เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างหนักหน่วง ภายหลังจากหลายบริษัทจดทะเบียน
ได้ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2560 ออกมาค่อนข้างแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ บวกกับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงมา
เป็นปัจจัยต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงทำให้ดัชนี SET index ร่วงลงไปปิดตัวที่นะดับ 1543 จุด -6.33 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนี
จะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ร่วงลงกว่า 100 จุด ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบเมื่อวันศุกร์
สืบเนื่องจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐเดือนเม.ย.ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดลดลง 130.44 จุด หรือ -0.66% แตะที่ 19,753.46 จุด
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงประกอบด้วยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน และกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (12 พ.ค.) เนื่องจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศปลด
นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) พ้นจากตำแหน่ง ได้สร้างความกังวลต่อนักลงทุนเกี่ยวกับแผนการดำเนิน
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,896.61 จุด ลดลง 22.81 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,390.90 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,121.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.09%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนวิตกว่าการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ปธน.ทรัมป์ได้สัญญาไว้ จะไม่มีความคืบหน้าตามแผน
เนื่องจากเขาจะเกิดความขัดแย้งกับสภาคองเกรส หลังจากที่ปลดนายโคมีย์ นายโคมีย์เป็นผู้รื้อคดีอีเมลฉาวของนางฮิลลารี คลินตัน
ผู้สมัครชิงจากพรรคเดโมแครต โดยได้ดำเนินการตรวจสอบอีเมลส่วนตัวที่นางฮิลลารีรับและส่งข้อความในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรมว.
ต่างประเทศสหรัฐ แต่ท้ายที่สุด นายโคมีย์สรุปว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางคดีอาญา
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นายเจมส์ โคมีย์ กล่าวว่า FBI ไม่พบหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่า อดีตปธน.บารัค โอบามา เป็นผู้ออกคำสั่งให้มี
การดักฟังโทรศัพท์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ภายในอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่นครนิวยอร์ก ในช่วงการหาเสียงเมื่อปี 2559 แม้ปธน.ทรัมป์ได้ยืนยันว่า
โอบามาได้สั่งการให้ทำการดักฟังโทรศัพท์เพื่อสอดแนมข้อมูลของเขา ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ดีดตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
ปีที่แล้ว จากความหวังที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะทำการผ่อนคลายกฎระเบียบ, ปฏิรูปภาษี และทำการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บวก 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากร่วงลง 0.3% ในเดือนมี.ค.
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ในตลาด
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค.
และร่วงลง 0.3% ในเดือนก.พ.
ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทรถยนต์ ขณะที่ยอดขายในห้างสรรพสินค้าร่วงลง
ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ถือว่าเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.
หุ้นบริษัทค้าปลีกยังคงได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ซบเซา โดยหุ้นเจซี เพนนีร่วงลง 13.99% ขณะที่หุ้นเมซีส์ลดลง 3.04%
หุ้นเจเนอรัลอิเล็กทริก ลดลง 2.1% หลังจากดอยซ์แบงก์ปรับลดความน่าเชื่อถือของหุ้นสู่ระดับขาย เนื่องจากกังวลถือคุณภาพของผลประกอบการ
ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.5% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.4% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.3% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้ภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้น Vivendi บริษัทสื่อจากฝรั่งเศส
เจ้าของค่ายเพลงยูนิเวอร์ซัล มิวสิค กรุ๊ป และหุ้นแอสทราเซเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่จากอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 395.63 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,405.42 จุด เพิ่มขึ้น 22.00 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,770.41 จุด เพิ่มขึ้น 59.35 จุด หรือ +0.47%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,435.39 จุด เพิ่มขึ้น 48.76 จุด หรือ +0.66%
หุ้น Vivendi พุ่งขึ้น 4.7% เนื่องจากมีข่าวว่าบริษัทเตรียมซื้อหุ้น 60% ของ Havas SA ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฆษณาในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหุ้นในส่วน
ที่ถือครองโดยประธานของ Vivendi เองส่วนหุ้นแอสทราเซเนก้า ทะยาน 9% หลังบริษัทเปิดเผยว่า การทดลองขั้นปลายของยารักษาโรคมะเร็ง
Imfinzi ให้ผลลัพท์ในเชิงบวก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ปัจจัยหนุนที่ช่วยให้ GDP เยอรมนีขยายตัวในไตรมาสแรกนั้น มาจากความแข็งแกร่ง
ด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การใช้จ่ายภาครัฐและภาคครัวเรือน และการส่งออกสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า
การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับผล
กระทบจากการดิ่งลง 3.2% ของการผลิตในภาคพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF day : ภายหลังจากวันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีได้ไหลร่วงหลุด Support line จึงส่งผลให้วันศุกร์ ดัชนีได้รับแรง
After Shock ไหลร่วงลงมาต่อเนื่อง ทำให้เกิดแท่งเทียน "Three Black Crows" พร้อมกับปริมาณการซือขายที่หนาแน่น
"Multiple Bar Vaildation In Down Trend" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย และมีแนวโน้มที่ดัชนี จะไหลร่วงลงไปต่อ
ให้ไปลุ้นกันที่ระดับ 1521 จุด เส้น EMA200 วัน ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวได้ไหม
S50M17 TF day : ภายหลังจากวันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีได้ไหลร่วงหลุด Support line จึงส่งผลให้วันศุกร์ ดัชนีได้รับแรง
After Shock ไหลร่วงลงมาต่อเนื่อง ทำให้เกิดแท่งเทียน "Three Black Crows" พร้อมกับปริมาณการซือขายที่หนาแน่น
"Multiple Bar Vaildation In Down Trend" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดัชนีได้ลงไป พักตัว
ที่เส้น EMA75 วัน ก็มาลุ้นกันว่า วันนี้ดัชนีจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าฟื้นตัวขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ 1000 จุด
อีกครั้ง // แต่ถ้าหลุดเส้น EMA75 วัน ลงมา ให้ระวังแรง Panic sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
S50M17 TF60 min : หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหว แกว่งตัว Sideway อยู่นานหลายวัน จนในที่สุด เมื่อวันพฤหัส,ศุกร์ ที่ผ่านมา
ดัชนีก็ได้เลือกเส้นทางเดิน นั้นก็คือหลุด Support line ลงมา พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น หรือที่เรียกว่า "Falling Prices
and Rising Volume Is Bearish" อีกทั้งยังเป็นการยืนยันรูปแบบ "Identifying a Whipsaw Breakout" ซึ่งคาดว่า
แนวโน้มต่อจากนี้ไป อาจจะไถลร่วงลงไปปิด Gap ที่ระดับ 970 ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่ ดัชนีลงมาเร็ว-แรง ทำให้ Indicator
บางตัวเข้าสู้สภาวะ over sold จึงคาดว่าวันนี้มีโอกาสฟื้นตัวบ้างเล็กน้อย แต่ก็คงเป็นการ ฟื้นตัวเพื่อลงต่อ
Resistance 986 990 996 / 1544 1550 1555
Support 977 973 966 / 1535 1530 1525
*EOD End od day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (15 May 17)
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index ได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างหนักหน่วง ภายหลังจากหลายบริษัทจดทะเบียน
ได้ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/2560 ออกมาค่อนข้างแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ บวกกับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงมา
เป็นปัจจัยต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงทำให้ดัชนี SET index ร่วงลงไปปิดตัวที่นะดับ 1543 จุด -6.33 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนี
จะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ร่วงลงกว่า 100 จุด ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบเมื่อวันศุกร์
สืบเนื่องจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐเดือนเม.ย.ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดลดลง 130.44 จุด หรือ -0.66% แตะที่ 19,753.46 จุด
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงประกอบด้วยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน และกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (12 พ.ค.) เนื่องจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศปลด
นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) พ้นจากตำแหน่ง ได้สร้างความกังวลต่อนักลงทุนเกี่ยวกับแผนการดำเนิน
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,896.61 จุด ลดลง 22.81 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,390.90 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,121.23 จุด เพิ่มขึ้น 5.27 จุด หรือ +0.09%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนวิตกว่าการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ปธน.ทรัมป์ได้สัญญาไว้ จะไม่มีความคืบหน้าตามแผน
เนื่องจากเขาจะเกิดความขัดแย้งกับสภาคองเกรส หลังจากที่ปลดนายโคมีย์ นายโคมีย์เป็นผู้รื้อคดีอีเมลฉาวของนางฮิลลารี คลินตัน
ผู้สมัครชิงจากพรรคเดโมแครต โดยได้ดำเนินการตรวจสอบอีเมลส่วนตัวที่นางฮิลลารีรับและส่งข้อความในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรมว.
ต่างประเทศสหรัฐ แต่ท้ายที่สุด นายโคมีย์สรุปว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางคดีอาญา
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นายเจมส์ โคมีย์ กล่าวว่า FBI ไม่พบหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่า อดีตปธน.บารัค โอบามา เป็นผู้ออกคำสั่งให้มี
การดักฟังโทรศัพท์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ภายในอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่นครนิวยอร์ก ในช่วงการหาเสียงเมื่อปี 2559 แม้ปธน.ทรัมป์ได้ยืนยันว่า
โอบามาได้สั่งการให้ทำการดักฟังโทรศัพท์เพื่อสอดแนมข้อมูลของเขา ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ดีดตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
ปีที่แล้ว จากความหวังที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะทำการผ่อนคลายกฎระเบียบ, ปฏิรูปภาษี และทำการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บวก 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากร่วงลง 0.3% ในเดือนมี.ค.
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ในตลาด
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค.
และร่วงลง 0.3% ในเดือนก.พ.
ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทรถยนต์ ขณะที่ยอดขายในห้างสรรพสินค้าร่วงลง
ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย.ถือว่าเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย.
หุ้นบริษัทค้าปลีกยังคงได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ซบเซา โดยหุ้นเจซี เพนนีร่วงลง 13.99% ขณะที่หุ้นเมซีส์ลดลง 3.04%
หุ้นเจเนอรัลอิเล็กทริก ลดลง 2.1% หลังจากดอยซ์แบงก์ปรับลดความน่าเชื่อถือของหุ้นสู่ระดับขาย เนื่องจากกังวลถือคุณภาพของผลประกอบการ
ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.5% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.4% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.3% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) โดยได้ภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้น Vivendi บริษัทสื่อจากฝรั่งเศส
เจ้าของค่ายเพลงยูนิเวอร์ซัล มิวสิค กรุ๊ป และหุ้นแอสทราเซเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่จากอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 395.63 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,405.42 จุด เพิ่มขึ้น 22.00 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,770.41 จุด เพิ่มขึ้น 59.35 จุด หรือ +0.47%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,435.39 จุด เพิ่มขึ้น 48.76 จุด หรือ +0.66%
หุ้น Vivendi พุ่งขึ้น 4.7% เนื่องจากมีข่าวว่าบริษัทเตรียมซื้อหุ้น 60% ของ Havas SA ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโฆษณาในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหุ้นในส่วน
ที่ถือครองโดยประธานของ Vivendi เองส่วนหุ้นแอสทราเซเนก้า ทะยาน 9% หลังบริษัทเปิดเผยว่า การทดลองขั้นปลายของยารักษาโรคมะเร็ง
Imfinzi ให้ผลลัพท์ในเชิงบวก
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ปัจจัยหนุนที่ช่วยให้ GDP เยอรมนีขยายตัวในไตรมาสแรกนั้น มาจากความแข็งแกร่ง
ด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การใช้จ่ายภาครัฐและภาคครัวเรือน และการส่งออกสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า
การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับผล
กระทบจากการดิ่งลง 3.2% ของการผลิตในภาคพลังงาน
เมื่อเทียบรายปี การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค.
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF day : ภายหลังจากวันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีได้ไหลร่วงหลุด Support line จึงส่งผลให้วันศุกร์ ดัชนีได้รับแรง
After Shock ไหลร่วงลงมาต่อเนื่อง ทำให้เกิดแท่งเทียน "Three Black Crows" พร้อมกับปริมาณการซือขายที่หนาแน่น
"Multiple Bar Vaildation In Down Trend" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย และมีแนวโน้มที่ดัชนี จะไหลร่วงลงไปต่อ
ให้ไปลุ้นกันที่ระดับ 1521 จุด เส้น EMA200 วัน ว่าดัชนีจะสามารถฟื้นตัวได้ไหม
S50M17 TF day : ภายหลังจากวันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีได้ไหลร่วงหลุด Support line จึงส่งผลให้วันศุกร์ ดัชนีได้รับแรง
After Shock ไหลร่วงลงมาต่อเนื่อง ทำให้เกิดแท่งเทียน "Three Black Crows" พร้อมกับปริมาณการซือขายที่หนาแน่น
"Multiple Bar Vaildation In Down Trend" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดัชนีได้ลงไป พักตัว
ที่เส้น EMA75 วัน ก็มาลุ้นกันว่า วันนี้ดัชนีจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่ //ถ้าฟื้นตัวขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ 1000 จุด
อีกครั้ง // แต่ถ้าหลุดเส้น EMA75 วัน ลงมา ให้ระวังแรง Panic sell ที่จะตามมา ก็เป็นได้
S50M17 TF60 min : หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหว แกว่งตัว Sideway อยู่นานหลายวัน จนในที่สุด เมื่อวันพฤหัส,ศุกร์ ที่ผ่านมา
ดัชนีก็ได้เลือกเส้นทางเดิน นั้นก็คือหลุด Support line ลงมา พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น หรือที่เรียกว่า "Falling Prices
and Rising Volume Is Bearish" อีกทั้งยังเป็นการยืนยันรูปแบบ "Identifying a Whipsaw Breakout" ซึ่งคาดว่า
แนวโน้มต่อจากนี้ไป อาจจะไถลร่วงลงไปปิด Gap ที่ระดับ 970 ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่ ดัชนีลงมาเร็ว-แรง ทำให้ Indicator
บางตัวเข้าสู้สภาวะ over sold จึงคาดว่าวันนี้มีโอกาสฟื้นตัวบ้างเล็กน้อย แต่ก็คงเป็นการ ฟื้นตัวเพื่อลงต่อ
Resistance 986 990 996 / 1544 1550 1555
Support 977 973 966 / 1535 1530 1525
*EOD End od day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ