ตามหัวข้อกระทู้เลย ขอเล่าก่อนว่า เมื่อประมาณวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ตัวผมเองเกิดอาการแน่นหน้าอก รู้สึกปวดตรงช่วงสะบักไหล่ด้านซ้าย หายใจแล้วจะเจ็บ หน้าอก แน่นมากๆ ตอนนั้นคิดว่า ตัวเองน่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก คิดว่าจะหาเวลาไปนวดแผนไทยเพื่อคลายกดเส้นหรืออะไรทำนองนี้แต่ พอผ่านไปสัก 4-5วันอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ บวกกับว่าไม่มีเวลาไปนวดตามที่คิดไว้สักที จนเข้าสู่วันที่26มีนาคม อาการหนักจนไม่สามารถนอนได้เลย คือ จะแน่นหน้าอก มีอาการเจ็บ ตลอดเวลา ตรงช่วงอกและสะบักไหล่ด้านซ้าย เลยตัดสินใจไปหาหมอ ที่รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. หมอก็ ซักประวัติทั่วไป พอเราเล่าอาการตามที่บอกมาข้างต้น หมอก็เอาเครื่องอะไรสักอย่าง(ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร)มา ตรวจๆบริเวณ อก ทั้งซ้ายและขวา แล้วก็ส่งไป เอ็กซเรย์ เห็นหมอบอกว่าข้างขวา เวลาหายใจมีคลื่นส่งออกมา แต่ข้างซ้ายนิ่งเงียบ พอผลเอ็กซเรย์ออกมา สุดท้ายผม ปอดรั่ว ต้องบอกก่อนว่า ผมไม่สูบบุหรี่ ไม่ได้รับอุบัติเหตุอะไรทั้งนั้น สาเหตุ ที่ได้รับทราบภายหลังคือ คนที่ผอมสูง มีโอกาสที่ปอดมันจะรั่วเอง
หรือเรียกง่ายๆว่า ซวยครับ... คืนนั้นหมอจึงทำการเจาะปอด ใส่สายระบายลมรั่วออก แล้วก็ แอดมิดเลย
...ผมอยู่ รพ.ประมาน3วันแรกหมอบอกว่าให้บริหารปอดโดยการฝึกดูดบอล ให้ได้อย่างน้อย วันละ 200ครั้ง แน่นอนผมทำได้สบายๆ และขึ้น3ลูกเลยด้วย หมอบอกว่าให้ทานอาหารเน้นโปรตีนเพื่อที่ว่า ปอดจะฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ไม่รู้เพราะอะไรยังไง ปอดก็ยังรั่วอยู่ จนวันที่ 11 เม.ย. อ.หมอมาดูอาการ และดูฟิล์มเอ็กซเรย์ที่ผ่านๆมาตลอดเวลาที่อยู่รพ. อ.หมอจึงตัดสินใจ ผ่าตัด หลังจากผ่าตัดหลังจากนั้น ผมก็พักฟื้นอยู่ที่รพ. จนถึงวันที่25 เม.ย.ที่ผ่านมา หมอก็มาเอาสายระบายลม บวกกลับให้กลับบ้านในวันรุ่งขึ้นเพราะว่าทุกอย่าง โอเคหมดแล้ว สรุป ผมนอนรพ.เกือบ 1 เดือนเต็ม ....หลังจากนั้นหมอก็นัด ถัดมาอีก10วันเพื่อตัดไหม ติดตามการรักษา ปอด ก็คือเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ตลอดระยะเวลาที่กลับมาบ้าน มีอาการ เหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ทรมานมาก ในวันนัดจึง ขอหมอ เพื่อ นอนรพ. ขอพักฟื้นต่ออีกสัก อาทิตย์เพื่อที่ว่าให้ร่างกาย ดีขึ้นกว่านี้หน่อย((ไม่มีใครอยากนอนรพ.หรอกครับ และผมก็ไม่ได้อยากนอนรพ.เพื่อโดดงานหรืออะไร เพราะ ที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ถึงผมหยุดพักก็ไม่เสียหายอะไร)) แต่หมอเขาก็ไม่อยากให้นอนรพ.ครับ ยิ่งร่างกายเราอ่อนแอ แล้วบวกกับ รพ.มีเชื้อโรคเยอะ เดี๋ยว เดี๋ยวจะติดเชื้อเปล่าๆ แต่ผมที่มีอาการหอบเหนื่อยอยู่ตลอด ก็ขอร้องหมอ หมอจึงยอมให้แอดมิดสัก4-5วันครับ
...แต่...อาการหอบเหนื่อยผมแปลกๆ หมอศัลยกรรมทรวงอกจึงส่งต่อไปที่ แผนกอายุรกรรมเพื่อตรวจปอดโดยละเอียดอีกครั้ง...พอตรวจก็ได้เรื่องเลย หมอติดต่อแล็ป เพื่อขอให้ตรวจชิ้นเนื้อปอด ที่ได้ทำการผ่าตัดไปคราวก่อน สรุปไปๆมาๆ ให้เอ็กซเรย์ซ้ำ เจอ น้ำในปอด แต่ยังไม่เยอะเท่าไหร่ แถมยังเจอ วัณโรคอีก ตอนนนี้เครียดมากครับ แทนที่จะดีขึ้นหวังจะได้พัก แล้ว กลับมาใช้ชีวิตปรกติ ทำการทำงานบ้าง แต่มาเจอแบบนี้อีก ตอนนี้หมอให้ยามาทานครับ เห็นหมอบอกว่า เป็นยา วัณโรค ให้ทานติดต่อกันทุกวัน ห้ามขาด ต้องตรงเวลา ไม่เช่นนั้นจะมีอาการดื้อยา แล้วหมอก็ไม่ให้แอดมิด(อันนี้ผมพอจะเข้าใจได้เพราะว่าอาจจะแพร่เชื้อใส่คนอื่น) ให้ยากลับมาทานเองที่บ้านแล้วจะนัดให้ไปที่รพ. ในวันที่19 พ.ค.นี้
...จึงอยากถาม คุณหมอ หรือใครที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับโรคพวกนี้ครับ
อาการ ปวดหัว ปวดตามตัว มองอะไรก็แล้วแต่สัก10วิ ในกรณีที่มองภาพเดิมๆจะปวดตามองไม่ชัด แน่นหน้าอก เหนื่อย หายใจหอบ เริ่มมีอาการเจ็บคอ กระสับกระส่าย โดยเฉพาะกลางคืนจะเหนื่อยมาก อ้วกหนักเลยครับ อาการพวกนี้เป็นเพราะยา หรือเป็นเพราะโรคครับ แล้วควรจะทำยังไงดี ต้องไปหาหมอก่อนนัดไหมครับ
-ยาตัวอื่นหมอบอกว่าอาจจะมีผลข้างเคียงคือ ฉี่เป็นสีส้มแดง ซึ่งเป็นอาการข้างเคียง ผมควรไปหาหมอก่อนนัดไหมครับ
-แนวทางการรักษาจากนี้ จะเป็นยังไงครับ เพราะอยู่ต่อหน้าหมอ นึกคำถามออกแค่บางอย่างสุดท้ายก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับแนวทางการรักษา
-ที่พักของผมอยู่ในละแวกชุมชนแออัด ฝุ่น สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีนัก ที่บ้านติดถนน เรื่องนี้สำคัญไหมครับ
-หมอจะ แอดมิดไหมครับโรค นี้ และอาการที่เป็นอยู่ ใจจริงอยากไปพบหมอก่อนวันนัด เพราะ อาการเหนื่อยหอบ มากๆ กลางคืนแทบไม่ได้นอน กลางวันนอนได้แค่1-2ชม.
ขอคำปรึกษาหน่อยครับ
**ขออภัยครับ ที่พิมพ์ไม่เป็นระเบียบทำให้อ่านยากขออภัยจริงๆครับ
ขอบคุณมากครับ
โรคปอด และ วัณโรคปอด
หรือเรียกง่ายๆว่า ซวยครับ... คืนนั้นหมอจึงทำการเจาะปอด ใส่สายระบายลมรั่วออก แล้วก็ แอดมิดเลย
...ผมอยู่ รพ.ประมาน3วันแรกหมอบอกว่าให้บริหารปอดโดยการฝึกดูดบอล ให้ได้อย่างน้อย วันละ 200ครั้ง แน่นอนผมทำได้สบายๆ และขึ้น3ลูกเลยด้วย หมอบอกว่าให้ทานอาหารเน้นโปรตีนเพื่อที่ว่า ปอดจะฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ไม่รู้เพราะอะไรยังไง ปอดก็ยังรั่วอยู่ จนวันที่ 11 เม.ย. อ.หมอมาดูอาการ และดูฟิล์มเอ็กซเรย์ที่ผ่านๆมาตลอดเวลาที่อยู่รพ. อ.หมอจึงตัดสินใจ ผ่าตัด หลังจากผ่าตัดหลังจากนั้น ผมก็พักฟื้นอยู่ที่รพ. จนถึงวันที่25 เม.ย.ที่ผ่านมา หมอก็มาเอาสายระบายลม บวกกลับให้กลับบ้านในวันรุ่งขึ้นเพราะว่าทุกอย่าง โอเคหมดแล้ว สรุป ผมนอนรพ.เกือบ 1 เดือนเต็ม ....หลังจากนั้นหมอก็นัด ถัดมาอีก10วันเพื่อตัดไหม ติดตามการรักษา ปอด ก็คือเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ตลอดระยะเวลาที่กลับมาบ้าน มีอาการ เหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ทรมานมาก ในวันนัดจึง ขอหมอ เพื่อ นอนรพ. ขอพักฟื้นต่ออีกสัก อาทิตย์เพื่อที่ว่าให้ร่างกาย ดีขึ้นกว่านี้หน่อย((ไม่มีใครอยากนอนรพ.หรอกครับ และผมก็ไม่ได้อยากนอนรพ.เพื่อโดดงานหรืออะไร เพราะ ที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ถึงผมหยุดพักก็ไม่เสียหายอะไร)) แต่หมอเขาก็ไม่อยากให้นอนรพ.ครับ ยิ่งร่างกายเราอ่อนแอ แล้วบวกกับ รพ.มีเชื้อโรคเยอะ เดี๋ยว เดี๋ยวจะติดเชื้อเปล่าๆ แต่ผมที่มีอาการหอบเหนื่อยอยู่ตลอด ก็ขอร้องหมอ หมอจึงยอมให้แอดมิดสัก4-5วันครับ
...แต่...อาการหอบเหนื่อยผมแปลกๆ หมอศัลยกรรมทรวงอกจึงส่งต่อไปที่ แผนกอายุรกรรมเพื่อตรวจปอดโดยละเอียดอีกครั้ง...พอตรวจก็ได้เรื่องเลย หมอติดต่อแล็ป เพื่อขอให้ตรวจชิ้นเนื้อปอด ที่ได้ทำการผ่าตัดไปคราวก่อน สรุปไปๆมาๆ ให้เอ็กซเรย์ซ้ำ เจอ น้ำในปอด แต่ยังไม่เยอะเท่าไหร่ แถมยังเจอ วัณโรคอีก ตอนนนี้เครียดมากครับ แทนที่จะดีขึ้นหวังจะได้พัก แล้ว กลับมาใช้ชีวิตปรกติ ทำการทำงานบ้าง แต่มาเจอแบบนี้อีก ตอนนี้หมอให้ยามาทานครับ เห็นหมอบอกว่า เป็นยา วัณโรค ให้ทานติดต่อกันทุกวัน ห้ามขาด ต้องตรงเวลา ไม่เช่นนั้นจะมีอาการดื้อยา แล้วหมอก็ไม่ให้แอดมิด(อันนี้ผมพอจะเข้าใจได้เพราะว่าอาจจะแพร่เชื้อใส่คนอื่น) ให้ยากลับมาทานเองที่บ้านแล้วจะนัดให้ไปที่รพ. ในวันที่19 พ.ค.นี้
...จึงอยากถาม คุณหมอ หรือใครที่มีประสบการณ์ เกี่ยวกับโรคพวกนี้ครับ
อาการ ปวดหัว ปวดตามตัว มองอะไรก็แล้วแต่สัก10วิ ในกรณีที่มองภาพเดิมๆจะปวดตามองไม่ชัด แน่นหน้าอก เหนื่อย หายใจหอบ เริ่มมีอาการเจ็บคอ กระสับกระส่าย โดยเฉพาะกลางคืนจะเหนื่อยมาก อ้วกหนักเลยครับ อาการพวกนี้เป็นเพราะยา หรือเป็นเพราะโรคครับ แล้วควรจะทำยังไงดี ต้องไปหาหมอก่อนนัดไหมครับ
-ยาตัวอื่นหมอบอกว่าอาจจะมีผลข้างเคียงคือ ฉี่เป็นสีส้มแดง ซึ่งเป็นอาการข้างเคียง ผมควรไปหาหมอก่อนนัดไหมครับ
-แนวทางการรักษาจากนี้ จะเป็นยังไงครับ เพราะอยู่ต่อหน้าหมอ นึกคำถามออกแค่บางอย่างสุดท้ายก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับแนวทางการรักษา
-ที่พักของผมอยู่ในละแวกชุมชนแออัด ฝุ่น สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีนัก ที่บ้านติดถนน เรื่องนี้สำคัญไหมครับ
-หมอจะ แอดมิดไหมครับโรค นี้ และอาการที่เป็นอยู่ ใจจริงอยากไปพบหมอก่อนวันนัด เพราะ อาการเหนื่อยหอบ มากๆ กลางคืนแทบไม่ได้นอน กลางวันนอนได้แค่1-2ชม.
ขอคำปรึกษาหน่อยครับ
**ขออภัยครับ ที่พิมพ์ไม่เป็นระเบียบทำให้อ่านยากขออภัยจริงๆครับ
ขอบคุณมากครับ