฟฟรี่ย์ ผมไม่ได้มีคำตอบดีซะทั้งหมด แต่ผมมีคำถามที่ดีซะมากกว่า...
หลายคนมักไม่ค่อยได้เจอคำถามนี้สักเท่าไหร่ แต่เป็นคำถามที่ว่าน่าสนใจกันทีเดียว "ทำไมต้องไปเรียนมหาลัยอ่ะ ?"
หลายคนมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น "เพราะมันดังถึงได้ไป" หรืออาจจะเป็น "พ่อแม่บังคับถึงต้องไป" และต่าง ๆ นา ๆ อีกมากมาย และผมเชื่อว่าเหตุผลของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เคยไหมครับที่คุณเจอคำถามที่ว่า "ไปเรียนมหาลัยที่ไหน" แล้วคุณจะไม่อยากตอบ หรือจะตอบแบบห่วน ๆ และหลายครั้งที่ตอบ อีป้าหรือญาติที่ถามเรามักจะอวดถึงลูกพี่ลูกน้องคุณที่ไปสอบมหาลัยดัง ๆ และติดอยู่ในคณะนั้น มันน่าภูมิใจก็จริง แต่มันก็น่ารำคาญเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราไม่อยากเราไม่อยากโดนคำถามแบบนั้นอีก เราก็ต้องตั้งคำถุามให้กับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงจะไปเรียนที่มหาลัย ? อยากไปเพราะตามเพื่อน หรืออยากไปเพราะไปเรียนตรงตามสายที่ตัวเองอยากเรียนจริง ๆ แน่นอนว่าหลายคนอาจจะมีคำตอบที่ตรงกับสองคำตอบที่ผมบอกไปนี้ แต่ถ้าสำหรับคนที่เรียนตามเพื่อนผมขอถามอีกทีนะครับ ว่าถ้าเราเรียนตามเพื่อน แล้วเราจะเรียนไปทำไมกัน ?
ถ้าตัวเองไม่ได้เรียนตามที่ตัวเองชอบ หรือตามที่ตัวเองถนัด แล้วจะเรียนไปทำไมกัน
เก็บคำตอบไว้ก่อนนะครับ ทีนี้ผมขอถามคนที่เรียนเพราะว่าที่ตัวเองชอบบ้างนะครับ ผมขอถามว่าที่เรียนที่ตัวเองชอบนี้ก็เพราะว่าอยากไปเรียนเพื่อเอาใบปริญญา หรืออยากเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบจริง ๆ กันแน่ ? เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ว่าถ้าจะตอบว่าต้องมาเอาใบปริญญา เพราะว่าอยากได้ใบนั้นไปสมัครงานนั่งโต๊ะที่ตัวเองชอบ ใช่ไหมครับ ? แล้วถ้างั้น ทำไมคุณคิดว่ามันจะดีสำหรับคุณละ ?์
คือผมขออธิบายก่อนว่า การที่ผมถามคำถามอะไรหลายอย่างตรงนี้ก็เพียงเพราะว่า ผมอยากจะให้ผู้อ่านเห็นว่า ในเมื่อเรียนมหาลัยและได้ปริญญามาแล้ว มันจะไปมีประโยชน์อะไรในเมื่อคุณก็ต้องกลับไปช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่ดี ? จริงไหมครับ ปริญญาที่คุณจบมา ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าเราจะได้งาน เหมือนกับที่เรซูเม่ของคุณไม่ได้การันตีว่าคุณจะดีต่อบริษัทเสมอไป ถึงคุณจะดีในกระดาษ แต่ในชีวิตจริงคุณอาจจะไม่ได้ดีตามที่โฆษณาไว้ก็ได้ ใบปริญญาก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าคุณจะจบมาในด้านที่ตัวเองถนัด แต่ถ้าถามว่าตัวเองจะหางานทำได้ไหม ผมบอกเลยว่ายากมาก เพราะว่าคนที่จบปริญญาส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีงานทำ จนกระทั่งต้องกลับไปพึ่งพ่อแม่อีกเหมือนเดิม
ในขณะคนที่ไม่ได้เรียน เค้ากลับไปได้ดิบได้ดี เป็นเจ้าของโรงงานนู้นนี่นั่น ต่าง ๆ กันไป โดยเฉพาะกับพี่ชายของผม ซึ่งตอนจะจบ ม.6 เค้าได้โควต้าวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งก็เป็นที่น่าภูมิใจของพ่อแม่ แต่ในช่วงนั่นทั้งพ่อและแม่ของผมมีคดีฟ้องร้องเกิดขึ้นมา พี่ชายของผมเลยตัดสินใจว่าเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน และหันตัวมาช่วยพ่อแม่ผมทำงานแทน ซึ่งพี่ชายผมก็มีอแผนที่จะกลับไปเรียนมหาลัยเหมือนกัน แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่กลับไป แม่ผมเลยให้เค้าจัดการธุรกิจหลังคาเมทัลชีตแทน ซึ่งตอนนี้ได้รายได้เข้าเป็นประมาณ 6 หลักต่อวัน
บางคนอาจจะถามว่า "แล้วไง ? เค้าได้ตังเยอะ แล้วไงต่อ ?" นี่แหล่ะที่ผมพยายามที่จะให้คุณผู้อ่านเห็นไงครับ ว่าใบปริญญาไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จอยู่เสมอไป เหมือนกับพี่ชายของผมที่ไม่กลับไปเรียนมหาลัย แต่มาช่วยงานที่บ้านจนตอนนี้ก็มีเงินเลี้ยงครอบครัวของตัวเองแล้วเหมือนกัน
ซึ่งทีนี้กลับมาที่คำถามของผมตั้งแต่ต้นกัน "ทำไมยังต้องไปเรียนมหาลัย ?" ถ้าคุณตอบได้แบบตรงจุด แสดงว่าคุณมีใจกับการเรียนมหาลัยจริง ๆ แต่ถ้าตอบไม่ตรงจุด ผมหวังว่าคุณคงทำอย่างอื่นแทนได้นะครับ เพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปว่า ปริญญาไม่ได้เท่ากับคำว่าฉลาดเสมอไป เหมือนกับบิล เกตส์ที่เรียนมหาลัยระดับชาติของอเมริกาแต่ก็เรียนไม่จบ เพราะว่าเค้าทุ่มเทให้กับบริษัทที่ทำกับเพื่อนของเค้าอีกหนึ่งคน ซึ่งจนได้กลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์จนถึงทุกวันนี้
ขอให้ทุกคนได้คิดถึงคำถามนี้ไว้ เมื่อทุกคนเริ่มเรียนมหาลัยกันนะครับ
ผมเขียนต่อที่นี่ครับ:
https://jeffersonal.blog/
เจฟฟรี่ย์ | บุญเกื้อหนุน เป้าทอง
ทำไมถึงต้องเรียนมหาลัย ?
หลายคนมักไม่ค่อยได้เจอคำถามนี้สักเท่าไหร่ แต่เป็นคำถามที่ว่าน่าสนใจกันทีเดียว "ทำไมต้องไปเรียนมหาลัยอ่ะ ?"
หลายคนมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น "เพราะมันดังถึงได้ไป" หรืออาจจะเป็น "พ่อแม่บังคับถึงต้องไป" และต่าง ๆ นา ๆ อีกมากมาย และผมเชื่อว่าเหตุผลของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่เคยไหมครับที่คุณเจอคำถามที่ว่า "ไปเรียนมหาลัยที่ไหน" แล้วคุณจะไม่อยากตอบ หรือจะตอบแบบห่วน ๆ และหลายครั้งที่ตอบ อีป้าหรือญาติที่ถามเรามักจะอวดถึงลูกพี่ลูกน้องคุณที่ไปสอบมหาลัยดัง ๆ และติดอยู่ในคณะนั้น มันน่าภูมิใจก็จริง แต่มันก็น่ารำคาญเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเราไม่อยากเราไม่อยากโดนคำถามแบบนั้นอีก เราก็ต้องตั้งคำถุามให้กับตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงจะไปเรียนที่มหาลัย ? อยากไปเพราะตามเพื่อน หรืออยากไปเพราะไปเรียนตรงตามสายที่ตัวเองอยากเรียนจริง ๆ แน่นอนว่าหลายคนอาจจะมีคำตอบที่ตรงกับสองคำตอบที่ผมบอกไปนี้ แต่ถ้าสำหรับคนที่เรียนตามเพื่อนผมขอถามอีกทีนะครับ ว่าถ้าเราเรียนตามเพื่อน แล้วเราจะเรียนไปทำไมกัน ?
ถ้าตัวเองไม่ได้เรียนตามที่ตัวเองชอบ หรือตามที่ตัวเองถนัด แล้วจะเรียนไปทำไมกัน
เก็บคำตอบไว้ก่อนนะครับ ทีนี้ผมขอถามคนที่เรียนเพราะว่าที่ตัวเองชอบบ้างนะครับ ผมขอถามว่าที่เรียนที่ตัวเองชอบนี้ก็เพราะว่าอยากไปเรียนเพื่อเอาใบปริญญา หรืออยากเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบจริง ๆ กันแน่ ? เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ว่าถ้าจะตอบว่าต้องมาเอาใบปริญญา เพราะว่าอยากได้ใบนั้นไปสมัครงานนั่งโต๊ะที่ตัวเองชอบ ใช่ไหมครับ ? แล้วถ้างั้น ทำไมคุณคิดว่ามันจะดีสำหรับคุณละ ?์
คือผมขออธิบายก่อนว่า การที่ผมถามคำถามอะไรหลายอย่างตรงนี้ก็เพียงเพราะว่า ผมอยากจะให้ผู้อ่านเห็นว่า ในเมื่อเรียนมหาลัยและได้ปริญญามาแล้ว มันจะไปมีประโยชน์อะไรในเมื่อคุณก็ต้องกลับไปช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่ดี ? จริงไหมครับ ปริญญาที่คุณจบมา ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าเราจะได้งาน เหมือนกับที่เรซูเม่ของคุณไม่ได้การันตีว่าคุณจะดีต่อบริษัทเสมอไป ถึงคุณจะดีในกระดาษ แต่ในชีวิตจริงคุณอาจจะไม่ได้ดีตามที่โฆษณาไว้ก็ได้ ใบปริญญาก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าคุณจะจบมาในด้านที่ตัวเองถนัด แต่ถ้าถามว่าตัวเองจะหางานทำได้ไหม ผมบอกเลยว่ายากมาก เพราะว่าคนที่จบปริญญาส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีงานทำ จนกระทั่งต้องกลับไปพึ่งพ่อแม่อีกเหมือนเดิม
ในขณะคนที่ไม่ได้เรียน เค้ากลับไปได้ดิบได้ดี เป็นเจ้าของโรงงานนู้นนี่นั่น ต่าง ๆ กันไป โดยเฉพาะกับพี่ชายของผม ซึ่งตอนจะจบ ม.6 เค้าได้โควต้าวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งก็เป็นที่น่าภูมิใจของพ่อแม่ แต่ในช่วงนั่นทั้งพ่อและแม่ของผมมีคดีฟ้องร้องเกิดขึ้นมา พี่ชายของผมเลยตัดสินใจว่าเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน และหันตัวมาช่วยพ่อแม่ผมทำงานแทน ซึ่งพี่ชายผมก็มีอแผนที่จะกลับไปเรียนมหาลัยเหมือนกัน แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่กลับไป แม่ผมเลยให้เค้าจัดการธุรกิจหลังคาเมทัลชีตแทน ซึ่งตอนนี้ได้รายได้เข้าเป็นประมาณ 6 หลักต่อวัน
บางคนอาจจะถามว่า "แล้วไง ? เค้าได้ตังเยอะ แล้วไงต่อ ?" นี่แหล่ะที่ผมพยายามที่จะให้คุณผู้อ่านเห็นไงครับ ว่าใบปริญญาไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จอยู่เสมอไป เหมือนกับพี่ชายของผมที่ไม่กลับไปเรียนมหาลัย แต่มาช่วยงานที่บ้านจนตอนนี้ก็มีเงินเลี้ยงครอบครัวของตัวเองแล้วเหมือนกัน
ซึ่งทีนี้กลับมาที่คำถามของผมตั้งแต่ต้นกัน "ทำไมยังต้องไปเรียนมหาลัย ?" ถ้าคุณตอบได้แบบตรงจุด แสดงว่าคุณมีใจกับการเรียนมหาลัยจริง ๆ แต่ถ้าตอบไม่ตรงจุด ผมหวังว่าคุณคงทำอย่างอื่นแทนได้นะครับ เพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปว่า ปริญญาไม่ได้เท่ากับคำว่าฉลาดเสมอไป เหมือนกับบิล เกตส์ที่เรียนมหาลัยระดับชาติของอเมริกาแต่ก็เรียนไม่จบ เพราะว่าเค้าทุ่มเทให้กับบริษัทที่ทำกับเพื่อนของเค้าอีกหนึ่งคน ซึ่งจนได้กลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์จนถึงทุกวันนี้
ขอให้ทุกคนได้คิดถึงคำถามนี้ไว้ เมื่อทุกคนเริ่มเรียนมหาลัยกันนะครับ
ผมเขียนต่อที่นี่ครับ: https://jeffersonal.blog/
เจฟฟรี่ย์ | บุญเกื้อหนุน เป้าทอง